By: mheevariety 
on 21 October 2021 - 17:35
Tags:
Topics:
Genshin Impact ขึ้นราคาไอเท็มในเกมครั้งใหญ่บน หลังเริ่มเก็บภาษี e-Service 7% การปรับราคาครั้งนี้ทำราคานี้ทำให้ราคาเพชร Genesis Crystals แพ็ค 0.99 ดอลลาร์ ขึ้นราคาจาก 30 บาท เป็น 35 บาท และแพ็ค 99.99 ดอลลาร์ ขึ้นราคาจาก 3,000 บาท เป็น 3,700 บาทเลยทีเดียว แปลว่าน่าจะมีการปรับราคาจากส่วนอื่นเพิ่มด้วย
เพจเฟซบุ๊กเพจทางการของ Genshin Impact ประเทศไทย โพสต์เพียงแค่ว่ามีการปรับราคาสินค้าภายในเกม และให้ตรวจสอบราคาจริงที่ต้องจ่ายเป็นหลักเท่านั้น
ราคานี้มีผู้พบว่าถูกปรับใน iOS ก่อน แต่ปัจจุบันผู้เล่นบน PC และ Android ก็พบว่าราคาถูกปรับจนเท่ากับใน iOS แล้วเช่นกัน และเพราะราคาที่เพิ่มขึ้นมา แพงกว่า 7% คือเพิ่มขึ้น 16% ในแพ็คราคา 35 บาท และ 23% ในแพ็ค 3,700 บาท ทำให้ผู้เล่นสันนิษฐานว่านอกจากการเก็บภาษีแล้ว อาจมีการปรับฐานค่าเงินดอลลาร์ต่อบาทร่วมด้วย อิงจากราคาแพ็คราคา 0.99 ดอลลาร์ ที่เพิ่มขึ้นเป็น 35 บาท
ที่มา - ราคาในร้านค้า Genshin Impact, Facebook Group: Genshin Impact Thailand
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- สงคราม GenAI บนคลาวด์ในปี 2024 ไปถึงไหนกันแล้ว | Cloudnone x AWS
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
Comments
ผมว่าพาดหัวมัน Misleading นิดๆนะครับ อ่านเร็วๆแค่ย่อหน้าแรกเหมือนเก็บภาษีล้วนๆ 700 บาทจาก 3000 แต่พอคิดตามก็พอเดาออกว่าน่าจะปรับตามค่าเงินด้วย
เฟซบุ๊ก
iOS ปรับทุกเกมหนิ ชี้นำผิดๆรึเปล่า
ไม่ต้องแปลกใจหรอกครับ ที่นี่พาดหัวแนวๆนี้บ่อยจนชินตาละครับ
เคยมีคนบ่นช่วงนึงเรื่องพาดหัวแนว Clickbait แต่สุดท้ายก็ยังพาดหัวแบบเดิมมาหลายข่าวละโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับไทยทางตรงหรือทางอ้อม ผมก็ไม่อยากติบ่อยๆหรอก เดี๋ยวผมอาจจะโดนหาว่าเป็นอีกฟาก
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
ติบ่อยๆเขาแบนนะครับ ข้อหาสแปม ceoแบนเองเลยด้วยมั้งของผม
อยากอ่านข่าวเว็บนี้ อ่านเงียบๆพออย่าแสดงความคิดเห็นหรือติเขาครับ
เวลาค่าเงินบาทแข็ง ราคาเกมจะลงตามทันทีด้วยไหม
จำ Surface by MS thai ได้ไหมครับ .....นั่นแหลลลลลลลลลล
ที่มันขึ้นเยอะเพราะเมื่อก่อนมันลงเยอะนี่แหละ
ก่อนหน้า1-2ปี(มั้ง) ราคาเบส 99 usd อยู่ที่ 3500
ตอนนี้ค่าเงินขึ้น แพลทฟอร์มปรับฐาน ก็กลับไปที่เดิม เพิ่มเติมคือแวท
ปรับลงเหลือ 29 บาท ตอน มกราคมปีที่แล้วครับ ตอนนี้ปรับขึ้นมาที่เดิม แต่ความต่างคือปกติ เกนชินก็แพงอยู่แล้ว ตอนนี้เลยเป็นแพงขั้นสูงสุด
เข้าใจนะครับว่า ไม่โอเคกับรัฐบาลนี้ แต่พาดหัวข่าวใส่ร้ายแบบนี้ ต้องการจะสื่ออะไรครับ??? จรรยาบรรณสื่ออยู่ที่ไหนครับ???
ใครอ่านแค่บรรทัดเดียวก็เข้าใจว่า "เพราะรัฐบาลบังคับใช้ภาษี e-service Genshin Impact เลยต้องขึ้นราคาการเติมเกม"
แต่พอกดเข้ามาอ่านเนื้อข่าวจริง ๆ กลายเป็นหนังคนละม้วน ที่ปรับเนี่ย มีปัจจัยอื่นอีก เช่น ค่าเงินเราอ่อนขึ้นเลยต้องปรับราคา
แล้วย้อนกลับไปพาดหัวข่าวเกินไปหน่อยหรือเปล่าครับ??
ความเป็นจริงแล้ว ถ้าขึ้นเพราะ ภาษี e-service จริง ๆ ก็ควรจะเป็นราคาดังนี้
ราคาเดิม 30 บาท ภาษี 7% = 2.10 บาท รวม 32.1 บาท(ราคาใหม่ที่ควรจะเป็น) แต่ Genshin เพิ่มเป็น 35.00 บาท
ราคาเดิม 3,000 บาท ภาษี 7% = 210 บาท รวม 3,210 บาท(ราคาใหม่ที่ควรจะเป็น) แต่ Genshin เพิ่มเป็น 3,700 บาท
ที่เพิ่มขึ้นเพราะ มีปัจจัยอื่นด้วย พาดหัวข่าวแบบนี้ ผมคิดว่าไม่สร้างสรรค์เลยนะครับ แถมยังสุมไฟกับสังคมด้วย
แถมโพสต์ข่าวแล้วขึ้นเฟสบุ๊คไปแล้ว Blognone ก็ไม่ได้ตามแก้ไขด้วยครับ
ผมว่าหัวข่าวไม่ผิดนะครับ
ซึ่งก็เป็นตามนั้นไม่ใช่เหรอครับ?
ผมว่าหัวข่าวมันชวนเรียกแขกเกินไปมากกว่า มันเป็นตามนั้นน่ะใช่ แต่มีปัจจัยอื่นตามที่คุณ iDan ยกมาด้วย
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
ราคาจาก 30บาท เป็น 35บาท ส่วนต่าง 5 บาท เป็นค่าเงินซะ 4 บาท
จาก 3000บ่ท เป็น 3700บาท ส่วนต่าง 700บาท เป็นค่าเงินซะ 400บาท
ถ้าดูแล้วเกินครึ่งเป็นเพราะค่าเงินนะผมว่า
"พุ่งกระฉูด หลังบังคับใช้ภาษี e-Service"
อารมณ์แบบ "ไม่มีวัคซีนไหนกันโควิดได้ 100%"
พูดถูก แต่ก็ถูกไม่หมด
พุ่งกระฉูด ก็มาจาก ภาษี e-service + ปัจจัยอื่น
ไม่มีวัคซีนไหนกันโควิดได้ 100% แต่บางตัวกันได้ดีกว่าตัวอื่นมาก
เขียนหัวข่าวแค่นี้แหละ เรียกแขกได้ดี คอมเมนท์เยอะ Engagement เยอะ
ผมว่าเขาไม่ได้มีหัวประชาธิปไตยเท่าไหร่หรอกครับ ไม่งั้นแอคเคาท์เก่าผมคงไม่โดนแบนเพราะติการลงข่าว
แอดเคาท์เก่าพี่กี่ปีอ่ะ ผมกดเข้าไปดูแค่ 11 ชั่วโมงเอง
เพราะส่วนมากเห็น 5 ปีอัพกัน
อ่านจากพาดหัวข่าว ถึงแม้จะไปในเชิงชีนำแปลกๆ แต่ก็เข้าใจได้ครับ
เพราะผมเคยอ่านกฎในบล็อกนันมาก่อน ที่ว่า "เชื่อความไม่เป็นกลาง" และ "อย่าลังเลในการจะแทรกความคิดเห็นของตนเองลงในข่าว"
ตัวกฎที่เขียนไว้ผมอาจจะยกมาไม่ถูกเป๊ะๆ แต่ใจความก็ประมาณนี้ครับ
หลายคนอาจเข้าใจว่าเว็บบล็อกนันเป็นเว็บข่าว แต่อันที่จริงแล้วตัวบล็อกนันเองมีลักษณะ "บล็อกเชิงข่าว" มากกว่า คือถามว่าเป็นเว็บข่าวหรือไม่ก็ไม่เชิง เหมือนแค่นำเสนอข่าวเฉยๆ แต่เอียงๆ เป็นกึ่งข่าวกึ่งบล็อกมากกว่า
ถ้าเป็นเว็บข่าวจริงๆ บล็อกนันคงจะปิดการเขียนข่าวของสมาชิกที่ไม่ใช่ Writer ไปแล้ว
+1
"เราเชื่อมั่นในความไม่เป็นกลาง อย่าลังเลที่จะใส่ความคิดเห็นส่วนตัวถ้าเห็นสมควร อย่างไรก็ตาม คุณต้องทำใจรับไว้ด้วยว่าเราก็เปิดโอกาสให้ความคิดเห็นที่ตรงข้ามกับคุณเช่นเดียวกัน"
แต่ในตอนนี้ในเว็บก็เริ่มจะเป็นเว็บข่าวเข้าไปทุกทีแล้วมากกว่าครับ ไม่ค่อยเห็นยศ C มาเขียนข่าวมากเหมือนในอดีต ไม่รู้ว่าเว็บนี้จะยังยืนยันกฎเดิมอยู่มั้ยหรือจะลองเปลี่ยนกฎดูบ้าง
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
ในส่วนนั้นก็คงต้องรอเหล่าทีมพัฒนากับบรรดา Writer คุยกันแล้วละครับ 55+
แต่เป็นแบบนี้ ถึงอาจจะขัดใจหลายๆ คนบ้าง แต่ผมว่ามันก็เปิดกว้างทางความคิดดีนะ 55+
ตัวกฎเขาก็ไม่ได้เอียงไปทางฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะรองรับทุกความคิดเห็น เพียงแต่คนเขียนข่าวฝ่ายว่ารัฐบาลมีเยอะเท่านั้นเอง
ไม่แน่ใจว่าหากในอนาคตมีฝ่ายของรัฐบาลมาร่วมเขียนข่าวด้วย บรรยากาศจะเป็นยังไง 55+ ส่วนใหญ่ก็พอเห็นในคอมเมนต์บ้าง (ผมหมายถึงฝ่ายที่เป็นติ่งรัฐจริงๆ อะนะ ไม่ใช่เห็นดีกับรัฐบาลแค่ในบางหัวข้อ เพราะการกระทำบางอย่างของรัฐ มันก็พอมีข้อดีอยู่บ้าง)
อ่านๆลงมาก็สรุปว่า อยากอ่านข่าวมีคุณภาพคือไม่ใช่ที่นี่?
มันก็ไม่เชิงแบบนั้นครับ
ผมว่าข่าวมันมีคุณค่าหรือมีคุณภาพในตัวมันอยู่แล้ว เพียงแค่เราจะต้องแยกแยะให้ออก ว่าอันไหนคือเนื้อข่าว และอันไหนคือความคิดเห็นของ "บล็อกเกอร์" ที่แทรกลงไป
จะเรียกว่าการที่บล็อกนันเป็น "เว็บข่าวกึ่งบล็อก" มันเป็นทั้งเสน่ห์และข้อเสียของบล็อกนันก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลครับ
คือเอาจริง ๆ ที่นี่เน้นความเห็นส่วนบุคคลมากกว่าครับ คนที่เป็นคนเขียนข่าวได้ก็คือใครก็ได้ ไม่ต้องสอบจริยธรรมไม่ต้องมีจรรยาบรรณสื่อ คุณก็เขียนได้นะครับ เอาจริง ๆ
ซึ่งแน่นอน คุณจะแนะนำเค้าให้เขียนแบบไหนก็ได้ แต่เค้าจะทำตามหรือไม่ทำตามก็เป็นสิทธิ์ของผู้เขียน
แต่ถ้าคุณอยากได้ในแบบที่คุณว่าดี ที่นี่ก็มีประโยคคลาสสิคครับ "อยากได้ก็ทำเอง"
ผมชินละครับ 555 บางทีคนเราทานปลาก็ไม่ต้องทานทั้งตัวก็ได้ ทานแต่เนื้อ ก้างก็ทิ้ง ๆ ไป ประมานนั้นครับฝึกการเลือกเสพข่าวครับ หมายความว่าอะไรที่มันมีประโยชน์กับเราก็เก็บไว้ อันไหน Toxic ก็ไม่ต้องไปสนใจครับ
เมื่อก่อนผมอ่านทุกข่าวเลยนะเพราะที่นี่มีแต่ข่าวเทค แต่ตอนนี้เยอะแยะไปหมดผมอ่านแต่หัวข้อแล้วอันไหนผมสนใจก็ถึงจะเข้าไปอ่านเนื้อหา
+1
อ่านอย่างเดียวเหมือนกันมาสักพักใหญ่แล้ว แต่ผมใช้อีกวิธีด้วย คือ พิมพ์ความเห็นที่คิดไว้ แต่ไม่กดส่ง เพราะเบื่อดราม่า แถมยังได้ระบายด้วย
3000บาท บวกไป 700บาท ถ้าใช้สติก็พอจะรู้ว่าไม่ใช่แค่ภาษีแน่
ที่น่าสนใจคือ ทั้งราคา PC และราคาบน AppStore เท่ากันเลย ทั้งที่ PC ไม่ได้มีส่วนแบ่ง 30%
อ่านบางเพจแล้วก็แปลกใจว่าทำไมด่ารัฐบาล ผมว่าการจ่ายภาษีมันก็เรื่องปกตินะ ถ้าจะด่าไปด่าตอนเอาภาษีไปใช้ดีกว่า
ด่าที่ทำค่าเงินบาทอ่อนครับ 29-30
เป็น 33-34 ส่วนเรื่องที่เป็น 37 คิดจาก 33-35 + 7% ราคาที่จุกจริงๆ คือ ค่าเงินมากกว่า เพราะ vat แค่ 200 เอง
(เรื่องการปัดเศษเป็นของ Apple คำนวน)
ถ้ามองภาพรวม ไม่ใช่ว่าบาทอ่อนประมาณนี้น่าจะกำลังดีเหรอครับในแง่การส่งออก คือผมก็ได้รับผลกระทบนะเพราะสั่งของจากนอกไม่น้อยเหมือนกัน แต่ผลบวกต่อประเทศน่าจะมากกว่ารึเปล่าครับ
ปล ออกตัวแทนรัฐแบบนี้ไม่ได้เป็นฝ่ายรัฐนะครับ ด่าเช้าด่าเย็นเหมือนกัน
จริงๆ จะไปด่ารัฐบาลที่บริหารไม่ดีจนค่าเงินบานปลายก็ได้ครับ
แต่แปลกใจว่าทำไมคอมมูไปนั่งด่าบริษัทเกม ว่าไม่ยอมอุ้ม กำไรเยอะแยะ
จริงๆมันก็ไม่ใช่เรื่องของเค้าที่จะต้องมาอุ้มอะไรเรา หรือต่อให้มีบริษัทไหนอุ้มมันก็เรื่องของเค้านั่นแหละ
เมื่อเช้าเจอคอมมูเกมแบบนี้แล้วมาเจอพาดหัวข่าวแบบนี้อีกเล่นเอาปวดหัวนิดๆ
RO-X ก็ปรับเพิ่มเท่า Genshin เช่นกันครับ จากแพ็คราคา 3,000 บาท เป็น 3,700 บาท ไม่น่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ
อย่าว่าแค่เรื่องพาดหัวข่าวเลยครับ ตอนนี้ผมชักไม่แน่ใจแล้วด้วยซ้ำว่าที่โพสต์นี้นับเป็นข่าวรึเปล่า ไม่เห็นมีแหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือตรงไหนเลย แค่เห็นราคาขึ้นก็อ้างเป็นตุเป็นตะเองว่านี่คือผลจากภาษี e-service
ถ้าให้ถูกจรรยาบรรณจริง
ควรเขียนหัวข้อให้ครบถ้วนกับเนื้อข่าว เช่น
"ค่าเกมแพงอ่วม เจอ2เด้ง ทั้งค่าเงินอ่อนและภาษี e-service"
อะไรทำนองนี้
พาดหัวส้นตีนมาก
อย่างนึ้ไม่สุภาพเลยครับ
ถ้าพาดหัวข่าวให้เป็นเพจข่าวไอทีราคาถูก ๆ เน้นแมส ๆ ก็เตรียมตัวเตรียมใจยอมรับว่า จะมีความคิดเห็นแนวเทือก ๆ นี้มาอีกเพียบครับ
อยากได้อะไรก็เลือกเอา....ระหว่าง Engagement(ยอดวิวเยอะ ได้เงินค่าโฆษณาเยอะ แต่คุณก็ต้องยอมรับความหลากหลายในสังคม) หรือ Quality (ยอดวิวน้อย ได้ค่าโฆษณาน้อย แต่เจาะเอาเฉพาะกลุ่มจริง) ก็เลือกเอาครับ
ถ้าผมพูดแบบเสี่ยงจะโดนแบน เขาเลือก Engagement ครับ นั่นแหละครับคำตอบของ Blognone ตอนนี้
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
ไม่อ่ะครับถ้าโพสคำหยาบคาย ก็สมควรบินตั้งแต่แรกแล้วไม่ต้องมองอย่างอื่นให้ปวดหัวครับ จะเม้นติติงอ่ะปกติ ว่าไม่ดียังไงแบบคนอื่นเขาทำกัน
การขึ้นราคา ส่วนนึงก็มีส่วนมาจากภาษี แต่ว่าค้าน่าจะไม่ขึ้นแค่ 7% คือนอกจากจะปัดเศษขึ้นให้เป็นเลขสวย ๆ แล้ว การปัดให้สูงขึ้นไปอีกนิดส่วนนึงก็น่าจะมีเรื่องของค่าเงิน อีกส่วนคือขึ้นจากราคาต้นทุนการ operate เกม อีกส่วนก็น่าจะเป็นเรื่องอัตราเงินเฟ้อ อีกส่วนก็อาจจะเป็นเพราะเกมติดตลาดแล้ว ฯลฯ
ขึ้นรวดเดียวเพราะขึ้นบ่อย ๆ ระบบจัดเก็บก็แก้บ่อย เหนื่อยคนพัฒนา (แพงด้วย) ขึ้นเผื่อทุกอย่างไว้เลยดีกว่าในแง่ของผู้ให้บริการ เพราะถ้าขึ้นบ่อยๆ ผู้ใช้บริการก็ด่าบ่อย ยอมโดนด่าทีเดียวเลยดีกว่า
ซึ่งส่วนตัวมองว่าเป็นข้อเสียของการรวมภาษีลงไปในค่าใช้บริการที่แจ้งให้ลูกค้า เพราะผู้ให้บริการจะพ่วงการขึ้นราคาหลาย ๆ อย่างลงไปในการขึ้นราคาครั้งเดียว แต่ก็นั่นแหละมันเกิดขึ้นครั้งเดียวคงไม่ได้มีผลมากขนาดนั้นครับ
แล้วก็คิดว่ามันเกิดจาก VAT แหละ ไม่งั้นคงไม่ขึ้นเอาตอนนี้ คิดว่าเกมในสตีมเองก็น่าจะเริ่มปรับราคาขึ้นตาม VAT (+ การปัดเศษและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอื่น ๆ แบบที่เล่าข้างบน) เร็ว ๆ นี้เหมือนกัน (ยกเว้นกรณีที่ Publisher ไม่สนใจเกมนั้นแล้ว) ส่วนไอ้ที่ใช้วิธีคิดภาษีเพิ่มจากราคาค่าบริการเดิมตรง ๆ แบบนั้นดูจะแฟร์กว่า แต่แปลกตรงที่พวกนี้จะโดนด่ามากกว่า (เช่น PSN)
ถ้าเอาอัตราส่วน ค่าเงินมีผลมากกว่านะ
จาก 30฿ พุ่งไป 34฿ ก็ 10กว่า% ละ
แล้วซ้ำด้วย vat 7% ทบๆรวมไป ก็ 20% เลย
เช่นเกมเคยราคา 33$ × 30฿ = 990฿
พอเงินตก+vat (33$ × 34฿) x 107% = 1,122฿ × 107% = 1200.54฿
ผมก็คิดว่า น่าจะเพราะมีการจัดเก็บภาษีเลยขึ้นไปเลยทีเดียวครับ ถ้าจะอ้างว่าค่าเงินขึ้นผมว่ามันขึ้นจาก 30 ไป 32+ บาทมาหลายเดือนแล้ว อาจจะขี้เกียจปรับก่อนหน้านี้ คราวนี้ได้ทีเลย + เผื่อไปเลยทีเดียว (หรือจะบอกว่าคิดย้อนหลังดี? 555)
ทุกคนครับ ถึงเวลาที่เราต้องร่วมมือกันเขียนข่าวเพื่อยกระดับคุณภาพของสังคม blognone แล้วล่ะครับ!
ผมพร้อมนะที่จะกลับมาเขียนข่าว
แต่ที่ผมเจอเนี่ยคือ หลายครั้งที่ทำข่าวแล้วระหว่างรออนุมัติเอาข่าวลงเว็บ อยู่ ๆ ยศ W มาทำข่าวเดียวกัน แล้วข่าวขึ้นหน้าเว็บเลยทันที ผมก็จะมีอาการเซ็ง ๆ กันไปครับ แรก ๆ ก็แย้งนะว่า ซ้ำกับที่ผมทำ แต่หลัง ๆ ก็ไม่แย้งละครับ สุดท้ายก็เลิกเขียนไปเอง ปัญหาแนวนี้ Blognone จะแก้ไขอย่างไรครับ? จะให้แย้งแบบนี้ไปเรื่อยหรือ? คนที่ได้ยศ W ควรจะดูคนที่ส่งข่าวเข้ามารอก่อนหรือไม่? ถ้ามีคนส่งข่าวที่ตัวเองทำมารอก่อนแล้ว ควรจะมากำกับ แก้คำ ตรวจสอบคำก่อนไหม? เหมือนเมื่อก่อนที่คนเขียนเจอ ๆ กันครับ แล้วยศ W ก็อนุมัติข่าวขึ้นเว็บไปครับ
ถ้าจะกลับไปเจอลูบเดิม ขอนั่งเป็นผู้ชมดีกว่านะ ออกความคิดเห็นบางข่าวพอครับ เพราะบางทีนั่งเขียนข่าวมาอย่างตั้งใจ กลายเป็นโดนแย่งข่าวไปแล้ว และเสียเวลาเราด้วยครับ
อ่านข่าวแล้วนึกว่าเพจเกมถูก
ผมว่าหัวข้อข่าวใหม่ก็มีพูดเรื่องค่าเงินบาทอ่อนด้วยแล้วนะ ก็ครบแล้วไม่ใช่เหรอครับ ?
That is the way things are.
หัวข้อตอนแรกสุดไม่มีคำว่าค่าเงินบาทอ่อนครับ เพิ่งมาเพิ่มตอนหลัง
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
โดนด่าเยอะ เลยเพิ่มมาทีหลังไง ตอนแรกมันไม่มี
อันนี้คือหัวข้อข่าวตอนแรกครับ
Google ยอมจ่าย ภาษีแทนให้รึป่าว เห็นว่าขึ้นแค่ค่าเงิน แต่ก็แพงอยู่ดี
ปกติ Battle Pass 299 ไป 349