Garmin เปิดตัว ไดฟ์คอมฯ สมาร์ทวอทช์ 2 ซีรีส์ใหม่ชื่อ DESCENT MK3 ที่มาพร้อมเครื่องรับส่งสัญญาณ DESCENT T2 สำหรับนักดำน้ำมือโปรและมือสมัครเล่น ตามด้วย DESCENT G1 Solar Ocean Edition ที่ใช้วัสดุรักษ์โลก โดยยังมีฟีเจอร์ติดตามสุขภาพ การออกกำลังกายรวมถึงฟีเจอร์การเชื่อมต่อ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์นอกเหนือจากการดำน้ำด้วย

DESCENT MK3 ซีรี่ส์มีสเปคคร่าว ๆ ดังนี้

• มี 2 รุ่นย่อยได้แก่ MK3 ใช้วัสดุ Stainless Steel และ MK3i ใช้วัสดุ Bronze PVD Titanium
• ดำน้ำได้ลึก 200 เมตร พร้อมเลนส์แซฟไฟร์ทนทานต่อรอยขีดข่วน และปุ่มโลหะป้องกันการรั่วซึม
• มีหน้าปัด 2 ขนาด คือ 43 มม. และ 51 มม. พร้อมตัวเลือก Air Integration ทั้ง 2 ขนาด
• หน้าจอทัชสกรีน AMOLED
• แบตเตอรี่อยุ่ได้นานสูงสุด 66 ชั่วโมงในโหมดดำน้ำ และ 25 วันในโหมดสมาร์ทวอทช์

DESCENT MK3 และ DESCENT T2 Transceiver เมื่อเชื่อมต่อกันจะมีเทคโนโลยีโซนาร์ SubWave ที่อัพเกรดใหม่ทำให้มีฟีเจอร์ใหม่ ๆ ดังนี้

• Diver Assistance (อัพเดทซอฟต์แวร์ได้เร็ว ๆ นี้) ช่วยให้เหล่านักดำน้ำขอความช่วยเหลือผ่านนาฬิกาได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุคับขัน สามารถส่งแจ้งเตือนขอความช่วยเหลือไปยังนักดำน้ำคนอื่นๆ ที่เชื่อมต่อสัญญาณไว้ โดยนักดำน้ำที่เชื่อมต่อในบริเวณใกล้เคียงจะสามารถมองเห็นความลึกและระยะห่างของนักดำน้ำที่ขอความช่วยเหลือ และจะติดตามตำแหน่งเพื่อช่วยเหลือได้
• Diver-to-diver Messaging หรือการส่งข้อความระหว่างนักดำน้ำ (อัพเดทซอฟต์แวร์ได้เร็วๆ นี้) สามารถรับ-ส่งข้อความที่ตั้งไว้กับนักดำน้ำคนอื่น ๆ ที่เชื่อมต่อสัญญาณกันในระยะห่างไม่เกิน 30 เมตรด้วยเทคโนโลยี SubWave4
• Dive Group Tracking หรือการติดตามการดำน้ำเป็นกลุ่ม ใช้ระบบ Air Integration ติดตามตำแหน่งนักดำน้ำคนอื่น ๆ ในกลุ่มว่าอยู่ตำแหน่งใด ทั้งยังสามารถดูระยะความลึกและแรงดันถังออกซิเจนของนักดำน้ำที่ใช้ DESCENT T2 Transceiver ได้สูงสุดถึง 8 คน ในระยะห่างไม่เกิน 10 เมตร
• Dive Readiness หรือคะแนนความพร้อมในการดำน้ำ ซึ่งพิจารณาจากปัจจัยด้านสภาพร่างกาย เช่น การนอนหลับ การออกกำลังกาย ความเครียด และอาการเจ็ตแล็ก หากคะแนนต่ำควรพิจารณาใช้ Conservatism Setting ที่สูงขึ้น หรือเลือกการดำน้ำที่ง่ายขึ้น
• ไฟฉาย LED ในตัว สำหรับหน้าปัดขนาด 55 มม. พร้อมโหมดไฟกระพริบ (Strobe Mode) ช่วยให้นักดำน้ำมองเห็นได้ดีขึ้นในสภาพแสงน้อย ทั้งใต้น้ำและบนบก

DESCENT MK3 มีโหมดการดำน้ำหลายโหมด ไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำแบบซิงเกิ้ล-ก๊าซ และมัลติ-ก๊าซ (ทั้งอากาศแบบ Nitrox และแบบ Trimix) รวมถึงยังมีโหมด gauge, โหมด apnea, โหมด apnea hunt และโหมด closed-circuit rebreather ที่ผู้สวมใส่สามารถปรับแต่งหน้าจอข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการดำน้ำแต่ละโหมดได้

DESCENT G1 Solar – Ocean Edition มีสเปคคร่าว ๆ ดังนี้

• ผลิตด้วยพลาสติกรีไซเคิลจากขยะในท้องทะเล 100%
• เลนส์ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ที่ช่วยให้สำรวจโลกใต้น้ำได้ยาวนาน
• หน้าปัดขนาด 45 มม.
• จอภาพขาวดำ
• ทนต่อความร้อน แรงกระแทก มาตรฐานทางทหารของสหรัฐฯ MIL-STD-810
• กันน้ำลึกถึงระดับ 100 เมตร
• แบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งาน 25 ชั่วโมงในโหมดดำน้ำและ 124 วันในโหมดสมาร์ทวอทช์

DESCENT G1 Solar – Ocean Edition มีฟังก์ชันการใช้งานของไดฟ์คอมฯ ดังนี้

• โหมดการดำน้ำแบบซิงเกิ้ล-ก๊าซ และมัลติ-ก๊าซ (ทั้งอากาศแบบ Nitrox และแบบ Trimix) รวมถึงยังมีโหมด gauge โหมด apnea โหมด apnea hunt และโหมด closed-circuit rebreather
• ติดตามจุดดำลงน้ำและขึ้นจากน้ำด้วยระบบ GPS เหนือผิวน้ำ
• จัดเก็บและรีวิวข้อมูลการดำน้ำได้ถึง 200 ครั้ง สามารถแชร์ผ่านแอป Garmin Dive ได้
• ปรับแต่งหน้าจอและแสดงผลข้อมูลเพิ่มเติมให้เหมาะสมกับโหมดการดำน้ำแต่ละโหมดได้
• นำทางใต้ผืนน้ำได้ง่ายดายด้วยเข็มทิศดำน้ำแบบ 3 แกนในตัว
• ดูข้อมูลน้ำขึ้นน้ำลงในบริเวณใกล้เคียงได้โดยตรงจากนาฬิกาบนข้อมือ
• แอปกีฬาที่มีคำแนะนำมากกว่า 30 รายการในตัว เพื่อแนะนำให้รักษาร่างกายให้ฟิตพร้อมสำหรับการดำน้ำในครั้งถัดไป

นอกจากนี้สมาร์วอทช์ทั้ง 2 รุ่นมีฟีเจอร์ติดตามและวัดผลด้านสุขภาพมากมาย อาทิ การวัดอัตราการเต้นของหัวใจจากข้อมือ (Wrist-based Heart Rate), คะแนนประสิทธิภาพการนอน (Sleep Score), ความอิ่มตัวออกซิเจนในเลือด (Pulse Ox) และพลังงานร่างกาย (Body Battery) ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจภาพรวมของร่างกายมากขึ้น

DESCENT G1 Solar – Ocean Edition วางขายในราคา 21,990 บาท และ DESCENT MK3 ซีรีส์ ราคาเริ่มต้นที่ 43,990 บาท ส่วน DESCENT T2 Transceiver ราคา 17,990 บาท วางขายแล้ววันนี้ ที่ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Garmin ทุกสาขา

ที่มา - ข่าวประชาสัมพันธ์