By: toandthen 
on 9 April 2010 - 11:59
Tags:
Topics:
Daring Fireball รายงานว่าแอปเปิลได้ทำการบล็อคการเขียนโปรแกรมบนไอโฟนผ่านการใช้ Flash โดยหลักฐานคือคำอธิบายในข้อตกลงของ SDK ตัวล่าสุดกับนักพัฒนาทั้งหลาย
Apps จะต้องถูกเขียนตั้งแต่เริ่มต้นด้วย Objective-C, C, C++ หรือจาวาสคริปท์ที่รันได้ผ่านทาง WebKit engine บน iPhone OS และโค้ดที่ถูกเขียนด้วย C, C++ และ Objective-C นั้นจะต้องถูกคอมไพล์ให้เข้ากับ API ต่าง ๆ โดยตรง (ห้้ามนักพัฒนาสร้าง Apps ที่ทำการติดต่อกับ API ที่มีให้ผ่านโปรแกรมตัวกลางทั้งหลายและ Compatibility layer หรือ Tools อื่น ๆ)
ค่อนข้างชัดเจนว่านโยบายนี้ของแอปเปิลได้พุ่งเป้าโจมตีแผนของ Adobe ในการที่จะทำให้ Flash Professional CS5 ที่กำลังจะออกในอนาคตนี้ ซึ่งมีความสามารถในการที่จะ Export เฟลชออกมาเป็น Native Apps บนไอโฟนได้โดยตรง โดยระบบนี้ของ Adobe จะทำให้นักพัฒนาสามารถที่จะทำซอฟต์แวร์บนหลาย ๆ Platform ได้ด้วยการพัฒนาในครั้งเดียว
Adobe เองได้ออกมาบอกผ่าน the New York Times แล้วว่าพวกเขารับทราบถึงนโยบายนี้ของแอปเปิลแล้ว แต่ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงแผนการในการปล่อยให้ผู้ใช้ใช้เทคโนโลยีนี้บน Flash CS5 ต่อไป
ที่มา - MacRumors
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
แร๊ง
ใช่ครับ แร๊ง และอีกอย่างเหมือนผู้พัฒนาไม่มีสิธออกเสียง !
ว่าแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้
Wow !!
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
เซ็งเลย ปิดกั้น เกินไปละ
ถ้าใช้แล้วจะตรวจสอบยังไงครับ ? ว่าใช้หรือไม่ได้ใช้
ต่อไป Adobe กับ Apple คงขาดกันจริงๆ
ข่าวต่อไป: Adobe ยกเลิกการสนับสนุน Photoshop, Flash, etc... บน Mac OS X ทั้งหมด ให้เปลี่ยนไปใช้ License for Windows ฟรี
งงว่า Apple เป็นบริษัท Hardware จะไปขัดแข้งขัดขาเค้าทำไม
{$user} was not an Imposter
น่าลองให้ Adobe ตอบโต้แบบนี้เหมือนกัน
Flash จะใหญ่ไปกว่า CS ได้อย่างไร
Flash ขนาดมันเล็กจิ๋วเดียว เมื่อเทียบกับ Adobe
Adobe จะทิ้งอู่ข้าวอู่น้ำเหรอ ไม่ได้หรอก หุ้นร่วงรูดแน่นอน
แค่ปัญหาเล็กๆเรื่อง Flash ติงต๊อง ก็มีบางฝ่ายปั้นข่าวให้เป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ได้ ไม่ธรรมดาจริงๆ
Flash ติงต๊อง? Flash ขนาดมันเล็กจิ๋วเดียว เมื่อเทียบกับ Adobe?
ผมว่าตอนนี้ทั้ง scale และ priority ของ Flash และ AIR สำหรับ Adobe นั้น มันเกินหน้าเกินตาโปรแกรมตัวอื่นๆไปหมดแล้วนะทั้ง Photoshop ทั้ง Dreamweaver ที่ครองตลาดส่วนมากไปได้อยู่แล้ว
ตลาด MID เป็นตลาดใหม่ที่มีฐานลูกค้าสูงมาก ตัวเล่นของ Adobe ก็คือ Flash และ AIR การทำให้ Flash และ AIR ติดตลาด MID ได้จะทำให้ Adobe อยู่ได้อีกยาว
ถ้าตลาด MID ไม่เจ๋งจริง Google คงไม่ลงมาเล่นตลาดนี้โดยตรงหรอกครับ (อันนี้ต้องยกความดีให้ Apple ด้วยที่บุกเบิกตลาดด้วย Smartphone ยุคใหม่ให้)
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
.
ผมว่าน่าสนใจ
ถ้าพรุ่งนี้ Adobe ประกาศทิ้ง CS Suite ทั้งหมดใน mac พัฒนาใน Windows อย่างเดียว
โรงพิมพ์และคนทำงานออกแบบจะเลือกอะไร?
lewcpe.com, @wasonliw
ผมว่าตอนนี้ใน บ.เล็กๆ ส่วนมากเค้าก็จะใช้บน Win อยู่แล้ว ยกเลิกสายก็แค่ย้ายตาม เพราะ OS มันแทนกันได้ แต่ตัวหลักใน CS ด้านออกแบบสิ่งพิมพ์ ยังไม่มีตัวไหนแทนพวกมันได้ อีกอย่าง ตอนนี้ CS ในฝั่ง Win น่าจะพัฒนานำหน้าฝั่ง OSX ไปแล้ว
แต่โรงพิมพ์จริงๆหลายที่นั้น ยังใช้รุ่นพระเจ้าเหาอยู่เลยครับ เพราะเปลี่ยนทั้ง office(เล็กๆ) ทีหมดครึ่งล้าน คงไม่เปลี่ยนกันบ่อยๆ
คือตัวผมเองก็เชื่ออย่างนั้นครับ ว่าคนใช้งานจริงๆ จะเลือกซอฟต์แวร์ก่อนเครื่องและ OS
แต่ผมไม่ใช่คนทำงานตรงนั้นจริงๆ ก็พูดไม่ได้
lewcpe.com, @wasonliw
เวลาทำงานผมก็ใช้แมคอยู่นะ
แต่ถ้า Adobe เลิกทำสำหรับแมค ก็ง่ายเลย ...
มีทางเลือกเดียว!
Adobe ทำแบบนี้จริงนะผมฮาลั่นเลย :D
จริงๆผมก็อยากให้ทำแบบนั้นนะครับ อยากเห็นเหมือนกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เช่นผู้ใช้ Mac ย้ายมาใช้ Windows, เปลี่ยนไปใช้ Gimp, หรือ Apple ทำโปรแกรมมาสู้ Adobe และผมก็คิดว่าตำแหน่งสูงๆใน Adobe ก็น่าจะอยากทำแบบนั้นเหมือนกัน แต่อาจจะคนละเหตุผลกับผม
แต่ในทางปฏิบัติมันคงทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะโอกาสมันจะทำให้ผู้ถือหุ้นไม่พอใจนั้นสูงมากเกือบจะ 100% ทีเดียว เนื่องจากไปการทำแบบนั้นจะไปลดผลกำไรของผู้ถือหุ้นนั่นเอง การทำให้ผู้ถือหุ้นจำนวนมากไม่พอใจนั้นเป็นการสร้างความเสี่ยงสูงสุงให้กับตัวบริษัทเลยก็ว่าได้ ซึ่งความไม่พอใจนี้จะตัดไปได้หาก Adobe หากำไรทางอื่นๆมาทดแทนได้ทันที ซึ่งปัจจุบันคงยังไม่มี
ถ้า Adobe เป็นบริษัทแบบ individual นี่คงแยกทางกับ Apple ไปนานแล้ว ยอมกำไรน้อยหน่อยดีกว่าเสีย pride ของตัวเอง
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ผมว่าโอกาสเป็นไปได้มากกว่าคือ Adobe ประกาศให้วินโดวส์เป็น 1st-tier platform ครับ คือคงไม่ทิ้งแมค แต่ฟีเจอร์บนวินโดวส์มาก่อน
ถ้าหันมาหา linux บ้างก็คงดี
+1
ปัจุบันยังหาโปรแกรมทำแฟลชดีๆบนลีนึุกซ์ไม่ได้เลย
ต้องถูกคอมไพล์ให้เข้ากับ API ต่าง ๆ โดยตรง (ห้้ามนักพัฒนาสร้าง Apps ที่ทำการติดต่อกับ API ที่มีให้ผ่านโปรแกรมตัวกลางทั้งหลายและ Compatibility layer หรือ Tools อื่น ๆ)
<== เพื่ออะไรนี่? ลด overhead ไม่ให้ app ใช้ performance มากเกินไป?
คนที่ถนัด platform อื่น ให้เขียนตรงๆ บางทีแย่กว่าผ่าน compat layer อีก
หรือ apple แค่ต้องการสร้างโลกของตัวเอง.. เค้าคิดไรนี่ ใครเข้าใจชี้แนะที
ต้องการฆ่า Flash ครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
เพราะถ้า Flash ตายไปก็จะไม่โดนกัดเรื่อง iPhone, iPod, iPad ไม่รองรับ Flash
{$user} was not an Imposter
เรื่องที่สำคัญกว่าคือ Flash CS5 ออกแบบมาเพื่อเขียนครั้งเดียว ทำโปรแกรมลงใด้ทั้ง iphone,Android,windows,mac,linux,flash-browser ครับ
การห้ามแบบดังกล่าวมีเพื่อไม่ให้เกิด app บนมือถืออื่นอย่าง Android,windows phone 7 หรือ plam pre ครับ
... แต่มันจะเป็นผลดีหรือผลเสียกับ apple ก็ไม่รู้ เพราะมีเกมส์ที่ไช้ Flash อยู่บนเน็ตมากมาย ถ้าเค้าเขียนเกมส์สำหรับเวปแล้วแจกเป็น app ไป มือถืออื่นๆ แต่ไม่ลง iphone เพราะต้องเขียนใหม่ apple อาจจะเสียมากกว่าใด้
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
....เข้าขั้นบ้าแล้วนะแอปเปิล
ถ้ามีเหตุผลประเภททำให้ประสิทธิภาพของ iPhone, iPod ย่ลง กินแบทเกินกว่าที่ควรเป็น ยังพอเข้าใจได้ว่า Apple ต้องการรักษาระดับคุณภาพ, ประสบการ์ณของการใช้งาน
แต่ถ้าแบนเพราะว่าอยากแบนนี่ก็เกินไป
กลัวว่าจะขาดกันจริงๆ - -'
ข่าวต่อไป
Apple ตกลงความร่วมมือกับ Adobe เพื่อพัฒนา flash ให้ใช้บน iPhone, iPad
...ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร
ต่อยกันเลยดีมั้ยครับ - -"
ข่าวต่อไป
คนเห็น Jobs นั่งอยู่หน้าร้านกาแฟกับ Ceo Adobe
บ.สร้างสรรค์กับไม่สร้างสรรค์...
โปรแกรมดีๆหน่ะ ไม่จำเป็นต้องล้อมคอกให้มีโค้ด หรือ API แค่ตัวเดียว
Adobe Air: One Game , Five platforms , All the same code
เมื่อสิบกว่าปีก่อน ผมเคยเห็นสโลแกนคล้ายๆ กัน
"Write Once, Run Anywhere"
ตอนนี้หายไปไหนแล้วไม่รู้เหมือนกัน (ฮา)
JAVA O_o"!!!!
ข่าวนี้ช๊อคโลกจริงๆ แต่ Adobe ก็ยังสงวนท่าทีอยู่นะครับ ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเซอร์ไพร้ส์ในวันเปิดตัว CS5 หรือเปล่า
ปล. นี่มัน Clash of the Titans หรือเปล่าเนี่ย - -
วันเปิดตัว CS5
Adobe : เราจะไม่มี CS5 สำหรับ OSX >_<
Apple : ไม่เป็นไรเดียวเราสร้างเองได้
Adobe : สวัสดี ลาก่อน
อย่างนี้ Mono บน iPhone ก็หมดสิทธิแล้วสิครับ?
ปัญหาคือ Appcelerator นี่สิครับ กำลังจะเปิดตัว iPad SDK เร็วๆ นี้อยู่แล้ว
(Mono คือ .NET ครับ ส่วน Appcelerator เป็น HTML แต่จะแปลงเป็น native)
ไม่เข้าใจ ทำเพื่ออะไร
มันดูไม่มีเหตุผลแปลกๆ
สนุกแน่นอนงานนี้
Cydia ยินดีต้อนรับ
ใจร้ายจังแอปเปิ้ว
ก็จุดยืนมั่นคงดีหนิครับว่า Apple "ไม่เอา Flash"
ผมคนใช้งานก็ไม่ได้หนักหนาอะไร ปกติก็ติด flashblock อยู่แล้ว
รบกวนขึ้นไปอ่านข่าวอีกรอบครับ ว่าที่เค้าไม่ให้มันคือ โปรแกรมที่ถูกแปลงเป็น Native App แล้ว
คนละประเด็นกันครับ
ในกรณีนี้คือการสร้าง Application ที่เป็น iPhone Native ด้วย Flash CS5 ไม่ใช้สร้าง Content ที่เปิดด้วย Flash ครับ
ไม่เอา "Flash" ในความหมายของผมมันก็รวมทุกอย่างล่ะครับ
ไม่ว่าจะรันโปรแกรมทางไหน หรือสร้างจากไหนก็ตาม
ได้ประโยชน์อันใด
แอปเปิลคงมีเหตุผล แต่ไม่ใช่แบบนี้
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
เผาป่าไล่ที่กันเลยทีเดียว
เกินไปจริงๆ -_-"
kurtumm
ตอนตอบคำถามนักข่าว jobs แอบกัดกูเกิลกับ adobe หลายดอกอยู่
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ผมว่าสาเหตุเดียวที่แอปเปิลไม่ต้องการแบบนี้คือคุณภาพของ Software ครับ ยกตัวอย่างง่าย ๆ เกม Multiplatform ทั้งหลายมักจะห่วยแตกบน Platform ใด Platform หนึ่งเสมอ (เช่น Dragon Age บน PS3 หรือเกม FF13 บน Xbox 360)
การที่ Adobe ออกตัวนี้มาคือต้องการเป็น Engine ให้นักพัฒนาใช้ในการออกแบบโปรแกรมแบบ Multiplatform นั่นเอง
แอปเปิลไม่ต้องการให้ตัวเองมี App แบบที่ไม่ได้พัฒนาให้กับ iPhone โดยเฉพาะเลยทำแบบนี้
แต่ส่วนหนึ่งที่หนีไม่พ้นคือต้องกรฆ่า Flash จริง ๆ :) ซึ่งผมก็ไม่มีปัญหา อย่างว่า ตราบใดที่ Apple มีฐานลูกค้ามากถึง 85 ล้านเครื่อง (iPhone + iPod touch ยังไม่รวม iPad กับ iPad mini ในอนาคต) แล้วล่ะก็ไม่ใช่เวลามาง้อใครแล้ว ก็เหมือนกับ Windows บน PC ที่ไม่ต้องมาง้อใครเช่นกัน
@TonsTweetings
พอมาเห็นอันนี้ก็คิดเหมือนกันว่า เป็นไปได้ เพราะหลักการการพัฒนาเกมแบบ Cross-Platform คือการสร้างชั้น Compatible-Layer ขึ้นมาตัวนึงแล้วให้ Game Engine ไปเรียกใช้ (ส่วน GE จะถูกเรียกโดย Game Logic อีกที) ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นคือการ Lock-Down ตัว Platform โดยไม่ให้สร้างเกมแบบ Multi-Platform
แต่มาคิดดูอีก ผมก็ยังทำได้อยู่ดีนั่นแหละ คือ ... ถ้าผมพัฒนาส่วนที่เป็น Engine กับ Compatible-Layer ขึ้นมาเอง แล้ว Build โปรแกรมของผมรวมโดยรวมเอาทั้งสองส่วนรวมไปกับโค๊ด Game Logic มันก็กลายเป็นซอฟท์แวร์เดี่ยว ๆ หนึ่งตัว ที่เรียกใช้ API โดยตรงของ Apple (ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วมันเป็นสองหรือสามส่วนที่เอามาต่อกัน)
คิดง่าย ๆ เหมือนชิพ Apple A4 นั่นล่ะครับ ... ดูเผิน ๆ เหมือนจะเป็นชิพตัวเดียว แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นชิพสามตัวขี่กันอยู่ (CPU, GPU กับ RAM) แต่เราก็เห็นเป็นชิพตัวเดียวอยู่ดี
ดังนั้น สรุปได้ว่า ... กฎตรงนี้ไม่ได้ห้ามการพัฒนาเกมแบบ Cross-Platform ครับ แต่ที่โดนเต็ม ๆ คือคนที่ใช้ Middleware สำเร็จ และผู้พัฒนา Middleware ดังนั้นลักษณะอาการแบบ ดีเลิศบนหนึ่งแพลตฟอร์ม แต่ห่วยหมดในแพลตฟอร์มอื่น ก็ยังคงจะมีต่อไป :P
ถ้าแอปเปิ้ลท้วงมาว่า ใช่ Compatible-Layer ใช่ไหม เราก็สามารถตอบกลับไปว่า "มันเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรม" เพราะเอาเข้าจริง ๆ เวลาพัฒนาเกม เราไม่ใช้คำสั่ง glDraw(...) (สมมติ) ในการวาดทุกครั้งหรอกครับ ทุกคนก็เขียนตัวฟังก์ชั่นสำหรับวาดเองทุกคนล่ะน่า!!
เห่อ Apple เอ้ย ......
จะประกาศสงครามหาอะไร
เราคงไม่ได้เห็นเกมที่ใช้ Unreal Engine บน iPhone ไปอีกหลายปี ....
ถ้า Adobe ใจถึงแบบ Psystar ชูโรงด้วยการ JB แล้วเล่น Flash ได้ ก็อาจเป็นวิธีนึง
แต่ก็นะ ถ้าทำอย่างนั้นก็เป็นการ Discredit ตัวเองเปล่าๆ เสียภาพจน์ทางธุรกิจอีก
งานนี้สนุก ต้องติดตามตอนต่อไป
Adobe สู้ๆ ไอบริษัท เขี้ยวลากดิน
apple สู้ๆ เกลียดที่สุดคือสิ่งที่ทำมาโดยไม่เพื่อสิ่งๆ นั้นโดยตรง
ยกตัวอย่างได้เลย เครื่องแมค กับ notebook windows รู้เลยว่า
ทั้ง hardware และ software ที่ทำมาเพื่อมัน มันดีแค่ไหน
ห้ามไปเลย เอาให้สุดๆ
ได้ใจสุดๆ
Hardware PC กับ Mac ผมก็ไม่เห็นว่ามันจะต่างกันตรงไหนนอกจากเมนบอร์ดที่ มี Bios กับไม่มี Bios (= ="
นอกนั้นก็ใช้ของเหมือนๆกัน.. สั่งอะไหล่มาจาก Partner ยี่ห้อบ้านๆทั่วไปเหมือน PC และก็ไม่ได้ผลิตเองอีกต่างหาก
ผมเองฟาก PC ก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก แต่คราวหน้าก็ยกเหตุยกผลมาเป็นรูปเป็นร่างบ้างนะครับ..แค่อยากฟัง "เหตุผลดีๆ" เฉยๆ
ปล.OSX ก็ Base มาจาก Unix อีกทีด้วย
+1 ครับ
BSD ครับ โดยหลัก ๆ เขาก็พัฒนา Shell ขึ้นมาครอบอีกที แล้วก็มี Application เล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ (แล้วที่เหลือก็ขายแยก)
แล้วก็ทำ Driver อุปกรณ์นิดหน่อย
ไม่เห็นว่ามันจะต่างกันตรงไหน
ศรัทธาต่างกันครับ แฟนบอยโซนี่กับแอปเปิลมีอะไรคล้ายๆกัน ^^
รวมถึง...คล้ายๆกันด้วยใช่ไหมครับ :D
ผมแฟนโซนี แต่ก็ด่ามันเป็นระยะๆ นะครับ - -
แต่พวกเข้าข้างไม่ลืมหูลืมตานี่น่ารำคาญพอกันทั้งสองฟากนั่นแหละ
ไอพวกที่ตามด่า ไม่ลืมหูลืมตาก็พอกัน พวกนี้เนี่ย แม้ไม่ได้ใช้ก็ด่านะ
ไอพวกชอบด่าชอบแขวะเนี่ย น่าจะโดน อย่างแม่นางดารา แห่งมาบุญครองซักทีนะ จะได้เข็ด
ไปถูกโฉลกแล้วเสล่อไปซะกระทู้เลยเนี่ย มันน่าจริงๆ
อ่ออ เราไม่ได้ว่าคุณ พูดโดยรวม
จริงๆแล้วถ้าคนไม่ได้ทำตัวให้น่าหมั่นไส้ บูชาไม่ลืมหูลืมตา ก็ไม่มีใครไปแขวะหรอกครับ
อ่ออ เราไม่ได้ว่าคุณ พูดโดยรวม
+1
ไม่ชอบเหมือนกัน พวกที่ไม่เคยใช้แล้วด่าเนี่ย ไม่ใช่แต่เฉพาะ ของ apple หรอกนะ
ปล.ไม่ได้ว่าใครนะ อย่าเครียด ผมใช้ของผลไม้ บางทีบางเรื่องยังอดด่าไม่ได้ 5555
ถ้าคุณดูออกว่ามันส่งผลเสียต่อส่วนรวม ทั้งผู้บริโถค ทั้งภาคธุรกิจ ทั้งภาคการผลิต นี่คุณคงไม่พูดแบบนี้ครับ และที่คนเค้าต่อต้านกันเนี่ยเพราะเค้าดูออกว่ามันส่งผลเสีย
ถามว่าตอนนี้คุณดูออกรึเปล่า? เห็นพูดแต่ของกูดีของมึงแย่อย่างเดียว (ขออภัยหากไม่สุภาพ ติดโน๊ต 8 มา)
ถ้าคุณดูไม่ออก ลองทำวิจัยว่า ทำไมต้องมีกฎหมายต่อต้านการผูกขาด(Antitrust) หรือ ทำไมต้องมีการแข่งขัน ดูครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ผมเป็นแฟนอะไร ผมด่ามันหมดทุกอย่าง - -"
จริงๆแล้ว ต้องเป็น ผมใช้อะไร ผมด่ามันหมดทุกอย่าง (ไอ้ที่ไม่เคยใช้ก็ไม่ด่าหรอก)
แต่ไม่เคยด่าแฟนตัวเองนะเออ (นินทาอ่ะเคย 55+)
อ๊ะ ต้องเอาไปฟ้องแว้ว :p
จะว่าไปมันก็ไม่มีอะไรที่ผมใช้แล้วดีไปหมดจนติไม่ได้อ่ะนะ อย่างน้อยนึกอะไรไม่ออกก็บอกแพงไปก่อนแล้วกัน 55+
เข้าใจแล้วว่าทำไมมีคนตามกัดสาวกแอปเปิลตลอดเวลา
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
+1
ถูกแล้วที่ชอบ apple ส่วนผมก็อยู่ฝั่ง pc ต่อไป
ใช้ windows linux opensouce สบายใจ มีให้เลือก มีให้ลอง
ตลกดี
ก่อนเน็ตล่ม กำลังจะโพสต์ว่ารอดูความเห็นจากสาวกอยู่พอดี
พอเน็ตกลับมาใช้ได้ ไม่ต้องจุดธูปก็มาเองเลยแฮะ
บ้าไปแล้ว ไม่น่าเลย
notebook ผมไม่รู้ แต่ถ้าตั้งโต๊ะล่ะก็อ. ผมบอกว่าซื้อมาประกอบเอง เลือกตัวที่มี driver แบบเสถียรแล้วบน Mac OS จะได้ราคาถูกกว่ารุ่นแรงสุด และแรงกว่ารุ่นแรงสุดโดยไม่มีปัญหาด้วย และอ. ผมก็ไม่ใช้ Windows มานานมาก - -
ไอ้เรื่องสิ่งที่ทำมาแบบไม่เจาะจงเป้าหมายผมไม่ได้ว่าอะไรครับ แต่ไอ้เรื่องเทียบ hardware เนี่ย ขอบอกเลยว่า "งี่เง่า" แล้วจำไว้ด้วยเลยครับว่า hardware หลายๆ ตัวใน Apple ก็เป็นตัวเดียวกับที่ขายแยกนั่นแหละ
คิดดูอีกทีแล้ว Apple น่าจะมีเหตุผลถูก แต่เลือกวิธีผิดนะครับ
การเปิด flash ให้เข้ามา อาจจะเกิดกรณี ui ไม่ consistency (ดู linux ประกอบท่านจะเห็นว่า app เทพๆ อยู่บน qt แต่ distro หลักๆ ใช้ gtk) โดยเฉพาะ flash นี่ตัวการเลยครับ มีใครเคยเห็น app flash ที่ไหนใช้ปุ่ม native บ้างหละครับ ปุ่มมันก็หน้าตา flex ของมันตลอดทุก platform บ้างก็เป็นปุ่มบ้านๆ ที่ dev วาดเอง อย่างเลวก็เป็น text link (พบมากในเกม)
อันนี้ทำให้ platform เสียความเป็นเอกภาพไป ตัว os ทุกส่วนควรจะทำงานประสานกัน 3rd party app ก็ควรเช่นเดียวกัน ดังนั้นถ้าเลือกให้ถูก apple ควรบอกว่าจะต้องใช้ native widget ไปเลยครับ native นี่จะแต่งยังไงก็ได้ แต่ต้องเป็น native ไม่ใช่ของก๊อปทำธีมเหมือน native (ลองดู firefox กับ openoffice บน linux จะเข้าใจครับว่าของก๊อปเป็นยังไง ยิ่ง firefox นี่ก๊อปเนียนมากเลยนะครับ พวกนี้จะมีปัญหากับธีมส่วนนึงอยู่ ขณะที่ native app ที่ผมใช้มาไม่เคยมีปัญหาพวกนี้ครับ)
ผมว่า App ทุกตัวยังไงก็ต้องผ่าน Apple ก่อนอยู่แล้ว จะสร้างจากอะไร Apple ก็ตรวจสอบได้นี่นา ไม่เห็นต้องมากั๊กอะไรแบบนี้เลยครับ
ถ้ามันไม่ consistency กับระบบ ก็แจ้งนักพัฒนาให้ปรับปรุงได้นี่นา
หรือผมเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่าเอ่ย
ความจริงก็ทำแบบนั้นได้ แต่สงสัยอยากดิสเครดิตอีกฝั่ง เหมือนที่เคยทำมาแล้ว
แบบนี้ประกาศไปเลยว่าไม่ได้ไม่ดีกว่าเหรอครับ ไม่เสียเวลานักพัฒนา คือมันไม่ให้ก็ไม่ทำไปเลย หรือจะได้เตรียมแก้ก่อนทำ ไม่ใช่ทำแล้ว อ่าว มันไม่ให้ผ่าน
@TonsTweetings
เรื่องสไตล์นี้ว่ากันตรงๆ ผมเคยเห็นสมัย Apple แรกๆ กับ IBM สุดท้าย Mac ก็ใช้ CPU IBM
ผมเห็นอีกทีก็ช่วง G3/G4/G5 ที่ยิงถล่ม Intel ไม่ยั้ง สุดท้าย Mac ก็ใช้ CPU Intel
user สองฝั่งก็ตีกันสนุกสนาน ^^
ผมเป็นคนนึงนะครับ ที่อ่านข่าวนี้แล้ว สบายใจ เห็นด้วยกับ Apple อย่างเต็มที่
เพราะว่า ในเมื่อ apple เป็นคนสร้าง OS ของเขาขึ้นมาแล้ว เขาก็ย่อมมีสิทธิ์อย่างเต็มที่ที่จะ ออก กฏ ต่าง ๆ ขึ้นมา ให้นักพัฒนาโปรแกรมปฏิบัติตาม
และเขาก็ย่อมมีเหตุผลที่ดี ของเขา ที่จะออกกฏ ต่าง ๆ นั้นขึ้นมา
อย่างคน ทำ website เอง ก็มีกฏ ต่าง ๆ ที่ควรปฏิบัติตาม เช่น มาตรฐาน W3C ซึ่งกี่คนหละครับ ที่ปฏิบัติตาม มาตรฐานนี้ได้ทั้งหมด
แต่เนื่องจาก การทำเว็บ นั้นค่อนข้างเป็น ประเด็นที่เปิด คือคุณสามารถ สร้าง เว็บมาโดยไม่ต้อง แคร์ ใคร
แต่ apple นั้น เขา จำเป็นที่จะต้องรักษาคุณภาพของบริการของตัวเอง (Iphone OS) ไว้ จึงต้องบังคับใช้กฏ อย่างเข้มงวด
ส่วนถ้า จะมองในมุมของการปิดกั้นนั้น คงต้องรอการพิสูจน์ กันก่อนหละครับว่า การที่ เขียนโปรแกรมด้วย Flash แล้ว ทำให้เป็น native app บน Iphone แล้ว จะมีผลเสียอย่างไรบ้างจริงๆ
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.
เด็ดสุดคืองานนี้คงเล่นคดี Antitrust กับแอปเปิลยากด้วย เพราะว่า Flash เป็น proprietary แต่ HTML5 เป็น open
@TonsTweetings
ผมค่อนข้างเห็นด้วยครับกับคำอธิบายท่านนี้ เลยมองนึกไปถึงการยึดติดเรื่องบางเรื่องมีเขาเองก็ถือเป็นมาตรฐานและมาตรการเข้มข้นในเวลาเดียวกัน นอกจากจะกำหนดเป้าหมาย และปลายทางอย่างชัดเจนแล้ว ปัญหาที่จะตามและอาจส่งผลกระทบได้ในภายหลังก็จะได้น้อยลง หรือแทบไม่มี แต่โชคดีว่า เรื่องนี้ใหม่ Adobe เองก็คงไม่กังวลมากนักเพราะอาจไม่พุ่งเป้ามาที่กลุ่มนี้ แต่นักพัฒนาอาจมองว่ามันบีบคั้นในความสามารถของชิ้นงานเสียมากกว่า
----------------- Yokey My Blog
ผมเป็นลูกค้ารอดูผลการใช้งาน ถ้ามันดีกว่าก็ซื้อ ถ้าสู้บน Android ไม่ได้ก็ไม่ซื้อ ผู้ผลิตก็มีหน้าที่ผลิตของที่ดีที่สุดในราคานั้นๆ
แปลว่าใช้ Wrapper ก็ไม่ได้รึเปล่าเนี่ย?
นอกจากเรื่อง Flash แล้ว มีอะไรที่จะด่า iPhone รุ่น 4.0 ได้อีกหรือเปล่า?
ไอ้แอ๊ด ... มั้ง ?
ว่าแต่ iPhone พัฒนาเรื่องการ Customization หรือยังครับ หรือว่าหนึ่งร้อยเครื่องก็มีหน้าจอเหมือนกันหมด ??
คือ พอใช้ iPhone แล้วมันรู้สึกว่ามัน "โหล" ไปนิด = =' แบบ วอลล์เปเปอร์ก็เปลี่ยนไม่ได้ อะไรทำนองเนี๊ยะ
ไม่นับอุปกรณ์แต่งภายนอกนะ นั่นไม่เกี่ยวกับ OS
ผมเห็นเพื่อนๆ ที่ใช้แมคก็ไม่ค่อยเปลี่ยนวอลเปเปอร์กันนะ ฮา
ขอเล่นมุขของคุณ lew หน่อยซึ่งผมคิดว่าน่าจะเอามาใช้ในคำถามนี้ได้
ข้อดี
- ใช้ iPhone OS
- App Store
ข้อเสีย
- ใช้ iPhone OS
- App Store
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ฮา :D
ประเด็น Antitrust กับแอ๊ปเปิ้ลนี่น่าจะง่ายน่ะ ไม่เกี่ยวกับว่าเป็น HTML หรือ Flash เลยเพราะ Apple มีประเด็นที่จุดให้เล่น Antitrust อยู่แล้วก็คือ การกันไม่ให้นักพัฒนาสร้างโปรแกรมขึ้นมาแข่งหรือมีฟังก์ชั่นเดียวกันกับที่ Apple ทำมาให้แล้ว ตัวอย่างที่ง่ายที่สุดก็คือ Web Browser นี่แหละ ที่โดนผลจากข้อนี้ไปเต็มๆ ทำให้ iPhone มีแต่ Safari ให้ใช้ ไม่มี Firefox(Fennec), Opera(รายนี้กำลังวิ่งเต้นหาทางลงให้ได้) หรือ Chrome ต่อให้ใช้ HTML5 แต่เล่นบังคับให้ใช้แต่ Safari มองยังไงก็ Antitrust น่ะครับ แล้วยิ่ง HTML5 ยังเป็นร่างมาตรฐานอยู่เลย ใครจะรู้ว่าออกตัวจริงๆ ออกมาแล้วต้องแก้กันเยอะแค่ไหน
รอดูมา 17 วันแล้วยังไม่มีวี่แววเลย (= ="
http://my.opera.com/community/countup/
ง่ายๆ ต่างคนต่างทำ ของใครของมัน ไม่เหนต้องยึด apple เป็นมาตรฐาน port ไม่ได้ก็อย่างไปง้อ แพลตฟอร์มอื่นก็มี พัฒนากันไปสิ คนซื้อพอใจสิ่งไหนก็ซื้อ คนสร้างจะทำลงเพลตฟอร์มไหนก็ทำ
ปล.ก็ไม่อยากให้ทะเลาะกันอะ
จริงครับ WebOS, Android, Mac OS X, Windows, Windows Mobile 7 ยังมีอีกตั้งหลายตลาดให้นักพัฒนาโปรแกรมบน CS5 สามารถเข้าไปทำตลาดได้ แค่นี้มันก็สร้างยอดขายให้ Adobe พอสมควรแล้ว Adobe คงไม่ไปตอแยกับ Apple หรอก
สุดท้ายนักพัฒนาจะเป็นคนเลือกเองว่าฐานลูกค้าบน AppStore มีความน่าสนใจพอหรือไม่
ซื้อรถมายี่ห้อ เอ ขับง่ายคุ้นเคย ใช้มานาน อยู่ๆมีจังหวัดเกิดใหม่ วิ่งไปไม่ได้ซ๊ะงั้น
กับซื้อยี่ห้อ บี มาขับยากกว่า แต่ไปได้ทั่วประเทศ
ผมว่ามันเป็นเหตุผลที่เจ้าของค่าย เอ พยายามที่จะทำให้มันไปได้ทั่วประเทศนะครับ
กระทบไหม ผมว่าเยอะ
แต่ก็น่ายกย่องในความพยายามของค่าย เอ นะครับ
แต่ทำไงได้ ก็ที่ๆจะขับไป มันเป็นพื้นที่ของเขา เขาจะกั้นรั้วก็ได้
แต่จังหวัดไม่ใช่ของใครกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งนะครับ มันเป็นของประชาชนทุกคนของประเทศนั้นๆ มันคนละคอนเซปกับ AppStore
(ซ้ำ)
ในความคิดผม ถ้าผมเป็น adobe ผมจะแก้เกมกลับด้วย...
....ทุ่มให้กับแอนดรอยด์สุดตัว มีอะไรใส่ได้ใส่ไปให้สุด ร่วมมือกับกูเกิลแบบแนบแน่น ทำให้แฟลชเล่นบนเบราเซอร์ได้ดีจริงๆ แล้วโปรโมทเยอะๆ สร้างกระแส แถมดันให้คนทำ app/game จาก flash cs5 สุดตัว แอนดรอยด์จะได้มี app/game เยอะๆ แล้วชูจุดขายเรื่องเกม ส่วนตัวเองก็อาจจะทำ photoshop lite, premiere lite for android ช่วยตรงนี้ที่แอนดรอยด์ยังดูขาดๆ ไป แล้วก็ทำ adobe reader ให้เจ๋ง ดันเรื่อง e-book อีก ..ทำด้วยวิธีใดก็ได้ให้แพลตฟอร์ม android มันเนื้อหอมน่าอิจฉามากมาย เด่นกว่าคู่แข่งมากๆ เอาให้กวาดลูกค้าอีกเพียบ เชื่อว่าทรัพยากรที่มี adobe ทำได้อยู่แล้ว ซึ่งมันก็คุ้มค่าถ้าทำสำเร็จ เพราะก็เท่ากับดันแพลตฟอร์มนี้ให้เติบโตแถมตัวเองก็ยึดหัวหาดไปด้วย ขยายตลาดไปได้อีกเยอะมาก ได้กันทั้งสองฝ่าย
...แถมเจียดตัวอีกหน่อยไปทำแฟลชบน WP7, Symbian, Meego, WebOS ให้ดีๆ ด้วย แล้วดันให้สุด สร้างกระแสสุดๆ เป้าหมายคือการฆ่า iphone อ้อมๆ อย่างไม่ปราณี แถมด้วยการชู cs5 บน windows อีกดอก ฆ่าไปแมคด้วย ดูสิอยู่ตัวคนเดียวจะอยู่รอดอีกไหม (หรือแอปเปิลจะทำซอฟท์แวร์แข่งกับ adobe? หึ..สามปีก็ไม่ทันหรอก) ...ยังไงก็ต้องกำจัดตัวมารทิ้งเสีย เอาไม่ให้ได้ผุดได้เกิดอีกต่อไป
ปัญหาคือ Google ก็คบไม่ค่อยได้เหมือนกันนะครับถ้าจะว่ากันตามตรง
ถ้าตามตัวอักษร พวก Corona หรือ Dragonfly หรือภาษาที่คอมไพล์เป็นภาษาซี อย่างพวก Gambit-C, Eiffel หรือ ECL ก็ไม่น่ารอด
แต่ดูเหมือนแอปเปิล จะต้องการแค่เล่นงาน Flash และ Adobe
ซักพักคงมีคนลอง