Angry Birds Space เปิดตัวไปแล้วบนหลายแพลตฟอร์มพร้อมกับความนิยมอย่างรวดเร็ว แต่ Peter Vesterbacka ผู้บริหารฝ่ายการตลาดแห่ง Rovio ออกมากล่าวว่าเกมในภาคนี้จะไม่มาลงบน Windows Phone เนื่องจากต้องเขียนแอพขึ้นใหม่ทั้งหมด ซึ่งประเมินจากต้นทุนเทียบกับจำนวนผู้ใช้งานที่น้อยมากเมื่อเทียบกับ iOS และ Android จึงสรุปว่าไม่คุ้มลงทุน แม้ปัจจุบัน Angry Birds ภาคแรกจะเป็นแอพอันดับ 1 ใน Windows Phone App Store ก็ตาม
Vesterbacka คาดว่า Angry Birds Space จะช่วยเร่งให้ยอดดาวน์โหลดเกมตระกูล Angry Birds ทั้งหมดทะลุ 1,000 ล้านครั้งในไม่กี่เดือนจากนี้ และตั้งเป้าให้ถึง 2,000 ล้านครั้งภายในสิ้นปี นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนเปิดตัวเกมภาคต่อของ Angry Birds อีกหลายภาค รวมทั้งว่าที่เกมยอดนิยมตัวที่ใหม่ภายในปีนี้เช่นกัน
ปัจจุบัน Rovio มีพนักงานมากกว่า 300 คน และมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมือง Espoo ประเทศฟินแลนด์ใกล้กับสำนักงานใหญ่ของโนเกียและไมโครซอฟท์สาขาฟินแลนด์
ที่มา: Bloomberg
Comments
แรงกว่านี้มีอีกมั๊ยครับ
เอาแล้วว ผู้ใช้ wp จะก่อดราม่าแล้วละ 55+
มีด้วยเรอะ :trollface
หมายถึงผู้ใช้เหรอครับ ตอน BN Party ยังเผลอมานั่งรวมกลุ่มกันโดยไม่ได้นัดหมายอยู่เลย XD
555+ ผมล้อเล่นครับ ^^
Microsoft ให้ Nokia สั่งเดี๋ยวก็ยอมทำ
ผมว่ามองแคบไปหน่อยนะ การตลาดที่แท้จริงต้องมองอนาคตมากกว่า อนาคต Window phone ราคาถูกแต่สเปคแรงอาจจะบูมก็ได้ใครจะรู้ ถึงเวลานั้นRovio อาจจะกลืนน้ำลายตัวเองก็เป็นได้
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ค่อยทำตอนนั้นก็ไม่สายครับ แต่ตอนนี้ประเมินแล้วว่ายังไม่คุ้มทำ
ผมว่าเค้ามองจากความเป็นจริงในปัจจุบันว่า platform ไหนควรทำก่อน-หลัง platform ไหนเรียกเงินได้มาก-น้อย น่ะ (ผมว่า)
โปรเจคเริ่มตอนนั้น ทำเสร็จตอนนี้ ส่วนแบ่งการตลาดก็ยังต่ำติดพื้น ผมเชื่อว่าเค้าตัดสินใจถูกต้องแล้วครับ (ถ้าทำก็เจ๊ง)
ถ้าทำตอนนี้ เสร็จตอนที่ส่วนแบ่งการตลาดขึ้นพอดี ก็ยังไม่สาย
rovio ไม่ได้มองแคบครับ
แต่มองลึกซึ้ง และมองไปไกลกว่าแค่ mobile device ต่างหาก
เพราะเมื่อวานทีมงาน rovio มาที่ samsung
rovio ไม่ได้มองนกยั้วะเป็นแค่เกมแล้วครับ
แต่มองเป็นความบันเทิง เป็นสวนสนุกในบ้านคุณ
โดยยึดมั่นการนำเสนอไปหลากหลายอุปกรณ์
เพราะเค้าทำทั้ง
ตัวแทนทีมงาน rovio ย้ำคำว่าความหลากหลาย
ผมมองว่าถึงไม่ทำตอนนี้อนาคตไม่ใช่ว่าจะไม่ทำ
แต่จะว่าไปแค่ที่ทำตอนนี้ก็เยอะแล้วนะครับ
ถ้าต้องโมใหม่ทั้งหมดตอนนี้ก็คงยังไม่คุ้ม รอให้เยอะกว่านี้ค่อยทำก็ไม่สายอะไร เพราะส่วนแบ่งตลาด WP มองดูแล้ว ไม่มีใครสนใจลงไปทำหรอก
รู้สึกโล่งอกที่ไม่หลงคารม Microsoft ไปซื้อ WP
ผมเปลี่ยนมือถือมาบ่อยแต่ทุกวันนี้ก็ยังหยิบ WP มาใช้งานตอนออกจากบ้านอยู่เลยน่ะครับ
HTC Mozart ซื้อมา 7500 จนถึงตอนนี้ก็ยังหารุ่นไหนคุ้มกว่านี้ไม่มีเลยครับ
ปล.ความคิดส่วนตัวของผมครับ
12,900 ซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
เครื่องนี้เสียเครื่องหน้า WP แน่นอนครับ (สงสัยจะเสร็จ Lumia 900 ไม่ทันรอเครื่องนี้พัง XD)
มันก็ถูกของเขา
ตอบได้ตรงดีถูกใจ ดีกว่าตอบแนวๆ ยังอยู่ในแผนหรืออาจจะทำ แล้วทิ้งให้คนใช้ฝันลมๆ แล้งๆ เสียเวลา แบบนี้จะได้ลบจากสมองไปเลย
หยาบคายยยยยย~~
แร้งงงงงงงง
จริงอยู่ว่าถึงเวลาค่อยทำก็ได้
แต่ตอนนี้ใครจะซื้อหรือจะซื้อโทรศัพท์ให้ญาติว่า
ทำไมต้องซื้อโทรศัพท์ที่เล่น Angry Bird ภาคล่าสุดไม่ได้มาด้วย
เล่นนู้นก็ไม่ได้นี่ก็ไม่ได้
ถ้า MS ไม่เดินหน้าเต็มสูบ สงสัยจะแย่
ปัญหานี้แก้ได้โดยไมโครซอฟท์จ้างทำครับ
อันนี้แหละที่ผมว่าเขามองอยู่ แบบว่ามีเล่นตัวอ่ะนะ
จากข่าวเก่าไม่กี่วันในเวบนี้
ขนาดตลาดอังกฤษ ที่โนเกียบอกว่าขายดี ๆ
ยังมีส่วนแบ่งตลาดแค่ื 2.5%
คงไม่แปลกที่ Rovio จะคิดแบบนั้น
เอาไว้ให้ได้สัก 15-20% ค่อยทำก็ไม่สาย
แต่ดูจาก UI ที่แตกต่างอย่างไม่แคร์สื่อแล้ว
คงยากที่จะไปถึงจุดนั้น
เรื่อง UI ไม่น่าจะเกี่ยวนะครับ Angry Bird มันรันเต็มจอ
แต่ที่สงสัยคือ Angry Bird พัฒนายังไง คือถ้าทำด้วย XNA แล้วตามที่ไมโครซอฟท์โม้เอาไว้ แก้โค๊ดนิดเดียวก็จะรันได้ทั้งบน Windows, Windows Phone, และ Xbox ดังนั้นก็ไม่น่าจะใช่เรื่องยากอะไรที่จะเอามาลง Windows Phone นะ?
ใครว่าไม่เกี่ยว เกี่ยวสิถึงจะไม่มีผลกับนกโมโห แต่มันมีผลถึงความนิยมในตัวเครื่อง
ในมุมมองขอกผม WP7 นั้นออกแบบ UI สู้คู่แข่งไม่ได้เลย คงจะมีส่วนแบ่งถึง 20% ได้ยากฃxna อาจเป็น Engine ที่ดี แต่บน Windows นั้นมีทั้ง FaceBook/Chrome App อยู่แล้วFaceBook ลูกค้ามหาศาล ยังไงก็ทิ้งไม่ได้ Chrome นั้นเป็นของอากู๋ น่าจะพอร์ตมาจาก น้องด๋อยได้
คงไม่จำเป็นต้องมีแอปต่างหาก
และ ถามหน่อย ใครอยากเล่นนกโกรธบน XBox บ้าง
โอเค ผมเข้าใจผิดเองเรื่อง UI ผมเข้าใจว่าคุณหมายถึง UI แบบ Windows Phone ไม่เหมาะกับ Angry Bird
ส่วนตัวผมคิดว่าเรื่อง Usabilities เนี่ย WP7 เหนือกว่าแอนดรอยด์ไปหลายขุมครับ และยังค่อนข้าง Informative มากกว่า iOS ด้วยซ้ำไป แต่ข้อเสียเดียวของมันคืออย่างที่หลายๆคนบอก คือมันจืดชืดเกินไป ดังนั้นถ้าจะพูดว่ามันสู้คู่แข่งไม่ได้เลย เห็นจะไม่ถูกต้องสักเท่าไหร่
และเรื่อง Engine ผมถามเพราะผมไม่รู้ว่า Angry Bird เวอร์ชั่นบน Windows Phone ตอนนี้ มันเขียนด้วยอะไรครับ แล้วยังมีเวอร์ชั่น Native บนวินโดวส์อีก (ซึ่งมันเป็นคนละเรื่องกับเวอร์ชั่นเฟซบุ๊คและ Chrome) ทีแรกผมนึกว่าเป็น XNA
ส่วนเรื่อง Xbox มันเป็นผลพลอยได้จากการเขียนด้วย XNA ครับ ถ้ามันแก้แค่นิดเดียวก็พอร์ตลงไปได้ (ตามที่ไมโครซอฟท์พูดเอาไว้) ถ้าเป็นผม ผมก็จะพอร์ตๆไปเหอะ เผื่อขายได้มากขึ้น
แล้วแต่มุมมองนะครับ
ส่วนตัวผมเห็นว่า UI ของ WP นั้น
ทั้งประสิทธิภาพและความน่าใช้
สู้ Android และ iOS ไม่ได้เลย
เรื่องความน่าใช้ผมไม่เถียงครับเพราะอยู่ที่คน คนชอบก็เยอะคนเกลียดก็แยะ แต่เรื่องประสิทธิภาพนี่มีหลักฐานอะไรมาอ้างไหมครับ?
ผมเห็นคนนี้โจมตี WP มาตลอดเลย
ส่วนตัวผมใช้ Android เป็นเครื่องแรก ของแฟนคนเก่าใช้ iPhone
วันหนึ่งมี WP7 ( HTC Mozart ) โชว์อยู่ที่ DTAC (สาขาแฟชั่น)
ผมไปยืนเล่นอยู่ จับๆ ปัดซ้าย ปัดขวา ปัดขึ้น ปัดลง
จนตัดสินใจได้แล้วว่า Nokia (รูเมียนั่นแหละ) วางขายเมื่อไหร่
WP นี่แหละ เป็นคำตอบของผมล่ะ ชอบ UI ของมันมาก
ถ้าเค้าโจมตีเราตั้งรับแบบแลกเปลี่ยนเหตุผลกันได้ก็ดีครับ ผมจะได้เก็บแนวคิดไปไว้ใช้ แต่ถ้าอีกฝ่ายแถหรือไม่มีเหตุผลผมก็เลิก
แล้วจะมาเล่ายาวให้ฟังละกัน มันมีหลายประเด็นอยู่
ว่าแต่เวบนี้มันเป็นไรเนี่ย
บางที Reply ไม่ขึ้นซะงั้น
อยากตอบก็ตอบไม่ได้
ไว้เรามาแลกเปลี่ยนความคิดกัน ในฐานะศิษย์ร่วมสำนักพระราม 7 ก็แล้วกัน
เวลาน้อย ขอประเด็นเดียวก่อนนะ
จุดอ่อนหลัก ของ WP ก็คือ ความสามารถในการจัดหมวดหมู่ App,Gadget
เท่าที่ดูรู้สึกจะทำได้แค่ Pin/Unpin ในการดึงโปรแกรมจากหน้ารวมเท่านั้น
ไม่สามารถแบ่ง Page แรกเป็นหน้า ๆ ได้
ใช้พื้นที่หน้าจอมากเกินไป อย่าง Mail/โทรศัพท์/Social/อากาศ นี่ปาเข้าไปเกือบครึ่งหน้า
ทั้งที่ถ้าเป็นรูปแบบ Gadget สามารถใช้แค่ Status Bar เล็ก ๆ ก็แสดงผลได้เท่ากัน
ทำให้เหลือเนื้อที่จอไปทำอะไรได้อีกเยอะ
ถ้ามีเวลาจะอัพเป็นบทความขึ้น Blog เรื่องยาวพร้อมภาพประกอบเลยก็ได้
แต่คงไม่ใช่เร็ว ๆ นี้แน่ คงซักปลายเมษา
Metro UI ต้องการให้ผู้ใช้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นตอนนี้โดยไม่จำเป็นต้องกดเข้าไปดู เหมือน OS อื่นที่มีแค่แจ้งว่ามีอะไรอัพเดต เช่นเรื่องเมล์ มีเมล์เข้าก็เห็นว่าใครส่งมา เรื่องอะไร มองดูก็รู้เลยถ้ามันสำคํญจริงๆค่อยเข้าไปอ่าน ไม่จำเป็นที่ต้องกดเข้าไปดูทุกครั้งว่าใครส่งเมลอะไรมา
Metro UI ยึดพื้นฐาน เรียบง่าย แค่มองก็รู้ความเป็นไป ไม่เยอะ ซึ่งไม่เหมาะกับคนที่ชอบอะไรเยอะ อย่างพวกชอบแปะ Gadget เต็มหน้า แต่งหน้าเอง
นั่นแหละคือจุดอ่อนไง
User บางคนชอบเยอะ บางคนชอบน้อย
ชอบเยอะ ก็เอา Gedgetตัวใหญ่ ชอบน้อยก็ใส่ตัวเล็ก
GadGet หลายตัวปรับได้หลายขนาดมาก 1-2-4-8 บล็อกได้ทั้งนั้น
(แต่ WP ไม่...มีขนาดเดียวที่กินพื้นที่ประมาณเบอร 4 ของด๋อยเท่านั้น)
หรือถ้าชอบโล่ง ๆ ใส่แค่ตัวเล่นเพลงก็พอยังได้
มันไม่ควรเป็นหน้าที่ของ OS จะมาจำกัดจิตนาการของผู้ใช้
ขอดีของ WP มีข้อเดียวมั้ง คือ ลื่น
แต่ก็แค่ลื่นเท่านั้น เมื่อคิดถึงข้อจำกัดที่ WP ขาดไปแล้ว
เป็นความลื่นที่ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่เลย
อย่าง ios หรือ ด๋อย ผมรู้ว่า หน้าแรกผมมีแค่ ข่าว เพลง
ปัดขวา 1 ครั้งจะได้ web ขวาอีกครั้งจะเจอกลุ่ม eBook ขวาอีกทีจะเจอเกม
ซ้ายครั้งนึงจะเจอ ข่าว ซ้ายอีกครั้งจะเจอ TV
นี่แค่ตัวมาตรฐานเท่านั้น ยังเปลี่ยนได้อีกถ้าชอบจากตัว Launcher อื่น ๆ
หรือถามหน่อย ถ้าอยากให้หน้าแรกมีแค่ Analog Clock ,MusicPlayer ต้องเซตตรงไหน
หน้าสองเป็น ข่าว หน้าสามเป็นเกม เซตตรงไหน
สรุปก็คือตัวคุณไม่ชอบ live tiles แค่นั้นเอง แล้วพอไม่ชอบคุณก็เหมารวมว่าทุกอย่างเป็นข้อจำกัดไปหมด
อีกเรื่องคือ windows phone เป็นระบบปิดครับ คุณจะมาบ่นหาอิสระทำเพื่ออะไรของคุณ ?
live tiles มันก็ดีอยู่ แต่มันเป็นข้อจำกัดที่มันปรับแต่งได้ยากไง
และข้อจำกัดที่ความ ปิด ของมันนั่นแหละ
ผมไม่ได้บ่น แค่บอก ว่าผมคิดยังไง
ถึงไม่สนใจจะหา WP มาใช้อ่ะ
(ที่จริง สิ่งที่ผมเห็นเป็นข้อจำกัด ไม่ใช่ WP นะ แต่เป็น Metro ต่างหาก
Metro เป็นแนวคิดการออกแบบครับ ที่คุณพูดมานั่นข้อจำกัดของ Live tiles หมดเลย หรือเรียกชัดๆหน่อย มันคือข้อจำกัดของ Home Screen บน WP7 ครับ
Tiles ของ WP7 มีสองขนาดครับ คือจตุรัส กับผืนผ้า (=2 จตุรัส) และมันเอาเข้าเอาออกได้
ตัว WP ไม่มีแนวคิดในการจัดกลุ่มไว้เป็นโฟลเดอร์ หรือเป็นเพจเหมือนกับบน iOS หรือแอนดรอยด์ครับ (ตรงนี้คนเรียกร้องเยอะเหมือนกันครับ เพราะอันนี้คือปัญหาจริงๆ ยิ่งลงเยอะ ยิ่งยาว ยิ่งปักเยอะ ยิ่งยาว) แต่จริงๆแล้วก็ใช่ว่าจะจัดกลุ่มอะไรไม่ได้เลย แต่มันทำได้ยากครับ ผ่านสิ่งที่เรียกว่า Hub (จริงๆแล้วมีการทำ homebrew สำหรับสร้าง tiles ที่เป็น folder เหมือนกันครับ)
แนวคิดของ Metro UI ไม่ใช่การจ้องแล้วเล็งครับ มันคือการเหลือบดู ไม่สำคัญก็ปล่อยผ่าน น่าอ่านค่อยกดดูครับ (เช่นหยิบมือถือมา บนจอเหลือบดูคร่าวๆได้เลย ทั้งโทรศัพท์ ข้อความ โซเชียลเน็ตเวิร์ก เรื่องเกมเราสามารถปัก game hub ได้ ซึ่งในนั้นจะรวมเกมต่างๆที่ลงไว้เอาไว้ครับ)
ผมลองเล่น WP7 บนอีมูให้แม่ผมดู แม่ผมยังว่ามันใช้ง่ายอ่านง่ายกว่าแอนดรอยด์เลยครับ ติดอย่างเดียว เมนูภาษาอังกฤษ แม่ผมใช้ไม่เป็น 55
อีกอย่าง ตอนเปิดตัวก็โฆษณาไว้ดิบดีว่าเพื่อแค่คว้ามาดู ขณะที่ Android และ iOS ต้องมาปลดล็อกแล้วลากดู notification center แต่ WP7 ผมมาเปิดดูหน้าแรกจบครับ
อีกอย่าง ผมยังไม่เห็นว่ามันจะมีอะไรจำเป็นต้อง "ปัก" หน้าแรกให้มันยาวเลย ของที่จำเป็นต้องเอาไว้ดูผมอยู่ในระยะไม่ต้องเลื่อนเลยด้วยซ้ำนะครับ
หน้า HOME ios ทำอะไรได้บ้างครับ เทียบกับ WP ขอถามประดับความรู้หน่อย
iOS ไม่มี Home Screen ครับ
Unlock แล้วเข้าเมนูเลย (เหมือนเค้าจะนับ Menu หลักนี่เป็น Home ของ iOS)
ที่ทำได้ก็ย้ายไอคอนไปแต่ละหน้า จัดกลุ่มไอคอน แล้วก็แจ้งเตือน (แสดงได้แต่ตัวเลขบอกจำนวน เช่นจำนวนข้อความ) ได้แค่นี้ครับ
นั่นนะซิ คุณ PowerMax ทำไมถึงเปรียบเทียบว่า ui ของ wp มันห่วยนักถ้าเทียบกับ UI ของ OS อื่นๆ ที่บ้านผมใช้ทั้งสามยี่ห้อเลย
ตามความเห็นผม UI ของ ANDRIOD ห่วยสุดแล้วครับ IOS นี่ธรรมดามากเลย UI ของ wp ในแง่การใช้งานนี่ผมว่าไม่แพ้ OS อื่นเลยครับ
iOS นั้นแทบจะไม่มีอะไรสักอย่างที่เป็น Infomative ยกเว้น
แต่สิ่งที่ได้มาก็คือการใช้พลังงานที่ต่ำมากและการตอบสนองที่รวดเร็ว
แฟน ๆ ของ IOS ก็ชื่นชอบในความ เรียบง่าย ของมันนี่แหละ
แตกต่างจาก Android แบบสุดขั้ว ขานั้นปรับแต่งได้สารพัด
จนหาความเรียบง่ายไม่เจอ
แต่แฟน ๆ ก็ชื่นชอบในความหลากหลายของมันนี่แหละ
ใครถามผมก็จะตอบว่า แล้วแต่ชอบ สองค่ายนี้เด่นคนละด้าน "กินไม่ลง"
ส่วน WP มันครึ่ง ๆ กลาง ๆ เหมือนทำไม่เสร็จ
จะเรียบ ก็ไม่เรียบจริงยังมีความยุ่งยากในการใช้
จะแต่ง ก็แต่งไม่ได้มาก ข้อจำกัดมีเพียบ
ก็เลยเป็น OS ที่เรียกว่า "กินใครไม่ลง"
ในมุมมองของผมนะ
ก็แล้วแต่มุมมองใครมองมันละกันครับ
แค่ผมลองแล้วรุ้สึกไม่สะดวกก็เลยเอามาแชร์ให้ฟัง
และขอคาดเดาว่า ถ้า Metro ยังเป็นเช่นนี้อยู่
ก็คงจะเป็นอันดับ 3 เรื่อยไป
พูดแล้วก็เสียดาย meego จังแฮะ
มันปรับแต่งไม่ได้ยังไงอ่ะครับ การรับประทานไฟก็ไล่เลี่ยกันเลย แล้วWP7.5นี่ก็บู๊ทไว กินไฟน้อยกว่ารุ่นเดิมมาก
ด้วยยความเคารพครับ UI นี้ไม่เหมาะสำหรับพวกท่อง A ไม่ถึง Z จริงๆครับ
แล้ว Meego มันปรับแต่งตรงไหนได้หรอครับ O.o Meego ไม่มี Widget เหมือนกันนะครับ คุณก็น่าจะไม่ชอบด้วยสิ
ต่างคนต่างความคิด ผมว่า ui android ดีสุด ios ห่วยสุด ทำไรไม่ได้เลย
ui android รก สกปรก /pif
เรื่องประสิทธิภาพ ลองปักวิดเจ็ดสัก 40-50 อันแล้วเทียบกับ Windows Phone ที่ปักไทล์ 40-50 อันดูนะครับ (เห็นมีคนบ้าปัก 75 อัน แต่ก็ยังลื่นดีอยู่) จำนวนขนาดนี้น่าจะเห็นความต่างแล้วครับ ส่วนบน iOS ผมนึกไม่ออกเหมือนกัน ว่าจะวัดยังไงดี
ัถ้าจะเทียบจริง ต้องเทียบกับ Tile ที่ Active เท่า ๆ กัน
แต่หลาย tile มันไม่ได้เป็น Gadget มันเป็นแค่ ShortCut
ซึ่งไม่ได้เปลืองทรัพยากรอะไรเลย
แต่ว่ากันตามจริง
ถ้าจะทดสอบประสิทธิภาพ
เราคงไม่มาเทียบว่า ใครลื่นกว่ากัน มันไร้สาระ
แต่คงต้องเทียบว่า ถ้าให้โจทย์ที่ไม่บอกล่วงหน้ามาสัก 20 อย่าง
แ้ล้วให้สุ่มเลือกมา 10 งาน ใครจะทำงานเสร็จเร็วกว่ากัน
เมื่อเสร็จแล้วใครเหลือพลังงานมากกว่ากันจะดีกว่า
นึกถึง smoked by windows phone เลย
เอาไป Search มาแ้ล้ว
เป็นการทดสอบที่ไม่แฟร์เลย
ฝั่ง WP นี่เอา Expert เป็นตัวยืน
ฝั่ง OS อื่นเอามือสมัครเล่นที่ไม่ได้เตรียมตัวมา
ไม่ต่างจากเอา Novice ไปแข่งกับ 3rd Class
แข่งกันในโจทย์ที่ Expert บอกอีกต่างหาก
ถ่ายรูปแล้วอัพขึ้นเฟซบุ๊คนี่มันต้องใช้สกิลสูงอะไรด้วยเหรอครับ? ตา Ben มีประโยชน์แค่พูดเชียร์ Windows Phone ตอนท้ายแค่นั้นเอง
ขอเป็น ment สุดท้ายของข่าวนี้ละกันนะ เบื่อตอบแล้ว
1.การเตรียมตัวล่วงหน้า เนื่องจากฝั่ง WP รุ้ว่าจะแข่งอะไรบ้าง
ก็เลยตั้งเมนูให้เข้าถึงได้ง่ายไว้ อย่างมากปัดนี้ว 1-2 ทีก็เจอ
แต่อีักฝั่ง บางทีเจอโจทย์ที่เขาไม่ค่อยได้ใช้ app ก็จะไปที่อยู่
ที่หน้ารวม แค่กวาดตาหา app ก็ไม่ทันแล้ว
แต่พอไปเจอคนที่ตั้งไอคอนหน้าแรกไว้พอดี ฝั่ง WP ก็แพ้ไปอย่างที่เห็น
ถ้าจะให้แฟร์ ต้องตั้งโจทย์จากบุคคลที่ 3 เอาแบบว่้า รู้พร้อม ๆ กัน
โดยที่ไม่ใช่เป็นการตั้งโจทย์ล่วงหน้าแล้วให้คนเลือกนะ
เอาแบบเขียนใหม่ใส่ซอง แล้วเปิดซองพร้อม ๆ กัน
ลองเจอโจทย์ที่ OS อื่น App อยู่หน้าแรก
ส่วน WP อยู่หน้า 2 ตอนมีแอปเครื่องละ 100 ตัวสิ
2.เมื่ออยู่ต่อหน้าชุมชน ลักษณะนี้ ยิ่งเป็นการแข่งขันด้วยแล้ว
หากไม่ได้ฝึกฝนเป็นประจำ มีไม่กี่คนหรอกที่คุมสติได้ เต็มร้อย
มีอาการเกร็ง ตื่นเต้น ทำไรไม่ถูกไปชั่วขณะกันทั้งนั้น
แต่ตาเหม่งนี้ดูจะชำนาญอยู่แล้ว
เรื่องความลื่นนั้นเราคงมุมมองต่างกันครับ
เพราะผมเห็นกว่า มันสำคัญน้อยมาก
และเมื่อผมไปใช้ลองใช้ Android รุ่นใหม่ ๆ
มันก็ไม่เห็นช้าตรงไหนเลย แต่ถ้าเป็นเครื่องรุ่นเก่า
แล้วอัด Gadget เข้าไปละหน่วงแน่
ว่าแล้วต้องมาตอบแนวๆ นี้ อีกอย่างโจทย์ที่ใช้ก็เป็นโจทย์ที่ส่วนใหญ่ในชีวิตประจำวันใช้ทั้งนั้น ทั้งถ่ายรูปอัพขึ้น facebook ไม่ก็ tweet ข้อความ ซึ่งมันไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลย เท่าที่สังเกตจากการตอบผมก็เดาได้ว่าคุณลาก video ดูผ่านๆ เพราะถ้าคุณไล่ดูจริงคุณจะเห็นเลยว่า เขามีการอธิบายด้วยว่าทำไมถึงเร็วกว่า คนที่ช้ากว่าเขาก็พูดออกมาหมดแทบจะทันทีว่าเขากำลังทำอะไรอยู่และทำไมมันถึงช้า ซึ่งถ้าดูดีๆ บางคนไม่ใช่ระดับคนผ่านไปผ่านมาที่มาท้าด้วยซ้ำ เพราะงานนี้มีการประกาศล่วงหน้าอยู่เป็นอาทิตย์ว่าจะมีการแข่งนี้ในงานต่างๆ โดยเฉพาะงาน ces ที่มี expert หลายคนมาตามคำท้าเลยด้วยซ้ำ
เอาง่ายๆ หลายการทดสอบคุณสามารถนั่งทำคนเดียวหน้าคอมยังได้ ซึ่งผลมันก็เห็นๆ นั่นแหละ
ปล. ผมเห็นคนอื่นถามทิ้งไว้หลายคำถามคุณก็ไม่ตอบ หรือเขียนวกไปวนมา ซึ่งผมเองก็ไม่อยากจะจู้จี้เท่าไรเพราะ ข่าวมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกนี้อยู่แล้วนอกจาก angry bird อีกอย่างนึงคือผมเป็นคนที่มีและใช้ทั้ง 3os นี้เหมือนกัน (bb, bada กับ meego ผมก็เคยใช้)
ว่าจะไม่ตอบแล้วนะ ช่วย List มาให้ทีว่าคำถามไหนผมไม่ได้ตอบ
ผมว่าผมตอบหมดแล้วเว้นแต่คำถามที่ซ้ำประเด็นเดิม อย่างการปรับแต่งงี้
ผมไม่ได้มีความแค้นอะไรกับไมโครซอฟต์
ไม่ได้อาฆาตอะไรกับโนเกีย (มือถือก็ใช้โนเกียอยู่)
WP ก้เคยใช้ (แต่ไม่ใช่ Wp7)
และไม่ได้เป็นลูกจ้าง อากู๋หรือบ.ผลไม้นะ
จะได้หาเวลามาตอบทั้งวัน
ส่วน Video นั่นถ้ามีเวลาจะดูอีกรอบละกัน
แต่ผมยังไม่เห็นคลิปไหนที่บุึคคลที่ 3 เป้นคนกำหนดโจทย์เลยนะ
WM รุ่นเก่าๆ กับ WP7 มันต่างกันคนละเรื่องเลยนะครับ
เอาเป็นว่าคุณPowerMax ลองหา wp7 จริงมาใช้ดูสักเครื่องแล้วค่อยวิจารย์ก็ยังไม่สายครับไม่เคยใช้แล้วมาบอกว่ามันไม่ดีเหมือนนั่งเทียนเขียนครับ
จะให้ผมหามาจากไหนอ่ะ
ร้านแถวบ้านผมไม่มีใครยอมสั่งมาให้ลองเลยสักร้าน
มีแต่ต้องสั่งจองเขาถึงสั่งของมาให้
แต่ WP7 มีรีวิวทั่วโลกออกมากมาย เท่าที่ดูรีวิวก็พอจะเข้าใจอยู่
ส่วนตัวจริงได้แค่ลองเล่นที่ Terminal21 กับ Paragon สักพักนึง
แต่จะให้ซื้อมาใช้เลย ขอบายครับ
ไม่ชอบอย่างแรง
Windows Mobile กับ Windows Phone 7 ต่างกันฟ้ากับเหวครับ ให้ลองศึกษาจริงๆก่อนจะดีกว่า (จากประสบการณ์ พื้นฐานบน Windows Mobile แทบไม่มีประโยชน์อะไรบน WP7 ครับ)
แล้วผมขอถามอีกครั้ง ว่าการถ่ายรูปแล้วอัพขึ้นเฟซบุ๊คหรือทวิตเตอร์ (ซึ่งเป็นอะไรที่ทำอยู๋ทุกวันอยู๋แล้ว) จำเป็นต้องใช้ความ expert มั๊ย?
กดปุ่มกล้องค้าง เป็นฟีเจอร์ของ OS ถ้าจะบอกว่าเป็นการเตรียมการล่วงหน้า ก็เห็นจะเป็นการเตรียมการล่วงหน้าตั้งแต่ยัง Dev กันอยู่ใน Microsoft และฟีเจอร์การ์แชร์และเข้าถึง Social Network ก็ Built-in กับ OS ไม่ต้องเตรียมการล่วงหน้า (และจากวิดีโอ มันไม่มีการปัดนิ้วทีสองทีอะไรเลย กลับไปดูใหม่ด้วยครับ กดปุ่มกล้องค้าง กดถ่าย แล้วสั่งแชร์ พิมพ์ข้อความ จบ)
อย่างที่เข้าใจกันว่า WP7 มันจัดไอคอนจัดหน้าเพจ บลาๆๆๆ ล่วงหน้าแบบชาวบ้านเขาไม่ได้ แล้วเค้าจะเตรียมตัวล่วงหน้ายังไง? เข้าใจด้วยครับ ว่ามันเป็นฟีเจอร์ของ OS ไม่ใช่เอามาใส่เพิ่ม
เข้าใจครับ ว่า WP6 (รุ่นนั้นใช้ชื่อ WP ครับไม่ใช่ WM แล้ว)กับ WP7 นั้นมันคนละเรื่อง
แน่นอน WP7 ใช้ง่ายกว่า WP6 มาก ๆ
(เพราะ WP6 มันใช้ไม่ง่ายเลยในสายตาผมถ้าให้ผมซื้อใช้นี่คงต้องให้ฟรี+แถมเงิน)
ส่วน WP7 นั้นผมยังหาคนแถวบ้าน ซื้อมาใช้ไม่เจอเลย
ก็เลยได้แต่ไปลองที่ห้างเวลาบินเข้ากรุงเป็นบางครั้ง
แต่ผมเชื่อว่าเท่าที่ผมทดลอง ผมเก็บ Concept มาพอแล้วนะ
เวลานักวิจารย์รถ เขาต้องเอารถแต่ละคันมาใช้ทั้งเดือนก่อนถึงมิสิทธิ์วิจารย์หรือครับ
ผมว่าเขาแค่ทดลองขับสัก 1-2 ชม.ก็น่าจะพอแล้ว ที่จะบอกว่า รถคันนั้นน่าใช้ไหมสในมุมมองของเขา
ยกตัวอย่าง แค่ผมอยากให้ Mode เวลางาน
ผมคงไม่อยากให้ Social มาเกะกะเวลานั้น
อยากให้ตารางนัดหมายผมใช้พื้นที่ไปเลยครึ่งจอ หรือเกือบเต็มจอ
แล้วหน้าที่ 2 แบ่งครึ่ง ข่าว+การลงทุน
แค่โจทย์ 2 ข้อนี้ WP ก็สอบไม่ผ่านแล้ว
ยอมรับว่าลื่น+เร็วจริง แต่สำหรับผม มันเป็นความลื่นที่ไม่ค่อยมีประโยฃน์อ่ะครับ
Windows Mobile 6, Windows Mobile 6.1, Windows Mobile 6.5 (แล้วก็ให้เรียกเป็น Windows Phone 6.5 ในทีหลัง เพื่อให้คล้องกับ Windows Phone 7 แต่ Dev ก็ยังเรียก Windows Mobile เพื่อให้แยกกับ แพลตฟอร์ม Windows Phone 7) คือชื่อ Windows Phone จริงๆ มันเริ่มใช้ตั้งแต่ Windows Phone 7 ครับ
คุณมีสิทธิ์วิจารณ์ครับ แต่ควรศึกษาให้มากก่อน มันเหมือนกับลองรถชั่วโมงเดียว แล้วหาทางเปิดฝาน้ำมันไม่เจอ แล้วบอกว่ามันเปิดไม่ได้ (ปกติพวกเขียนรีวิวของ บริษัทส่งของมาให้ลองเป็นอาทิตย์ครับ บางกรณีอาจจะได้เป็นเดือน หรือถ้าไปรีวิวตามงาน ส่วนมากก็จะศึกษาข้อมูลสินค้ามาดีก่อนอยู่แล้ว)
อยากให้ศึกษาให้มากกว่านี้ก่อนครับ เอาแค่ตอนนี้ผมยังรู้สึกว่าคุณยังสับสนระหว่าง Metro UI (ที่เป็นสไตล์การออกแบบ) กับ Live Tiles (ที่เป็นโฮมสกรีน) และ Built-in Feature (ที่เป็นเหมือนกิมมิค) อยู่เลย
ยังยืนยันนะครับ ว่าคอนเส็ปท์ของ WP7 คือการเหลือบมอง ไม่ใช่การนั่งจ้อง
สำนัก review รถดีๆ เขาเอารถไปลองกันนานกว่านั้นนะครับ หลายวันด้วย ไม่ใช้แค่ชั่วโมง สองชั่วโมง อย่างนั้นแค่คง preview ผิวเผิน อะไรแบบนี้ละครับ
ก็เป็นแนวทางใครทางมันละกัน แต่เท่าที่ผมลองสักพักก็พอจะบอกได้แล้วว่า มันไม่เหมาะกับผมแน่ ๆ
รอบตัวผมมีอยู่คนเดียวในรอบหลายเืดือนที่ผมเห็นใช้มือถือตระกูล Win และทุกวันนี้เขาก็ไม่ได้ใช้ต่อแล้ว
ข้อดี 1.ลื่น 2.ดูเหมือนจะมีปุ่มกล้องมาในทุกรุ่น 3.Infomative Realtime เห็นข้อมูลแม้หน้า Lock ไม่ต้องจิ้ม
แต่ 3 ข้อดีนั้นมีน้ำหนักน้อยมากเมื่อเทียบกับข้อเสีย
1.จัดหน้าแรกได้แบบเดียวเท่านั้น เปลี่ยน Page ตามสถาณการณ์ไม่ได้
2.tile ปรับขนาดไม่ได้ เท่าที่เห็นปรับได้แค่ 1 บล็อก-2 บล็อก
จะให้โล่งๆ แบบคนชอบน้อย ๆ หรือใส่ ให้เต็ม สำหรับคนชอบเยอะ ก็ทำได้ไม่สุดทั้งสองทาง
3.ถ้าโปรแกรมนั้นเราไม่ได้ใช้บ่อยไม่ได้ Pin ไว้หน้าแรก การจะหาให้เจอนั้นค่อนข้างยาก
เอาคร่าว ๆ เท่านี้ก่อน ถ้าจะให้อธิบายโดยละเอียดผมต้องมีภาพประกอบ ซึ่งตอนนี้ผมคงหาเวลาทำได้ยาก
เท่าที่ดู ผมว่า WP น่าจะแซง BB ได้ไม่ยาก
แต่จะให้แซง iOS กับ ด๋อย แล้วยากมากถึงมากที่สุด
ที่จริง ไมโครซอฟตืสามารถแก้ข้อเสีัยหลัก ๆ ได้ง่าย ๆ
แค่ยอมให้ WP ใช้ Launcher ตัวอื่นแทนที่ Metro แต่ถ้าทำอย่างนั้น
ก็จะมีปัญหาอื่นตามมาอีกหลายด้านเช่นปัญหา Fragmentationและเรื่องพลังงานฯลฯ
ผมนับไอคอนเป็น widget ไปด้วยครับ เพราะเอาเข้าจริงมันคงไม่มีใครใส่วิดเจ็ตหรือ tiles แบบ active ลงไปขนาดนั้น
HTC Magic ผมเก่าแล้ว มี widget แค่สองอัน เป็นตัวเปิดปิด connection กับ calendar นอกนั้นเป็นไอคอนประมาณสิบอัน ยังอืดเลย หรือบน Galaxy S อันล็อคจอออกมา ต้องรอสองสามวิเพื่อโหลดไอคอน ก็ไม่ทัน tiles เหมือนกันครับ ยิ่งบางทีออกจากเกมมา ไอคอนบนโฮมเยอะๆ ปาดย้ายไปอีกโฮม ยังมีค้างเลย
ความลื่นอาจจะไม่นับว่าเป็นเรื่องของประสิทธิภาพ แต่มันสำคัญมากๆในเรื่องของ UX
ถ้าความลื่นมันไร้สาระ คงไม่มีใครนั่งก่นด่าแอนดรอยด์เรื่องควานลื่นของมันหรอกครับ (ผมล่ะคนนึง ใช้แอนดรอยด์แล้วอยากเขวี้ยงทิ้งตรงที่มันไม่ลื่นเหมือนไอโฟนนี่แหละ)
ผมมองว่า Usabilities ของ android สูงกว่า wp7 นะ
ส่วนที่ต้องการ Informative สูงก็ไช้ widget จัด icon ที่มีเนื้อหาต่อเนื่องกันเป็นชุดหาง่ายไช้ง่าย
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
widget บนแอนดรอยด์ ถ้าหามาเพิ่ม ก็น่าจะได้เรื่อง informative อยู่เหมือนกันครับ แต่ปัญหาของแอนดรอยด์คือปัก widget ยิ่งมากก็ยิ่งอืด และหลายทียังโดนจำกัดด้วยจำนวนหน้าอีก (แต่คงไม่มีใครปักจนเต็มทุกเม็ดหรอกมั๊ง?) ในณะที่ Windows Phone ปักได้เรื่อยๆ และไม่ส่งผลกับความเร็วเท่าไหร่นัก (แต่ยังไม่เคยลองปัก tiles ที่มี notification เยอะๆเหมือนกันครับ ไว้ซื้อเครื่องเองเมื่อไหร่ จะลองดูอีกที)
แต่ข้อเสียพวกนี้ก็คือเรื่องที่มันยิ่งปักยิ่งยาวเนี่ยแหละ
ผมว่า tiles ที่ไม่มี notification ไม่ต่างอะไรกับ icon ที่มีขนาดใหญ่ ชึ่งมีข้อเสียมากกว่าข้อดีนะครับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ในความเป็นจริง ไม่ค่อยมีใครปักไทล์นิ่งๆไว้เยอะนักหรอกครับ ส่วนมากก็ปักที่มันแจ้งเตือนอะไรเราได้กันมากกว่า
คือผมยกตัวอย่างมาให้เทียบกับแอนดรอยด์ครับ วิดเจ็ด (นับรวมไอคอนด้วยครับ) ในจำนวนที่เท่ากับไทล์ มันกินเครื่องมากกว่า
มองด้วยตาเปล่าก็พอจะทราบว่า ใครใช้ทรัพยากรมากกว่าครับ แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลนะครับสำหรับ Google OS กับ MS Windows
แต่แอบดีใจที่ iOS ไม่มีแบบนั้นกับเขาด้วย อิอิ
iOS ไม่มีแม้แต่ Home Screen เลยค่อนข้างจะเสียเปรียบชาวบ้านเขาในเรื่องของ Informative ครับ แต่ก็แลกมาด้วย performance ที่ดีขึ้น เพราะไม่ต้องไปจัดการอะไรบน home screen
ใช่แล้วครับ แลกมาด้วย Performance ที่ดีขึ้น แต่ก็มี Notification Center และ Notification iCon
Widgets มีใน OSX ตั่งแต่ Tiger ซึ่งตอนนั้น Vista ก็ยังเอาไปใช้ แต่แปลกใจมั้ยละครับว่าทำไม apple ไม่เอา Widgets มาใส่ใน iOS ซึ่งผมว่า Performance ที่ดีขึ้น เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับ apple ที่สำคัญคือ Notification Center และ Notification iCon ก็ดีเพียงพอแล้วสำหรับ iOS ซึ่งอย่างน้อยๆก็สำหรับความคิด Apple ครับ
XNA มันเป็น framework ไม่ใช่ engine นะครับ
ทราบครับ ผมเรียกผิดเอง เมื่อวานเห็นทวีตแล้ว แต่ไม่ได้ตอบไป
คิดว่า พัฒนาบน iOS แล้วพอร์ทมาลง Android ด้วย NDK ครับ
ดังนั้นจะพอร์ทไป XNA ต้องโละทิ้งทั้งหมด ... ไม่คุ้มอ่ะ
แล้วถ้าเค้าทำ windows อยู่แล้วล่ะครับ? เกี่ยวมั้ย?
ปล. ผมว่า ms ต้องจ่ายเงินพิเศษให้นักพัฒนารายใหญ่ รายดังแล้วมั้ง
ฐานผู้ใช้เยอะต่างหากล่ะ
mr_tawan พูดถูก การพอร์ทมา XNA นี่อย่างกับนรกเลย
เกี่ยวครับ เพราะถ้า port ไปวินโดวส์ก็ยังใช้ C++/DirectX ได้ ซึ่งความสามารถสูงกว่า XNA และไม่ต้องรื้อโค๊ดใหม่หมด
แต่ก็จะไปตันที่ Windows 8 บน ARM อีกอยู่ดีมั้ง ?
อีกอย่างนึง ถ้าผมจำไม่ผิด ไอ้นกพิโรธนี่มันใช้ Box2D Physic Engine ใช่มั้ยครับ ? เค้าต้องพอร์ท Box2D ไป XNA อีกหรือเปล่าเนี่ย (คุ้น ๆ ว่า XNA ใช้งาน Native Code ไม่ได้)
เด๋ว Microsoft ก็มาจัดการให้มันคุ้มทุนได้
เอาเงินไปแล้วทำให้ WP ด้วย ฮาๆๆๆ
จะเอาเท่าไหร่ก็บอกพี่เค้าสิ ไม่เห็นต้องประชดแบบนี้เลย เอิ๊กๆๆๆ
โอ๋ Rovio ชังล้ำลึกนัก
เวอร์ชั่นแรก ยังเล่นไปไม่ถึงไหนเลย
รอมาจ้างทำใช่มั้ยล่ะ แต่แรงไป เค้าโกรธนะเนี่ย :P
ใน BADA ก็คงไม่มีโอกาส :(
เอ่อ WP ว่าแย่แล้ว BADA นี่อาการหนักกว่าแน่นอน
พูดให้ MS มาง้อรึเปล่าหว่า
MS เก็บค่าลง store แพงไปรึป่าว
ว้าวววว แรงสสสสส์ ^^
แต่เห็นด้วยครับ สั่งสอน MS ให้รู้สำนึกบ้าง
ผมล่ะไม่ชอบให้ทำแอพแบบ Silverlight เลย มันดูกั๊กๆ หน่วงๆ กราฟิกก็ดูจำกัด และพอร์ตจากแพลตฟอร์มโมบายอื่นๆ (iOS, Android) ได้ยาก แถมกั๊ก API ทำให้บน WP7 ไม่มี apps ดีๆ หลากหลายเหมือนคู่แข่งซักทีเลย ...จริงๆ เลิกเล่นตัวแล้วปล่อยให้ทำแอพแบบ native น่าจะดีกว่านี้มาก (เพราะจะได้พอร์ทมาจากฝั่ง Windows ได้สบายกว่านี้ เช่นเอานกโกรธที่เขียนสำหรับ Windows มาพอร์ตเอาเลย)
ที่น่าสนใจคือ XNA สำหรับพวกเกมทั้งหลาย (angry birds เวอร์ชั่นที่มีอยู่ตอนนี้ก็คงใช้ XNA) แต่มันก็คงต้องเขียนแอพขึ้นใหม่ทั้งหมดอย่างที่ว่า ซึ่งบริษัทที่เขียนเกมก็ต้องใจแข็งพอสมควรเพราะมันใช้ได้เฉพาะ Xbox, WP, Windows ..และจะว่าไป นกโกรธบน Windows ก็คงไม่ได้ทำด้วย XNA หรอกไม่งั้นเขาก็น่าจะพอร์ตมาให้ WP7 ใช้แล้ว (เห็น MS คุยว่าพอร์ตง่ายนี่นา)
ยิ่งตอนนี้ Silverlight กลายเป็นอดีตไปแล้ว ช่วยโละทิ้งซักทีเถอะครับ ไหนๆ จะรวมตัวกับ Windows 8 แล้ว เอา WinRT มาเลยดีกว่า หรือทำหนทางไหนก็ได้ที่จะให้ dev พอร์ตแอพจากแพลตฟอร์มอื่นมาง่ายๆ ครับ
ถามหน่อย XNA นี่มันต้องเขียนด้วย C# เท่านั้นใช่ป่าว
VB ก็ได้ครับ
บางอย่าง Expression Design ก็ช่วยอะไรผมไม่ได้มากเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่ต้องเขียนเอง
ที่จริง XAML ควรจะหายไปจากสารบบได้ละมั๊ง Learning Curve ชันโคตรๆ
ช่วยอธิบายเพิ่มเติมหน่อยครับว่าทำไม XAML ควรจะหายไป ทั้งๆที่มันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรเมื่อเทียบกับการเขียน UI ของ android
ต้องไปเขียน c/c++ หรือครับ ถึงจะมาชม ระบบมันเจ๋ง ?
(เกิดมาหน้าตาไม่เหมือนคนอื่น ก็ผิดด้วย)
แนะนำให้ไปอ่านจดหมายที่มีคนเขียนไปหา Rovio ในกลุ่ม https://www.facebook.com/groups/wpthaidev/ เขาบอกชัดเจนว่า "คนไม่พอ"
ถ้า Rovio ไม่มี Engine ที่แปลงโค้ดระหว่างแพลตฟอร์มได้ มันก็จะเกิดปัญหาอย่างนี้ซ้ำๆ ถามว่า Rovio ผิดไหม ก็ไม่ แต่ถามว่า MS ผิดไหม ขอตอบแบบกวนๆไปว่า "ใช่"
ปล. SL WP7 กับ SL RIA ยังต่างกันเลย (นี่มัน Fragmenttation ชัดๆ)
ถ้าคุณอ่านที่ผมคอมเมนต์มาตลอดหลายข่าว คุณจะรับรู้ได้ว่าผมชม Metro UI มาตลอดนะครับ
อะไรดี ผมก็ชม แต่อะไรที่ต้องติอย่างเรื่องนี้ ผมก็ติครับ และเป็นการติเพื่อก่อ ...ไม่อยากเห็น WP ล้มหายตายจากเพียงเพราะเรื่อง apps ไม่โดดเด่นเท่าคู่แข่งครับ
55 งั้นก็แน่นอนไม่มีใครรับผิดเข้าตัวเอง ยกขี้ให้คนอื่นเสมอ
ปล่อยให้มันเป็นอย่างที่มันเป็นมา
ครับ ผมก็ยังไม่เห้นระบบไหน ถูกใจทุกคนทั่วโลกได้
ตรงกับความจริงไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ และเอาดีๆทุกสิ่งทุกอย่าง
มารวมไว้ก้อไม่ได้ ครับ
ผมว่าไม่จำเป็นต้องออกมาประกาศอย่างนี้เลย
Educational Technician
คุณกันเขา เราก็แค่คนละสไตล์ จริตใครจริตมัน จะประกาศก็เรื่องของเขาสิทธิ์ๅของเขา จะไม่ชอบก็เรื่องของ..
เค้าถกประเด็นเฉยๆ ไม่เห็นต้องตึงใส่เลยครับ
ขอโทษแล้วกันครับ :)
Educational Technician
ดีนะผมไม่ค่อยเล่นเกม XD
เดี๋ยว Angry Birds เจอ Angry Bill!
my blog
บิลบอก "ผมไม่เล่น Angry Birds" 55555
เดี๋ยวสักพักจะมีข่าวออกว่า MS จ้าง Rovio เขียนนกยั๊วะ version พิเศษลงเฉพาะ Windows phone
ตึ๋ง โป๊ะ !!
WP น่าจะรู้สึกตัวได้แล้ว
That is the way things are.
Rovio พูดแบบนี้ มันเหมือนตบหน้า WP กลางสี่แยก !!
ป๊าาบบ!!!
ป๊าบๆๆๆ
ไม่เป็นไรครับ ไม่ค่อยได้เล่นเกมละ flash rom ที ยังหาวิธีนำแอปที่เคยโหลดมาแล้วกลับมายังไงเลย จำไม่ได้ว่าโหลดอะไรบ้างแล้ว เซ็งตรงนี้ละ เห็น iOS sync กลับมาได้ชอบมากเลย
andriod ก็ทำได้ครับ HD2 ผมลง ICS ก็ลงรอมใหม่หลายรอบเหมือนกัน
ทำได้นะครับ เป็น HomeBrew App ที่จะเข้าไปดูใน Live Account ของเราว่าโหลดอะไรมาบ้าง แล้วก็เลือกได้เลยว่าจะโหลดอะไรบ้างไหม
ส่วนตัวผมหลงใหลในความสวยงามนะครับ
มันได้อารมณ์เวลานั่ง SL 500
อารมณ์ของ Windows แบบ Metro ก็ประมาณนั้นเลย
แต่ส่วนตัวผมก็ชอบ iOS มากกว่านะครับ เพราะชอบ UI แบบ 3D และได้อารมณ์แบบภาพเสมือนจริง (ชอบมาตั้งแต่ Aqua ของ OSX) iCon ของ OS ของ Apple มันดูมีรสนิยมดีนะครับ และสามารถหา Apps และดูการแจ้งเตือนได้ง่ายและรวดเร็วดีครับ
Windows Metro ปรับเปลี่ยนเรื่อง iCon สักหน่อยคงจะดีกว่านี้ เพราะว่ามันจะทำให้หา apps ได้ง่ายขึ้นครับ เพราะสัญลักษณ์ของ iCon จะใช้สีขาว และมีสีพื้น iCon เป็นสีต่างๆ ซึ่งในแง่การใช้งานจริง ความแตกต่างของiCon ซึ่งมีจุดสังเกตุที่ไม่มากนัก มันจะทำให้เกิดความยากในการหา Apps ถ้าไม่พิมพ์ค้นหาเป็นชื่อ Apps ครับ
ถ้าพูดถึง iOS , Windows Metro รวมถึง android หลายๆ UI ในเครื่อระดับ Hi-End
มันก็อารมณ์ Lamborghini Aventador J , SL 500 , Volvo V40 นี่เอง
ที่ชอบที่สุดก็ Lamborghini Aventador J ซึ่งก็คู่ควรกับ iOS เท่านั้น อิอิ
อนาคตของ Windows Metro น่าจะไปได้สวยทีเดียว ในระยะยาว อย่างน้อยๆก็ไม่ตายไปจากตลาด และผู้พัฒนายังจะต้องมีความคิดใหม่ๆมากขึ้นเกี่ยวกับ Windows Metro ที่ใช้ WinRT
ข้อเสียอย่างเดียวของ iOS คือ หน้าตาเหมือนกันเกือบทุกเครื่องมั้ง (ยกเว้นจะ Jail) แค่เปลี่ยนภาพพื้นหลังหน้าจอกับเรียงไอคอน ดูเฉยๆแทบไม่มีความแตกต่าง พอคนใช้เยอะก็จะเริ่มเกิดความเบื่อตามมา Apple น่าจะหา UI ที่แตกต่าง เอาแบบ 3D ไปเลยก็ได้
ในขณะที่ Android หน้าตารุ่นแรกกับรุ่นล่าสุดที่ไม่เคยมีอะไรเหมือนกันเลย :S
เรื่องของ App ของ WP7 นี่ส่วนใหญ่จะใช้ความเคยชิน แล้วปักหมุดในหน้าหลัก เหมือนกับ iOS บางคนซื้อแอปมาเยอะๆ ก็หาไม่เจอก็มี แต่ iOS ได้เปรียบกว่าตรงที่สามารถจัดกลุ่มเป็นหมวดหมู่ได้
+1 WP7 ถ้าแอพเยอะมาก ๆ น่าจะหายากจริง (แยกตามตัวอักษรก็พอช่วยได้บ้าง แต่แตะหลายทีไปหน่อย ถึงของผมจะไม่เยอะมากก็เถอะ) เอาเข้าจริงถ้าหาโอกาสอยู่ในที่เงียบได้ผมสั่งด้วยเสียงเปิดโปรแกรมเอา ง่ายดีไม่ต้องควานหา XD
สิ่งที่ทำให้ เครื่องแต่ละเครื่องแตกต่างกันก็คือ Accessories นั่งเองครับ HA+ ซึ่งก็เป็นแฟชั่นไปเลยก็ว่าได้ครับ
ส่วน UI ณ เวลานี้ ทั้งของ OSX และ iOS มันจะออกแนวภาพเสมือนจริงและ ออกแนว 3D อยู่แล้วนะครับ ยิ่งเข้าไปใน Apps ต่างๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ออกแนว 3D ชัดเจนมากๆเลยนะครับ
ภาพ 2D ก็สวยไปอีกแบบเหมือน Animation ของฝั่ง ญี่ปุ่น ดูๆไปก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบสำหรับ Windows Metro
ชอบ iOS มากกว่านะ แต่ขอมี Windows Metro ด้วยแล้วกัน ชอบอ่ะ แนวดี
Accessories ของ WP นี่หายากเอาเรื่อง จะมีเยอะก็คงของที่ใช้ร่วมกับเจ้าอื่นได้ล่ะครับ "Phone Strap" XD
อนาคตก็สามารถมากกว่านี้นะครับ ถ้ามีผู้ผลิตออก Windows Phone มากขึ้นโดยใช้ การออกแบบแบบเดียวกับ android Phone และใช้ Accessories ร่วมกันกับ android Phone
+1 หน้าตาน่าเบื่อมากครับ ใช่ของเพื่อนมาหลายครั้ง ก็น่าเบื่อกับ UI ซ้ำ ๆ เดิม ๆ ที่ดูง่าย แต่น่าเบื่อมาก
ส่วน Windows Phone ดูน่าเบื่อน้อยกว่า iOS เพราะว่าเพราะว่าการที่ Windows Phone สามารถ Customize ได้ดีกว่า ในด้านการปรับแต่ง Live Tile ที่สามารถจัดวางได้ ดูมีความอิสระมากกว่า
สุดท้ายด้าน Apps ถึงแม้ว่าเกมบน Windows Phone มีน้อยกว่า แต่ผมก็ยังคงจะเลือก Windows Phone อยู่ดี เพราะผมไม่ได้เล่นเกมมากขนาดนั้น
Coder | Designer | Thinker | Blogger
บนย่อหน้าสุดท้าย ผมเกือบหลวมตัวเล่นเกมบนโทรศัพท์แบบจริงจังแล้ว จนกระทั่งเจอ Assassin Creed เข้าไป การควบคุมที่ยากเกินบรรยาย เลยหนีไปถอย PSP แทนแล้วพบความจริงว่า ไม่ว่าตลาดเกมมือถือจะยิ่งใหญ่ขนาดไหน เครื่องเล่มเกมพกพาคงไม่ตายหายไปเร็ว ๆ นี้แน่ ๆ ล่ะครับ
ถ้า Xperia Play มันจะกรุณาเล่นเกม PSP ได้นะ เหอะๆๆ
แล้วแต่ความชอบนะครับ
คนอื่นชอบ คุณไม่ชอบ
มันเจ็บอ่ะ แต่เอาจริงๆ นกโกรธนี่ใน WP ผมยังเล่นไม่จบเลย
โดนพูดอย่างงี้ สาวก WP คงเลิกพร่ำเพ้อเวลาแอพเจ๋งๆไม่ลง WP แล้วสินะ
ผมเริ่มจะเบื่ออ่านที่พวก MS กับโนเกียออกมาอวยว่า WP ดีงู้นงี้ โดยไม่เคยมองเลยว่าคนข้างนอกนี่เค้าเห็นเป็นยังไงแล้ว
ผมยังมองว่า OS ดีนะครับ แต่เรื่อง App เป็นตัวตัดสินครับ
ถ้า App ดังๆ เลือกปฏิบัติกับ WP7 เหมือน Apple หรือ MS ทำกับประเทศไทย โอกาสเกิดก็นานหน่อย
ความเจ็บปวดมันบาดลึกถึงหัวใจ
ปล. พับความคิดซื้อ HD7 ลดราคาเรียบร้อย
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
คืออ่านข้างบโพสนึกว่าหัวข้อข่าว android ios wp7 ต่างกันยังไ อะไรดีกว่า... คือแบบ พระเอกข่าวนี้คือ rovio angrybird นิหน่า
Angry Birds Space ไม่มีค่าพอที่ผมจะเล่น 55+ เอามั่ง
ข่าวนี้ Comments เยอะสะใจดี
นั่งอ่านคอมเม้นด้านลบจากคนเดิม ๆ ตามข่าวก่อนหน้านี้ที่เกี่ยวกับ wp, w8
จะว่าไปก็เพลินดีเหมือนกัน
เหอ ๆ
ภาคต่อไป ไม่น่าพลาด Angry Birds Sea
มีความเป็นไปได้สูงมากกกก
งอลลลลลล~ =3=
Windows Phone App Store =>> Windows Phone Marketplace ครับ ไม่ใช่ App Store
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ไม่นะ วินโดว์โฟน ถูกทิ้ง