HTC รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปี 2012 กำไรสุทธิลดลงถึง 70% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ยังคงลดลงต่อเนื่องจากไตรมาสที่แล้วมาอยู่ที่ 4.46 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน นับเป็นกำไรประจำไตรมาสที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2006 แต่ก็ไม่ผิดจากที่นักวิเคราะห์คาดกันไว้ เพราะช่วงไตรมาสแรกนี้ HTC ต้องการปรับปรุงการออกรุ่นมือถือโดยลดปริมาณแต่เพิ่มคุณภาพ ซึ่งย่อมส่งผลกับรายได้ในระยะสั้น ในส่วนของรายได้นั้นลดลง 35% อยู่ที่ 6.779 หมื่นล้านดอลลาร์ไต้หวัน
นักวิเคราะห์ประเมินว่าไตรมาสที่สอง HTC น่าจะเริ่มฟื้นตัวเพราะกระแสตอบรับสมาร์ทโฟนชุดใหม่ตระกูล One ในเดือนมีนาคมนั้นออกมาดี หากแต่ถ้า HTC ไม่สามารถตีตลาดกลับมาได้แล้ว ไตรมาสที่สามจะเป็นช่วงที่ยากลำบากมากกว่าเดิมอีก เพราะไตรมาสสามนั้นคาดว่าทั้งแอปเปิลและซัมซุงจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงตัวใหม่ออกมานั่นเอง
ที่มา: Reuters และ MarketWatch
Comments
ผมคิดว่า ข้อเสียเปรียบของผลิตภัณฑ์แอนดรอยด์คือ กูเกิ้ล และผู้ผลิตเอง ... เมื่อกูเกิ้ล update เปลี่ยนเวอร์ชั่น ผู้ผลิตอย่าง HTC หรือ ซัมซุง หรือใคร ๆ ก็ตาม ตามเปลี่ยนไม่ทัน(ใจ) หรือบางผลิตภัณฑ์ก็ไม่คิดจะเปลี่ยนเลยด้วยซ้ำ อันนี้ก็น่าเห็นใจ เพราะโปรแกรมเมอร์มีน้อย ไม่ได้มีเป็นกระตั๊กเหมือนแอปเปิ้ล... แล้วตามความเป็นจริง ซอฟท์แวร์ทุกตัว มีปัญหา iOS มีตั้งหลาย update ในแต่ละรุ่น จะบอกว่ากูเกิ้ลทำมาดีมาก ๆ ไม่มีบั็กเลย ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ (ยกเว้นว่า แอนดรอยด์ ไม่ทำอะไรเลย อย่างที่ด็อกเตอร์ท่านหนึ่งเคยพูดไว้ว่า ซอฟท์แวร์ที่ไม่มีบั็ก คือ ซอฟท์แวร์ที่ไม่ทำอะไรเลย) คนซื้ออย่างผมเลยค่อนข้างจะถอดใจ ยิ่งเรื่องของการคุมแอพไม่ให้มีปัญหานี่ ก็ยังเป็นปัญหา
พอจะซื้อ ๆ เลยต้องยั้งใจไว้ ว่าแล้วถ้ามันมีปัญหา เขาจะตามมาแก้ไขให้เร็วแค่ไหน เพราะตัวอย่างจากเครื่องที่แล้วที่ซื้อมา ... แล้วราคาเครื่องก็ใกล้ ๆ กันมาก ในสเปคใกล้เคียงกัน
แล้วเวลา กูเกิ้ล ประชาสัมพันธ์ออก อัพเดท อัพเกรด คนซื้ออย่างเราก็ได้แต่ตะแง้ว ๆ ว่าเมื่อไหร่เครื่องผมจะได้รับซะที ในขณะที่ iOS ไม่ต้องพูดถึงเลย ลูกค้าแจ้งบั๊ก ตรวจสอบข้อเท็จจริง แล้วออกอัพเดท ได้กันถ้วนหน้า สาวกน้องแอน เลยได้แต่ทำตาปริบ ๆ
ถ้าจะแก้กันเรื่องนี้ (ซึ่งคงยาก) คงต้องให้ราคาต่ำกว่า iPhone พอสมควร อย่างรุ่น One V คงพอจะไม่ต้องคิดมากเวลาจะควักกระเป๋า เพราะฮาร์ดแวร์ HTC ดีจริง
ผมกลุ้มใจที่กูเกิลมากกว่า แกพร้อมจัดเต็มโละของเก่าทิ้งเพื่อของใหม่ที่ดีกว่า (เปล่าครับ ผมไม่ได้พูดถึงฮาร์ดแวร์เก่า ผมพูดถึงลูกค้าเก่า lol) อย่างปีที่แล้วตัวท็อปๆ แรมเพิ่งจะ 512 ปีนี้จะลง ICS ควรจะ 1GB จัดเต็มจริงๆ ครับ ลูกค้าโดนโละบานเบอะบุรี ศรีกูเกิล
ผมว่าไม่ใด้ update กับไม่ใด้ main feature ใน update มันไม่แตกต่างกันนะ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ตอนนี้มือถือสูงของ Android เสปคดีกว่า apple เยอะครับ ทั้งหน้าจอใหญ่กว่า, amoled, Gorilla Glass, 4G ก็มาก่อน หรือ cpu อย่าง Htc one x (1.5 GHz quad-core Nvidia Tegra 3)
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
แก้ไขด้วยการซื้อตระกูล Nexus
oxygen2.me, panithi's blog
Device: HP Zbook, iPad Pro, iPhone 15PM, iPhone 16+, Nothing Phone 1
นั้นละครับ สาเหตุที่ HTC กำไรตก
ถ้าผมเดาไม่ผิด ดูเหมือนตระกูล nexus จะพยายามเดินสายกลาง
ทำสเปคกลางๆ กล้องกลางๆ cpuกลางๆ เพื่อให้มีข้อดีเพียงอย่างเดียวในเรื่องการอัพเดท rom เร็ว
เพื่อให้ไปถึงจุดที่ software มีความต่างกันน้อยลงจน user ธรรมดาทั่วไปแทบไม่รู้สึก
(เหมือนอย่าง 2.3 เทียบ 4.0 ถ้าไม่ใช่ geek นี่แทบไม่มีใครสนใจหรอกครับ แต่ตอน 2.2 เทียบ 2.3 นี่ต่างกันเยอะจริง.....)
เพื่อให้เจ้าอื่นไปสร้างจุดขาย รายละเอียดปลีกย่อยชูจุดเด่นของตัวเองได้
พิมพ์สลับระหว่าง 2.2 > 2.3 กับ 2.3 > 4.0 รึเปล่าครับ :P
ผมลองให้คนจับ ICS ดูพบว่าทั่วไปอยากได้มากกว่า Gingerbread นะครับ (ส่วนฟีดแบคก็คละๆ กันไป)
ผมว่าต่างกันเยอะน่ะครับ 2.2 กับ 2.3 เนี่ยแทบไม่ต่างกันเลย
แต่ 2.3 กับ ICS เนี่ยแทบจะยกระบบใหม่ทั้งหมดเลย
ผมหมายถึงระบบข้างในแหละครับ
เหมือนอย่างที่ NOTE หรือ XPERIA ยังใช้ 2.3 อยู่น่ะครับ
ผมคิดว่าที่คุณบอกมาว่า ICS ต่างมาก น่าจะหมายถึงการเปลี่ยน UI มากกว่า
ซึ่งถ้าเราใช้ launcher ตัวเดียวกัน แบบที่ยี่ห้อต่างๆมักจะทำขึ้นมาเอง user ทั่วไปคงแยกไม่ออกน่ะครับ
fragmentation เป็นปัญหาที่แก้ยากครับ ถึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม Microsoft ถึงพยายามดันโครงการ Tango ที่รัน window phone ได้ในสเป็คต่ำๆ ram แค่ 256 ก็เพียงพอ มันเป็นวิธีเดียวที่จะแก้ปัญหาพวกนี้ได้ดีที่สุด แต่พอเค้าทำ บางคนก้ไปด่าเค้า ช้าบ้าง ไม่ทันโลกบ้าง อืดอาด ยืดยาด รอก่อนเถอะ อิอิ โนเกียจับต้นชนปลายตั้งศูนย์ได้อีกครั้งเมื่อไหร่ มีกลับมาได้เหมือนกัน Fragmentation ถ้าไม่แก้กันที่ตัว Os แล้วมาแก้กันที่ฮาร์ดแวร์ ก็จะเหมือนซัมซุง Htc ตอนนี้ที่ได้แต่เพียงแค่อัพสเป็คให้โหดขึ้นเพื่อรองรับกับ Android ที่กินสเป็คมากขึ้นในทุกๆเวอร์ชัน
ปัญหาแบบนี้น่าจะเบากว่า wp 7 ที่ขนาด MS จ่ายเงินให้ทำ app แล้วแต่ก็มีเพียง 70,000 app
... เทียบกับ 400,000 app บน Android และ 600,000 app บน iOS
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ทำอะไรก็ทำไมสุด สเปกก็กั๊กๆ แถมขายซะแพง
(ผ่านไปสามเดือนก็ทะลึ่งลดราคาซะคนซื้อไปแล้วใจหาย)
มันจะไม่เสียตลาดให้ SS กับ SE ได้ไง
One X ไม่ค่อยกั๊กนะ Spec ก็ดีสุดที่มีออกมาขายแล้ว (ไม่นับพวก A15 หรือ Qualcomm S4 ที่ยังไม่ออก) แต่กั๊กหูฟัง Beat แทน :(
SE ไม่กั๊ก? SSมันไม่กั๊กแค่รุ่นTopเท่านั้นแหละ
SS รุ่นท๊อปไม่กั๊ก แต่ htc se moto รุ่นท๊อปมันยังกั๊ก จะไม่ให้กำไรหดได้ไง ผู้ซื้อเริ่มคิดได้แล้ว อะไรดีกับตัวเอง
ก็สมควรอยู่ครับปีที่แล้วออกมาแป้กทุกตัวไม่เว้นแม้แต่ Flagship
แต่ปีนี้คงกลับมาแน่ ว่าแล้วก็อยากสอย One X จริงๆ