หลังจากอีกดีลประวัติศาสตร์ Facebook ซื้อ Instagram ที่มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์เกิดขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับ Instagram ที่มีอายุแค่ 2 ปี แต่สามารถขายกิจการได้มูลค่าสูงมากขนาดนี้ ก็เช่นเคยว่าในอีกด้านหนึ่ง กลุ่มผู้ใช้ Instagram บางส่วนได้ออกมาแสดงความไม่พอใจอีกครั้ง จากรอบที่แล้วเป็นประเด็น Instagram บน Android คราวนี้พวกเขาก็ไม่พอใจว่า Facebook จะเข้ามาทำลายความเป็นเครือข่ายสังคมพิเศษของ Instagram ไป
เว็บหลายแห่งได้รวบรวมการแสดงความคิดเห็นผ่าน Twitter ของเหล่าผู้ใช้ Instagram ในประเด็นดังกล่าวไว้ดังนี้
* @goffgough - I QUIT, รอบที่แล้วก็ Android คราวนี้ก็ Facebook
* @AmirKassaei - วันนี้จบสิ้นกันแล้วสำหรับ Instagram
* @InsaneLoraine - ฆ่ากันเลยดีกว่าถ้าให้คนที่ไม่มี iPhone/Android เล่น Instagram ผ่าน Facebook
* @dohnjurso - Facebook มีปัญหาเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ขณะที่ Instagram ไม่มี ตอนนี้ Facebook กำลังทำลายมัน
* @commagere - ผมอาจเล่น Instagram แล้วเพราะพวกฮิปสเตอร์จะเลิกเล่นกันแล้ว
* @benjaminjackson - อย่างน้อยเราก็จะได้เห็นคุณแม่มาเล่น Instagram แล้ว
* @LaughingStoic - เห็นมาหลายครั้งแล้วที่บอกจะเลิกเล่น Facebook คราวนี้ก็บอกจะเลิกเล่น Instagram
ถ้าแค่ตอบโต้ด้วยการทวีตผ่าน Twitter ก็อาจไม่สมกับเป็นคนแห่งชุมชน Instagram โดยผู้ใช้บางส่วนตอบโต้ประเด็นดังกล่าวผ่านภาพแนวๆ แบบนี้ครับ
อย่างไรก็ตามถ้าอ้างที่ Mark Zuckerberg อธิบายไว้นั้นทีมของ Instagram จะยังมีอิสระในการทำงานเหมือนเดิม แต่เพิ่มโอกาสให้เข้าถึงฐานข้อมูลผู้ใช้งาน Facebook ได้มากขึ้น ฉะนั้นเราคงไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงใดๆ อย่างมีนัยยะสำคัญบน Instagram ตอนนี้
ที่มา: CNET, WSJ, Washington Post และ Los Angeles Times
Comments
นึำกว่าคนไทย - -
เด่วก็คงมีคนสร้างกระแสมาอีก
もういい
เมืองนอกเกรียนก็เยอะครับ ไม่ใช่เมืองไทยอย่างเดียว
ความเป็นส่วนตัวมันเสียตั้งแต่ตอนที่คุณสมัครเล่น social network แล้วครับ ข้ออ้างแถๆ แบบนั้นมันอ้างไม่ขึ้น พวกชอบความเป็นส่วนตัวมันต้องเพื่อนผม ไม่เล่น fb หรืออะไรทั้งนั้น (ยกเว้น email เพราะมันต้องใช้ทำงาน) มันบอกว่าไม่ต้องการให้คนอื่นมารู้เรื่องของมันมากนัก msn มันยังไม่เล่นเลย
ภูมิต้านทานโลกมนุษย์ต่ำกันจริง มันเป็นโลกของธุรกิจ ไม่งั้นพวกเอ็งก็เสนอราคาที่สูงกว่าเสี่ยมาร์กซะสิ..
+1 พวกสาวก iOS
Coder | Designer | Thinker | Blogger
เพิ่งรู้จักคำว่า hipster วันนี้เองนะเนี่ย มันคล้ายๆอารมรณ์ สลิ่ม+อินดี้ บ้านเรารึเปล่าเอ่ย
Hipster ประมาณพวก อินดี้ ครับ
ความเห็นส่วนตัว "งี่เง่าว่ะ"
+1
เนอะ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
แต่คนที่ยกประเด็นความเป็นส่วนตัวขึ้นมานี่แอบเห็นด้วยนะ
สรุปว่าประเด็นที่เคยเกิดขึ้น.. เป็นเพราะกลุ่มคนที่เล่น Instagram แต่แรกสินะ
พูดเหมือนจ่ายตังเพื่อเล่น Instagram , Facebook กันเลยเนาะ ♥
เล่นฟรีจะเอาอะไรมาก ถ้าจะเอามากๆ ก็ไม่ต้องเล่นซิ ♥
เห็นด้วยสุดๆครับ
ไม่รู้จะออกมาโวยวายเรียกร้องความสนใจไปเพื่อ....?
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
ฮิปสเตอร์ ไอโฟน :P
ใครมีปัญหาก็เลิกเล่น Facebook instargram ไปเลยครับ เค้าไม่ได้เอาช้างมาฉุดไว้ให้เล่นสักหน่อย 555
อาจจะแอบเล่นก็ได้ที่ว่าเลิกอ่ะ
ขอถามอะไรหน่อยครับ ผมไม่เข้า Business model ของ Instagram ว่ามันหากำไรอย่างไง
แล้ว งงมากกว่า facebook ซื้อไป ได้ผลดีอะไร ซื้อ ของที่ไม่ทำเงินแต่มีคนใช้เยอะ ?? ไม่เข้าใจทาง ธุรกิจ
เค้าประเมินค่าอย่างไร กับมูล 30000 ล้าน
แล้วที่ผ่าน Instagram ทำกำไรปีละเท่าไหร ถึงมี มูลค่าถึง 30000
ในมุมนักลงทุน โครต งง ????
อันนี้ที่ Kevin Systrom ตอบไว้เมื่อไม่นานมานี้เองครับ
http://techcrunch.com/2012/03/21/kevin-systrom-fm-signal/
ผมเห็น startup หลายตัว เริ่มจาก model ที่ไม่ทำเงิน ถ้าดังแล้วค่อยมาหาทางทำเงิน ตอนที่ instagram ได้รับเงินลงทุนจาก venture capital ครั้งแรก ตอนนั้นยังไม่มีทางทำเงินเลย แต่มีฐานผู้ใช้เยอะ มีคนถามว่าจะหาเงินยังไง instagram ตอบว่ายังไม่ได้คิด เพราะตอนนี้ยังไม่ต้องหา ได้ vc แล้ว
โอกาส miss ของ startup มันสูงมาก ตอนเริ่มส่วนใหญ่จะเริ่มจากอะไรที่สำคัญต่อการอยู่รอดจริงๆก่อนครับ (ใบ้ให้ว่าไม่ใช่เงิน) อิอิ
twitter.com/djnoly
เฉลยเลยได้ไหมครับ เพราะผมคิดออกอยู่อย่างเดียวคือเงิน 555
น่าจะเป็น key feature ครับ
ถ้าหาทางไปในมุมที่ยังไม่มีใครทำได้
(อันนี้ต้องมองลึกๆกันเลย ถ้ามองหยาบๆแค่ว่า Photo sharing, Location based service จะเห็นว่ามันเหมือนกันหมด แต่ใน app แต่ละตัวรายละเอียดมันมีจุดต่างกันเยอะ)
ถ้ามีอะไรที่คนอื่นไม่มี จะดึงคนมาเล่นได้ เพราะคนเล่นจะไม่รู้สึกซ้ำกับของที่มีอยู่แล้ว
ตัวอย่างตรงนี้คือ Foursquare กับ Facebook Place ที่แทบจะเหมือนกันหมดเลย สังเกตว่าหลังๆคนเริ่มเช็คอินผ่าน 4sq น้อยลง
ถ้าเป็นรายเล็ก,มือปืน ตอนแรกจะอยู่ด้วย Venture Capital แล้วก็ถือสายป่านไปเรื่อยๆ แล้วจากนั้นรอรายใหญ่กว่ามาซื้อ
ตัวอย่างที่ชัดเจนก็คือ Instagram นี่แหละครับ
มองใน scale ของ instagram อาจจะดูว่ามันยาก
แต่ app เล็กๆที่มูลค่าซื้อขายระดับแสน USD ก็นับว่ามีอยู่เยอะเหมือนกัน
@benjaminjackson - อย่างน้อยเราก็จะได้เห็นคุณแม่มาเล่น Instagram แล้ว ---- แม่ผมเล่น instagram ก่อนจะโดนซื้อนะ ถึงตอนแรกจะงงๆ อยู่บ้าง ปล คุณแม่ผมอายุ 60ปี เล่น FB ด้วยการแนะนำเพียงนิดหน่อยจากผม แล้วก็ เล่นเองมาตลอด ไม่เคยพลาดที่จะแชร์รูปหลาน แล้วก็ Check-in เวลาไปเที่ยว แล้วจะมีลูกศินย์เข้ามาเม้นท์กันอิๆ (แม่ผมเคยรับราชการครูครับ) ;)
ใครจะไปสนลูกค้าส่วนน้อยกันเล่าครับ
อตก ใช้ฟรี แต่คนสร้างไม่ได้อะไรเลย แถมเสียเงินเช่า server อีก พวก iOS ทั้งหลายใช้แต่ของเขา แล้วเคยให้เงินเขาไปบ้างไหม
สุดท้ายผมก็อยากให้ความเห็นว่า เรื่องของ คุณ (แปลหยาบๆ หน่อย)
+1 เห็นด้วยค่ะ ใช้ก็ใช้ฟรี โวยยังกะมีหุ้นใน Facebook ปานนั้น 555
อย่าไปเรียกพวก iOS เลยครับ แค่คนบางส่วนเท่านั้นเอง คนพวกนี้เห็นได้ในหลายๆ สังคม ไม่รู้จะพยายามทำให้เกิดดราม่ากันทำไม
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ไม่ค่อยเหยียดกันเลย ถ้าให้คนพวกนี้เลิกเล่นไปเลยดูสิมันจะทำได้ไหมเเล้วมันจะไปเล่นอะไร
ยังไม่เคยเล่นเลย ...
ก็แค่ Instagram ชีวิตก็ไม่ได้ดีขึ้นไปจากเดิม เหนื่อยแทนจิงๆ
อย่ามาทำให้คนใช้ iphone คนอื่นดูแย่ไปด้วยดิ - -a
ใครจะสน
คนใช้บางคนแม่งงี่เง่าโดยแท้
บทสรุป พวกคุณได้อะไรจากสิ่งที่กำลังเถียง ชีวิตก็ไม่ได้ขึ้นไปจากเดิม
ช่วงนี้เลิกเยอะเนอะ- -คราวที่แล้วเลิกเฟสบุ๊ค คราวนี้เลิกอินสตาแกรม จะเล่นอะไรต่อดีล่ะ?55
เรื่องนี้ถึงครูอังคณา แน่!
ใครคือครูอังคณาอะ:S
เรื่องของเด็กหัวเกรียน
ไอ้บอลก็ทำเกินไป เรื่องกระโหลกกะลาแค่นี้
ไล่พวกเราออกจาก 1/9 ทำไม
...
ระวังโดนไอบอลไล่ออกจากกลุ่มนะครับ 555
สลิ่มอตก.
จะได้รู้ไงว่าคนบน Facebook เค้ากินอะไรกันนะ
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
เค้าก็กินผักที่เค้านั่งปลูกกันไงฮะ5555
#ชาวเฟซบุ๊คเขากินอะไรกัน
ผมว่าชาวเฟสบุ้ค เค้าแชร์ภาพมื้อเย็นกันมาก่อนที่ที่ชาวอตก.จะเริ่มแชร์ซะอีกนะ -.-'
(จริงๆต้องบอกว่าก่อน อตก.จะเกิดด้วย)
ตกลงพวกท่านไม่ได้ใช้เพื่อแชร์ภาพถ่ายเล่นๆ หรอกเหรอ?!? มันกลายเป็นอุปกรณ์ทางแนวความคิด หรือการแบ่งชนชั้นทางสังคม ตั้งแต่เมื่อไหรเนี้ย -"-
ผมคิดว่า apple ทำการตลาดโดยทำให้สินค้าของตัวเองดูดีมีระดับ ด้วยการออกแบบทั้งตัวเครื่องให้มีความทันสมัย บวกกับการออกแบบ ios รวมทั้งราคาที่อาจไม่ได้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง และอื่นๆ ด้วยองค์ประกอบเหล่านี้ทำให้ผู้บริโภคที่ใช้สินค้าของ apple จึงมีความรู้สึกว่าตนเองเป็นคนที่มีรสนิยม ทันสมัย มีความสามารถในการใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าที่มีคุณภาพ เพราะโดยส่วนมากผู้คนโดยทั่วไปจะมีความคิดว่าสินค้าที่มีราคาแพงมักจะเป็นสินค้าที่ดี มีคุณภาพ ด้วยปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้จึงเป็นบ่อเกิดของการแบ่งชนชั้นขึ้น
ผมนึกว่ากระทู้นี้เกี่ยวกับ FB & Insta
ไหลไป Apple ได้งัย?? -,..,-
Instagram ตอนแรกมีแค่ใน ios ซึ่งก็คือ iPhone ผลิตโดย Apple ทำให้ Instagram เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของผู้ที่ใช้ iPhone ซึ่งวิธีการทำการตลาดของ Apple เป็นผลทำให้เกิดเรื่องชนชั้นขึ้น ทำให้ผู้ใช้ Instagram ไม่พอใจเมื่อ facebook เข้าซื้อไงครับ ซึ่งเรื่องทั้งหมดมันต้องคิดเป็นแบบองค์รวมเรื่องทุกเรื่องมันเกี่ยวข้องโยงใยกันหมด
นานมากแล้วครับ เพียงแต่มันค่อยๆเพิ่มขึ้น คนเลยค่อยๆมองเห็น
คือ เหมือนวิตกจริตยังไงไม่รู้ -.-
ไร้สาระจริงๆ คนพวกนี้ -*-
อิอิ โถ่ พวกแมงเม่า วันๆเก่งแต่บริโภค ไม่คิดทำไร
แบบเขาได้ พอเขาปรับเปลี่ยนอะไรไปทางธุรกิจ
ยังมาทำหัวอาร์ต อนุรักษ์แนวทางเดิม น่าขำ
-> นี่ยังไม่รวมพวกเอาแต่นั่งชิลๆ ตามที่ดังๆ ฮืตๆ เล่น gadget
ของตัวเอง ผมเชื่อว่าลองไปถาม งานการทำเสร็จยัง ก็ตอบว่าไม่สนใจ
มีสักกี่คนที่สำเร็จในโลก ใช้เงินทำงาน มีธุรกิจ มั่นคงของตัวเอง เออแบบนั้น
ไม่ต้องเข้างาน นั่งเช็คกับเทบเลต ดูหุ้น ดูยอดเข้า ของกิจการตัวเอง
แต่พวกไม่มี ซึ่งคนส่วนใหญ่มาก มันไปนั่งทำไรหนักหนา งานไม่เดิน บริษัท
เขาไม่เอาไว้ ออกไปเลย ได้เอาเวลาไปนั่งชิลๆ ยาวแน่
->ยุคนี้ ตั้งแต่ เรื่องฮิตพวก gadget กระแสจาก post pc เอามาทำอะไร
ให้คนขี้เกียจขึ้น ให้คนลืมหน้าที่ตัวเองขึ้นหรือ ตอนแรกจะเล่นระหว่าง
รอหรือเดินทาง เล่นฆ่าเวลา แต่เด๋วนี้เสพติด จะมัวเล่น จะฆ่าตัวเองแล้วนั่น
มาแนว อำมาตย์ (อำนวจเก่า) ไม่พอใจกับการเปลี่ยนแปลง
อีกไม่นาน BB โดนซื้อ ก็จะมีอีกดราม่าของ คนใช้ BB อิอิ
ราชาแห่งมาร
เค้าจะซื้ออะไรอะ บีบีไม่ได้เป็นแอพ:-o
บอกได้คำเดียว ปยอ. แนวความคิดนี้แต่แรกเป็นเพราะสินค้า Apple นับว่า Apple สร้างความแตกแยกในสังคมอย่างแท้จริง ^^
เชื่อแอปเปิ้ล ก็แย่ละครับ แนวทางเขาไม่สนใจโลกความจริงนัก เหมือนเคยอ่าน แอปเปิ้ลไม่
สนใจงาน ออฟฟิต จาก blognone นี่แหละครับ ถ้าเป็นจริง เราจะทำไง แนวความคิดศิลปะ
อย่างเดียวไม่พอหรอกสำหรับ คอมพ์ทั้งหมด เอาเป็นตัวนำ แล้วตัดทิ้งด้านอื่นหมด
อย่างเพิ่งไปพูดเรื่อง gadget ที่ฮิตตอนนี้ ตั้งแต่อดีต นานมาแอปเปิ้ลก็ไม่มีโปรแกรมประยุกต์ที่
ให้ผู้ใช้ เท่ากับวินโดว์ส ที่มีมากมาย (คงไม่ต้องนับ) การบ้านตั้งแต่สตีฟ จ๊อป ออกไปครั้งก่อน
ผมก็ว่ายังไม่แก้ หากแอปเปิ้ลอยากเป็นผู้นำ ต้องทำให้เท่า M$ อย่างที่เขาปวดหัวทั้งผุ้พัฒนา
โปรแกรม ไหนอีก เจ้าผลิต hardware ไม่ใช่ไม่มีทาง แต่จะตั้งใจทำจริงหรือ
(เอาแค่เครื่องแมค ทุกอย่าง mac pc,mc book รวมกันได้ 45% ทั่วโลก แล้วทำซอฟแวร์ทุกอย่าง
ให้เทียบเท่า ที่ วินโดว์ส แค่นี้ก็รากเลือดแล้ว)
อย่าเชื่อที่อ่านๆ ในนี้มากนักครับ อ่านแล้วพิจารณาประกอบกับการใช้งานด้วยตนเองปัญญาจึงจะเกิด
ดูเอาแค่บางความเห็นในกระทู้นี้ก็น่าจะพอรู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร
+1 เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ อ่านที่นี่อย่างเดียว อาจจะทำให้คุณพลาดอะไรบางอย่างไป
ไปลงด๋อยผมไม่ชอบ แต่ลงเฟสผมเอา (ลำเอียงเห็นๆ)
จะว่าไปมีเพื่อนเยอะไม่ดีเหรอคับ
ใครแคร์ ? แค่พวก ปญอ เลิกไปไม่กี่คน ไม่อย่างพูดมาก เบื่อพวก iphone 0% จริงๆ
อยู่ในความสุภาพด้วยครับ
ความคิดเห็นขยะๆแบบนี้ไม่น่ามีนะ เขาจะใช้อะไรก็เรื่องของเขาสิครับ
แหมเห็นหลายความเห็น กระทบคราดไปซะงั้น โทษไปถึงแอปเปิ้ลอีกซึ่งอยู่นอกเหนือจากประเด็นนี้ไปแล้ว แล้วไอ้ปื๊ดที่ใช้วินโดวส์เวอร์ชั่นพันธุ์ทิพย์เปิดโปรแกรมส่องสาวเล่นนี่จะโทษใครดีล่ะ จริงๆ ผมว่าปัญหามันก็เป็นเรื่องปัจเจก แต่ละคนมีอิสระทางความคิดที่จะเลือกคิดเลือกทำ ถ้าโฟกัสถึงเรื่องสินค้านี่ เค้าก็ไม่ได้บังคับว่าคุณต้องซื้อคุณต้องใช้ชีวิตแบบนั้นแบบนี้สักหน่อย มันอยู่ที่คุณเลือกเองและคุณอยากจะมองมันด้วยมุมที่คุณอยากมอง ก็แค่นั้น
เขาโลกแคบกันจังเลย
ต้มมาม่ารอ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
อีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลง ในโลกที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง
อ่านมาคือความจริง คนทำเว็บก็ต้องมี server พวก iOS เคยโดเนทให้ Instragram หรือปล่าวหรอก
--a
เหมือนคนที่โวยวาย จะแค่ต้องการ ความเป็น unique เฉพาะตัว
แบบว่า แบ่งชนชั้นกลายๆ... อยากได้อะไรที่มัน exclusive เอาไว้โชว์ตัวเอง
พอของมันเริ่ม mass ก็จะไม่พอใจ...
อธิบายไม่ค่อยถูก แต่รู้สึกแบบนี้แฮะ