แอปเปิลรายงานผลประกอบการไตรมาสที่สองประจำปีการเงิน 2012 ของปฏิทินบริษัท มีรายได้สุทธิ 3.92 หมื่นล้านดอลลาร์ และคิดเป็นกำไรสุทธิ 1.16 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยรายได้นั้นเพิ่มขึ้น 59% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน แต่กำไรสุทธินั้นเพิ่มขึ้นถึง 94% เลย โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 47.4% ซึ่งก็เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ และตลาดต่างประเทศคิดเป็น 64% ของรายได้รวมทั้งหมด

ในส่วนของยอดขายรายผลิตภัณฑ์นั้น iPhone ขายได้ 35.1 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 88%, iPad 11.8 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 151%, Macs 4 ล้านเครื่อง โต 7% ส่วน iPod ขายได้ 7.7 ล้านเครื่อง ลดลง 15%

ซีอีโอทิม คุกกล่าวแถลงว่า "เรารู้สึกตื่นเต้นกับยอดขาย iPhone กว่า 35 ล้านเครื่องและ iPad เกือบ 12 ล้านในไตรมาสนี้ โดย iPad รุ่นใหม่เป็นการเริ่มต้นที่ดีของปีนี้ และตลอดปีนี้คุณจะได้เห็นนวัตกรรมใหม่อีกมากที่มีแต่แอปเปิลเท่านั้นที่ให้คุณได้"

สำหรับเนื้อหาและประเด็นต่างๆ เพิ่มเติมในช่วงการแถลงผลประกอบการและตอบคำถามกับนักลงทุนโดยซีอีโอ ทิม คุก และซีเอฟโอ Peter Oppenheimer เช่นเคยก็มีดังนี้ครับ

* เงินสดขณะนี้ 1.102 แสนล้านดอลลาร์แล้ว เพิ่มขึ้นมาอีก 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์
* ยอดขาย iPhone, iPad และ Mac ถือเป็นสถิติใหม่ประจำไตรมาสสิ้นสุดเดือนมีนาคมของแอปเปิล
* Mountain Lion ยังมีกำหนดเปิดตัวในกลางปีเหมือนเดิม
* iPod ยังเป็นเครื่องเล่น mp3 ที่ขายดีที่สุดในตลาด โดยมีเพลงใน iTunes Store 28 ล้านเพลงแล้ว
* รายได้จาก iTunes ไตรมาสนี้ 1.9 พันล้านดอลลาร์ เติบโตกว่า 30%
* ยอดขาย iPhone ทั้งในตลาดเอเชียแปซิฟิคและในประเทศญี่ปุ่นเติบโตมากกว่าสองเท่าตัว ส่วนจีนเติบโตถึงห้าเท่าตัว
* 95% ของบริษัทใน Fortune 500 และ 75% ใน Global 500 เริ่มทดลองใช้ iPhone, iPad ในองค์กรแล้ว
* อุปกรณ์ iOS ขายไป 50 ล้านเครื่องในไตรมาสนี้
* App Store มีแอพกว่า 600,000 แอพแล้ว โดย 200,000 แอพเป็นแอพสำหรับ iPad
* ตัวเลขผู้เปิดใช้งาน iCloud มีมากกว่า 125 ล้านคน
* Oppenheimer ปฏิเสธที่จะให้ตัวเลขผู้ใช้ iCloud แบบเสียเงินเพิ่มพื้นที่ บอกเพียงว่าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
* ยอดขายเฉลี่ยของ Apple Store หนึ่งสาขาคือ 12.2 ล้านดอลลาร์
* iPad รุ่นใหม่ยังมีปัญหาผลิตไม่ทันขาย ส่วน iPhone ไม่มีปัญหาแล้ว
* ปัญหา iPad ไม่เพียงพอน่าจะแก้ไขได้ในไตรมาสปัจจุบัน
* ยังไม่มีแผนลดราคาทั้ง iPad 2 และ iPad รุ่นใหม่ลงเพราะว่าที่ราคานี้มันก็ยังขายดีเท่าที่แอปเปิลจะผลิตได้
* iPad 2 ที่ลดราคาลงมาได้รับความสนใจมากในกลุ่มภาคการศึกษา ที่เน้นปัจจัยราคาถูกเป็นหลัก
* คุกให้ความเห็นเกี่ยวกับการสร้างผลิตภัณฑ์ให้ใช้งานได้ทั้งบนพีซีและแท็บเล็ต (Windows 8 นั่นเอง) ว่า การรวมผลิตภัณฑ์นั้นสามารถทำได้ แต่สำหรับเขามันเป็นเรื่องที่ต้องเลือกเอาสักทางเพราะมันดีกว่าสำหรับผู้ใช้งาน เปรียบเหมือนคุณพยายามทำที่ปิ้งขนมปังและตู้เย็นในเครื่องเดียวกันคือทำได้ แต่ไม่มีใครเอา
* คุกเสริมประเด็นนี้ว่ายอดขาย iPad เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงการเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่สินค้าอย่าง MacBook Air ที่ทำได้ดีในกลุ่มโน้ตบุ๊กขนาดบางนั้นเหมาะกับความต้องการของผู้ใช้งานที่แตกต่างออกไป ซึ่งจะไม่มีการเอามารวมกันเพราะนั่นไม่ใช่สิ่งที่ผู้ใช้งานต้องการแน่แม้บางคนจะกำลังทำอยู่เพื่อปกป้องพื้นที่ของตนเองก็ตาม
* ตลาดประเทศจีนนั้นประชาชนที่ยกระดับมาสู่กลุ่มผู้มีรายได้สูงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ถ้าบริษัทใดเข้าใจตรงนี้ก็ถือเป็นโอกาสและแอปเปิลก็พยายามเข้าใจตรงนั้น
* มีคำถามว่าปัญหาหนี้สาธารณะสเปนกระทบหรือไม่ คุกบอกว่ายอดขายในสเปนมีการเติบโตต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั้งโลกอยู่แล้ว
* คุกพูดถึงคดีฟ้องร้องกับซัมซุงล่าสุดว่า เขาเกลียดการฟ้องร้องและก็ยังคงเกลียดอยู่ แต่แอปเปิลต้องการให้ทุกคนคิดค้นอะไรออกมาเอง ซึ่งถ้ามีการละเมิดกันก็ต้องมีคดีความกันบ้าง ประเด็นสำคัญที่เขาต้องการบอกคือแอปเปิลไม่ได้ต้องการทำตัวเป็นนักพัฒนาของโลก แต่ต้องการให้ทุกคนคิดค้นอะไรออกมาเอง
* ประเด็นชิ้นส่วน: NAND อุปทานยังล้นตลาดทำให้มีราคาถูก, ฮาร์ดดิสก์เริ่มสมดุลระหว่างอุปสงค์อุปทาน แต่ราคายังสูงเหมือนช่วงน้ำท่วม

ที่มา: แอปเปิล, The Verge และ Barron's