สำหรับในปี 2012 นี้ดูจะเป็นปีที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ของ HTC นะครับ จากหลายๆ ข่าว ไม่ว่าจะเป็น HTC ไตรมาสแรกของปี มีกำไรต่ำที่สุดในรอบ 6 ปี หรือจะเป็น ทราฟฟิกจากมือถือ HTC มีส่วนแบ่งตลาดลดลง
ทางด้าน HTC ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ กล่าวว่า จะออกมือถือน้อยรุ่นลง แต่เน้นคุณภาพมากขึ้น ซึ่งผลลัพธ์สำหรับไลน์อัพมือถือในปีนี้ก็คือ ซีรีย์ HTC One ซึ่งมากันทั้งหมด 3 รุ่น คือ One S, One V, และ One X ครับ และสำหรับตัวที่จะมามินิรีวิวในวันนี้ก็คือ One X ตัวทอปสุดของซีรีย์ One นี้ครับ ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า One X จะช่วยให้ HTC กลับมาครองตลาดได้หรือเปล่า
เมื่อเปรียบเทียบกับ Sensation จากปีที่แล้ว ผมว่า One X มีเส้นสายที่เรียบขึ้นครับ เน้นจุดเด่นไปที่หน้าจอขนาดใหญ่มากกว่าส่วนอื่น ขนาดช่องลำโพงสนทนายังเจาะซะเล็กแทบมองไม่เห็น และแม้ว่าตัวเครื่องจะเพรียวบางเพียง 8.9 มม. แต่ด้วยความโค้งนิดๆ คล้าย Galaxy Nexus ทำให้จับตัวเครื่องได้ถนัดมือครับ ตัวเครื่องที่รีวิวเป็นสีดำด้าน ดูกลมกลืนกับหน้าจอทั้งเวลาเปิดและปิดเครื่อง วัสดุตัวเครื่องเป็น Polycarbonate แบบด้านเช่นเดียวกับใน Nokia N9 ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้จับเครื่องถนัดขึ้นครับ และน่าจะช่วยในเรื่องของน้ำหนักด้วย ผมรู้สึกว่าจะเบากว่า iPhone 4S เยอะ ในเว็บ HTC ระบุไว้ที่ 130 กรัม ครับ อีกอย่างเห็นในเว็บต่างประเทศบอกว่าทนมาก แต่ผมขอไม่ลองขูดหรือปานะ เสียดาย :P แต่เท่าที่ลองใช้มา ไม่ใส่เคสหนึ่งอาทิตย์ก็ไม่มีรอยแต่อย่างใด
เปรียบเทียบขนาดกับ iPhone 4S และ BlackBerry 9790
สำหรับด้านหน้าของเครื่อง ประกอบด้วยช่องลำโพงสนทนา ซึ่งในส่วนนี้จะซ่อนไฟแสดงสถานะไว้ด้วย กล้องหน้า หน้าจอพร้อมกระจก Gorilla Glass และปุ่มแบบสัมผัสจำนวน 3 ปุ่ม ที่กดไม่ค่อยจะถนัดเท่าไหร่
ด้านบน มีปุ่ม Power ถาดใส่ซิม ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และไมค์ตัวที่สองครับ
ด้านซ้ายมี Port microUSB และด้านขวาเป็นปุ่มเพิ่มลดเสียง ขนาดกำลังดี ส่วนด้านล่างมีเพียงไมโครโฟนครับ
ด้านหลังประกอบไปด้วย กล้อง 8mp แฟลช พินสำหรับ dock และลำโพง
จะเห็นได้ว่า HTC เปลี่ยนมาใช้ถาดใส่ซิม แล้วก็เป็น Micro Sim อีกด้วยครับ กระแส Micro Sim เริ่มมากันเยอะแล้วในปีนี้ ใครจะซื้อ One X อย่าลืมตรวจสอบซิมตัวเองก่อนนะครับ ตอนซื้อจะได้ลองเครื่องสะดวก
สิ่งที่เปลี่ยนไปสำหรับ HTC One X อีกจุด คือแบตเตอรี่ที่ถอดเปลี่ยนไม่ได้นะครับ ใครที่พกแบตสองก้อน คงต้องเลือกใช้อุปกรณ์จำพวก Mobile Booster แทนแล้วครับ
มาที่จุดเด่นซึ่งกินพื้นที่ด้านหน้าของเครื่องไปจนหมดกันบ้าง คือหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 4.7 นิ้ว พร้อมด้วยความละเอียดแบบ 720p ซึ่งส่วนตัวเมื่อเทียบกับ iPhone 4S รู้สึกเหมือนว่าจอ One X จะดีกว่ามาก หน้าจอน่าจะอยู่ใกล้กระจกมากกว่า iPhone เลยทำให้รู้สึกชอบ หน้าจอให้สีได้ดี และมีมุมมองภาพที่กว้างมากอาจจะใกล้ 180 องศา และความหนาแน่น pixel ที่ใกล้ๆ iPhone เลย (One X 312ppi vs iPhone 4S 330ppi) หน้าจอยังใหญ่ถูกใจอีกด้วย แถมอีกนิด 720p ตัวนี้ไม่ใช่ Pentile นะครับ ละเอียดสะใจแน่นอน
สำหรับกล้องและเสียงเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ HTC เน้นในรุ่นนี้ครับ ตั้งแต่คำโปรย Amazing camera. Authentic sound. มาเริ่มที่กล้องกันก่อน HTC โฆษณาว่ามี ImageSense เข้าใจว่าช่วยเรื่องความเร็ว ซึ่งเท่าที่ใช้ก็เรียกใช้งานกล้องได้รวดเร็วครับ เร็วกว่า iPhone 4S นิดหน่อย Shutter Lag น้อยมากๆ เรียกว่ากดปุ๊ปถ่ายปั๊ป ความละเอียดยอดนิยมที่ 8mp ครับ พร้อมด้วย LED flash กล้องหน้าที่ 1.3mp หน้าตาแอพพลิเคชั่นกล้องเรียบง่ายครับ ปรับฟังค์ชั่นที่ใช้บ่อยๆ เช่น flash กับ scene ได้เลย และใน One X ก็ไม่ต้องเลือกโหมดภาพนิ่งกับวีดีโอแล้วครับ มีปุ่มถ่ายภาพนิ่ง และปุ่มอัดวีดีโอในหน้าจอเดียวกันเลย สะดวกมากมาย ระหว่างอัดวีดีโอก็สามารถถ่ายภาพนิ่งไปได้ด้วยครับ นอกจากนี้ก็แถม effect รูปมาเยอะเลย เช่น vignette, depth of field, dots เป็นต้น คุณภาพกล้องหน้าก็โอเคครับ เพียงพอกับวีดีโอแชท และเอาไว้ถ่ายรูปตัวเองแก้เบื่อได้ วีดีโอความละเอียดสูงสุดที่ 1080p ครับ เต็มที่กันไปเลย
คุณภาพดูได้ตามตัวอย่างด้านล่างเลยครับ ไม่ได้ถ่ายรูป outdoor เลย ต้องขออภัยด้วยครับ
สำหรับเสียงเท่าที่ลองฟังดู เปิดหรือปิด Beats ก็คล้ายๆ กันครับ ส่วนตัวลองกับ Beats Tour (ในกล่องไม่ได้แถมตัวนี้มานะครับ :P) ก็เฉยๆ ครับไม่ได้รู้สึกว่าดีกว่ามือถือรุ่นอื่นเป็นพิเศษ ผิดหวังกับคำโปรยนิดหน่อย ออกจะชอบ iPhone มากกว่า แต่ก็อาจจะเป็นเพราะใช้มานานกว่าเยอะมากๆ เสียงลำโพงในตัว ดังใช้ได้ครับ เผื่อแผ่เพื่อนๆ ในห้องเล็กๆ ได้สบายๆ แต่ไม่ดังเท่ามือถือจีนแน่นอน (รวม 4S ด้วย ที่มีดีแต่เสียงดังจริงๆ คุณภาพอย่าไปพูดถึง)
HTC One X ก็ใช้ระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ล่าสุดในปีนี้ครับ ซึ่งก็คือ ICS นั่นเอง พร้อมด้วย Sense 4.0 ที่รู้สึกว่าจะลดดีกรีการปรับแต่งลง ใกล้กับตัว Pure Google แบบ Nexus มากขึ้น แต่ยังไงก็ยังคงพบกลิ่นอายของ Sense ได้อยู่ในแทบทุกจะหน้าจอครับ ตั้งแต่หน้าจอ Lock Screen ที่มีวงแหวนอยู่ด้านล่าง และแน่นอน Widget นาฬิกาอันเป็นเอกลักษณ์ของ HTC หรือ Friend Stream ก็ยังคงมีให้เลือกใช้กันเหมือนเดิมครับ แต่หน้า Home แถบ Dock ด้านล่างสามารถปรับเปลี่ยนได้แล้วนะครับ ไม่ติดอยู่กับปุ่ม Phone / Personalize เหมือนที่ผ่านมา คนที่ไม่ถูกใจจะได้ปรับเอาออกได้ซะที และสำหรับแอพพลิเคชั่นที่ต้องกล่าวถึงคือ Dropbox ครับ เพราะมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับ One X คือ จะได้พื้นที่เพิ่มขึ้นอีก 23GB รวมเป็น 25GB ครับ เป็นเวลา 2 ปีครับ ใครซื้อมาก็อย่าลืมสมัครใช้ครับ เข้าใจว่าให้มาเพื่อลดข้อด้อยที่ไม่สามารถเพิ่มการ์ดความจำได้ครับ โดยมีความจำในตัว 32GB ใช้ได้จริง ประมาณ 23GB ครับ สำหรับส่วนนี้ขอลงรายละเอียดเพียงเท่านี้ เพราะว่าส่วนตัวไม่ค่อยได้ใช้แอนดรอยด์ครับ ไม่ถนัดเท่าไหร่
เท่าที่ลองใช้งานมา เข้าออกแอพรวดเร็วทันใจครับ สมกับเป็น 1.5GHz Quadcore สลับสับเปลี่ยนหน้าจอไม่กระตุก สัญญาณโทรศัพท์คงที่ (TrueMove H) เสียงสนทนาชัดทั้งขาเข้าและออก อีกทั้งยังรองรับ 3g ในบ้านเราครบทุกเจ้า (850/900/1900/2100 MHz) และสำหรับผมที่ไม่ได้ใช้งานเป็นเครื่องหลัก อาจจะไม่ค่อยเห็นภาพการใช้แบตเตอรี่เท่าไหร่ สำหรับส่วนตัวเปิดมาหนึ่งวันกว่า แบตยังเหลือเกินครึ่งครับ ต่างกับ iPhone ที่เปิดเฉยๆ ก็จะหมดแล้ว :( อาจจะเป็นเพราะอานิสงค์ Core +1 ของ Tegra 3 ก็เป็นได้ครับ ช่วยประหยัดไปได้เยอะ เสปคระบุแบตเตอรี่ที่ 1800 mAh ครับ คาดว่าใช้เป็นเครื่องหลักก็คงไม่พ้นวันเช่นกัน
สำหรับส่วนนี้ขอแทนด้วยผล Benchmark ละกันนะครับ เครื่องรีวิว Android 4.0.3 Software Number 1.28.707.10 ครับ
ตอนเทสเสร็จ (เทสต่อกันหมดเลย) เครื่องร้อนใช้ได้เลย แต่ยังถือได้อยู่ครับ
เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าจับตามองในปีนี้ครับ สำหรับสาวก Sense คงไม่ผิดหวังแน่นอน พกความแรงมาเต็มที่สมกับเป็นรุ่นเรือธง ทั้งความบาง ซีพียู Quadcore และหน้าจอระดับ 720p แต่ราคาก็มาแรงด้วยครับ ที่ 21,900 บาท น่าจะเหมาะกับคนที่ชอบเทคโนโลยีล้ำๆ ครับ นำสมัยเสมอ อะไรประมาณนั้น
ส่วนตัวคิดว่า One X ทำให้ HTC ในปีนี้น่าสนใจขึ้นเยอะครับ มากกว่าตอน Sensation ออกซะอีก :) ดีไซน์เครื่องถูกใจ
ชอบ
ไม่ชอบ
สเปคเพิ่มเติม เชิญที่ HTC ครับ http://www.htc.com/th/smartphones/htc-one-x/
สุดท้าย ต้องขออภัยที่ลงรายละเอียดได้ไม่เยอะ ไม่ได้ใช้แอนดรอยด์อย่างจริงจังสักทีครับ :(
Comments
เอา Tag HTC One X ออก
ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใส่ Thumbnail ก็ได้ครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ผมก็ยังงงๆ อยู่ เพราะบางรุ่นเห็นมี Tag แยกเฉพาะรุ่น แต่ของ One X ยังไม่เห็นเลยครับ เลยไม่รู้ว่าจะใส่ดีไม่ใส่ดี - -"
keep moving forward »
ปกติข่าวทั่วไปผมเห็นว่าไม่ใส่ครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
สวยมากครับมีพี่คนนึงเค้าใช้ดูดีมากเลย ระบบเยี่ยมมากแต่เสียอย่างเดียวแบตหมดเร็วไปหน่อยก็คงเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับ smart phone spec ที่สูงๆ กล้องชัดเจนมาก เคยเห็นเค้าทดสอบเอาไปถูกับโต๊ะทั้งหน้าจอและด้านหลังไม่เป็นอะไรเลยครับ :)
เค้าแก้แล้วครับ ตอนนี้ใช้ได้วันเหยียบวันแล้ว (ถ้าไม่ทำอะไรมาก)
แต่ตัวน้อง HTC OneV นี่จอเหลืองกันกระจายเลยครับ คนไล่เปลี่ยนเครื่องที่ศูนย์กันวุ่นวายเลยตอนนี้ - -"
สวย น่าสอยมาก
ซื้อ Sensation XE ใช้ไปแล้วอ่ะ
T_T
Dream high, work hard.
เห็นตัวจริงที่ Central World แล้ว สวยดี
ลื่นด้วย
Coder | Designer | Thinker | Blogger
อ่านรีวิวหลายที่ One X มีข้อเสียเรื่องโฟกัสที่ช้ากว่าชัตเตอร์ ทำให้เวลา กดถ่ายรัวๆ จะโฟกัสไม่ทันแล้วรูปก็จะเบลอ ไม่รู้ว่า hardware มันทำได้เท่านี้หรือต้องแก้ที่ software แต่เรื่องจอนี่ยอมรับว่าสวยจริงครับ ไม่ได้สีสันสดเกินไปแบบ SAMOLED (Plus) ของอีกยี่ห้อ
hTC สุดยอดจริงๆ ครับ ขนาดผมใช้รุ่นเล็ก ยังประทับใจเลย เดี๋ยวรอเก็บเงินได้จะขยับไปเล่นรุ่นใหญ่มั่ง ^^ (ชอบหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะจอ สีไม่แสบเกินเหมือนอีกยี่ห้อนึง ><")
น่าสนในมาก กล้องที่อยู่ใน screenshot กับพื้นหลังที่เป็น power ranger
FYI: ผมใช้ One V อยู่ครับ ถ่ายรูปในที่มืดปิด flash ใช้ mode แสงน้อยแล้วเจอ noise กระจายเลย
สู้ Galaxy Note ไม่ได้ อันนี้เค้าเนียนเลย ไม่รู้เป็นที่ image processing ทีหลังรึเปล่า
ราคาต่างกันเกินสองเท่าแบบนี้ ผมว่าเป็นปัญหาที่น่าจะยอมรับได้นะ
เห็นว่าไม่สามารถใช้ Authenticated Proxy ได้???
ต้องลองทดสอบยังไงบ้างครับ
เผื่อทำให้ได้ รบกวนแจ้งที่ twitter @win_chayin นะครับ :D
keep moving forward »
พวก proxy ที่ต้องใส่ user pass หาใช้ยากอยู่ ระบบมันเก่าแล้ว คงต้องทำเอง
หรือหา ฟรี proxy ที่ยังต้องใส่ user pass ดู
ไม่ก็หาพวก software proxy มาลง แล้ว set user pass แล้วต่อ มือถือวิ่งผ่านอีกที
เพราะหลังๆ จะเก็บ log จริงๆ ใช้ ระบบ auth แบบ 3bb หรือ พวก hotspot จะ ชัวร์กว่า เพราะอะไรที่ไม่ใช้ web ระบบ proxy แบบที่ว่า มันเก็บอะไรไม่ได้ แถมทะลุง่ายอีกด้วย
Ton-Or
ผมว่า หน้า ics เดิมๆ สวยกว่า sense ไงไม่รู้แฮะ แต่วอลเปเปอร์สวยดีครับ แจกหน่อยได้มั้ย ^_^
จริงจังป่ะครับ ?
keep moving forward »
จริงจังครับ แต่พูดผิดไปหน่อย หน้าล็อกสกรีนครับ
จัดไปครับ http://db.tt/7qfaZWsp
keep moving forward »
ขอบคุณที่ชี้ทางไปถึงภาพนี้ครับ
SNSD!
keep moving forward »
ถอดแบตไม่ได้, ใส่ไมโครซิม, เพิ่มหน่วยความจำไม่ได้ ข้อจำกัดแบบนี้ไม่โดนด่าแล้วเหรอครับ
ก็มีบ้างล่ะครับ แต่โวยวายมากไม่ได้เพราะตอน iOS กับ WP7 ทำไปว่าเค้าไว้เยอะ
สงบเงียบไปเยอะเลยล่ะครับ
ผมว่าคนเค้าเริ่มชินกับ iPhone แล้วล่ะครับ เดี๋ยวนี้หลายๆ รุ่นก็ตามมาใช้ Micro-Sim/หน่วยความจำภายใน/ถอดไม่ได้กันหมดแล้วครับ
เดี๋ยวนี้เป็น"สมัยนิยม"ซินะ คำนี้มันโน้มน้าวได้ดีจริงๆ เป็นเมื่อก่อนอย่างน้อยก็ขอได้ด่าไว้ก่อนเนอะ
5555+
เจ็บไปนานๆ ก็ชินครับ
keep moving forward »
อย่าง Apple เขาให้เหตุผลว่าพวก Memory Card ทั่วไปในท้องตลาดยังไม่มีมาตรฐานที่ชัดเจน คุณภาพดีบ้าง แย่บ้าง ทำให้ความเสถียรภาพของแอพไม่คงที่ ส่วนแบตก็เหตุผลคล้ายกัน
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.
ขอบคุณครับ
keep moving forward »