สายอาชีพของโปรแกรมเมอร์หรือทาง it มีอะไรที่แตกต่างกันบ้างครับ
มีประเภทอะไรบ้าง เรียงตาม รายได้/ความหนักของงาน/OT paid/ bonus /
แนวทางการอัพเกรดหรือเติบโตทางสายอาชีพเป็นอย่างไรบ้าง เช่นจำเป็นต้องต่อ pH.D เพื่อความก้าวหน้าทางอาชีพหรือไม่ มีผลมากเพียงใดกับอาชีพ
ตามประสบการณ์แล้วกลุ่มคนที่จบด้วยช่วงเกรด
ตั้งแต่เกียรตินิยมอันดับ 1 /3.X /2.X นั้นนิยมเลือกสายงานแบบใหนกันบ้าง
งานสาย web programmer ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง มีงานเยอะรึปล่าวครับ ( ในเมื่อ wordpress หรือ social network แพร่หลายกันแล้ว )
บริษัทใดบ้างที่หลายๆคนใฝ่ฝันอยากไปทำงานกัน (จะด้วยสภาพแวดล้อม สวัสดิการ อื่นๆ)
โปรแกรมเมอร์ไทยส่วนมากงานหนักนะคับ จะเรียกได้ว่าเป็นกรรมกรก็ได้
แล้วแต่วัฒนธรรมขององค์กรครับ แต่ละบริษัทก็มีนโยบายต่างกัน
เท่าที่ผมรู้ ค่าตอบแทนจะได้ตามความยาก และอัตราส่วนระหว่างอุปสงค์(คนจ้าง)/อุปทาน(ลูกจ้าง) ที่ได้ยินมาตอนนี้ C# เงินไม่สูงมากถ้าเทียบกับตัวอื่น คงเพราะมันง่าย-คนทำได้เยอะ-และในบ้านเรา บ.ใหญ่ ๆ ไม่ค่อยใช้กันมั้ง อันนี้คุยกับน้องที่เป็น recruiter มา
ถ้าโปรแกรมเมอร์ ... การศึกษาไม่ค่อยช่วยอะไรมากครับ ที่แย่กว่านั้นคือมันอาจจะทำให้คุณเสียโอกาส บางคนเลือกที่จะเรียนจบแล้วต่อโททันที เมื่อเทียบกับคนที่ทำงานหลังจบทันที ณ.เวลาเท่ากันคนแรกมีป.โท แต่คนหลังมีประสพการณ์ 2 ปี คนหลังจะได้เปรียบกว่า และมักจะได้เงินเดือนสูํงกว่า
ต่อเอกดีไม่ดีจะกลายเป็นเรามีสเปคสูงกว่าความต้องการ กลายเป็นหางานไม่ได้ก็ได้
ทั้งนี้ทั้งนั้น การมีระดับการศึกษาสูง ๆ น่าจะมีประโยชน์ในการก้าวขึ้นเป็นระดับผู้บริหารครับ
ส่วน การเติบโต ถ้าไม่อาศัยทางตรง (ก็คือสั่งสมประสพการณ์ไปเรื่อย ๆ) ก็มีอีกทางคือเก็บใบ Cert ล่ะมั้ง ผมไม่รู้นะ เห็นว่าบางที่ให้ค่าใบ Cert ด้วย
ผมว่าไม่เกี่ยวกับเกรดนะ ขึ้นกับว่าเราถนัดงานอะไรมากกว่า
ก็ยังเยอะอยู่นะครับ App ปัจจุบันเป็น Web App ซะส่วนใหญ่แล้ว
ผมอยู่ในบ.ที่เป็นบ.ในฝันของหลายๆ คนนะ (ฮา) แต่จะบอกว่าก็ไม่ได้ดีมีความสุขอะไร ผมว่าคนทำงานในระดับนึงความฝันสูงสุดก็คงเป็นการนั่งทำงานอยู่กลับบ้าน ไม่ต้องฝ่ารถติดไปทำงาน เข้างานกี่โมงก็ได้ เสร็จงานกี่โมงก็ได้ มีงานส่ง แล้วก็มีรายได้มั่นคงแน่นอน
แต่ถ้าเอาเป็น บ.ใหญ่ที่คนอยากเข้าในบ้านเรา ก็ยังคงเป็น Thompson Reuters ล่ะมั้ง ถึงแม้ระยะหลังจะมีแต่ข่าวไม่ดีออกมาเป็นระยะๆ ก็เถอะ
อย่าทำเลยครับ พูดสั่นๆแต่พูดจริงนะ ไปสายอื่นเถอะ ได้เงินพอๆกัน อาชีพกรรมกรไซเบอร์เนี่ยอย่าไปทำเลยครับมันน่าเศร้าในประเทศนี้
อยากรวยต้องหนีจากอาชีพ Programmer (หมายถึงต้องก้าวผ่านอาชีพนี้ครับ) มันคือกรรมกรดีๆ นี่เอง
ไม่ต้องเรียนจบปริญญาก็ทำได้ครับเพียงแค่ฝึกฝน
เสริมนิดนึงถ้าไม่เรียนจบปริญญาก็ก้าวผ่านลำบากนะครับ ยังไงศาสตร์นี้ก็นับว่า เป็นศาสตร์ชั้นสูงที่ไม่ใช่แค่ครูพักลักจำจากการฝึกฝนแล้วจะเก่งได้ครับ ลึกๆแล้วจะต้องเรียนอย่างลึกซึ้งทีเดียว แต่ติดที่ว่า ประเทศไทย programmer ที่อยู่ในระดับนี้หาได้น้อยมาก และส่วนใหญ่จะสมองไหลไปต่างประเทศแล้ว
หมายความว่าผมเป็นหนึ่งในแสนหรือหนึ่งในล้านได้เลยสินะ เพราะทั้งไม่จบปริญญา แถมฝีมืออยู่ในระดับสูงลิบลิ่วอีกตะหาก แถมด้วยสมองยังไม่ไหลไปต่างประเทศอีกตะหาก 5555555+ (เข้ามาหลงตัวเอง)
อยาจจะบอกว่า ทำนาอยู่แถวบ้านยังรวยกว่าเลยครับ แถวบ้านผมทำนาปีละ 3 รอบ เฉพาะกำไรก็ปีละ 5-7 แสน (น่าเสียดายผมทำไม่ไหว และไม่มีที่นามากพอ)
ต้องถามตัวเองก่อนว่าชีวิตต้องการอะไรก่อนดีกว่าไหม แล้วมาดูกันว่าจะต้องทำงานอะไร ตำแหน่งไหน คนไทยถูกสอนมาให้เอางานมาเป็นที่ตั้ง แล้วปล่อยให้ได้ชีวิตเป็นไปตามงานที่ทำ แล้วก็มาบ่นว่าเงินไม่พอใช้บ้าง เหนื่อยบ้าง เจ้านายบ่น อยากหยุด เลือกก่อนครับว่าต้องการชีวิตแบบไหน คิดไปสักอายุ 60 ครับ หรือจนใกล้ๆจะตายไปเลย
ส่วนตัวผมว่า อาชีพโปรแกรมเมอร์เป็นอาชีพที่มีคุณค่าในตัวมันเองครับ สิ่งสำคัญที่สุดคือ คุณรักที่จะแก้ปัญหาตลอดเวลาหรือเปล่า อาชีพนี้ค่อนข้างจะมีความเครียดอยู่เสมอๆ แม้แต่คุณเขียนแค่บรรทัดแรกๆ สิ่งสำคัญคือ คุณต้องหมั่นศึกษาอยู่ตลอดเวลา เพราะเทคโนโลยีเปลี่ยนเร็ว อีกอย่าง โปรแกรมเมอร์บ้านเราไม่ชอบสร้าง Software Framework ใช้เองครับชอบเอาของคนอื่นมาใช้ พอใช้งานไม่ได้ใช้งานไม่เป็นก็มักจะมีปัญหาที่แก้ไม่ได้อยู่เรื่อยๆ เกิดปรากฏการณ์โยนขี้กันให้เห็นเป็นนิจน์ เรื่องเงินนั้นผมว่าอาชีพนี้ได้เงินเดือนไม่น้อยเลยครับถ้าความสามารถคุณมีและคุณแสดงให้คนอื่นเห็นว่่า คุณทำในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้ โปรแกรมเมอร์ไม่จำเป็นต้องรู้เพียงแค่การเขียนโปรแกรม ถ้าคุณยิ่งรู้เรื่องอื่นๆเข้าไปด้วยก็จะทำให้เวลาคุณเขียนโปรแกรม คุณก็จะวางแผนในการเขียนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และอีกอย่าง งานจ็อบเล็กจ็อบใหญ่เข้ามาเรื่อยๆ ยิ่งพวกเว็บทั่วๆไปที่ ทำไปเหมือนได้ค่าขนมนี่ผมว่ามีคนอยากจ้างทำเยอะมาก ถ้าคุณทำให้คนที่ 1 สำเร็จดีคนอื่นๆก็จะเข้ามาเรื่อยๆ งานรับทำเว็บนี่มีให้ทำกันจนทำไม่ทันเลยทีเดียว เพียงแต่คุณอาจจะต้องไปจับกลุ่มเล็กๆเงินน้อยๆลูกค้าแบบชาวบ้านทั่วไปแทนกลุ่มใหญ่ๆ เพราะส่วนใหญ่พวกนั้นมีบริษัทที่เค้ารับทำกันประจำอยู่แล้ว
Texion Business Solutions
การเขียนโปรแกรมเป้นศาสตร์และศิลป์อย่างหนึ่งนะครับ มันไม่ได้เป้นกรรมกรตลอดไปหรอก
สู้ต่อไป ทาเคชิ
รอบตัวผมยังไม่เห็นใครจบเกียรตินิยมแล้วเขียนโปรแกรมเก่งๆ นะ หรือว่าโลกผมแคบไป?
ส่วนงาน web บอกได้ว่า demand เหลือเฟือ แต่ส่วนมากค่าจ้างจะไม่คุ้มเท่าไหร่ ลูกค้ามักจะคิดว่าทำง่ายครับ ถ้าตกลงกันดีๆ ก็ถือว่าดีไป นอกจากเขียนเป็นแล้วต้องสื่อสารรู้เรื่องนะครับ ไม่งั้นตายแน่
โดยทั่วไปสายอาชีพนี้เงินเดือนขึ้นอยู่กับความสามารถส่วนหนึ่ง คนจ้างจ่ายได้แค่ไหน และคนจ้างคิดว่าควรจะจ่ายแค่ไหนด้วย แต่โดยธรรมชาติยิ่งรายได้สูงความเสี่ยงก็สูงตาม แล้วแต่ความสามารถว่าจะจัดการได้แค่ไหนนะ
ส่วนตัวการเติบโตกับบริษัทไหนดีไม่ดีขึ้นอยู่กับบุคคลแล้วครับ ผมคิดว่าเรียนต่อโทหรือเอกมันก็มีข้อดีในตัวมันเอง ขึ้นอยู่กับว่าเราเห็นโอกาสหรือเปล่า
ผมมีความสุขกับงานตามสมควรครับ :)
เพื่อนผมสมัยมหาลัยที่ได้เกียรตินิยมอันดับสอง (คณะผมตั้งแต่ตั้งมามีเกียรตินิยมอันดับหนึ่งคนเดียวเองมั้ง ถ้าจำไม่ผิด ตั้งมายี่สิบกว่าปี) ก็เขียนโปรแกรมเก่งนะครับ จำได้ว่าเคยงัดข้อสู้กันในวิชาเขียนโปรแกรมเบื้องต้น 555 เหมือนเค้าจะชนะไปแต้มนึงมั้ง
โปรแกรมเมอร์เป็นอาชีพที่ต้องให้บริการตลอด 24 ชม. ไม่มีวันหยุดใดๆทั้งสิ้นๆครับ(วันหยุดคือวันที่ไม่มีใครโทรมาเรียกให้แก้ไขโค้ดครับ)
ถูกใช้แรงงานยิ่งกว่าอาชีพใดๆครับ ยิ่งเป็น ฟรีแลนด์ แบบผมเนี้ยต้องเรียกว่าทำให้ถูกใจลูกค้าไว้ก่อนครับ
ผมเขียนพวก php java มาสำหรับทำพวก โลจิสติก กับ สินค้า คลัง PO ขนาดว่า PHP ไม่ต้อง คอมไพล์นะครับ
ตัวยังจะแตกตลอด 24 ชม เลย ลูกค้าอยากได้อย่างนู้นอย่างนั้นอย่างนี้ ต่อให้เราทำดีโคตรๆๆๆๆๆแค่ไหนลูกค้าบอก NO ก็ต้องแก้ครับ แก้เล็กแกน้อยเยอะมาก ค่า VIT ของท่านต้องเยอะในระดับหนึ่งเลย
เป็นอาชีพที่ถ้าทำเป็นโปรแกรมเมอร์ได้เนี้ย คุณจะได้ค่า VIT มาฟรีๆเลยนะนั้น
เงินก็ไม่ได้มากมายอะไรมากแถมจะโดนกดอีก ใครหลายคนๆที่ไม่รู้จักโปรแกรมเมอร์ชอบคิดไปเองว่า
"คุณแค่เขียนตัวอักษรที่ไม่รู้เรื่องลงบนคอมพิวเตอร์ที่ไม่มีต้นทุนใดๆ ฉะนั้นผมจะจ่ายคุณแพงทำไม ในเมื่อคุณไม่มีต้นทุนซักอย่าง"
โดนอย่างนี้ผมจะร้องเอา T__T(เพราะโดนไปแล้ว)
ผมไม่ได้ทำงานบริษัทเลยไม่รู้ว่าโปรแกรมเมอร์บริษัททำงานหนักขนาดไหน
แต่ถ้าคุณจะเป็น ฟรีแลนด์ แบบผมละก็........ คุณอยากจะปาโทรศัพท์ในมือของคุณมากที่สุดแล้ว!!!
+1 ครับ คนส่วนใหญ่มักคิดว่าไม่มีต้นทุน แต่เขาไม่ถึงคิดค่าวิชาชีพของเรา ค่าแรงของเราเลย
ถ้าผมเจอคนพูดแบบนั้นผมขอบายงานนั้นละครับ เสี่ยงจะมีปัญหาในอนาคต
บางครั้งผมก็แย๊บยิงคำถามลองใจลูกค้าไป ว่าเขามีฟีตแบกตอบกลับมายังไง แล้วเอาส่วนนั้นมาประเมินค่าใช้จ่ายในการทำงานด้วย (เรื่องมาก => งานเสร็จช้า แก้อยู่นั่นแหละ => ได้เงินช้า => คิดแพงกว่าปกติ)
โดนใจผมมากเลย !!! อยากกระโดดจูบท่านหลายๆทีจังเลย ^o^//
ผมว่างานสาย IT มีค่อนข้างเยอะนะครับ นอกเหนือจากสาย programming ก็เช่น Network Engineer, System Engineer หรือว่าเป็นงานอื่นๆ ที่โดยปกติก็จะต้องผ่าน programmer มาก่อน เช่น System Analyst, Project Manager
ส่วนเงินเดือนนี่ผมว่าถ้าเก่งจริงๆ สายนี้เป็นสายที่โตได้ไวสายนึงเลยนะครับ เช่น จาก programmer ถ้าฝีมือดีๆ ได้โปรโมตเป็น Senior Programmer หรือ System Analyst ก็อาจจะได้รายได้เพิ่มเยอะ (ตามฝีมือ)
ส่วนเรื่องเกรดนี่ผมว่ามีส่วนแค่ตอนจบใหม่ๆ นะ ถ้าทำงานซัก 1-2 ปี ปกติเึค้าก็จะไม่ค่อยสนแล้วล่ะ ส่วนเรื่องต่อโทนี่ส่วนใหญ่ก็เอาไ้ว้อัพเงินเดือนน่ะครับ แต่ถ้าต่อถึงป.เอก อาจจะหางานได้ยากขึ้น เพราะว่าที่ที่จะรับ Ph.D. เข้าไปทำงานจริงๆ คงมีไม่เยอะ เพราะส่วนใหญ่จะสู้เงินเดือนไม่ไหว หรือ qualification สูงเกินกว่าที่อยากได้
ส่วน web programming มีเยอะมากนะครับ งานส่วนใหญ่ในตลาดตอนนี้น่าจะเป็น web programming เสียด้วยซ้ำ
ส่วนพวกรายได้/OT/bonus ขึ้นอยู่กับบริษัทมากกว่าครับ แต่ผมมองว่าปีแรกๆ benefits ไม่ใช่เรื่องหลัีกนะครับ ทำงานที่น่าสนใจแล้ว build profile กับ skill ตัวเองไว้ดีกว่า แล้วอนาคต benefit มันก็จะตามมาเองครับ
ต้องถามตัวเองก่อนว่าชีวิตต้องการอะไรก่อนดีกว่าไหม แล้วมาดูกันว่าจะต้องทำงานอะไร ตำแหน่งไหน คนไทยถูกสอนมาให้เอางานมาเป็นที่ตั้ง แล้วปล่อยให้ได้ชีวิตเป็นไปตามงานที่ทำ แล้วก็มาบ่นว่าเงินไม่พอใช้บ้าง เหนื่อยบ้าง เจ้านายบ่น อยากหยุด เลือกก่อนครับว่าต้องการชีวิตแบบไหน คิดไปสักอายุ 60 ครับ หรือจนใกล้ๆจะตายไปเลย
Ask yourself if what you.re doing today is getting you closer to "where you want to be tomorrow"
ชัชพงษ์
วิศวกรรมศาสตร์คอมพิวเตอร์ ม.เกษตรศาสตร์
ตอบ สายงานด้านไอทีหลักๆ และตัวอย่างตำแหน่งงานขั้นเริ่มต้น
* ขอไม่รวมด้านการขายและการศึกษานะครับ
แนวทางการอัพเกรดหรือเติบโตทางสายอาชีพเป็นอย่างไรบ้าง เช่นจำเป็นต้องต่อ pH.D เพื่อความก้าวหน้าทางอาชีพหรือไม่ มีผลมากเพียงใดกับอาชีพ?
ตอบ ปริญญาสูงสุดที่ได้นำความรู้มาใช้กับงานจริงๆคือ ป.โทครับ นอกเสียจากว่าอยากขึ้นเป็นถึงผู้บริหารระดับสูงๆในบริษัทขนาดใหญ่ อาจจะต้องเรียนถึงปริญญาเอกเพื่อประดับบารมี แต่ความเห็นส่วนตัวคิดว่า ถ้าตำแหน่งสูงๆในระดับนั้นก็น่าจะเรียนสายบริหารมากกว่าครับ ถึงวันนั้นอายุก็คงเกิน 50 แล้ว คนที่เรียน Ph.D จริงๆส่วนใหญ่เรียนเพื่อเป็นอาจารย์ครับ
ตามประสบการณ์แล้วกลุ่มคนที่จบด้วยช่วงเกรด ตั้งแต่เกียรตินิยมอันดับ 1 /3.X /2.X นั้นนิยมเลือกสายงานแบบใหนกันบ้าง?
ตอบ ผมขอมองข้ามเรื่องเกรด แต่ขอแยกเป็นระหว่าง 1.คนที่เรียกว่าเก่งหรือหัวกะทิ เข้าใจอะไรได้เร็ว มีไหวพริบ แก้ปัญหาเก่ง กับ 2.คนที่้หัวปานกลาง ใช้เวลาละกันนะครับ
คนที่เก่งๆส่วนใหญ่จะรู้ว่าตัวเองชอบอะไรไม่ชอบอะไร ต้องการจะไปทางไหน มีความทะเยอทะยานอยากเรียนรู้ อยากเก่ง อยากพบเจอคนที่เก่งๆเหมือนกัน ถ้าที่บ้านมีเงินซัพพอร์ต ส่วนใหญ่จะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ แล้วเรียนจบกลับมาพร้อมปริญญาโท เข้าทำงานในบริษัทข้ามชาติชั้นนำของประเทศ หรือไม่ก็ทำธุรกิจที่บ้าน แต่ถ้าที่บ้านไม่รวย ก็อาจจะทำงานออฟฟิซแล้วเปลี่ยนที่ทำงานบ่อยๆ สนุกกับความท้าทายในงาน หรือไม่รับงานฟรีแลนซ์เก็บเงิืนให้ได้เยอะๆ เพื่อนำไปลงทุนทำธุรกิจอย่างอื่นต่อไป
ส่วนคนที่เ้ก่งน้อยกว่า ถ้าผลการเรียนไม่ดี โปรไฟล์ไม่ค่อยโดน ในช่วงจบใหม่คงมีโอกาสเลือกงานได้ค่อนข้างน้อย ก็อาจทำๆไปก่อนเพื่อเก็บประสบการณ์พร้อมๆกับพยายามพัฒนาตัวเองไปพร้อมๆกัน เรียนต่อ สอบเซอร์ อาจใช้เวลานานหน่อย แต่ถ้าขวนขวายหาความรู้ ก็สามารถก้าวขึ้นไปตาม career path ได้ เมื่อมีประสบการณ์มากขึ้น ก็หาบริษัทที่มั่นคงๆ และอยู่ยาวๆ หรือไม่ก็ออกไปทำธุรกิจส่วนตัว
งานสาย web programmer ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง มีงานเยอะรึปล่าวครับ ( ในเมื่อ wordpress หรือ social network แพร่หลายกันแล้ว )?
ตอบ เยอะครับ ถ้าพอเขียนโปรแกรมได้ ถึงจะไม่เก่ง ก็แทบไม่ต้องกลัวตกงาน
บริษัทใดบ้างที่หลายๆคนใฝ่ฝันอยากไปทำงานกัน (จะด้วยสภาพแวดล้อม สวัสดิการ อื่นๆ)?
ตอบ อันดัีบต้นๆก็คงไม่พ้นบริษัทข้ามชาติครับ เ้ช่น รอยเตอร์ ดีเอสที ไอบีเอ็ม ซึ่งพวกนี้จะเงินเดือนเยอะ สวัสดิการดี สังคมเยี่ยมครับ
ผมคิดว่าโปรแกรมเมอร์ไม่ว่าจะสายไหนถ้าได้ภาษาที่สองหรือที่สามรวยสุดครับ ทุกวันนี้มีหลายงานที่ผมต้องบายเพราะว่าติดขัดเรื่องภาษา เพราะวันๆ มัวแต่พิมพ์คุยกับคอม อ่านเขียนได้แต่ไม่กล้าพูด ถ้ายังอยู่ในช่วงวัยเรียนอยากให้มองตรงนี้ไว้ด้วยครับ เลือกสายงานที่ชอบ+เรียนภาษาเพิ่มเติม แล้วเลือกบริษัทดีๆ เงินเดือนเยอะแน่นอนครับ
อย่างแรกเลย อยากให้ฝึกภาษาครับ (ภาษาพูดนะ ไม่ใช่ภาษาคอม ^^") เรียนตามตรงว่าไม่ได้เป็นโปรแกรมเมอร์ แต่มีส่วนอยู่ในงานที่ทำนิดๆหน่อยๆ ส่วนใหญ่เป็น Functional ฝีมือกลางๆ ไม่เก่งมากมาย แต่ภาษาผมจัดว่าดีมาก ตามคำบอกเล่าของเพื่อนๆ ที่ประเมินให้ ซึ่งมันเปิดโอกาสให้ผมได้พอสมควรเลยครับ เพราะงานที่ผมทำมันฝึกกันได้ ปีสองปีก็เก่งแล้ว แต่เรื่องภาษามันต้องใช้เวลานาน นายจ้างเห็นจุดนี้เลยจ้างคนที่มีภาษาไว้ก่อน งานมันฝึกกันทีหลังได้
ยิ่งในอีกไม่กี่ปีจะเกิดสังคมอาเซียนขึ้น ตลาดงานเราจะกว้างขึ้นมาก อย่างน้อยๆ ภาษาอังกฤษคุณต้องได้ แค่นี้โอกาสก็ถาโถมมาหาคุณเยอะเลยครับ