BitInstant ผู้ให้บริการแลกเปลี่ยน BitCoin เป็นเงินจริง มีแผนทำให้ BitCoin ถูกนำไปใช้ได้สะดวกขึ้นด้วยการสร้างบัตรเดบิต/เครดิตสำหรับ BitCoin ขึ้นมา
ข้อมูลดังกล่าวมาจากบล็อก Coding In My Sleep ที่อ้างว่าได้คุยกับ Charlie Shrem ผู้ร่วมก่อตั้ง BitInstant โดยรายละเอียดของบัตร BitCoin คือทำงานได้เหมือนกับบัตร MasterCard ที่ใช้ๆ กันอยู่ ซึ่งให้บริการโดยสองธนาคารที่ BitInstant เป็นพาร์ทเนอร์ด้วย ค่าธรรมเนียมฝากเงินเข้าอยู่ที่ 1% ถอนเงินเสีย 1.5 ดอลลาร์สหรัฐฯ บัตรชุดแรก 1,000 ใบแจกฟรี หลังจากนั้นคิด 10 ดอลลาร์ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 6-8 สัปดาห์
ตอนนี้มีภาพ mock-up ของบัตร BitCoin ออกมาแล้ว โดยรวมหน้าตาเหมือนกับบัตรเดบิต/เครดิตทั่วไป แต่เพิ่ม BitCoin address ไว้ด้วย โดยด้านหน้าเป็น QR Code ส่วนด้านหลังเป็นตัวอักษรเปลือยๆ เลย
ถ้าเป็นไปตามแผนที่ Shrem ว่าไว้ บัตร BitCoin จะใช้งานได้ทั่วโลก และตอนนี้ Shrem ก็เปิดแบบฟอร์มสำหรับสมัครบัตรแล้วครับ ใครสนใจลองเข้าไปดูได้ที่นี่ ภาพของบัตรดูได้ท้ายข่าวครับ
ที่มา - The Next Web
Comments
เจ๋ง แต่ค่าธรรมเนียมโหดดดด
300 กว่าบาท ก็ปกตินิครับ atm บ้านเราก็ประมาณนี้ต่อปี
อันนี้สิครับ
ค่าธรรรมเนียม => ค่าธรรมเนียม
แก้คำผิดครับ "รรร"
"ค่าธรรรมเนียมฝากเงินเข้าอยู่ที่ 1%" -> ค่าธรรมเนียม
จะกลายเป็นว่า อนาคตจะกินก๋วยเตี๋ยวซักชามก็ใช้ bitcoin สินะ ว่าแต่ระบบนี้มันโกงกันได้รึป่าวยังงงกะข่าวก่อนๆ
โลโก้เงินบาทซะ ^^
ผมว่าเดี๋ยวก็โดนแฮกอีก
สร้างขึ้นมาเพื่อให้เป็นระบบที่ปราศจากตัวกลาง แต่ตอนนี้กำลังจะมีธนาคาร?
my blog
ที่จริงแล้วคนจำนวนมากที่ศึกษา BitCoin คาดว่าสุดท้ายแล้วจะต้องพึ่งระบบธนาคารครับ เพราะตัวเงินมีจำกัด สุดท้ายเงินจะไม่พอ และต้องพึ่งระบบธนาคารสำรองเงินบางส่วน (มีตัวเลขเงินในบัญชีมากกว่าเงินที่ธนาคารถืออยู่จริง) เพื่อให้มีเงินออกมาหมุนเวียนในระบบต่อไปได้
ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง (ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าจะเป็นจริงหรือไม่) ระบบ BitCoin ยังคงสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับระบบการเงินอยู่ดี เพราะไม่มีใครสามารถ "พิมพ์เงิน" ออกมาได้เองเหมือนที่ธนาคารชาติแต่ละสกุลเงินทำได้ในทุกวันนี้
lewcpe.com, @wasonliw
อืม .. ขอบคุณครับ ;)
my blog
ถ้าหากจะดูมูลค่าของบิทคอย ต้องดูที่ economy เมื่อไหร่ที่มันแย่ลง นั้นหมายถึง Bitcoin มีความต้องการมาก
ตอนนี้เราก็มีอยู่ 75BTC USD. 1BTC $163 right now. น้อยนักที่จะมีคนรู้จริงๆ ส่วนมากจะมีแต่พวกนักธุรกิจหรือวงในเทคโนโลยี บิทคอยมีมาตรฐานแข็งแรงพอ แฮ๊คเกอร์ไม่สามารถที่จะแฮคออกไปได้ ไม่สามารถทำลายได้ ไม่เหมือนเมื่อก่อน