เก็บตกจากหลังการเปิดตัว Nexus รุ่นปลายปี กูเกิลบอกกับ Bloomberg ว่าจำนวนแอพในปัจจุบันของแพลตฟอร์ม Android มีตัวเลขประมาณ 700,000 แอพแล้ว (ครั้งสุดท้ายที่กูเกิลเผยเลขดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 675,000 แอพ)
ด้วยจำนวนแอพ 700,000 แอพ ทำให้ขยับเข้าใกล้คู่แข่งอย่าง iOS มากเข้าไปเรื่อยๆ จากข้อมูลที่แอปเปิลระบุมา ตัวเลขแอพบน iOS อยู่ที่ประมาณ 750,000 แอพ และด้วยกระแสในปัจจุบันของตลาดอุปกรณ์พกพาเริ่มมีหลายบริษัทโฟกัสไปที่ Android มากกว่า iOS แล้ว ดังนั้นจำนวนแอพทางฝั่ง Android น่าจะแซงภายในไม่นาน
แต่แค่จำนวนแอพที่มากกว่าคงไม่ใช่เรื่องน่ายินดีสำหรับกูเกิลนัก เมื่อตัวเลขรายได้จากสโตร์ของ iOS ยังคงสูงขึ้นเรื่อยๆ จากตัวเลขล่าสุด ทำเงินให้กับนักพัฒนาไปมากกว่า 65,000 ล้านเหรียญแล้ว ส่วนของกูเกิลนั้นไม่มีตัวเลขออกมา แต่เคยมีการประเมินว่าต่ำกว่า Amazon App Store เสียอีก
ที่มา - BloombergBusinessweek
Comments
ซ้ำกับข่าวนี้หรือเปล่าครับ หรือว่าคนละข่าวครับ
คนละข่าวครับ ... ตอนนั้นแค่จะถึง ตอนนี้ถึงแล้ว
รอเก็บ app ราคาถูกกัน
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ข่าวเดียวกันนั้นแหละคับ
แต่ผมเลือกเอาจาก CNET ส่วนข่าวนี้แปลจาก bloomberg ที่ลงข่าวก่อน CNET เท่านั้นเองครับ
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
คุณภาพสำคัญกว่าจำนวนสินะ.. เท่าที่ดูๆ app บน android เยอะจริง แต่เหมือนจะซ้ำๆ กันเยอะเลย
ไตรมาสนี้ยอดขายอยู่ที่ Android 75% : ios 14.9% ไม่แปลกครับที่ยอด android app จะเพิ่มเร็วกว่า ios ทำให้ตามใด้ แต่ ios มี pay app เก่า ในปริมาณมากกว่า เลยทำให้ยอดซื้อสูงกว่า
น่าสนใจไตรมาสหน้าว่า iphone 5 ทำงานครบเดือนจะดึงส่วนแบ่งกลับไปใด้แค่ใหน
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ขอสถิติและที่มาด้วยนะครับ จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง
จริงๆเจ้าของกระทู้พลาดเรื่องหลักไปนะครับ ตัวเลยที่แท้จริง คือ 6500 ล้าน US$ ไม่ถึงหลักหมื่นนะครับ
ที่มา Apple Special Event, October 2012
http://itstreaming.apple.com/podcasts/apple_keynotes/apple_keynotes.xml
http://www.apple.com/apple-events/october-2012/
ในลิ้งก็กล่าวไว้ว่า Apple said last week that it has paid $6.5 billion to developers since the App Store was introduced in 2008. นะครับ
ถ้าสถิตินี้จริงจะจริงในแง่ไหนเราต้องมาศึกษากัน และเป็นสถิติที่มีผลต่อการตัดสินใจอันมีใจความสำคัญ
ความน่าจะเป็นที่เป็นไปได้ จะสามารถบ่งบอกถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค ที่มีต่อApps โดย สิ่งที่น่าสนใจคือ Apps เหล่านั้นมีราคาที่เท่าไหร่ หรือเป็น Apps ที่สามารถสร้างรายได้ ซึ่งแม้ยอดรวมจะน้อยก็ตามก็น่าสนใจ เพราะเนื่องจาก แม้ ยอดรวมจะน้อย แต่ Apps จำนวนมากมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำ และ ผู้พัฒนาจำนวนหนึ่งก็ไม่ได้มีแรงจูงใจหรือความตั้งใจ (หรือด้วยศักยภาพที่จำกัด) ที่จะสร้าง Apps ที่มีค่าใช้จ่ายและสามารถดึงดูดผู้บริโภค สำหรับกลุ่มนักพัฒนาจำนวนนี้ ข้อมูลสามารถทำให้เกิดข้อสรุปสำหรับใช้ในการกำหนดทิศทางของตนเองในการตัดใจได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
สถิติและที่มา จัดไป http://www.blognone.com/node/37687
เดี่ยวนี้ ios ขายดีกว่า Android เฉพาะในส่วนของ tablet นะครับ มือถือ Samsung เจ้าเดียวก็มากกว่า iphone แล้ว
app บน ios มีข้อจำกัดที่มาจาก apple มากมาย เช่นหากจะขายของใน app ต้องจ่ายส่วยให้ apple และ app บางตัวที่ทำงานคล้ายกับ app ที่ apple กำลังจะทำหรือทำไปแล้ว ก็จะโดนกีดกันไม่ให้เกิด ร่วมกับพฤติกรรมบางอย่างของ apple เช่น price-fixing e-book ใน us ซึ่งทำให้ราคา e-book ของ amezon แพงขึ้นจนเท่ากับราคาที่ apple จะขายบน ipad ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ และทำให้มี free app น้อยบน ios
บน Android มี free app (ชึ่งบางทีก็เป็น AD-Support) มากถึง 2/3 อีก 1/3 เป็น pay app กลับกับ บน ios free app มีแค่ 1/3 อีก 2/3 เป็น pay app ไม่นับว่า pay app ส่วนหนึ่ง time exclusive ให้ ios ด้วย
รวมกับ ecosystem ของ apple ที่พยายามให้ลูกค้าผูกบัตรเครดิตกับ id ของตนเพื่อให้การซื้อ content ทำใด้ง่าย จึงไม่น่าแปลกใจที่รายรับรวมของ ios จะมากกว่า Android
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
กรณีมือถือ จำนวนมากและเรียกได้ว่าเป็นส่วนมากก็ว่าได้ ใช้ Android ที่ต่ำกว่า 4.X ซึ่งเครื่องเหล่านั้นจะเป็นเครื่องที่มีราคาถูก มีอยู่ 71.5%
ต่อมาจะเป็น รุ่นที่มีราคากลางซึ่งสามารถ ใช้ Android 4.0.3 - 4.0.4 ทั้งหมด 25.8%
ส่วนรุ่น TOP จะใช้ Android 4.1 มีเพียง 2.7%
http://www.androidauthority.com/android-versions-november-127879/
http://developer.android.com/about/dashboards/index.html
ตรงจุดนี้เชื่อว่าการทำ Apps ฟรี เน้นผู้ใช้บริการมากๆ ผมมองว่า Android เป็นทางเลือกที่ดีกว่า อย่างน้อยๆคือ ถ้าลง iOS ก็ควรลงใน Android ด้วย ซึ่งน่าจะได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าใน iOS ได้ เพราะโมเดลแบบนี้ยิ่งมีจำนวนมากจะยิ่งได้ผลประกอบการที่ดี
สำหรับการสร้าง Apps แบบเน้นสร้าง นวัตกรรมและประสบการณ์ในการใช้งาน ก็คงจะเน้นไปที่ iOS
ส่วน Apps ดังๆ ก็ควรลงทั้ง 3 OS ทั้ง Apple Google Microsoft ซึ่งเป็นการสร้าง Apps ของตนเอง ให้กลายเป็นมาตารฐานอุตสาหกรรม
ข้อความที่ว่า รุ่น TOP ของ Android ใช้ Android 4.1 มีเพียง 2.7% นั้นมั้วมากๆเลย
ตัว top สุดอยู่ที่ 2.7% จริงแต่หลายเครื่องยังไม่ใด้ update ไม่ว่าจะติดที่ operator หรือยังไม่ออกก็ตาม ตัวเลขที่ควรจะเป็น อยู่ระหว่าง 2.7 - 28.5% ต่างหาก
อีกอย่าง share ตรงนี้คือตัวเลขเมื่อเทียบกับทุกรุ่นที่เคยขาย ซึ่งก็ไม่แปลกอะไร ios ก็มีเครื่องเก่าที่ update ไม่ใด้และไช้งานอยู่
... สุดท้ายที่ ยอด App ของ Android ตามมาใด้ แปลว่า App ใหม่ลง Android แล้วเลือกที่จะไม่ลง ios ต่างหาก ...
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ยอด app ของ android เยอะกว่าไม่ใช่เพราะว่าทาง google ไม่ค่อยมีเงื่อนไขในการนำ app ขึ้น Store เหรอครับ แต่มันก็อาจจะมีผลเสียด้วยเพราะในจำนวน app ที่ขึ้นบน app store ยิ่งมากเท่าไรก็ยิ่งมี app ที่ไม่มีคุณภาพมากตามไปด้วย อย่างพวก app ที่ตั้งชื่อเลียนแบบ app ดังๆ ..
Google ไม่ค่อยมีเงื่อนไขในการนำ app ขึ้น store ครับ
app ที่มีคุณภาพจริงๆ ส่วนใหญ่จะลงทั้ง 2 os (บางทีก็มากกว่า 2) เพราะมีงบเยอะ
ถัดมาจะเป็น pay app ซึ่งทาง ios จะมีมากกว่า ตามมาด้วย free app ที่ android มีมากกว่า เรื่องคุณภาพยังไงก็ต้องให้ pay app เพราะมีค่าไช้จ่ายซึ่งเป็นเรื่องปรกตินิครับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ICS 25.8% มันเป็นรุ่นกลางถึงรุ่น TOP
แต่โดยทั่วไปรุ่น TOP ก็มีระบบการติดตั้งไปสู่ Jelly Bean กันแล้ว เพื่อให้ง่ายต่อการนับสถิติในเบื้องต้น จึงใช้วิธีนี้ เพราะ คาดว่าเครื่องที่สามารถลง Jelly Bean ได้ เกือบทั้งหมดเลือกที่จะลง อันนี้เป็นวิธีการที่มีไม่มากนัก ณ เวลา เพื่อจะสำรวจรุ่นในตลาด Android นอกจากการรวบรวมข้อมูลการจัดจำหน่าย
iOS ปัจจุบันมีแค่รุ่น ที่ 1 -2 เท่านั้นที่ไม่สามารถลง iOS 6 ได้ ถ้าจะนับดูจำนวนรุ่น ก็จะเป็นตั่งแต่รุ่นกลางเป็นต้นไป เพราะ iPhone รุ่นแรกที่เปิดตัว 2007 กับ iPhone3G ปัจจุบันถือว่าเป็นรุ่นล่างไปแล้ว
แต่การนับจาก สถิติ มีปัจจัยที่ทำให้คาดเคลื่อนมาก จึงควรดูจากข้อมูลการจัดจำหน่าย ซื้อข้อมูลนี้ไม่ได้มีเปิดเผยโดยทั่วไป
จำนวน Apps ของ Android เป็นตัวเลขที่น่าสนใจมากว่า เป็น Apps ที่ซ้ำกับ iOS เท่าไหร่ และไม่ซ้ำเท่าไหร่ คุณลักษณะของ Apps เป็นอย่างไร และเมื่อเปรียบเทียบคุณภาพของ Apps ตลาดไหนดูน่าสนใจสำหรับผู้บริโภค และผู้บริโภคกลุ่มไหนที่มีความสนใจซื้อ Apps ที่มีคุณภาพ ครับ
Quality Please...
700,000 นี่รวมพวก Themes ของ App พวก Go ทั้งหลายและพวก Extension ของ App ไปด้วยแล้วใช่ไหม?
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
รอดูว่าขาประจำจะมารึยัง
ไม่เอา ไม่ดื้นไม่ข่าวนี้ -0-
บางแอพบน Android จะมีโฆษณา แต่บน iOS ให้ซื้อ (ไม่มีโฆษณา) วิธีหารายได้แตกต่างกัน
แอพจั้ง แอดแวร์ทั้งนั้น
ใช่ครับผมเองโดนมาแล้ว ไปโหลดแอพอะไร sexy sexy เนี่ย โดนเลย
ใช่ครับ หยุดแข่งปริมาณเหอะ ขอคุณภาพได้ใหม ปรับระบบหรือ store ให้ดีด้วย จะดีมาก
Paid app ผม 10 อันดับแรกซื้อเกือบหมด(จริงๆเกิน 10 นะ) มานานมากแล้ว อยู่ยังไงก็อยู่ยังงั้น จำนวนเพิ่มขึ้นทุกวันๆ แต่มีแต่ App เดิมๆที่ติดอันดับ
ผมเข้า droid-life กะ xda บ่อยๆ น้านนนนน จะมีเกมเทพมาลง ขึ้นข่าวซะใหญ่โต - -'
Free app ไม่ต้องพูดถึง
ปล.สมัน ios โหลด app เยอะมาก ทั้งฟรี ทั้งซื้อ มี app ใหม่ๆเยอะ อัพเดตบ่อย น่าสนใจกว่าตรึม
อ่อ อีกอย่าง ว่าจะถามผู้รู้นานแล้ว Store android ไม่มีให้คอนเฟิร์มตอนซื้อ app เหรอครับ หรือว่ามันเซตตรงไหนเพิ่มได้บ้าง กด 2 กริ๊ก ซื้อได้แล้ว ใครมาเล่นเครื่องกดซื้อ app แพงๆ ห่วยๆ มีน้ำตาไหลกันบ้าง
เห็นด้วยเรื่อง app ของ iOS น่าสนใจกว่า
ยอมรับว่าตั้งแต่เปลี่ยนมือถือมาใช้ iPhone ผมเสียเงินซื้อทั้ง app และเพลง รวมๆ กันมากกว่าสมัยใช้ android เยอะเลย :-)
กดซื้อพลาดขอคืนเงินได้ครับ
แหม ที Apple ใช้จำนวน apps มาเป็นจุดขายได้
พอแอนดรอยด์ทำมั่งมาบอกว่าให้ไปดูกันที่คุณภาพทันที
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ถ้าเป็นผมก็ทำอย่างนั้นอยู่แล้วแหละครับ เพราะ App บน Android มีแต่ App ที่ซ้ำซากใช้ทำๆ พอขาย (โดยประสบการณ์ส่วนตัวนะ (เพราะผมก็ใช้อยู่)) โดยเท่าที่เห็น App บนอุปกรณ์ iOS มันดีกว่าเห็นได้ชัดครับ โดยจุดขายเดิมคือ มี App เยอะที่สุด และแต่ละ App มีคุณภาพ แต่โดน Android แซง ก็คงต้องเปลี่ยนๆ กันไป
มันก็ชัดเจนนะครับ ขนาดผมเทียบแอพ iPad กับแอพมือถือ Android เลยนะต่อให้สุดๆ ละ
ส่วนนึงก็เพราะระบบนำ App ขึ้น Chart ของ GG มันห่วยด้วยแหละมีแต่ของเดิมๆขนาดมี Top New Top Gross มาช่วยแล้วนะ
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)