By: toandthen 
on 6 December 2012 - 01:34
Tags:
Topics:
ผลการสำรวจของ Canalys เผยว่านักพัฒนาแอพมือถือเพียงแค่ 25 รายบนแพลตฟอร์ม iOS และ Android ทำรายได้จำนวน 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยจำนวนนี้ถือว่าเป็นจำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่งของรายได้จาก App Store และ Google Play ทั้งหมดในช่วงเวลาเดียวกันที่ทำการสำรวจ
ส่วนใหญ่แล้วกลุ่มนักพัฒนาที่ได้รับรายได้สูงจะเป็นกลุ่มผู้ผลิตเกมเสียส่วนใหญ่ เช่น Zynga, EA, Disney, Rovio, Glu และ Gameloft แต่ Pandora เองก็ติดโผได้รับรายได้สูงเช่นกัน
นักวิจัยตลาดของ Canalys นาย Tim Shepherd เผยว่าปัญหาที่ใหญ่ที่สุดสำหรับนักพัฒนาคือการทำให้แอพตัวเองถูกพบเจอได้ง่ายทั้งบน App Store และ Google Play เนื่องจากจำนวนแอพในตลาดที่เยอะมาก ๆ และแม้ว่าแอพจะมีคุณภาพดี แต่ก็ยังเป็นไปได้ยากที่แอพเหล่านี้จะได้รับความสนใจที่คู่ควรกับคุณภาพของแอพนั้น ๆ
ที่มา - Slashgear
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
จริงครับ จะหาแอพดีๆสักแอพ เหมือนงมเข็มหมุดทองในกองขยะ
ผมว่าหลายธุรกิจก็ไม่ต่างจากนี้นะ ลงทุนมากได้มาก
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ก้อทำ app ออกมาให้ดีกว่าพวกนี้สิครับ app คุณเจ๋งจริง เดี๋ยวเราก้อโหลด
แนวโน้ม มันต้องมาจากชื่อเสียงก่อนนะครับ หรือไม่ก็ต้องทำแบบ blognone คือสร้างกระแสให้ได้ในประเทศนึงก่อน(ยอดขาย) เพื่อดันผลงานตัวเองขึ้นไปในระดับโลก เพราะคงมีไม่กี่รายที่ทำ app แล้วจะมีศักยภาพไปเปิดตัวในต่างประเทศเหมือนของค่ายสามย่าน
ผมว่าไม่เกี่ยวนะ เพราะบริษัทพวกนี้ส่วนใหญ่ทำเกมครับ
Apps อื่นๆ เขาทำแนวใช้งานราคาถูก ถ้าคัดมาในด้านคุณภาพก็ดีมากครับ แล้วคิดว่าคนส่วนใหญ่ซื้อมาทำอะไร? เล่นเกมถูกต้องครับ... แถมเกมต้องมีคนเล่นด้วยหรือมีชื่อเสียงพอสมควร
แถมเกมก็แพงกว่า Apps ใช้งานด้วย คงรู้แล้วว่ารายได้ทำไมถึงมากกว่า
ถ้าบริษัทพวกนี้ได้รายได้น้อยกว่าคนทำแค่กลุ่มเล็กๆ ก็คงไม่มาเปิดบริษัท
ผมกลับไปอ่านที่มา มีอีกอันที่ผลบอกว่ากว่า 2 ใน 3 ของแอพไม่เคยถูกดาวน์โหลดเลยเพราะไม่ถูกค้นพบโดยผู้ใช้บน App Store และ Google Play
ต่อให้ทำแอพดีเทพแค่ไหน ถ้าไม่มีคนหาเจอมันก็เท่านั้นครับ
สุดท้ายก็ต้องมีต้นทุนเพิ่มอีกในเรื่องประชาสัมพันธ์ นักพัฒนาแอพอิสระใหม่ๆ นี่ค่อนข้างลำบากเลยทีเดียว
เรื่องค้นหานี้สำคัญมากเลยปัจจุบันเรื่องค้นหา Apps ทำได้ลำบากแถมตัวพิเศษก็ใช้ไม่ค่อยได้หรือ Apps ที่เป็นภาษาต่างประเทศก็ไม่รู้จะทำยังไง
ของดีย่อมขายได้เป็นแนวคิดที่ล้าสมัยแล้วครับ แน่นอนว่าของที่จะขายได้ต้องดี แต่ไม่ใช่ว่าของดีทุกชิ้นจะขายได้
สมัยนี้ไม่ได้แข่งกันแค่คุณภาพแล้วครับ ผมเห็นของดีๆหลายอย่างที่เจ๊งไปเพราะคิดแบบนี้ แต่ของที่ห่วยกว่าขายได้เพราะระบจัดการ/การตลาดที่ดี
line ผมซื้อสติ้กเกอร์ไปตั้งหลายอัน
เป็นปัญหาที่น่าสนใจ เพราะว่า App ที่อยู่บน shelf Top chart ที่หาเจอได้ง่าย ก็แค่ไม่เกิน 50-100 apps, นอกจากจะเป็น apps เฉพาะทางที่คนจงใจหาจริงๆ ซึ่งฐานลูกค้าแคบกว่า App ปกติ, หรือว่าได้รับการโปรโมตอย่างดีจริงๆ ต่อให้ดีแค่ไหน, ทำการตลาดไม่ดี ก็นิ่งอยู่ดี
คงเพราะเกมมันเหมือนของที่ใช้แล้วหมดไป ซื้อมาเล่นจบก็โหลดเกมใหม่มาเล่น หรือบางทีซื้อมาดองทีละ 5-6 เกม ในขณะที่โปรแกรมประเภทอื่น ๆ คงน้อยที่จะมีใครใช้หลายตัวพร้อม ๆ กันจริง ๆ และยังมีคนอีกบางกลุ่มที่โทรศัพท์ของเค้ามันโอเคแล้วไม่จำเป็นต้องไปหาแอพอะไรมาเพิ่มยกเว้นเกม
ต่อของดีแค่ไหนถ้าไม่ทำ Marketing เลยจะไปขายได้อย่างไร
+1 ครับ
แล้วนักวิจัยตลาดเขาก็บอกว่า เห็นมั้ยคุณต้องใช้บริการผม อิอิ
True Story เพราะว่าตอนนี้มันก็อยู่ไม่กี่รายจริง ๆ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
Marketing เป็นสิ่งสำคัญมากๆพอๆกับ feature หรือ design ของตัวแอพครับ ต่อให้แอพมันมีฟีเจอร์งั้นๆแต่ถ้าเจอ marketing ขั้นเทวะก็ย่อมขายได้ดีกว่าแอพที่เขียนดีมากแต่อยู่ในหลืบเงาใต้หินโสโครกในมหาสมุทรแอพอยู่ดี