iFixit จับแท็บเล็ต Windows 8 Pro จากไมโครซอฟท์ Surface Pro มาแกะเครื่องดูการประกอบ และชิ้นส่วนภายในเรียบร้อยแล้ว โดยได้รายละเอียดเพิ่มเติมมาดังนี้ครับ
จากการแกะเครื่องอย่างยาวนาน iFixit ให้คะแนนการบำรุงรักษา Surface Pro เพียง 1 คะแนนจากเต็ม 10 (ยิ่งมากยิ่งดี) นอกจากจะน้อยกว่า Surface RT ที่ได้ 4 คะแนนแล้ว ยังน้อยกว่าแท็บเล็ตรุ่นอื่นๆ เกือบทั้งหมดอีกด้วย เหตุผลที่คะแนนต่ำแบบนี้มาจากการใช้กาวในหลายส่วนของการประกอบ และมีน็อตตัวเล็กๆ อยู่เยอะมาก (นับได้ประมาณ 90 ตัว) รวมถึงความเสี่ยงในการเปลี่ยน SSD อีกด้วย
ที่มา - iFixit
Comments
ใครบำรุงรักษา ซ่อม อัพเกรด tablet เองยกมือขึ้นนนน ^ ^
O/
หมดประกันแล้วผมเองก็ทำครับ มือถือ Smartphone, Notebook, ทีวี, ไมโครเวฟ ก็ซ่อมเอง ถ้ามันไม่เหลือบ่ากว่าแรง
ที่นี่ชุมชุน Geek นะครับ
ถึงจะซ่อมเองไม่ได้ แต่ถ้าซ่อมยาก = ค่าซ่อมแพง หรือไม่มีใครรับซ่อม ต้องเข้าศูนย์อย่างเดียว มันคนไม่สวย
ผมครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
แทบเลตนี่ไม่เคยเพราะยังไม่พัง แต่ถ้ามือถือถัาแกะไม่ยากผมซ่อมเองนะ เคยใช้ Bold 9000 แกะง่ายมาก เปลี่ยนจอเปลี่ยนคีบอร์ดเอง อะหลั่ยก็ไม่แพงคือถ้ามันแกะง่ายผู้ใช้ก็ทำเองได้แหละครับ
ผมแกะได้แค่ระดับน๊อตนะ ถ้าเริ่มมีกาวเข้ามาเกี่ยวข้องนี้คงต้องพึ่งช่าง เพราะไม่มีอุปกรณ์
ผมว่าเจ้าตัวนี้ต้องเป็นข้อยกเว้นแน่ๆ
ผมเชื่อว่าต่อไปคงมีเครื่องมือพิเศษมาแก้ปัญหานี้
เพราะการแกะเป็นงานของ Geek
ยกขาหน้าด้วยคน
Shut up and ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ raise your dongers ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ
ขนาด iFixit ยังแกะพัง ช่างบ้านเราจะไหวมั้ยนะ?
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
อ่านแล้วนึกถึงเรื่องนี้เรื่องแรกเหมือนกัน ขนาดแกะเนียนแบบ iFixit ยังแกะพังได้ - -
นั่นสิ.. ขนาดจอมถอดยังทำพัง แล้วอย่างเราจะเหลือเหรอ..
คงเป็นเครื่องแรกครับ แบบว่าไม่เคย ต่อไปก็คงคล่อง
คือทำพังน้อยลง :P
ถ้าถอดเปลี่ยนได้นี่ เราสามารถเปลี่ยนจากรุ่น 64 เป็น 256 ++ ได้มั้ย ;w;
เหมือนจะทำได้แต่ราคาก็.... มันจะกลายเป็น tablet แพงมากไปเลยทีเดียว
อาจจะได้ ดูแล้ว SSD เป็น m-Sata ธรรมดา
เช็คราคาแล้ว intel SSD 525 240GB (สูงสุดของซีรี่ส์นี้) อยู่ที่ $279 แต่ขายบ้านเราคง +30% ก็คำนวนเองนะครับว่าเท่าไหร่
มีชิบลองรับปากกาของ Wacom นี่ แล้วทำไมถึงไม่ลองรับ pressure sensitivity โหมดใน Photoshop ละ?
ปัญหาอยู่ที่ไดรเวอร์กับความเข้ากันได้ของซอฟท์แวร์ครับ
ปล. รองรับ
pressure sensitivity ใช้ API ของ Microsoft เองครับ คิดว่า PS ยังไม่รอบรับในจุดนั้น
1 เต็ม 10
งานนี้ iPad ชิดซ้าย เห็นใน Comment บอกว่า iFixit ไม่เคยแกะเครื่องแล้วพังมาก่อน ถ้า iFixit ทำพลาด ผู้ใช้ทั่วไปจะไปเหลืออะไร
แต่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องติดกาวเยอะขนาดนั้น เห็นว่าเยอะอีกทีก็ตรงแบต แต่ตรงจุดนี้มองดูแล้วน่าจะเป็นเทปกาวสองหน้า
เหลือซากราคาเกือบ 3 หมื่น >_<
เพื่อความรู้สึกแน่นหนา
เห็นไส้ในแล้วไม่น่าดูเลย
ของแอปเค้าดูดีตั้งแต่ใส้ในยันข้างนอก
น๊อต 90 ตัว... ขันกันเล้าพังเลย
ไม่ใช่ไก่!
ฮา ...
ฮาด้วย
55555+
สตั๊นไป 1 วิ ไม่ตบมุขนี่ผมแย่เลยนะเนี่ย 5555555
เมื่อกลางวันอ่านที่ทำงานไม่เข้าใจ เพิ่งมาฮาเอาตอนก่อนนอนนี่เอง
ฮาข้างบนแล้วฮาคอมเมนต์นี้ต่อ ฮาได้อีก ฮ่าๆๆ
อ่านมาสองวันเพิ่งเข้าใจ -*-
เกือบไม่เก็ท = =
ฮาาาา ไก่
ไม่เห็นมีใครบ่นว่าใล้กาวเลย... อิอิ
เป็นไอแพดนี่เห็นว่าหนักถึงขั้นเป็นขยะมีพิษทำลายโลกเลยนะ
อัตราส่วนการทำลายโลกยังต่างกันเยอะครับ iPad ขายดีกว่าเยอะ แถมพอได้รู้ว่า surface เน้นทำลายโลกเหมือน Apple ทำ คือเน้นความสวยงามของตัวเครื่องเพื่อให้ขายเครื่องได้เยอะ ๆ (แต่ก็ไม่สวยเท่าอีก) ทำกำไรให้บริษัทอย่างเดียวโดยไม่คิดถึงโลกและคนรุ่นหลัง ทำให้ผมเริ่มไม่พอใจกับการกระทำของ M$ และหมดความอยากได้ surface ไปเลย
ผู้ที่มีความรู้ด้านไอทีก็ไม่ควรสนับสนุนการกระทำประเภทนี้เลยครับ เพราะเป็นผู้มีการศึกษาก็ควรสนใจเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ทุกมหาวิทยาลัยน่าจะมีสอนน่ะครับ ชาวไอทีก็เป็นผู้รู้ในเรื่องการกระทำของบริษัทเหล่านี้ดีก็ควรเป็นปากเป็นเสียงบอกเล่าต่อบุคคลธรรมดาที่ไม่มีความรู้ให้ระลึกถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรและการนำกลับมาใช้ใหม่ด้วยน่ะครับ
เน้นความสวยงามของตัวเครื่อง เป็นการทำลายโลกยังไงครับ แล้วถ้าตัวเครื่องไม่สวยงามแต่ขายได้เยอะ นี่ก็ทำลายโลกด้วยหรือเปล่าครับ?
ไม่เข้าใจว่าเน้นความสวยงามแล้วไปเกี่ยวอะไรกับทำลายโลก เกียวอะไรกับ กาวหรือว่าน๊อต หรือเปล่า?
หมายถึง re-use ไม่ได้ครับ ถ้าชิ้นส่วนถอดง่าย ก็สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้มากกว่า ทำให้สูญเสียทรัพยากรน้อยลง ทำลายโลกน้อยลง
ผมว่ามันยากมากนะกับการ re-use สำหรับอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์และที่สำคัญอุปกรณ์สำคัญหลายๆ ส่วนมักจะมาพร้อมกับการเสื่อมดูแล้วไม่น่าจะเอามา re-use ได้ส่วนที่เป็นเหล็กหรืออลูมิเนียมต่างๆ เช่นเคสตรงนี้ผมก็มองว่ายากเช่นกันเพราะเทคโลโลยีไปไวรุ่นใหม่ออกมาเอาเคสเก่าไปใส่ก็ไม่น่าจะได้(ยกเว้นเจ้านึงชอบทำผลิตภัณฑ์ทรงเดิมขนาดเดิมออกมาขาย :p ) แต่ถ้าเป็นเรื่อง recycle ตรงนี้ก็่ว่าไปอย่าง
ใช่แล้ว MS แย่มาก
แกะยาก ทำให้มองว่า การประกอบก้ยากด้วย
เป็นการเพิ่มต้นทุนนะครับนั่น...
ด้านการออกแบบ ยิ่งชิ้นส่วนเยอะๆ แบบนี้ อาจจะทำให้ต้นทุนเพิ่ม.
น่าจะลดต้นทุนมากกว่ามั้ง ไม่ต้องทำบล๊อก อะไรใหม่ๆเป็นเฉพาะรุ่นๆ หาอะไรที่มีอยู่แล้วเอาใส่ๆยัดๆมากกว่า
ถ้าไม่มีขายในไทยนี่เวลาเสียทีเราต้องไปส่งซ่อมที่ต่างประเทศหรือเปล่าอะครับ?
งานประกอบภายในเทียบความเนี๊ยบกับ iPad ไม่ได้เลยแฮะ
That is the way things are.
มันคือ notebook เลยนะท่าน ผมว่าก็เรียบร้อยมากแล้วละครับ
Macก็น่าจะเรียบร้อยกว่านี้ครับ=..=
ขนาดล่ะครับ
Blog | Twitter
Mac Mini ก็เรียบร้อยดีนะครับ
ผมว่าตัวนี้อยู่ระหว่างความเรียบร้อยกับอัดจนเละ ไม่รู้จะพูดยังไงดี วิศวะ Apple เห็นยังอึ่งแม่งอัดเข้าไปได้ตอน Macbook Pro Retina ใช้กาวแค่นิสสเดียวด่าตูซะยับ ไอนี้มันโคตรเจ้าพ่อกาวชอบกันจริงรักโลกกันเหลือเกินพวกนี้ :P
ถ้าลองแกะ Notebook ยี่ห้ออื่นดูจะอึ้งกว่านี้ครับ
my blog :: sthepakul blog
โอ้พระเจ้า แบตให้มาน้อยมากผิดคาดไว้เยอะเลย แค่ 5676mAh ของ iPad 3/4 เป็นหมื่น
ดูความจุแบตถ้า Volt ไม่เท่ากันดู Wh ครับ
iPad with Retina 3.7V - 43Wh
Surface Pro 7.4V - 42Wh
ผมว่า mAh ก็คือๆ milli ของ Wh นะครับ
Watt (DC) = Volt x Amp
mAh = milli Ah ครับ
Wh = V x Ah
มั่ว...
Ah = Amp-Hour
Ah เป็นหน่วยที่เหมาะสมในการใช้กับแบต เพราะแบตจะจ่ายไฟโดย V ไม่คงที่ ตามอุปกรณ์ต้องการ
ครับ ขอบคุณครับ ขอไปศึกษาดูอีกที ผมก็ไม่ได้ชัวร์มากครับ
แต่ ผมว่ามันก็ใช่นะครับ
แบตจ่าย V คงที่ครับ (จริงๆแล้วค่อยๆลดลงตามประจุไฟฟ้าที่เหลือ แต่ไม่ใช่ตามที่อุปกรณ์ต้องการ) แต่ A ไม่คงที่ (คือจ่ายตามที่อุปกรณ์อยากจะใช้)
จ่ายโดย V ไม่คงที่นี่ไม่ธรรมดานะครับ เครื่องจ่ายกระแสคงที่นี่หายากกว่าเครื่องจ่ายแรงดันคงที่มากมายนัก ตั้งแต่ผมจบปวช. อิเล็กมาผมไม่เคยเห็นอีกเลย แล้วตลอดการเรียนก็ใช้อยู่ไม่กี่ครั้งด้วย ถ้าจะไม่ใช้ก็ต้องเอาสายไฟลัดวงจรทิ้งไว้ให้กระแสสามารถไหลผ่านได้ตลอด พลังงานต้องสูญเสียตลอด หรือถ้าหมายถึงปรับ V ไม่คงที่เฉย ๆ A ปล่อยตามบุญตามกรรมนี่ผมก็ขอโทษด้วย
และเท่าที่ทราบ การจ่ายไฟฟ้าออกจากปฏิกิริยาทางเคมีทุกชนิดจ่ายเป็นชนิดแรงดัน (ค่อนข้าง) คงที่ครับ
Ah มันก็คือหน่วยที่บอกว่า ถ้าจ่ายกระแสคงที่ ที่ A นั้น ๆ แล้วจากแบตเต็ม ๆ เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงจะพบว่า V ลดลงถึงจุดที่ไม่ให้ใช้งานต่อ หรือที่เรียกว่าแบตหมดนั่นแหละครับ
ทีนี้ ถ้าในแบตของอุปกรณ์เรามีแบต 3.7 V 650 mAh สองก้อน มันก็ออกมาได้สองแบบคือต่ออนุกรมเป็น 7.4V กับต่อขนานกันเป็น 3.7 V เหมือนเดิม ซึ่งถ้าต่ออนุกรมเราจะได้ความจุ 650 mAh เท่าเดิม แต่หากเราต่อขนาน เราจะได้ความจุ 1,300 mAh ครับ ซึ่งเวลาไปใช้งานจริงระยะเวลามักจะออกมาต่างกันไม่มากเนื่องจากวงจรอิเล็กทรอนิกส์แต่ละจุดใช้แรงดันเฉพาะ ไม่ว่าจะมาเท่าไหร่ก็มักจะมีการแปลงแรงดันให้เหมาะสมกันอยู่แล้ว ซึ่งเมื่อแปลงแรงดันแล้วกระแสที่ไหลผ่านก็จะเปลี่ยนเช่นกันแต่กำลังไฟฟ้า (Watt) จะไม่เปลี่ยนครับ (ไม่นับค่าสูญเสียพลังงานที่การแปลง) อย่างเช่นเราวัดกระแสไหลผ่านที่ขาออกแบต 3 V ได้ 1 A พอเราไปวัดตรงจุดที่แปลงแรงดันเหลือ 1.5 V แล้วเราจะวัดกระแสได้ 2 A ซึ่งจะได้ P = 3 W เหมือนเดิม (3V x 1A กับ 1.5V x 2A)
ดังนั้นเวลาใช้งานจริง (กับอุปกรณ์เดียวกัน แต่รองรับแบตคนละแรงดัน) จะพบว่าเครื่องที่ใช้แบต 3.7 V ใช้กระแสมากกว่าเครื่องที่ใช้ 7.4 V ราวเท่าตัว ทำให้เมื่อคิดกำลังออกมาวัตต์จะเท่า ๆ กันครับ
ผมจะไม่สรุปว่าบอกเป็นหน่วยไหนเหมาะสมกว่าหน่วยไหน เพราะแต่ละอย่างมันก็มีข้อดีของมันถึงได้มีคนใช้ทั้งสองอย่างนั่นแหละครับ
ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล
พอดีเคยอ่านเรื่องคำนวนพลังงาน เคยเห็นให้ใช้อินทิเกรต V I อะไรนี่แหละ จำไม่ได้แล้ว
เลยคิดว่า V ที่ปรกติจะเปลี่ยนเล็กน้อย (เป็น mV) อยู่ตลอดเวลา จะมีผลต่อค่าพลังงานด้วย
อ้อ ผมขอแถมเรื่อง Ah = Amp-Hour อีกนิด
Ah = Amp-Hour ถูกต้องแล้วครับ แต่กระแสก็คือกระแส จับคูณแรงดันมันก็กลายเป็นกำลังอยู่ดี
Power = Voltage x Ampere
Power-Hour = Voltage x Ampere-Hour
ขอบคุณครับ
มันก็คือ Pt=IVt ใช่ป่ะครับ?
ใช่ครับ ถ้าเป็น Volt-Hour ของเครื่องจ่ายกระแสนี่คิดว่าน่าจะเหมือนกัน แต่ถ้าเกิดโผล่มาเป็น Volt-Hour x Ampere-Hour นี่ผมก็ไม่รู้แล้วนะ (แล้วมันจะมาจากไหนได้ - -")
รถบินได้เป็นแบบนี้นี่เอง
ที่เห็นเป็นดวง ๆ นี่รอยไหม้หรือเปล่า :)
ผมว่าเป็นสีมากกว่า จริงๆน่าจะทำให้ดำหมดเลยนะดูเรียบร้อยกว่าเยอะ
หรือว่าเป็นรอยตัดโดยใช้ความร้อนเผาเลย หรือเปล่าหว่า
ใน iFixit บอกว่าน่าจะเป็นสีพ่นเป็นฉนวนในจุดที่เสี่ยงจะเกิดการสัมผัสระหว่างแผงวงจรกับฝาหลังที่เป็นโลหะ
เขาไม่ได้ทำมาให้เราถอดอยู่แล้วนิครับ เสือกดันมาถอดมารื้อของเขา แล้วมาว่าๆทำมาให้ถอดยากให้คะแนนน้อย มันใช่เรื่องหรือป่าวเนี่ย
ผมว่าให้แกะ ซ่อม เปลี่ยนได้ง่าย ยิ่งดีนะครับ อายุการใช้งานยิ่งมาก ก็ยิ่งดี เป็นการลดขยะอิเล็กทรอนิกด้วย
โอ้ว ออกตัวแรง สงสัยอะไรที่บ้านพังก็โยนทิ้งซื้อใหม่หมดสินะ ขยะอิเล็คโทรนิกส์มันเป็นปัญหาอยู่นะครับ แค่คนทั่วไปยังไม่ตระหนักเท่านั้น
edit: เพิ่มเติมอีกหน่อย concept ของเว็บเขาคืออยากให้ทุกคนซ่อมเองเป็นครับ และในแง่ธุรกิจ เขาก็ขายอุปกรณ์ซ่อมบางอย่างไปด้วย (แต่คู่มือซ่อมเปิดให้ดาวน์โหลดฟรี ๆ)
ในอีกแง่หนึ่ง ต่อให้ไม่ได้อยากจะซ่อมเอง เอาไปส่งศูนย์หรือร้าน เขาก็ต้องแกะออกมาด้วยวิธีที่ไม่ต่างกัน ถ้ามันแกะยาก นั่นแปลว่าคุณจะรอนานขึ้น เพราะวินิจฉัยอาการยากขึ้น เปลี่ยนของนานขึ้น ใส่กลับเหมือนเดิมยากขึ้น แถมยังมีโอกาสเสียหายเพิ่มอีกต่างหาก
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ถ้าหมดประกันค่อยว่ากันอีกที
แต่ถ้ายังอยู่ในประกันแต่ยังทำลึ่งไปแกะพังเองถามหน่อย MS มันผิดมั้ย
ถ้ายังอยู่ในประกัน พนักงานของ MS มันแกะพัง MS มันก็ต้องรับผิดชอบเองอยู่แล้ว เสือกทำมาถอดยากประกอบยากเอง
แล้วประกันมันจะมีไว้ทำขี้เกลือไรล่ะครับ หรือสำหรับท่านๆทั้งหลายมันแค่เศษกระดาษแถมมาในกล่องเฉยๆ
เอ่อ ใจเย็นๆครับ
ประกันแค่ 1 เองนะครับ อุปกรณ์ไอทีส่วนมากจะไปป่วยตอนประมาณ 2 ปีขึ้นไป ดูแลรักษาซ่อมง่ายก็เป็นอีกปัจจัยที่ควรมองหากใช้ระยะยาวนะครับ แต่ถ้าคุณใช้ระยะสั้นๆเงินเหลือๆคิดแบบคุณก็ไม่ผิดหรอกครับ
ประกันหมด>>เสีย>>ทิ้ง ?
อยู่ในประกัน>>เสีย>>ส่งศูนย์
หมดประกัน>>เสีย>>ซ่อมเอง (เสี่ยงสูงแต่ไม่มีประกันทำไงได้ ก็ต้องลุ้นกันไป)
บ้านผมไม่รวยก็ต้องทำยังงี้แหละ
จริง ๆ มันอาจจะเป็นแบบนี้ ...
ถามว่า เสียแล้วเปลี่ยนเครื่องใหม่แล้วไม่ขาดทุนเหรอ ... ผมคิดว่าน่าจะมีการบวกเปอร์เซ็นต์ราคาเครื่องเปลี่ยนลงไปในเครื่องเดิมไปแล้วครับ เหมือนกับเราซื้อแค่เครื่องเดียว แต่จ่ายไปในราคา 1.2 เท่า-1.5เท่าของราคาเครื่องที่แท้จริง เป็นการซื้อเครื่องอะไหล่ล่วงหน้าน่ะ
หมดประกัน>>เสีย>>ซ่อมเอง (เสี่ยงสูงแต่ไม่มีประกันทำไงได้ ก็ต้องลุ้นกันไป)
ก็นั่นไงเขาถึงให้ 1 แล้วมันผิดตรงไหน? แล้วย่อหน้าสุดท้ายที่ผมเขียนล่ะได้ดูไหม? มันอาจส่งผลไปถึงระยะเวลาในการซ่อมด้วย หรือคุณยินดีที่จะให้เครื่องเข้าศูนย์นาน ๆ แถมบางอย่างเปลี่ยนไม่ได้ (เพราะแกะแล้วจะพัง) เขาอาจเสนอให้คุณซื้อเครื่องใหม่แทน (ในราคาที่ถูกลง) ทั้ง ๆ ที่มันเสียแค่นิดเดียว คุณก็โอเค?
บ้านผมก็ไม่รวยครับ เวลาซื้ออะไรก็อยากได้อันที่มันไม่มีค่าใช้จ่ายแฝงตามมาเยอะ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ถ้าเถียงกันต่อเด่วอาจจะจบจบด้วย "ซื้อแล้วทิ้ง ซื้อๆๆๆแล้วทิ้ง บ้านรวย อย่าเ-ือก"
เลื่อนไปอ่านท้ายเว็บเขาก็ดีนะครับ จะได้รู้ว่าเขาทำธุรกิจอะไร เว็บก็ออกจะดังนะครับ
อ่านเถอะนะ please
ตลกครับ คุณไม่ได้เข้าใจในเนื้อหาของข่าวเลย
เว็บนี้เค้าให้ข้อมูลเรื่องการซ่อมอุปกรณ์ต่างๆ เค้าจึงให้คะแนนเพื่อให้คนติดตามรู้ว่ามันซ่อม แกะ เปลี่ยน ยากง่ายแค่ไหน ไม่ใช่เห็นเว็บนี้ซ่อมได้ พอไปทำเองยิ่งพังทำไง ใครชำนาญแค่ไหนจะได้ประเมินตัวเองก่อนซ่อมตาม
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
อยากรู้ตอนช่าง ของศูนย์ MS เอง จะซ่อมแล้วประกอบกับได้เหมือนเดิมดีแค่ไหนกันเนี่ย
ศูนย์น่าจะใช้วิธีเปลี่ยนเครื่องใหม่ไปเลยครับ
ถ้าจอผมร้าว จะเอา SSD ตัวเดิมนะ (- -)d
+1
นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก
ถ้าวันหนึ่งเราต้องการกู้ข้อมูลในเครื่อง
แล้วเสี่ยงทำเครื่องพังขนาดนี้
ผมคงไม่เสียงใช้อ่ะ
น่าจะ Ghost ได้?
ถ้าเครื่องผมจอร้าว เอา Surface มาต่อจอนอก คีย์บอร์ด เมาส์ และ DVD-drive บูทโปรแกรม Ghost ใส่ ext-HDD แล้วก็สลับมาเครื่องใหม่ Ghost กลับลงไปหรือครับ? ถ้า USB ผมไม่พังหรือมีปัญหาอย่างอื่นจนบูตไม่ขึ้นเลยก็ยอมรับได้อยู่นะครับ
ผมหมายถึงทาง M$ อาจจะทำให้ได้ในกรณีที่มีคำร้องขอไปโดยใช้โปรแกรมเฉพาะทาง เพราะดูแล้วยังไงๆก็เปลี่ยนใหม่ัทั้งเครื่องง่ายกว่าเทรนพนักงานให้แกะได้โดยไม่พัง
ปล.ขอโทษฮะเขียนสื่อไม่ชัดเจน
ผมก็หมายถึงไมโครซอฟท์ทำให้นี่แหละครับ จริงๆ ของเค้าไม่ได้ต่างจากเราขนาดนั้นนะครับ
คิดว่าตัวโปรแกรมจะสะดวกกว่าขั้นตอนที่ว่าซักเล็กน้อยแหละครับ
สมัยนี้ส่ง notebook ไปซ่อม กลับมาข้อมูลยังสูญเลยครับ
ถ้าเอา SSD ตัวเดิมนี่ผมว่าถอดก่อนส่งดีกว่านะ (แต่ถอดปุ๊บหมดประกันปั๊บนะ)
รุ่นน้องผมเคยมีประเด็น DVD ของ Notebook พังเลยส่งซ่อมศูนย์ วันไปรับเครื่อง พนักงานศูนย์มาถามว่า Back up ข้อมูลไว้รึเปล่า? ตัว HD พังด้วยเลยเปลี่ยนตัวใหม่ให้ด้วยเลย...(บอกนี่จะให้ดีใจหรือเสียใจดีครับ) โวยกันซะศูนย์ซ่อมแทบแตก...แต่สุดท้ายก็ต้องรับเครื่องกลับมาตามนั้น
ผมว่าเรื่องข้อมูลนี่เป็นสิ่งที่ผู้ใช้ควรจะพึงระมัดระวังและสำรองอยู่เสมอนะครับ ไม่ว่าจะอุปกรณ์ไหน OS อะไร โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่ไม่สามารถถอดอุปกรณ์ได้โดยง่ายอย่างแทบเล็ต สมาร์ทโฟน
ข้อมูลผมมีสำรองเสมอครับ แต่ถ้าเลือกได้ก็ นะ
ดีแล้วละที่ได้ 1 ลำบากทั้งคนซื้อและคนซ่อม ต้องทะนุถนอมมากๆ ส่วนคนปั้มเงินเองได้ก็ใช้ๆไปไม่ต้องกังวล ถ้าเสียก็เขวี้ยงทิ้งซะ
แผงวงจรกับฮีทไปป์นี่ rMBP ชัดๆ
M$ เดินทางผิดหรือเปล่าเนี้ย มันถึงยุคเอาทรัพยากรที่มีค่าเปลี่ยนเป็นตัวเลขในบัญชีธนาคาร แล้วทรัพยากรเหล่านั้นเมื่อเสียเมื่อพังก็เป็นได้แค่เอาไปบดทำถนนเพราะไม่คุ้มที่จะแยกส่วนกลับไปใช้ใหม่ เพราะกลายเป็นว่าตัวเลขในบัญชีที่ได้ไม่ได้มีค่าเท่ากับทรัพยากรที่เสียไปเลย
นี้โลกกำลังเดินไปตามจินตนาการของอนิเมชั่นเรื่อง WALL•E ของ Pixar เลยน่ะนี้ Pixar ก็ลงทุนโดย Apple อีก อืม
แต่ในที่มาเขียนแค่ว่า
นี่ครับ
แล้วเท่าที่ผมดู เหมือนว่า SSD จะไม่ได้ใช้กาวอะไรเลย แค่ใช้สกรูสอง-สามตัวยึดไว้ ที่ว่าความเสี่ยงจะทำเครื่องพังผมเข้าใจว่า "หาก" เราต้องการเปลี่ยน SSD เราต้องฝ่าด่านทั้งหมดนั้นเข้าไปซึ่งอาจจะประกอบคืนไม่ได้มากกว่า (เพราะตอนแกะเพื่อเปิดเครื่อง ต้องใช้ปืนเป่าลมร้อนเป่ารอบเครื่องให้กาวละลายแล้วแงะออกมา)
ผมว่าเขาหมายถึง ทำกรอบตัวเครื่องแตกระหว่างพยายามถอดส่วนประกอบ ซึ่งเป็นกันได้แม้จะระวังแค่ไหน
เข้ามาดู ช่างซ่อมโพสบ่นกัน
ซ่อมยากน่าจะเป็นโอกาสมากกว่านะอิอิ
ตอนเปิดตัวอยากได้มาก พอนานๆ ไปไม่อยากได้ละ เเต่ตอนนี้กลับมาอยากได้อีกเเล้ว เเค่อยากรู้ว่าคะเเนน 1/10 ของ iFixit มันจะเเงะยากขนาดไหน
ผมว่าที่เค้าติดน็อตทากาวเยอะแบบนี้ น่าจะเป็นเรื่องว่าต้องการให้มันถึกนะครับ (แนะเค้าก็ชูเครื่องความถึกมาตลอด)
ถ้าประกอบเบาๆแบบเจ้าอื่น ถ้าเอามาทำสเกตบอร์ด หรือโดนรถทับ อาจจะง่อยไปเลยก็ได้
ที่ดำ ๆ นี่คือสีใช่ไหมครับ ตอนแรกเห็นแล้วนึกว่าเป็นรอยไหม้
ปล. เลขข่าวสวยดี 41000
แค่มันไม่เข้าไทยก็จบไม่แล้วไม่ต้องเถียงแกะยากง่าย เพราะยังไงก็ไม่มีสิทธิ์ได้ใช้ถ้าไม่หิ้ว 5555+ น้องเนยรักษ์โลกเลยไม่ได้ออกตัวเลย
เอาแค่น็อต 90 ตัว ถ้าผมแกะเอง แล้วประกอบกลับเข้าไปใหม่ จะเหลือน็อตกี่ตัวเอ่ย อิอิ