เว็บ Macotakara รายงานว่าแอปเปิลมีแผนที่จะวางขายไอโฟนรุ่นราคาประหยัด โดยวันจำหน่ายได้ถูกเลื่อนจากปีนี้ไปเป็นปีหน้า และตัวเครื่องจะใช้วัสดุ polycarbonate เหมือน MacBook รุ่นพลาสติก ก่อนที่จะมีรุ่น Unibody มาวางขาย โดยแอปเปิลตั้งเป้าหมายราคาขายปลีกไม่ผูกกับสัญญาไว้ที่ 330 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 9800 บาท
ไอโฟนรุ่นประหยัดนี้จะใช้หน้าจอที่มีขนาดใหญ่กว่าไอโฟนปกติ โดยขนาดหน้าจอน่าจะอยู่ที่ 4.5 นิ้ว และตัวเครื่องจะมีความหนากว่า iPhone 5 แต่ดีไซน์ส่วนอื่น ๆ ไม่น่าจะแปลกไปจากรุ่นที่วางขายในปัจจุบันมากนัก
ในรายงานเดียวกันนี้ยังระบุอีกว่า iPhone 5S จะมาพร้อมกับระบบแฟลชกล้องที่ดีขึ้น คาดว่าน่าจะเป็น Dual-LED Flash
ที่มา - MacRumors
Comments
ไม่ต้องขายสินค้าแล้วขายข่าวลือแทน หุหุ
สรุปว่า iPhone แพงกับค่าวัสดุสินะ
น่าจะเป็นการหาช่องลดราคาแบบไม่น่าเกลียด เพื่อให้อยู่ใด้ในตลาดที่มีการแข่งขันสูงขึ้นมากกว่า
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
อย่าลืมว่ามันมีค่าจัดการกับวัสดุด้วย วัสดุที่ต่างกันออกไปก็ต้องออกแบบใหม่ เพราะความแข็งแรงไม่เท่ากัน การทำโมลด์ การทำขอบ การเสริมความแข็งแรง แต่พลาสติกก็จะช่วยเรื่องการรับส่งสัญญาณที่ดีกว่า
ค่าวัสดุทำแชสซี+ค่าขึ้นรูปผมว่าอย่างมากก็ไม่เกิน $10 แต่ Apple มันจะขายแพงขึ้นเป็นสิบเท่าเสมอ มันเลยกลายเป็นบวก $100 เหมือนเวลาขายรุ่นที่มี memory มากขึ้นก็แพงขึ้นหลายเท่า
ยี่ห้ออื่นเอากำไรกี่เท่าครับ
น่าจะได้น้อยกว่าเยอะครับ เพราะยังต้องง้อลูกค้าทำให้กั๊กสเปคไม่ได้ รวมถึงมียอดขายน้อยเลยไม่สามารถสั่งวัสดุเป็นล็อตใหญ่ได้ทำให้ต้นทุนแพงไปอีก
เรื่องเอากำไรหลายเท่ามันก็เป็นเรื่องธรรมชาติเวลาตลาดมันบูม เหมือนตลาดคอมพิวเตอร์เคยบูมขายได้กำไรหลายเท่า พอหดตัวลงก็ต้องขายแบบกำไรน้อยลง
เครื่องรุ่นประหยัดของ iPhone คงลดการเอากำไรลง ทำให้ราคาถูกลง
ผมมองในแง่ของธุรกิจ ทุกเจ้าต่างก็ต้องการกำไรต่อสินค้ามากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้อยู่แล้้วครับ มันอยู่ที่ demand / supply ถ้าลูกค้ายังพอใจที่จะซื้อสินค้าในราคานี้อยู่ผมว่าก็ไม่จำเป็นที่จะไปกล่าวถึงตรงนี้เลย
ครับผมก็มองแง่เดียวกันน่ะ เรื่องกำไรสิบเท่ามันก็เป็นเรื่องธรรมดาเพราะว่ายังขายได้ลูกค้ายังพอใจอยู่ ผมแค่พยายามบอกว่าในการผลิตวัสดุมันไม่ได้แพงมาก กำไรที่ได้จากวัสดุก็ไม่ใช่กำไรสุทธิ ต้องเอาไปโปะค่าโฆษณาค่าวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่อีก เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องธรรมดาในการผลิตผลิตภัณฑ์ก็น่าจะพูดถึงได้นี้ครับ
พูดถึงได้ครับเรื่องราคาค่าวัสดุตามที่ replied กันมาแต่คงไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องกำไรกี่เท่าจากราคาวัสดุซึ่งจากเจตนาผมว่าดูไม่บริสุทธิ์ใจเท่าไหร่
ตราบใดที่คนซื้อยังพอใจ
ไม่แปลกใจหรอกครับ
อย่างกระเป๋าหนังฯ คุณภาพไม่ต่างกันมาก ราคายังต่างกันหลายร้อยหลายพันเท่าเลยครับ
??? เจตนาไม่บริสุทธิ์หมายถึงยังไงครับ ผมแค่อธิบายสิ่งที่ผมคิดที่ผมเชื่อว่ามันเป็นอย่างนั้น จะต้องถูกตรวจสอบถูกตัดสินเจตนาด้วยหรือครับ ไม่ทราบว่าคุณ nrml มีเจตนาบริสุทธิ์ในสิ่งที่ทำอยู่หรือเปล่า หรือมีเจตนาแอบแฝง :(
มันอยู่ตรงนี้ครับ - "แต่ Apple มันจะขายแพงขึ้นเป็นสิบเท่าเสมอ" คือตั้งใจจะกัดแอปเปิลเต็มๆ คำ ประมาณนั้น ซึ่งผมมองว่าทั้งๆ ที่เจ้าอื่นก็พยายามทำราคาให้แพงขึ้นเป็นหลายเท่าที่จะเป็นไปได้เหมือนกัน ซึ่งมันเป็นเรื่องของการตั้งราคาของแต่ละเจ้าเองไม่เห็นว่าจะเกี่ยวกับ topic สักเท่าไหร่ คุณแค่ยกมาเพราะอยากจะจิกกัดแค่นั้น
อืม ต้องสุภาพกับ Apple มาก ๆ เหรอครับ คือผมก็พูดแบบภาษาธรรมดาตามความเข้าใจของคนทั่วไป ต้องห้ามทำแบบนี้เหรอครับ ถ้าทำแล้วผมจะกลายเป็นไก่เป็นหมาเหรอครับ:(
ที่คุณ nrml ว่าผมคอมเมนต์เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับหัวข้อ คือผมตอบคุณ olan16 ที่มีความเห็นว่าวัสดุอลูมิเนียมอัลลอยด์มันมีราคาสูงพอเปลี่ยนเป็นพลาสติกแล้วสามารถลดราคาได้เยอะ ซึ่งมันไม่เป็นความจริง เพราะอลูมิเนียมบริสุทธิ์มือหนึ่งราคากิโลกรัมละหกสิบถึงเก้าสิบบาท (ราคาเม็ดพลาสติกมือหนึ่งอยู่ที่หกสิบถึงแปดสิบบาทต่อกก.) เอาไปทำเป็นโลหะผสมและขึ้นรูปบวกค่าออกแบบต่างต่างนานาก็ไม่น่าเกินสามร้อยบาท อันนี้ให้เพื่อให้เยอะมาก ผมก็เลยพยายามอธิบายในจุดนี้ไม่ได้พูดถึงหัวข้อเลยครับเพราะเป็นคอมเมตน์ตอบคอมเมนต์อีกทีนี้ครับ
เรื่องว่าเค้าเอากำไรเยอะเค้าต้องเอากำไรวัตถุดิบเยอะเพื่อไปโปะส่วนอื่น อันนี้ผมไม่แน่ใจว่าคนทั่วไปยอมรับได้ไหม แต่ผมยอมรับได้เลยไม่ได้คิดอะไรมากก็เลยตอบไปว่าเอากำไรเป็นสิบเท่า เพราะเรื่องการตั้งราคามันไม่ได้ทำได้ง่าย ๆ เพราะมันต้องคำนึงหลายอย่าง เช่น ตอนตลาดกำลังบูมก็ต้องเอากำไรเยอะไว้ก่อนเวลาตลาดหดตัวจะได้เอาการลดราคามากระตุ้นตลาดได้ ซึ่งทุกบริษัทก็ทำกันทั้งนั้นขึ้นอยู่กับว่าลูกค้าพอใจที่จะจ่ายหรือไม่ เพราะลูกค้าไม่ได้ซื้อวัตถุดิบครับ ลูกค้าซื้อความพอใจในสินค้าต่างหาก
ผมพยายามอธิบายความเป็นจริง อันนี้ห้ามทำหรือเปล่าครับ???
ผมไม่ติดใจอะไรมากมายหรอกครับ ในแนวทางการออกความเห็นของคุณ แต่มันรู้สึกขัดเวลาเจอข้อความที่ไม่น่าจะยกมาเป็นประเด็นเพื่อที่จะได้กัดแอปเปิลคุณก็พร้อมที่จะทำ ผมยอมรับตรงๆ เลยผมชื่นชอบทั้ง apple และ google แต่ผมออกจะโรคจิตนิดๆ คือ ผมเหมือนจะเป็น anti ของ anti apple บางทีการได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนหลากหลายกลุ่มก็ทำให้ได้เห็นอะไรเพิ่มขึ้นมากกว่าในกะลาอันเล็กๆ ของผม ยินดีที่ได้แชร์ความคิดเห็นครับ
ผมไม่ได้กัด Apple น่ะครับ ผมแค่อธิบาย myth ที่คนคิดกันไปเองว่ามันไม่ใช่ความจริง และผมพร้อมจะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้วยเสมอ จะเห็นได้ว่ามีใครถามอะไรผมก็จะอธิบายสิ่งนั้นโดยไม่สนว่าเป็นการประชดประชันหรือกระทบกระเทียบ จนกระทั่งโดนด่าตรง ๆ ผมถึงจะเริ่มไม่ค่อยพอใจ คือการดูถูกคนที่เห็นต่างนึ้น่าจะเลิกกันได้แล้ว แค่เค้าไม่ได้เชื่อตามคนอื่น หรือรู้ว่ามันไม่จริงนี้พอเสนอความคิดก็ต้องโดนอะไรหลายอย่าง ทำให้บางคนรู้ก็ไม่พูดเพราะกลัวโดนดี กลุ่มเยินยอก็จะมีความสุขในความจริงที่บิดเบี้ยวของตน
ปล.แต่หลายทีผมก็ผิดเพราะเบลอ ถ้าเอาข้อมูลมาใส่กันจัดได้เต็มที่ครับ เพราะผมเคารพคนที่คุยด้วยเสมอ
จะช้าไปหรือเปล่าน้อ.. เทียบกับ ss แล้ว ฝ่ายหลังสายวู่วามกว่าเยอะทีเดียว
ตลาด iPod วายแน่ ;)
my blog
ผมก็คิดแบบนี้แหละ ถ้า iPhone ราคาเหลือแค่นี้ iPod touch คงหาคนซื้อยากแล้วล่ะ
Dream high, work hard.
Jobs ไม่อยู่ ก็เกิดอะไรขึ้นได้ทุกอย่างจริง ๆ และ Apple เองก็ดูจะสูญเสียความเป็นตัวตน ความเป็น unique ความมีเอกลักษณ์ และความไม่เหมือนใครไปเรื่อย ๆ พร้อมกับการกลืนน้ำลายตัวเอง ทำในสิ่งที่เคยปฏิเสธว่าจะไม่ทำ และวิ่งตามแนวทางคนอื่นมากขึ้น เช่น Samsung ภาพของการหมดมุข กินบุญเก่า ส่อเค้าจะเป็นความจริงมากขึ้นทุกที เดิมพันของ Apple นั้นสูงมาก เพราะตนเองเป็นผู้นำด้านนวัติกรรมมาโดยตลอด ความ wow ของผลิตภัณฑ์ช่วยทำให้ผู้คนศรัทธาในความเป็น Apple อย่างเหนียวแน่นก็จริง แต่สองสามปีที่ผ่านมา ความ wow นั้นเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันหดหายไป ซึ่งถ้าหาก Apple ยังไม่สามารถสร้าง wow อะไรออกมาสู่ตลาดภายในปีสองปีนี้ได้ ผมว่าคงยากที่จะเรียกศรัทธากลับมา
ถึงลุงจ็อบส์อยู่ Apple ก็เคยกลืนน้ำลายตัวเองครับ...
Dream high, work hard.
ไม่ทำตามแบบเดิม ก็สูญเสียความเป็นตัวตน
ทำตามแบบเดิมๆ ก็โดนด่าว่าไม่เอาเยี่ยมเอาอย่างที่อื่นบ้าง
อืมม...!
คิดมากไปเปล่าน้า ยังละเมอถึงสตีปจ๊อบอีกหรอ คนที่เค้าซื้อไอโฟนไม่เห็นจำเป็นต้องศรัทธาอะไรขนาดนั้น ยังก้าวข้ามไม่พ้นหรือไม่ยอมก้าวครับ โลกมันหมุนเดินหน้าทุกวัน มัวแต่เดินทวนไปข้างหลังไม่เหนื่อยหรือไงครับ
จะขายจะฆ่าตัวตายอะไรก็รีบๆทำเสีย โนเกียกำลังแจ้งเกิดตลาดล่างแล้ว
เดี๋ยวนี้ข่าวลือออกมาทุกคนเชื่อว่ามันจะเป็นจริงกันหมด
In rumors we trust
55555+
ทำไมหลายคนเชื่อกันง่ายจัง
ไม่ตลกเหรอ รุ่นถูกทำจอใหญ่กว่า อย่างน้อยก็ 3.5 แล้วรุ่นใหญ่ก็ 4.5 น่าจะมีแววกว่า
ไม่ทำหรอกมั่ง
-.- เดี๋ยวนี้ข่าวลือมันหลอนกว่าสมัยก่อนไงไม่รู้ โดยเฉพาะปีที่แล้ว ลือ+หลุดจนหมดความขลังลงไปเยอะเลย
แฟลชกล้องมือถือยังไงก็ห่วย ต่อให้ dual ก็ห่วยไม่ต้องใส่มาให้หนักเครื่องหรอก ใช้ดีอย่างเดียวคือเป็นไฟฉาย
+10 โดนใจ
ก่อนตาย ลุงจ๊อบบอกประมาณว่า "ให้ทำสิ่งที่ตัวเองคิดว่าใช่ ไม่จำเป็นต้องทำตามฉัน อะไรประมาณนี้" หรืออะไรซักอย่างนี้แหละ
อาจจะทำจริงๆ ก็ได้นะ
ราคา 9800 บาท นี่รุ่นประหยัดแล้วจริงๆใช่ไหมครับ?
น่าจะถูกได้อีก
เจออย่างนี้เข้าไปคงไม่่มีใครซื้อ ipod touch แล้วมั้งเนี่ย หรือไม่ก็ต้องลดราคา ipod ลง
ทำ ipodPhone แทน เน้นเล่นเกมส์กับโทร556
ไม่ค่อยเชื่อฮะ จะทำรุ่นประหยัดแต่จอใหญ่ขึ้นเนี่ยนะ
นานไปเปล่าเนี่ย T_T
ทำจอใหญ่ ไม่ได้ นะ สาวก เค้าไม่ชอบ
ทุกวันนี้ ยังเจอถาม ใช้มือถือจอใหญ่ๆไปได้ไง ต้องใช้ iPhone สิ จอพอดีมือ
O_o
แบบนี้ทำเป็น ipod phone ไปเลยดีกว่า
ผมว่าโอกาสเป็นจริงสูงมาก เพราะผู้ถือหุ้นแอปเปิ้ลเริ่มไม่พอใจที่หุ้นตก ป๋าทิม เลยต้องทำอะไรเอาใจผู้ถือหุ้น
ถ้าจริงก็ขอ R.I.P ipod
ถ้าจะทำรุ่นถูกจริง การ รวมตัวของ ipod และ iphone น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่านะ
มันเป็นเกมการตลาดว่าหน้าจอใหญมันเกลื่อนไร้ค่า ยกตัวอย่างโฆษณาxxx ที่ในงานอะไรสักอย่างที่เหล่าบรรดาคุณหญิงคุณนายใส่สร้อยทองเส้นเท่าโซ่ระยิบระยับ แต่ตัวเอกใส่สร้อยเส้นเล็กมากไม่ระยิบระยับ แต่บอกว่าทอง 99.99%
ทำราคาถูกแบบนี้อาจจะฆ่าทั้ง iPod กับ iPhoneรุ่นราคา 2หมื่นบาทได้เลย...
brand ก้อจะกลายเป็นไร้ค่าแล้วอย่างงี้ Steve Jobs ด่าฉอดๆอยู่ข้างบนโน่น