ในระหว่างงานเปิดตัว PS4 โซนี่ได้บอกรายละเอียดที่นักเล่นเกมหลายคนติดตามอยู่ นั่นก็คือประเด็นเรื่องแผ่นมือสอง และการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต หลังจากก่อนหน้านี้มีประเด็นจากทาง Xbox One นำร่องมาก่อนแล้ว
และเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับคอเกม โซนี่ประกาศว่าจะไม่มีการกีดกันการขายต่อแผ่นมือสอง (ไม่ว่าทางใดๆ ก็ตาม) รวมถึงไม่บังคับให้ผู้ใช้ต้องต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อให้สามารถเล่นเกมได้อีกด้วย (และไม่บังคับให้ต้องต่อทุก xx ชั่วโมงอีกด้วย)
ทั้งนี้ทั้งนั้นนโยบายดังกล่าวครอบคลุมแค่เกมแบบแผ่นเท่านั้น สำหรับเกมที่ซื้อผ่าน PSN อาจต้องรอแถลงอีกทีครับ
ที่มา - The Verge
Comments
"PS4 won’t require you to 'check in' online periodically. PS4 games won’t stop working if you haven’t authenticated in 24 hours.” มันจี๊ดตรงประโยคนี้แหล่ะ
แถมขายได้ แลกกันได้ ปรบมือให้โซนี่เลย
ดูหล่อขึ้นมาทันใด
เทใจมาฝั่งนี้ทันที
^
^
that's just my two cents.
ซื้อครับ!
ซื้อเครื่อง PS3 มือสอง เดี๋ยวไปเฝ้าห้องขายใน DGO ก่อน
อยากได้เช่นกัน
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
Gamer................ เฮ
Game Studio....... T_T
ผมว่าถ้าไม่น่ากลัวไปสำหรับผู้ผลิตหรอกครับ ก็ผลิตของดีๆออกมาสิ ยังไงก็ขายได้
มีคนจำนวนมากที่รอซื้อแผ่นมือสองครับ แผ่นพวกนี้มักจะสภาพดีและของครบ คือเก็บได้เลย
เสียอย่างเดียวคือมันจะไม่ค่อยได้ของแถมซึ่งบางคนเขาก็ไม่ค่อยแคร์เท่าไหร่น่ะนะ
ยึดแนวทางเหมือน PS3
จริงๆถ้าเจ้าของแพลตฟอร์มรับประกันได้ว่าเกมส์จะไม่ถูกแฮคไปเล่นฟรีได้ง่ายๆ(เหตุผลว่าทำไมต้องมีเครื่องคอนโซล) ผู้พัฒนาก็คงพอใจระดับนึงแล้ว ไม่ต้องถึงกับทำร้ายความรู้สึกของเกมเมอร์(ที่เปรียบดั่งพระเจ้าของเหล่าผู้พัฒนา) มันก็คงเป็นอะไรที่แฟร์ๆดีสำหรับตอนนี้มั้งนะ
ผมกลับมองว่า แผ่นเกมมือสองมันก็ละเมิดลิขสิทธิ์ทางอ้อมดีๆนี้เอง ถ้ามันให้กันฟรีก็ไม่มีอะไร แต่กำไรก็ตกกับคนขายมือสองด้วยสิแล้ววงจรนี้มันก็มีมานานจนเป็นเรื่องปกติซะด้วย
ปล.ผมมองว่ามันอารมณ์เดียวกับขายแผ่นผีของหนังเลย แต่ผมก็เล่นแต่PCแหะ
แผ่นมือสองเทียบแผ่นผีไม่ได้ครับ เพราะแผ่นมือสองนั้นเป็นของที่ผลิตถูกต้อง และจ่ายภาษีตามกฏหมายครบถ้วนทุกประการ เพียงแต่ว่ากฏหมายนั้นบอกว่าการขายต่อเป็นสิ่งผิด
คราวนี้จึงเกิดการเถียงกันขึ้นมาว่า ผมซื้อของชิ้นนั้นมาแล้วสิทธิเป็นของผม ทำไมผมขายสิทธินั้นต่อไปยังผู้อื่นไม่ได้?
กรณีนี้มีตัวอย่างชัดๆ ในไทยคือ คุณแม่ที่เอาแผ่นหนังของลูกมาขายต่อแล้วโดนจับเข้าคุก ถ้าเป็นกรณีอื่นๆ ที่ไม่ใช่สิ่งพิมพ์ดิจิตอลก็คือ คนไทยที่ขาย textbook ของตนเองใน ebay แล้วเสียค่าปรับให้กับบริษัทในสหรัฐฯ 18 ล้าน
ทั้งสองคดีด้านบนนั้น กรณีแรกมีความผิดเพราะเปิดร้านขายสื่อฯ โดยไม่มีใบอนุญาติ ส่วนกรณีที่สองมีความผิดเพราะไม่ใช่ตัวแทนจำหน่าย ไม่มีสิทธิในการขาย
ถ้ามีใครสันทัดกรณีก็รบกวนอธิบายเป็นวิทยาธานด้วยครับ ว่าเพราะอะไรถึงต้องปกป้องสิทธิ (ไม่ใช่ลิขสิทธิ) ของผู้จำหน่ายขนาดนี้
กรณีขาย text book สู้คดีจนชนะแล้วนะครับ สรุปว่าทำได้ไม่ได้ผิดกฏหมาย (เข้าใจว่า ebay ช่วยหนุน ไม่งั้นของอีกหลายอย่างคงขายบน ebay ไม่ได้ ถ้าไม่มีสิทธิ์ขายต่อ) แต่เรื่องนี้แม้จะตัดสินใจชนะก็ถูกวิพากย์วิจารณ์ถึงเรื่องความถูกต้อง/จริยธรรมอยู่ดี
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
โอ้ว ขอบคุณสำหรับข่าวดีครับ
ฝั่งไหนโดนวิจารณ์ครับ?
วิจารณ์เรื่องคนที่เอา text book ไปขายใน ebay ครับ เพราะสำนักพิมพ์เค้าตั้งใจช่วยประเทศกำลังพัฒนา จึงขายในราคาถูกกว่ามากๆ (จริงๆ ก็ไม่ช่วยซะทีเดียว เพราะเค้าก็ต้องการยอดขายด้วย) และระบุด้วยว่า not for sale in US แต่กลับซื้อในราคาถูกไปขายทำกำไรใน US
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
อืมมมมมมมม มันมีวาระแฝง
เดี๋ยวขอไปหาข้อมูลเพิ่มเติมครับ ถ้าตั้งใจเอามาขายแบบเป็นล่ำเป็นสันนี่น่าคิด
แต่ถ้าขายเล่มสองเล่มนี่ก็อีกเรื่อง
ขอบคุณครับ
เคสนี้ทุเรศมากครับ ใช้ช่องโหว่ของ First-sale doctrine หากำไร
จริงๆสำนักพิมพ์เขาให้การช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนา ด้วยการจัดพิมพ์ edition
สำหรับขายในแถบกลุ่มประเทศดังกล่าว ด้วยราคาที่ถูกมาพอสมควรเพื่อช่วยเหลือด้านการศึกษา
แต่อีตาคนนี้มันเอาความช่วยเหลือตรงนี้ที่ Not for sale in USA
เอามาขายหาส่วนต่างกำไร แล้วไม่ใช่แค่ไม่กี่เล่มด้วย เป็นหลักพันเล่ม (ไม่แน่ใจถึงหมื่นไหม)
แล้วมาอ้างหน้าตาเฉยว่าถูกกฎหมาย ถูกน่ะใช่ครับ แต่มันผิดจริยธรรม
แล้วเป็นถึงอาจารย์ด้วยแต่มีพฤติกรรมลักษณะนี้ น่าอนาถน่ะครับ
ถ้าเอาแบบสั้นๆ ก็คือ เพราะเวลาเราซื้อของที่เป็นทรัพย์สินทางปัญญา เราไม่ได้ซื้อ ownership มา แต่ซื้อ license มาน่ะครับ (เวลาเราซื้อหนังสือมา กระดาษเป็นของเรา แต่เนื้อหาในหนังสือไม่ใช่ของเรา เราแค่ได้สิทธิ์อ่านเท่านั้น)
ถ้ามองกว้างๆ แล้ว สิทธิ์มากมายหลายประเภทที่เราไม่จำเป็นต้องขายสิทธิ์นั้นได้นะครับ ถ้าผมเช่าบ้านมา สัญญาเช่าสามารถระบุได้ว่าผมไม่มีสิทธิ์ไปขายสิทธิ์นี้ให้คนอื่น หรืออย่างผมซื้อแฟรนไชส์มา ผมอยากเลิก จะให้คนอื่นมาเป็นคู่สัญญาแทนก็ไม่ได้เหมือนกัน
อันนี้ไม่ได้สรุปว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยนะครับ แค่จะชี้ว่า แนวคิดมันไม่ใช่การซื้อขายกรรมสิทธิ์ (ในแง่หนึ่ง ผมเข้าใจว่า ผู้ผลิตเกมก็ไม่น่าจะห้ามการขายแผ่นไปได้ เพียงแต่ห้ามเอาแผ่นที่ซื้อมือสองมาใช้บริการ ซึงถ้าเรายอมรับได้ว่า ผู้ผลิตสามารถขาย non-transferable access right ได้ กรณีมันก็คล้ายกับการที่ access นี้มาใส่อยู่ในแผ่น)
ในด้านกรณีที่ยกมา อันแรก มันก็ไม่ใช่กรณีลิขสิทธิ์ตรงๆ น่ะครับ แต่เหมือนเป็นการมองว่า มันเป็นสินค้าควบคุม นึกถึงว่าถ้ามีกฎหมายห้ามขายปืนโดยไม่มีใบอนุญาต แบบนี้ (แต่แน่นอนว่าผมไม่เห็นด้วยเลยที่การขายซีดีหนังจะต้องมีใบอนุญาต)
ส่วนเรื่องหนังสือเรียน อันนี้มันก็เป็น challenge อย่างหนึ่ง (ซึ่งคุณ Zatang แจ้งแล้วว่าชนะคดีนะครับ) ซึ่งเหตุผลของฝั่งผู้ผลิตคือ หนังสือนั้นตั้งเงื่อนไขไว้ว่า ห้ามขายในสหรัฐ (คือเป็นหนังสือที่ทำไว้ขายนอกสหรัฐเท่านั้น) เหมือนกับเป็นการตั้งเงื่อนไขการให้สิทธิ์เอาไว้ แต่อันนี้ก็สรุปออกมาแล้วว่า กรณีนี้เข้าข่าย first-sale doctrine จึงไม่ผิด
(ในความเห็นผม เจตนานั้นขายจริงจังหากำไรแน่นอน แต่ถ้าถูกกฎหมายมันก็คือถูกน่ะครับ ซึ่งสำนักพิมพ์ก็ต้องยอมรับไปว่า ต่อไปจะกำหนดเงื่อนไขเพื่อ price discriminate ลอยๆ แบบนี้ไม่ได้ ซึ่งจะแก้ไขโดยการปิดช่องว่างการ arbitrage ก็คงจะต้องทำไป)
ผมขออนุญาต reply ตรงนี้แทนละกันครับ
ไปอ่านมาแล้วเจอว่าเป็นอย่างที่คุณ vidaylin และคุณ chayaninw ว่าเอาไว้ครับ
ตอนแรกที่ผมยินดีไปด้วยเพราะไม่คิดว่าเค้าจะเอามาขายแบบทำกำไรเป็นล่ำเป็นสันขนาดนั้น ขอถอนคำพูดดีกว่าครับ
ชอบตรงนี้ครับ มันอธิบายได้ดีมากๆ แต่อ่านแล้วเจ็บปวดมาก คิดไปคิดมาในกรณีนี้คงเหมือนกับซื้อ Windows OEM มาใช้ที่ activate ได้แค่ครั้งเดียว
แต่ส่วนตัว (จะมีใครรำคาญคำว่าความเห็นส่วนตัวอีกมั้ย) มองว่า Windows นี่มันติดตั้งลงเครื่องนะ ถ้าไม่มีการ activate จากส่วนกลางมาช่วยก็คงป้องกันเรื่อง 1 แผ่นติดตั้งหลายเครื่องไม่ได้ ซึ่งอันนั้นเป็นปัญหาทางเทคนิคมากกว่า
แต่ในกรณีแผ่นเกมนี่ยังไงๆ ก็ต้องอ่านแผ่นอยู่ ถ้าออกแบบมาอย่างนี้แล้ว จะขายแผ่นอีกกี่ทอดก็ไม่น่าจะมีปัญหา ยกเว้นว่าอยากจะขายแผ่นจนตัวสั่นจนลดความสำคัญของผู้บริโภคลงมาเป็นรองผู้ผลิตเกมครับ
แบบนี้ถ้าไม่ชอบแนวทางก็ไม่ต้องอดหนุน Xbox One จบ
กรณีขายแผ่นมือ2 กับกรณีขาย textbook ต่างกันครับ
ขายแผ่นมือ 2 ผิดฐานประกอบกิจการขายแผ่นโดยไม่ได้รับอนุญาต (พรบ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ แต่เดิมคือพรบ. เทปวัสดุโทรทัศน์)ซึ่งไม่สนใจว่าคุณจะขายมือ 1 หรือมือ 10 ไม่มีใบอนุญาตจบครับปรับสองแสน ถ้าไม่มีตังจ่ายค่าปรับติดคุกแทนค่าปรับวันละ 200 บาท (ก็ติดคุกประมาณ 1000 วันแทนค่าปรับครับ รอลงอาญาไม่ได้เพราะไม่ใช่โทษจำคุก)ค่าธรรมเนียมใบอนุญาต 5000 บาทใช้งานได้ 5ปี (ขายของตัวเองได้ตัง 500 แต่ใบอนุญาต 5000 ช่างออกกฎหมายมาได้ไม่เข้ากับสังคมเลย)กรณีนี้ขายแผ่น CD เพลงมือสองไม่ผิดนะครับแต่ถ้าเป็นหนังกับเกมไม่ได้ครับผิดเต็มๆ
ถ้าคุณงงให้เปรียบเทียบกับร้ายขายบุหรี่ที่ไม่มีใบอนุญาตขายครับ บุหรี่ไม่ว่าจะแท้จะเถื่อนโดนหมดเพราะไม่มีใบอนุญาตให้ขาย
ส่วนเคสขาย text book เป็นเรื่องของ พรบ.ลิขสิทธิ์ และเรื่องของการนำเข้าซ้อนครับว่าต้องได้รับอนุญาตหรือไม่ รายนี้หัวหมอครับขนทีเป็นโกดังราวๆ8หมื่นเล่มได้ (แกบอกกำไรหลักหมื่นเหรียญหนังสือ1เล่มกำไรไม่ถึง 10เหรียญ คิดว่าแกขายไปกี่เล่มกันล่ะครับ) ไม่ใช่เรื่องของการเป็นตัวแทนจำหน่ายแต่อย่างใด
จริงๆ แล้วส่วนของพรบ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์นั้นผมไม่ได้สนใจครับ เพราะว่ามันไม่ค่อยมีความเป็นสากลเท่าไรที่จะมาเอาผิดกับปลายน้ำที่ขายแผ่นมือสองแบบทีละแผ่นสองแผ่น ซึ่งเห็นได้ชัดว่ากฏหมายนี้มันมีช่องโหว่ที่ไม่ได้บอกรายละเอียดว่าปริมาณใดที่เข้าข่ายบ้าง ไม่งั้นก็เกิดกรณีแบบที่เป็นข่าวมาแล้วน่ะครับ
ตอนนี้สงสัยอยู่อย่างนึงครับ พอดีเพิ่งมาคิดออกว่าในกรณีที่การขายแผ่นเกมนั้นเป็นการขาย license ไม่ได้ความความเป็น ownership จึงไม่ควรถูกขายต่อ
ผมสงสัยมากๆ คือถ้าคิดแบบชาวบ้าน ในกรณีที่เราซื้อ license มาพร้อมแผ่น ถ้าเราขายไปก็ถือว่าเราหมดสิทธิใน license นั้นๆ และคนอื่นก็ได้ license ต่อไป ... ผู้ผลิตก็ไม่ได้เสียรายได้อะไรเลย
เข้าใจว่าปัญหามาจากสัญญาใน EULA คำถามคือ ถ้าไม่มองที่สัญญาดังกล่าว ... การขายแบบนี้มันเป็นธรรมหรือไม่ครับ
อันนี้ถามแบบต้องการความรู้นะครับ เพราะคิดคนเดียวมันก็คิดได้แค่ว่ามันคือการขายที่ไม่เป็นธรรม
First-sale doctrine ครับ ในเมื่อผมซื้อมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และผู้ขายได้ทำกำไรในการขายไปแล้ว สิทธิ์ในการขายของที่ซื้อมาเป็นของผมครับ
May the Force Close be with you. || @nuttyi
+100000000
ผมกลับไม่มองว่าเหมือนแผ่นผีนะ ผมมองว่าในเมื่อผมจ่ายเงินซื้อแผ่นเกมส์มาแล้ว ผมย่อมต้องเอามันไปขายต่อได้สิ
ถ้าแผ่นผีมันคือการขโมยข้อมูลมาขายต่อ ยังไงมันก็ไม่เหมือนกันอ่ะครับ
ต้องเข้าใจครับ
ผู้บริโภค ไม่ว่ายังไงก็จะเอาเข้าไว้ก่อนกันอยู่แล้ว
ถูกได้เอาถูก ฟรีได้เอาฟรี ผิดได้ก็ผิด
แผ่นมือ 2 มันไม่ร้านเท่าแผ่นผีจริง แต่มันก็มีส่วนทำลายวงการครับ
คอมเมนต์อื่นๆ น้ำเต็มแก้วไปหมดแล้ว อธิบายไปก็เท่านั้น
สำหรับบ้านเรา ผมให้แค่เรื่องแผ่นมือ 2... เอาให้ได้กันก่อนเถอะ
ไม่ใช่ว่า เล่นก๊อปได้ปั๊ป หาแผ่นผีปุ๊ป
และตอนนี้มี Dev อยู่ราว 140 เกมส์
เล่นมือสองได้ + Region Free
Game Over
หัวข้อข่าวนี่ตบหน้า XBOX เต็มที่เลย
ดู live stream นี่ ทั้งฮอลล์ถึงกับตะโกน Sony Sony เลยทีเดียว ms คงหน้าชาเลย ณ จุดนี้
อันนี้เปล่าดูแล้ว ขนลุก
ตามนั้นเลย E3 ปีนี้ sony ชนะขาดจริง ๆ
ดูวีดีโอแล้วร้อง Wow!
Sony นายเท่ห์มาก
And it won't stop working if you haven't authenticated within twenty four hours //trollface
อันนี้โครตฮา
Love it ^^
อูยยยย
https://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=kWSIFh8ICaA
โคตรฮา
สองคนนี้หน้าตาคุ้นๆ (มากๆ) นะครับ อิอิ
ผมว่าหลังจาก Kaz กลับมานี่ Sony ดูมีความเป็น "อารยธรรม" กลับคืนมามากขึ้นครับ
Kaz ไปไหนมาเหรอครับ? (อันนี้ตกข่าว)
ขออภัยมิตรรักทุกท่านครับ
อยากจะบอกว่า Kaz ขึ้นมาเป็นเสาหลัก เพราะ Kaz ไม่เคยไปจาก Sony ครับ
T_T
นึกว่าเพิ่งกลับมาจากลาพักร้อน
โอย ฮามากครับ 55555555+
Dream high, work hard.
Step เดียวจบ 555
เข้าใจทำจริงๆ ฮาาาา
ปรบมือลั่นห้องเลย 55555
โอ๊ยยยย จะเอาฮาไปไหนนนน
โอยฮาจริงๆ
ชนะตั้งแต่เปิดตัวเลย ท่าจะยากซะแล้วXBOX1
แต่ต้องใส่แผ่นตลอดหรือเปล่า
ใส่แผ่นตลอดก็ไม่มีปัญหา เพราะไม่ได้ต่อเน็ต แต่ ps4 ตีตลาดกับ xbox1 ยากอยู่ เพราะอเมริกันชอบชาตินิยมดัง โป๊ก โป๊ก ครับ
อยากลืมว่า ญี่ปุ่นก็ ชาตินิยม แถมรุ่นแรงกว่า อเมริกันซะด้วย
ที่มั่นหลักของ sony ตอนนี้คือ japan + europe แล้วถ้า xbox เพลี่ยงพล้ำอย่างนี้ อาจจะตีเข้าได้เยอะขึ้นครับ
คาดว่าน่าจะต้องใส่ตลอดครับ เหมือน PS3 แต่ตัว Digital Download ก็เล่นได้เลย
เห็นว่าถ้าจะเล่นออนไลน์ ต้องสมัคร PSN+ ที่เสียรายเดือนเท่านั้นนิ
แต่ก็นะ แฟนโซนี่ไม่ค่อยมีเน็ตใช้กัน และก็คงไม่มีใคร "ยอมจ่าย" เท่าไร
ตลกแล้วครับ PSN มีมาตั้งแต่ PS3 แล้วนะครับ
เท่าที่อ่าน จำเป็นต้องสมัคร PlayStation Plus ครับเพื่อที่จะเล่นเกมออนไลน์ ต่างจากของเก่าที่เล่นได้เลยครับ เดือนละ $5 ได้เกมฟรีเดือนละ 3 เกมส์ต่อเดือนด้วยครับ รู้สึก xbox จะให้ 2 เกมต่อเดือน
จะพูดว่าแฟนโซนี่ไม่มีเน็ตกัน ก็ประชดกันไปหน่อยมั้งครับ?
แล้วผมพูดอะไรผิด ?
PSN+ เป็นระบบสมาชิกแบบใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวมาได้ครึ่งปี โดยจะมีสิทธิพิเศษเพิ่มมากกว่า PSN แบบธรรมดา
และเห็นว่า PS4 นั้น จะเล่นออนไลน์ได้ ต้องสมัคร PSN+เท่านั้น
หายตลกลงบ้างยังครับ ?
PS+ มีมาตั้งแต่กลางปี 2010 แล้วน่ะครับ
เพล้ง! เหมือนได้ยินเสียงอะไรแตก?
ขอบคุณที่ให้ความรู้ครับ
พอดีเป็น X box live gold เลยไม่ได้สนใจอีกฝั่งเท่าไร
มันมีอะไรดีกว่าแบบไม่บวก ผมยังไม่รู้เลย
รู้แต่ ถ้าอยากเล่นออนไลน์ คงไม่ฟรีอีกต่อไปแล้ว
ขนาดไม่ได้สนใจอีกฝั่งเท่าไรแต่ตั้ง comment ตอบก่อนเองเลยโดยไม่ได้ reply ใครในข่าว Sony PS4
แหม ... คนไทยนี่ก็ช่างไม่กล้ายอมรับตัวเองเสียจริง ๆ
That is the way things are.
ก็ตอนนี้ผมมีทั้ง 2 เครื่องน่ะนะ
จริงๆ ผมควรจะสนับสนุนโซนีด้วยซ้ำ เพราะตอนนี้อยู่ญี่ปุ่น (และก็รักญี่ปุ่น)
ไม่ค่อยเห็นด้วยกับประโยคนี้ครับ
ผมคิดว่า ไม่ว่าแฟนยี่ห้ออะไรก็คงไม่อยากจ่ายเงินให้แก่อะไรที่ตัวเองไม่ชอบหรอกครับ
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
ขออภัยครับ จงใจกัดแฟนบอยไปนิด
เห็นเอะอะ ก็ชอบเอาเรื่องต้องต่อเน็ต กับต้องเสียตัง(MS live) มากัด MS
เนทที่บ้านผมก็แรงใช้ได้นะ ;-)
จริงๆ แล้วปัญหาคือ เครื่องเกมคอนโซลในยุคเริ่มต้นจนมาถึงยุคก่อนหน้า X1 เนี่ย เราจะย้ายมันไปเล่นที่ไหนก็ได้ เอาไปเล่นบ้านเพื่อนก็ได้ เอาไปเล่นในที่ๆ ไม่มีเน็ตก็ได้ เวลาเน็ตเจ๊งก็งัดเกมมาเล่นได้
คือผมโตมาตั้งแต่ยุค Commandore 64 มาจนถึงยุค Wii ผมยังไม่เห็นถึงความจำเป็นทางฝั่งผู้บริโภคที่ต้องต่อเน็ตเลยครับ
หรือว่าแฟนๆ ฝั่ง MS พอใจครับที่ต้องต่อเน็ตตลอดเวลา?
เรื่อง MS Live นี่ผมไม่ค่อยเห็นใครกัดนะ เพราะทุกๆ ฝั่งมันก็มีบริการแนวๆ นี้เหมือนกัน หลักๆ แล้วคงกัด 2 เรื่องก็คือเรื่องต่อเน็ตกับขายแผ่นมือสอง
Commandore 64 ?
กลับมาแล้ววว คู่นี้ xD
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
พระเจ้า!! เรียกว่าคอมมานดอร์มาตลอดชีวิตจริงๆ ครับ
ที่ถูกต้องคือ คอมโมดอร์ ครับ (Commodore 64)
ขอบคุณ @panurat2000 ด้วยครับ
คำถามคือความจำเป็นต้องต่อเนทครับ
ถ้าทำโดยไม่มีความจำเป็น(ต่อผู้บริโภค) จะโดนผู้บริโภคกัดก็ปกตินี่ครับ ก็ผู้บริโภคไม่ได้ถือหุ้น MS ไว้นี่
ประโยคแรกผมไม่มีปัญหาอะไรเลย เพราะเป็นเรื่องจริง เจอบรรทัดสองก็นะ ไม่ต้องประชดกันขนาดนั้นก็ได้มั้งครับ
พยายามทุกอย่างเพื่อชิงมวลชนจาก X1 ให้ได้ แม้จะต้องอดเปรี้ยวไว้กินหวานก็ตาม
ศึกครั้งนี้ Hardware นั้นแทบจะไม่มีผลต่อการตลาดเลย หากแต่สิ่งที่กำหนดชันะใรครั้งนี้กลับเป็น ซอฟแวร์ บริการ และประสบการณ์การใช้งาน
นั่นสิครับทั้งตัดราคา (399 vs 499)
ทั้งเรื่องต่อเน็ต แผ่นมือ2 ถึงผมจะคิดว่า Sony ตั้งใจไว้อยู่แล้ว
แต่พอ Xbox One เสียท่า ก็เน้นย้ำจุดนี้เข้าไปอีกนะเนี่ย
ความจริงคือ ... Sony ไม่ได้คิดถึงระบบแผ่นมือสอง แต่พอดีว่าคนออกมาด่า X1 กันก็เลยอาศัยโอกาสร่วมแจม
เป็นงั้นไป
เอาจริง ๆ มันไม่น่าจะต้องคิดด้วยซ้ำ แค่ปล่อยให้มันเป็นไปตามกลไกแบบเดิม เรื่องแผ่นมือสองนี่น่าจะมีตั้งแต่เกมคอนโซลเกิดขึ้นมาแล้ว เกมดี ๆ (และมี fanboy เยอะ) ยังคงขายได้เป็นล้าน copy ผมยังสงสัยว่า MS ของขึ้นอะไรถึงมาแทรกแซง หรือว่าช่วงหลังมาตลาดเกมมือสองมันใหญ่เกินไป?
จริงๆ แล้ว ms เห็นข่าวคนเก็บขยะโดนจับในไทย เพราะขายแผ่นมือ 2 โดยไม่มีใบอนุญาต ทำให้ ms เกลียดมือ 2 มากที่สุด จึงทำ xbox1 ที่เน้นมือ 1 เป็นหลักครับ
XB1วางแผนมาพลาด เจอPS4ได้ทีตามมาทืบซ้ำ จุกไปเลยทีเดียว
รอดูขายจริงXB1อาจจะเปลี่นนแผน
ส่วนราคา 399ของPS4มันไม่แถมกล้องใช่ไหม?? อย่างนี้ก็ถือว่าเสมอกัน
กล้องแยกขายในราคา 59usd ครับ รวมแล้วก็ยังถูกกว่าอยู่ดี
สิ้นปีเจอกันที่ญี่ปุ่นไปพอดีเลยผม 5555
แต่ก็นะ ถ้ามีแต่เกมมัลติอีก
PC เอาไปกินเรียบ (ด้วยการ์ดจอราคาที่ซื้อได้ทั้ง 2 เครื่องนั่นแหละ)
จริงๆ แล้ว ทั้ง 3 อัน pc ps4 xbox1 ได้กลิ่นตายกันแล้ว เพราะเครื่องพกพาครองถิ่นครับ
เครื่องพกพา ผมไว้เล่นแค่ตอนนั่งส้วมเอง
สำหรับผม ไว้ให้เกมเครื่องพกพาได้เท่าบรรดาเทรลเลอร์เกมที่เอามาโชว์ในงานนั่นก่อนแล้วกันครับ