เพิ่งมีข่าวลือของ Galaxy Camera ตัวใหม่มาได้ไม่กี่วัน เว็บไซต์เวียดนามอย่าง Tinhte.vn ได้โพสต์ภาพของเจ้ารุ่นที่ว่าออกมาแล้ว และค่อนข้างตรงกับข่าวลือเสียด้วย
โดยรุ่นใหม่ที่ว่านี้ใช้ชื่อ Galaxy NX (NX เป็นชื่อซีรีส์กล้องของซัมซุง) คราวนี้ตัวเครื่องแทบจะกลายเป็นกล้อง DSLR ไปแล้ว สเปคฝั่งมือถือยังไม่ออกมา ดูด้วยตาคือใช้หน้าจอขนาดใกล้เคียงกับรุ่นก่อนหน้า (อาจเป็น 5" เหมือน Galaxy S4) รันแอนดรอยด์ 4.2
สเปคทางฝั่งกล้องใช้เซนเซอร์ขนาด APS-C ความละเอียด 20.3 เมกะพิกเซล เร่ง ISO ได้สูงสุด 25,600 และใช้เมาท์ NX แบบเดียวกับที่ซัมซุงใช้กับกล้องของตัวเอง
คาดว่าในงานเปิดตัววันที่ 20 นี้ เจ้า Galaxy NX จะแพคมากับเลนส์คิตสองตัวอย่าง 18-55mm และ 18-200mm ส่วนรายละเอียดอื่นๆ โดยเฉพาะราคาคงต้องรอกันก่อนครับ
ที่มา - SlashGear
Comments
แบตทนมั้ยครับนั่น
เวลารีบูตนี่ท่าจะนานเอาเรื่อง
แคนอนว่าไง?
canon ก็เน้นเจาะตลาด raw แบบไม่ต้องปรับแต่งแทนครับ
มันเป็นยังไงครับตลาดนี้
เน้นถ่ายภาพแบบไฟล์ raw โดย ccd จับแสงได้ดีเทียบเท่า jpg ทำให้ไม่ต้องใช้ darktable ช่วยครับ
"ccd จับแสงได้ดีเทียบเท่า jpg"
ผมงงประโยคนี้จังครับ ccd เป็นชนิดเซนเซอร์ ไปเกี่ยวกับ jpg ที่เป็นประเภทไฟล์ตรงไหน แถมเป็นเรื่องจับแสงอีกต่างหาก
ไฟล์ raw ไม่นับว่าเป็นภาพ แต่เป็นไฟล์จาก ccd ซึ่งโปรแกรม darktable แปลงเป็นกึ่งภาพกึ่งไฟล์อีกทีครับ
RAW ก็คือภาพนี่ครับ เพียงแต่เป็น uncompressed/lossless compressed image
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
RAW ผมว่าไม่น่าใช่ uncompressed นะครับ น่าจะเป็น unprocessed มากกว่า
มันก็ยังจำค่าเซ็ตติ้งตอนเราถ่ายด้วยครับ ภาพที่ได้จะเหมือน JPG แต่ถ้าไม่พอใจก็เอามาปรับได้อีกเยอะ
น่าจะหมายถึง "ไฟล์ raw (โดย ccd) จับแสงได้ดีเทียบเท่า jpg"
ปล. ภาษาไทยนี่เข้าใจยากนะ ขาดวงเล็บไป ความหมายคนละเรื่องเลย
ผมไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ไฟล์ RAW ดีเทียบเท่า JPG ขึ้นได้นะครับ เว้นแต่กรณีขนาดไฟล์ RAW ถูกบีบอัดให้เหลือเท่า JPG ได้
ทั้งนี้ทั้งนั้น นอกจากขนาดไฟล์ที่ใหญ่แล้วแล้ว ผมให้ RAW ชนะรอบด้านครับ อีกอย่าง JPG มันก็เคยเป็นข้อมูลแบบ RAW ด้วยกันทั้งนั้น แถมถูกตัดนู่นหั่นนี่ คงจะยากที่จะดีเทียบ RAW
"ดี" กับ "สวย" มันไม่เหมือนกันนะครับ แน่นอนว่า RAW ดีกว่า แต่สวยสู้ JPG ไม่ได้
ก็ต้องเลือกเอาว่าจะถ่ายรูปให้ดี หรือจะถ่ายรูปให้สวย
http://www.rawitat.com/2013/01/04/992/
ผมถือว่า data ใน jpg สามารถสร้างมาใหม่ได้จาก raw น่ะครับ ไม่ว่ายังไง raw ก็ปรับจนสวยเท่ากับ jpg ได้เป็นอย่างต่ำ
@wichate
jpg มันก็เหมือนบะหมี่สำเร็จรูป ถ่ายเสร็จพร้อมใช้ พกง่ายสะดวก
แต่ RAW มันเหมือนเอามาแค่วัตถุดิบ ส่วนจะปรุงได้อร่อยแค่ไหนมันขึ้นอยู่กับฝีมือและความต้องการของคนทำ
ใช่แล้วครับ ขอบคุณครับที่ช่วยปรับคำเขียนให้สละสลวยขึ้นแล้วครับ
ใส่วงเล็บแล้วความหมายชัดเจน ขอบคุณมากครับ
ส่วนตัวผมถือว่าไฟล์ RAW (ไม่ว่าจะ file extension อะไรก็ตาม) เป็นไฟล์ภาพครับ
เพราะ content ที่ไฟล์เก็บอยู่มันคือ RGB pixel เรียงกันจนเป็นภาพ เพียงแต่มันคือ pixel by pixel ที่ยังไม่โดน compression และแยกโปรไฟล์ทุกอย่างออกมาเก็บเป็นอีกส่วนครับ
หวังว่าท่านนี้จะเป็นตำนานไม่แพ้ F8 นะครับ :P
555+
แล้วจะเอาไฟล์ raw ไปใช้งานยังไงล่ะครับทีนี้ เหมือนจะเข้าใจคอนเซปต์ raw ผิดไปหรือเปล่าครับ ตามปกติ raw มีข้อมูลดีกว่าครบถ้วนกว่า jpeg อยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ หรือว่ามีเทคนิคหรือเทคโนโลยีใหม่อะไรที่ผมพลาดไป
ไม่มีหรอกครับ
JPEG เป็นแค่เทคนิคการบีบอัดภาพแบบมีการสูญเสีย ส่วนที่เราเห็นว่ามัน (อาจจะ) สวยกว่า RAW เพราะว่าตัวเครื่องมีการปรับแต่งภาพด้วย ในขณะที่ RAW เนี่ยเป็นข้อมูลดิบ ๆ
ถ้า RAW ปรุงเสร็จสวยน้อยกว่า Jpeg นี่แปลว่าคนปรุง ปรุงมาไม่ดีมากกว่าครับ
Shut up and ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ raise your dongers ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ
กะแล้วว่า samsung ไม่หยุด
BATT DSLR ตัวใหญ่และแรงพออยุ่แล้วมั้ง
หรอ?? ถ้าไม่ใช่แบตเสริม แค่ผมถ่ายไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องเปลี่ยนแล้ว เลยครับใส่แอนดรอยไปให้มันช่วยสูบแบตเพิ่ม
เปิด 3G ก็สูบแบตนะ
ไม่เห็นปุ่มควบคุมอะไรบนกล้องเลย มันไม่ใช่แล้วจิ๊บ
มันย้ายไปอยู้บรนเลนส์ครับ ปุ่ม Fn น่ะ
ปกติ DSLR เปิดแล้วต้องพร้อมใช้งานได้ทันที อยากรู้ว่าเจ้าตัวนี้จะบู๊ตนานหรือไม่
เคยใช้ galaxy camera ตัวแรก ก็บู๊ตไม่นานนะ ยิ่งถ้าเป็น sleep mode นี่เปิดปุ๊บติดปั๊บ
Happiness only real when shared.
แต่ข้อเสีย sleep mode คือกินแบตนิดๆหน่อย ไม่เหมือน os dslr จริงๆ แต่เจ้านี้ทำแบตเสริมถอดเปลี่ยนได้แบบ S4 สบายใจไปอีกนิด
อ้าง Galaxy Camera
Galaxy Camera 2 น่าจะเร็วขึ้น
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
Force close ตอนกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มนี่คงร้องจ๊าก อย่างที่ท่านข้างบนว่า มาทรง dslr แต่ไม่มีปุ่มที่เป็นปุ่มจริงๆ มันแปลกๆ
โทรได้ไหมเนี่ย ถ้าโทรได้คงพิลึก
เห็นมีสัญญาณโทรศัพท์ โทรได้หรือเปล่าไม่แน่ใจ
แต่ถ้าโทรได้นี่เยี่ยมแน่นอน เพราะถ้าไม่อยากโทรก็ไม่ต้องเปิดโหมดโทรแค่นั้นเอง ง่ายๆ
แต่ถ้าจะโทร ใช้แนบหู สมอลทอล์ค บลูทูธก้ไม่ว่ากัน
ขอซบกับแคนอนต่อไปดีกว่า service ของเค้าดีเยี่ยมจริงๆ
หุ่นเขียวจะครองโลกแล้ว
/me อยู่กับ NEX สุดที่รักต่อไป ^^
อยากได้ sony nexperia
อีกนานมากที่มาทั่วโลก เพราะขายที่ญี่ปุ่นก็ดีพอที่เก็บไว้ขายที่เดียวอยู่แล้วครับ
มันมีด้วยเรอะ =*=
งง
แซวเล่นเรื่องกล้องของ samsung กับ sony ครับ
โห้ววว ว จินตนาการ เอา S Voice สั่งถ่ายรูป ไม่ต้องใช้สายลั่นทริคเกอร์ทั้งหลายเลยทีเดียว
ตอนใช้ S3 แล้ว อยากให้ Canon Nikon เอาไปใส่มากๆๆๆ
:: DigiKin8 ::
ถ้าถ่ายที่คนเยอะๆ...
ชู้ตตตตตตต
จินตนาการชัดเจนมาก
ชู้ต ชู้ต ชู้ต ชู้ต ชู้ต ชู้ต ชู้ตๆๆๆๆๆ ชู้ต ชู้ต ชู้ตๆๆๆๆ ชู้ต จิตนาการแล้วฮา
กะไว้แล้ว และมันก็มาแล้ว google+ มัน back up vdo ระดับ 1080 unlimitedและ ยิ่งมี Flickr อีก 1 TB ยิ่ง work อยากให้ nikon รีบเอามาทำด่วนๆๆๆ อย่ามัวแต่เห็นว่ามันไม่ pro (ที่เห็นยังมีแต่กล้อง compact android)
มีเครื่องคิดเลขด้วย บางอย่างก็ไม่เห็นจำเป็นต้องยัดมาก็ได้ ถ้าจะทำกล้องขนาดนี้
ยอมซื้อหนอน 100D ต่อ Eye-Fi ดีกว่า.
ถ่ายอยู่ force close จะทำไง :3
ปิด app และเคลียร์แรม ช่วยคุณได้ครับ
น่าจะเทียบกับกล้องธรรมดาได้ยากนะครับในเรื่องความเร็วและความเสถียร อย่าง dslr ที่ใช้อยู่เวลาเจอ error คือกดปิดเปิดใหม่ใช้งานต่อได้เลย
น่าจะออกแล้ว toycam ครับสินค้าแฟร์ชั่น มันฮาเท่านั้น
กล้องระดับ DSLR นี่เขาแข่งกันระดับว่าตั้งแต่ดัน Switch-on แล้วกล้องพร้อมถ่ายภายใน 0.xx วินาทีนะครับ
กว่าจะกดปิดแอพเคลียร์แรมเสร็จ DSLR ที่ใช้ embedded OS แบบดั้งเดิมถ่ายได้ร่วม 20-30 ภาพแล้วครับ
แต่
กล้องเหล่านั้น ไม่สามารถแก้ใขภาพอย่างที่ Android ทำใด้
กล้องเหล่านั้น แซร์ไฟลบนเน็ตใด้จำกัดกว่าที่ Android ทำใด้
กล้องเหล่านั้น ไม่สามารถลง app ไช้ทำอย่างอื่นอย่างที่ Android ทำใด้
ผมคิดว่าการรวมของหลายๆอย่างเข้าด้วยกันเป็นเรื่องปรกติ ความสามารถใหม่ที่เกิดขึ้นและการประนีประนอมเพื่อหาจุดลงตัวใหม่ก็เป็นเรื่องปรกติ และสินค้าแบบเก่าก็จะยังมีคนซื้อทำให้มีการผลิตออกมาขายต่อไป จนกว่าสินค้าใหม่นี้จะมีจุดลงตัวที่คนส่วนใหญ่ยอมรับและผลักสินค้าแบบเก่าออกไปจากตลาดเช่น กล้องฟิล์ม, plam
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
แก้ไขไดเครับ
บน android มันมีพวก drama shot / eraser mode นะครับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ช่างภาพจริงๆ เค้าก็เลือกถ่ายใส่ wifi sd card แล้วโยนไปแต่งต่อในแท็บเล็ตได้นิครับ จอใหญ่กว่า โชว์ลูกค้าได้ชัดเจนกว่า แชร์ขึ้นเน็ตก็ได้ แล้วมันไม่ใช่แต่งกันทีละ 10-20 รูป แต่งหน้างานมันก็เลือกมาแต่งให้ดูแค่รูปเด่นๆ เท่านั้นแหละ ที่เหลือไปทำในคอมมันเร็วกว่า
ในฐานะคนถ่ายรูป กล้องกึ่งโปรหรือ slr, mirrorless อะไรพวกนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทำให้อยากแบกกล้องคือความเชื่อใจครับ เชื่อว่ามันจะไม่แฮงค์ ไม่ค้างเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน เชื่อว่าจะตอบสนองกับภาพที่เกิดในเสี้ยววินาทีได้ ไม่ได้อยากได้ฟีเจอร์แขร์ภาพ ฟีเจอร์แต่งภาพขนาดนั้น เพราะมีการ์ดที่โยนไปทำที่อื่นได้อยู่แล้ว
+1
もういい
ในฐานะที่ผมก็ใช้กล้อง DSLR ผมขอเลือกแยกตัวกล้องกับอุปกรณ์ที่ใช้แต่งภาพดีกว่าครับ
สิ่งนึงที่สำคัญมากสำหรับกล้อง DSLR คือความเร็ว ตั้งแต่กดเปิดกล้องไปยันถ่ายภาพได้ ซึ่งในกรณีใช้แอนดรอยด์ นานๆ ไปอาจจะมีปัญหากับเรื่องนี้ได้ เอาง่ายๆ อย่างโทรศัพท์แอนดรอยด์ หลายครั้งที่ใช้ไปนานๆ แล้วแคชเต็มเครื่องจนทำอะไรได้ช้าไปหมด หลายทีแค่โทรออกยังรอเป็นสิบวิ กว่ามันจะขึ้นมาหน้า dialing ซึ่งถ้ากรณีแบบนี้เกิดขึ้นกับ DSLR มันทำให้คุณสามารถพลาดวินาทีทองไปได้เลยครับ
จริงอยู่ที่ว่าคุณสามารถกดเคลียร์นั่นนี่ได้ แต่จากประสบการณ์ มันก็ช่วยได้แค่พักเดียว
ก็นะ ส่วนตัวคิดว่ามันคงแป้กในกลุ่มคนใช้ DSLR อย่างจริงจัง แต่ก็น่าจะขายได้สำหรับคนที่ต้องการกล้องฟีเจอร์เยอะๆ แบบคอมแพ็คล่ะมั๊ง
ดูจากการออกแบบแล้วเชื่อเลยว่าใช้ยาก ถ่ายเล่นๆชิลๆอ่ะได้แต่เอางานเอาการแบบต้องอาศัยการควบคุมที่เร็ว
ไม่รอดแน่ๆเพราะปุ่มไม่มีแบบนี้นึกถึงตอนแนบหน้าดู EVF แล้วถ่ายก็คงเก็ทล่ะนะว่ายากยังไง
งง app music จะใส่มาทำไมให้หนัก เครื่องคิดเลขก็ด้วย ปฏิทินก็ด้วย กล้องก็คือกล้อง มี app เกียวกับภาพก็พอแล้ว ไม่ควรมี google play ด้วยซ้ำ
ผมว่าประโยชน์ในการใช้งานมันไม่ชัดเจนน่ะ
คือ กล้องตัวนี้ออกแบบมาเพื่อให้มีฟังชั้นมากกว่ากล้องทั้วไป ถ้ายเสร็จแล้วแก้ไขแล้วส่งขึ้นเน็ตเป็นต้น
... เมื่อจะขายฟังชั้นแล้วจะตัดฟังชั้นไปทำไมอะครับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ที่คุณว่ามามันก็คือฟังก์ชันที่เกี่ยวกับภาพครับ เพราะมันคือกล้องที่เน้นฟังก์ชัน(ลองนึกถึงว่าเราจะทำอะไรกับภาพได้บ้าง กล้องตัวนี้ทำได้หมด) แต่ก็ยังไม่เห็นว่ามันจะเกี่ยวกับ music เครื่องคิดเลข ปฏิทิน
สรุปคือฟังก์ชันเยอะดีแล้ว แต่ต้องเป็นฟังก์ชันที่เกี่ยวกับภาพเท่านั้น
บอกว่าเค้าจะขายฟังชั้น แล้วจะตัดฟังชั้นไปทำไม ในเมื่อ Android มี music เครื่องคิดเลข ปฏิทินซึ่งก็เป็นฟังก์ชันแถมทำเอาไว้แล้วด้วย จะตัดฟังชั้นพวกนี้ออกให้เสียมูลค่าทำไม
Samsung จะขายมันในฐานะ Smart camera เจ้าคำว่า smart เนี่ยคิอการทำใด้หลายๆ อย่างซึ่งไม่จำเป็นต้องตรงประเด็นนัก อย่างตอนที่ phone กลายเป็น smart phone นอกจากโทร์ออกรับใด้แล้ว นาฬิกา music เครื่องคิดเลข ปฏิทิน fm ถ่ายรูป เกมส์ ไฟฉาย ไปจนถึงลงโปรแกรม (java) ยังไม่ทำให้มันเรียกว่า smart phone เลย
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ใส่แล้วไม่ได้ใช้ กับใส่มาเผื่อๆ
ถ้าเผื่อแล้วไม่มีอะไรก็ดีไป แต่ถ้าต้อง drawback กับระบบที่ใหญ่ขึ้น ความเสถียรลดลง ความเร็วลดลง อย่าใส่ฟังก์ชั่นที่ไม่จำเป็นลงมาเลยครับ
บน Android ฟังชั้นพวกนี้เหมือนโปรแกรมอันหนึ่งถ้าไม่ไช้ก็ปิด ไม่ทำให้ความเสถียรหรือความเร็วลดลงหรอก
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
มันขึ้นอยู่กับแต่ละแอพครับ บางแอพไม่ใช้จะปิดทิ้งก็ได้ ก็จริงอยู่ แต่บางแอพมันก็สร้างไฟล์เอาไว้เยอะ และพอไฟล์เยอะ ระบบจะอืดลงอย่างเห็นได้ชัดครับ และเอาเข้าจริงๆ บางแอพถึงจะปิดมันก็ไม่ได้ปิดจริงๆ โดยเฉพาะแอพฟรีทั้งหลาย หลายแอพมากที่พยายามต่อเน็ตไปดึงโฆษณาอยู่ตลอด
จะให้ไม่มีปัญหาก็เหลือแค่ซื้อมาถ่ายรูปอย่างเดียว แล้วไม่ได้ลงอะไรเพิ่มนั่นแหละครับ คำถามคือซื้อมาแล้วไม่ลงอะไรเพิ่ม จะซื้อมาทำไม?
"สร้างไฟล์เอาไว้เยอะ และพอไฟล์เยอะ ระบบจะอืดลงอย่างเห็นได้ชัดครับ"
ไม่เกี่ยวแล้วครับ storage สำหรับมือถือมันเป็น Flash Storage หมดแล้ว ไม่มี access/seek time สูงๆ, fragment, platter ด้านนอก/ด้านใน อีกแล้ว
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
เกี่ยวครับ เอาจากประสบการณ์ส่วนตัว ผมใช้แอพ tweetings ซึ่งแคชของแอพนี้จะสร้างไฟล์เล็กๆจำนวนมหาศาลไว้ พอแคชมัยถึงประมาณ 1-200 MB การทำงานต่างๆจะนานขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เช่นการติดตั้งหรือถอนแอพ หรือการทำงานอื่นๆที่เกี่ยวกับไฟล์ (ประเภทที่ต้อง seek หาไฟล์ทั้งหมดอย่างพวก gallery นั่นแหละ)
แต่พอล้างแคช ทุกอย่างก็กลับมาทำงานเร็วตามปกติ
ถ้ากรณีที่ผมเจอมันไม่เกี่ยวกับไฟล์จำนวนมากแล้วมันมาจากไหนครับ มือถือผมไม่ได้ใช้ฮาร์ดดิสก์จานหมุนนะครับ
ใช่แล้วครับ samsung ต้องการชนะคู่แข่งอย่างโทรมหนี้ให้ได้ครับ
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการที่เขาใส่แอพ music เข้ามาล่ะครับเนี่ย ผมว่าคงไม่มีใครคิดจะใช้กล้องมาฟังเพลงหรอกครับ
คิดเล่นๆ ครับ ถ่ายไปฟังเพลงไป สุนทรีย์ดีจริงๆ
ผมว่ามันลิเกมากเลย เอา ChatON มาใส่ในกล้อง DSLR เนี่ย
ถ้ามีคนเอามาแนบหูคุยจะยิ่งฮา คนเดินผ่านไปมา จะคิดยังไง 555
มันก็น่าสนุกที่จะได้ใช้กล้องในแบบแปลกออกไปนะ
แบบนี้ดีกว่าไหม DSLR + อุปกรณ์ลักษณะคล้ายมือถือจอ 4 นิ้วบางๆไว้ต่อกับกล้องที่เป็นแอนดรอย
พอแปะ เสียบ แทง ยัด เข้าไปก็ทำได้เหมือนกับแอนดรอยที่ต่อ DSLR
จะได้ไม่ต้องไปทำให้ software ของ DSLR เสียหาย
จริงๆผมว่าถอดการ์ดจากกล้องไปยัดใส่แท็บเล็ตแล้วทำต่อในนั้นน่ะเวิร์ดสุดละ - -
ถ้าดูแค่นี้ บอกได้เลยว่าคงขายได้แค่ entry level ครับ
ระดับสูงขึ้นมาหน่อยไม่มีทางเจาะตลาดได้แน่ๆ ยังไม่นับรวมถึง ecosystem ทั้งเลนส์และอุปกรณ์เสริมต่างๆอีกนะ
ผมไม่คิดอย่างนั้นนะ รอบนี้ ผมว่ามันคือการเปลี่ยนใหญ่ของวงการกล้อง เป็นรอบที่ 3 จาก ฟิล์ม->ดิจิตอล และ จาก ดิจิตอล ->Cloud (แต่การเปลี่ยนอาจไม่แรงเท่าครั้งแรก แต่ผมว่า ถ้าบริษัทกล้องอื่น ไม่มาแนวนี้ อาจโดนชิง Market Share และยิ่งเป็น Samsung ด้วยแล้วมันน่ากลัวเป็น 2 เท่า)
ผมคิดว่าน่าจะต้องแบ่งมองตลาดเป็น 2 ส่วนก่อนคือ
Consumer ทั่วไป : อันนี้เป็นไปได้ครับกับลักษณะการใช้งานแบบถ่ายแล้วแชร์ แต่จุดที่น่าคิดคือขนาดของไฟล์นี่แหละที่อาจจะเป็นอุปสรรคของการเอาขึ้น Cloud ยิ่งไฟล์ 20+MP ของกล้องในปัจจุบันด้วย (แต่อาจจะหลบเลี่ยงได้ด้วยการขึ้น Cloud แบบ resize ส่วนไฟล์เต็มก็อยู่ใน CF/SD รอลงคอมต่อไป)
Prosumer-Professional : กลุ่มนี้ต้องการความเร็วกับประสิทธิภาพสูงสุดของกล้อง ส่วนใหญ่ถ่ายภาพเป็นไฟล์ Raw กันเกือบหมด Cloud ไม่น่าตอบจุดนี้ได้ครับ ถ่ายไฟล์ Raw (20MP 14 bit uncompressed นี่ไฟล์ 50+MB) กว่าจะอัพเสร็จ
และตราบใดที่ Samsung ยังไม่มี ecosystem ในส่วนของเลนส์กับอุปกรณ์เสริมที่แข็งแกร่ง กล้อง DSLR android ก็จะข้าม entry level ไปไม่ได้น่ะครับ
ถ้าเป็น Sony NeXperia ได้ตังค์ ผมละ
ต้องไรมาก ขอมี nfc แตะแชร์ ก็แจ่มแล้ว โพสเองอีดิทเองนี่ของแถม
ของซัมซุงคิดหนัก
แบตต้องทำใจครับ mirrorless ยังไงก็กิน แต่บางทีไปเที่ยว พกระยะกลางตัวเดียว + แบตสำรอง ยังเบากว่า dslr นะ
เอาเข้าจริง ผมสลับๆ กันไปแล้วแต่เที่ยวไหน
Shut up and ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ raise your dongers ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ
ขอจอละเอียดเกิน 320 ppi ขึ้นไปด้วยจะดีมากครับ
Galaxy camera-zoom ไม่ถึงสักตัว ไม่รู้จะงงไว้ทำไม ไหนๆก็ทำแล้ว
แล้วมีเหตุผลอะไรให้กล้องพวกนี้ต้องเป็น Android ล่ะแล้ง OS กล้องปกติคืออะไร และไม่ดียังไง จำเป็นมั้ยที่ต้องใส่ OS Android เข้าไป
OS กล้องปกติเป็นแบบ java os ทั่วไป ซึ่งมีจุดอ่อนตรงแก้ไขรูปในตัวได้ยาก จึงนำ android มาใส่ใน dslr เพื่อดึงดูดคนรุ่นใหม่มาซื้อ dslr มากขึ้น เช่น เปิด PS แก้รูปแบบ raw ได้ทันที เป็นต้นครับ
OS กล้องเป็น java os ???
android เปิด PS ???
Photoshop Express กับ Photoshop Touch มั้ง
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
อธิบายตรง java os ว่า เป็น linux แบบ 5% และใช้ java เป็น container ถึง 95% เพราะลักษณะของระบบ คล้ายกับ feature phone มากที่สุดครับ
มีแหล่งข้อมูลไหนให้ผมศึกษาได้มั่งไหมครับ สนใจสนใจอยากรู้แต่ผมลอง google ดูแล้วไม่เจอข้อมูลพวกนี้เลยครับ
ป.ล. คุณติดเรื่อง Microsoft เปิด API ของ WP8 ให้ Nokia เยอะกว่าเจ้าอื่นๆอยู่ด้วยนะครับ ยังไม่ได้ตอบผมเลย
Link ศึกษาครับ บวกกับการวิเคราะห์ คาดเดาของผมเข้าไปครับ
ส่วน WP8 กับ Nokia ในเรื่อง API นั้น มีข่าว PR อย่างเป็นทางการของ Nokia ว่า Nokia ยุ่ง code ของ ms ไม่มากนัก ผมจึงแปลว่า เจ้าอื่นไม่ได้ยุ่ง code ของ ms (รับ code ดิบๆ ไปเต็มๆ ครับ)
ผมไม่เห็นข้อมูลส่วนไหนที่บอกว่าใช้ Java นะครับ มีแต่บอก OS ว่าเป็น DryOS(Canon)/Linux BusyBox(Sony) โดยเฉพาะ DryOS นี่เป็น OS แยกแบบ Realtime-OS และเท่าที่ดูมันไม่ได้เป็น Linux compatible จึงไม่น่าจะเอา Java ไปใช้งานได้ง่ายๆครับ
โดยปกติแล้ว Realtime OS มักจะใช้ Ada เป็น programming language หรือไม่ก็ใช้ C/C++ ไปเลยครับ น้อยมากที่จะใช้ Java จริงๆ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ถ้าถึงขนาดแต่งรูปเป็นจริงเป็นจังบนหน้าจอเล็กๆแบบนั้นผมว่าไม่เวิร์คครับและอีกอย่างกล้องสมัยนี้เริ่มมีฟังก์ชั่นรีทัชที่มีความสามารถเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ การนำแอนดรอยด์ในตอนนี้มาใช้งานผมว่ามันยังมีประสิทธิภาพที่ไม่เพียงพอ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
จอหลังกล้องมันไม่ได้ใหญ่โตขนาดให้ใช้โฟโต้ช็อปทัชได้สะดวกนะครับ แหม่
ตอนนี้ก็ 5" แล้วนะครับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
Galaxy NX 5 นิ้วหรอครับ ถ้า 5 นิ้วนี่คงขายออกยากล่ะ พกพาไม่สะดวกเอามากๆ ไหนจะเลนส์อีก ยกขึ้นถ่ายทั้งวันคงเมื่อยแย่
Galaxy Camera มีจอ 4.8" ครับ Galaxy NX ถ้าไม่เท่าเดิมก็น่าจะใหญ่กว่า ขนาดโดยรวมน่าจะไม่ใหญ่มากเพราะหน้าจอเต็มแผ่นหลัง
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ถ้าตัวนี้ 5 นิ้วจริงโอกาสขายออกคงยากครับ คนที่ใช้กล้องจริงๆ ไม่ค่อยปลื้มกับกล้องที่ใหญ่เกินไปนักหรอกครับ
เอาจริงๆ ผมว่า 5 นิ้วก็ยังใช้งานโปรแกรมแต่งภาพได้ไม่สะดวกเท่าไหร่อยู่ดีครับ (อันนี้รสนิยมส่วนตัวนะ) ผทใช้ซอฟต์แวร์พวก Digital Photo Professional หรือ Lightroom เป็นประจำ ผมชอบจอใหญ่ๆ เห็นดีเทลกว้างๆ จะดีกว่า (จริงอยู่ว่ามันซูมได้ แต่ซูมไปมันก็ไม่เห็นภาพกว้างๆ อยู่ดี อาจจะเห็นแค่ thumbnail อันกระจิ๊ดนึง)
อันนี้ผมค่อนข้างมั่นใจว่าช่างภาพไม่น่าจะชอบการแต่งภาพบนจอเล็กๆ เท่าไหร่ครับ
อ่านหลายเมั้นของคุณกลัวเบรกแตกจริงๆครับ, เหมือนคุณเป็นคนสร้างมากับมือนะครับเครื่องนี้.
ສະບາຍດີ :)
ตอนนี้กล้องแบบ compact / point & shoot โดนผลกระทบจาก smart phone ไปขนาดใหน และเมื่อตลาดยอมรับภาพจากกล้อง smart phone มากขึ้น คุณภาพกล้องมือถือก็ปรับปรุงเร็วมาก ดู nokia 808 920 ก็ใด้ เชื่อหรือปล่าวหละ สินค้าที่ไม่มีการปรับตัวอยู่ไม่ใด้ และในที่สุดจะไม่มีใครซื้อจนผู้ผลิตทำออกมาขายไม่ใด้ kodak เป็นตัวอย่างที่ดี
ไม่นานมานี้ก็มีสำนักข่าว ไล่ช่างภาพเก่าออก แล้วจ้างช่างภาพใหม่ ถ่ายรูปด้วย iphone ดังนั้นวันที่ dslr จะหายไปอาจไม่นานอย่างที่คิด เวลามีคนพยายามปรับปรุงให้ dslr มีที่อยู่ในตลาดผมจึงอวย สิ่งที่แลกไปก็ต้องยอมรับว่ามันยังใหม่อยู่ (เช่น full boot 23-24 วิ)
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
คือผมมองงี้นะ คุณต้องมองให้ออกว่าแก่นของผลิตภัณฑ์นั้นคืออะไร แล้วผู้ใช้คือใคร ถึงจะวิจารณ์เรื่องนี้ได้
ในกล้อง compact ผู้ใช้คือคนใช้ทั่วไปที่ต้องการถ่ายรูป ไม่ได้ต้องการคุณภาพรูปสูงที่สุด ขอแค่ได้เก็บภาพเอาไว้ กล้องมือถือจึงเข้าไปแทนได้ เพราะตอบโจทย์ว่าได้ถ่ายรูป แถมยังมีคุณค่าเพิ่มขึ้นไปอีกว่าสามารถแต่งภาพได้ง่ายๆ แชร์ง่ายๆ ตลาด compact เลยซบลง
ถ้าแก่นของ compact คือถ่ายรูปได้ แล้วแก่นของ slr หรือกล้องระดับกึ่งโปรขึ้นไปคืออะไร มันคือความเสถียร ความเชื่อใจ และคุณภาพของภาพครับ คุณจะแบกกล้องตัวใหญ่หนักเกือบกิโลไปทำไม ถ้ามันถ่ายได้คุณภาพใกล้เคียงกับกล้องมือถือ ทำงานได้เร็วประมาณกล้องมือถือ
กล้องโปรที่วัดความสามารถกันระดับเสี้ยววินาที ต้องเปิดกล้องพร้อมถ่ายภาพให้ได้ใน 0.2 วิ ช่างภาพสามารถถ่ายโดยดูแค่เลขความเร็วชัตเตอร์ ความกว้างรูรับแสงและ iso ภายในช่องมองภาพก็สามารถคาดการณ์ภาพที่จะถ่ายได้ สามารถเปลี่ยนการควบคุมโดยไม่ต้องละสายตาออกจากช่องมองภาพ ไม่ใช่ถ่ายไป ดูภาพสำเร็จในจอ lcd ไป คือจังหวะถ่ายภาพสมาธิช่างภาพจะจดจ่ออยู่กับแบบ อารมณ์จังหวะของแบบ จดจ่ออยู่กับความคมชัด จดจ่ออยู่กับค่าแสงเท่านั้น เรื่องอื่นๆ เราเชื่อใจกล้อง และค่อยกลับไปแก้ RAW เอา
ผมไม่ได้เถียงว่าอนาคตมันต้องเดินต่อ แต่กล้องอัฉจริยะที่จะมาแทน dslr หรือ mirrorless ในปัจจุบันได้ มันต้องตอบโจทย์เดิมคือความเร็ว ความเสถียร ความเชื่อใจให้ได้ก่อน เมื่อนั้นช่างภาพถึงจะเปลี่ยนมาใช้กล้องใหม่ครับ ซึ่งผมบอกว่าเจ้าซัมซุงตัวนี้มันขาดการควบคุมภายนอก และที่ผ่านมา android ยังทำงานเป็นกล้องโปรที่รวดเร็วไม่ได้
ปล. เรื่องแบบนี้ต้องถ่ายกับกล้อง slr แบบถ่ายภาพกีฬาหรือถ่ายแคนดิตจริงๆ นะ แล้วจะรู้ว่าโลกส่วนตัวที่เราคุยกับตัวเองใน viewfinder มันเป็นยังไง มันคนละเรื่องกับถ้ากล้องเล็กๆ ถ่ายด้วยจอหลังกล้องเลย
Galaxy NX ผมไม่รู้ แต่ Galaxy Camera เปิดจาก sleep mode เร็วไม่ต่างจากกล้องทั้วไปนะครับ
ส่วนการตั้งค่าต่างๆ ใน viewfinder ผมไม่รู้เหมือนกัน แต่ผมเห็นปุ่มเปิดปิดแฟรชอยู่ทางซ้าย และล้อกลมๆทางขวาน่าจะตั้งค่าอย่างอื่นใด้มากกว่าไช้เปลี่ยนโหมด
ยังไงก็ตามน่าจะรอดูสินค้าก่อน ผมว่ามันน่าจะเป็น mirrorless ที่แพงกว่าปรกติ แต่ก็ใด้ drama shot, eraser mode (ของ S4) และ photoshop touch, Instagram, Facebook ใด้ในเครื่องเดียว
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
Drama shot, eraser mode เป็นแค่ของเด็กเล่นครับ ไม่ได้มีประโยชน์อันใดมากกว่าใช้โชว์ 2-3 ครั้ง
และที่ตอบมาทั้งหมดก็ชัดเจนว่าคุณไม่เข้าใจการถ่ายภาพด้วยกล้องกึ่งโปรเลย หรืออาจจะไม่เคยใช้ slr จริงจังในชีวิต เราต้องการปุ่ม ต้องการวงแหวนมากกว่านี้ วงแหวนที่มีบนกล้อง ตำแหน่งมันใช้แค่เปลี่ยนโหมดเท่านั้นแหละครับ ไม่ได้ใช้เปลี่ยนค่าหลัก 3 ค่าที่ช่างภาพต้องการ
Dial 1 ตัว กับปุ่มอีก 2-3 อันไม่เพียงพอกับ DSLR สำหรับใช้งานโหดๆแบบที่คห.บนบอกมาจริงๆนะครับ
ลองสังเกตกล้องระกับ 60D/7D หรือ D300 ขึ้นไป (APS-C Flagship) มี Dial 2 ตัวแล้วก็ปุ่มอีกร่วมสิบตัวครับ ถึงกระนั้น ช่างภาพ บางคนก็ยังรู้สึกว่าไม่พอ (สำหรับสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป) จนต้องตั้ง Custom setting ให้ปุ่มต่างๆเก็บไว้สำหรับแต่ละสถานการณ์เลยก็มีครับ
ผมว่ากล้องตัวนี้ขายได้ครับ แต่มันเป็นตลาด niche มากๆๆๆ
พวกโปรไม่น่าจะสนใจการแต่งภาพอยู่แล้ว เน้นถ่ายเร็วแล้วไปตกแต่งทีหลังมากกว่า ถ่ายไปรูปนึง ตกแต่งอีก 3 นาทีมันไม่ใช่อ่ะครับ
ส่วนพวกชอบมือถือหรือ Android ก็พกกล้องแยกกับมือถืออยู่แล้ว
อีกอย่าง Android มันไม่เหมาะกับการใช้งานแบบ Real-Time ครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
... ทำไมผมมองว่าตลาดมันใหญ่อยู่
คนที่ชอบมือถือและพกกล้องแยก น่าจะเป็นลูกค้าของ smart camera ตัวนี้หละ ถ่ายไปเรื่อยๆ ชอบรูปใหนก็ตกแต่ง แล้ว up ขึ้นเน็ต
สายนักข่าว ถ่ายรูป / video แล้ว 3g / wifi ส่งภาพไปที่โรงพิมพ์ แล้วโรงพิมพ์ก็ down มาไช้ใด้เลย
งานถ่ายรูปรับปริญญา หรืองานแต่งงาน ที่จัดแสงไว้ดีแล้วไช้ Burst Shot ก็เข้าท่า หรือจะกระจายรูปด้วย +even ก็น่าสนใจ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
สองอันแรกถ้าจะทำแบบนั้นไม่จำเป็นและไม่ควรเป็น slr ครับ
slr มีข้อเสียคือความเทอะทะและน้ำหนักของมันครับ คนจึงไม่นิยมพกมาถ่ายเล่น และมีโอกาสน้อยมากไปอีกที่จะถ่ายแล้วตกแต่งเลยทันที นอกจากนี้ยังมีคู่แข่ง mainstream อีกมาก เช่นตัว compact ที่ซูมได้ของ ss เองที่เพิ่งเปิดตัวไป
ส่วนอันหลัง ตากล้องมืออาชีพจะชอบ quality มากกว่า utility ครับ burst shot 100 รูป แต่สู้ภาพที่กดแชะด้วยมือเพียง 10 รูปไม่ได้ก็ไม่มีีความหมายครับ แถมเปลือง mem อีก อย่าลืมว่าภาพพวกนี้ถ่ายแล้วบันทึกเป็น RAW นะครับ ไฟล์ใหญ่มาก จะ burst shot ได้หรือเปล่ายังไม่รู้เลย
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
Galaxy Zoom, Galaxy Camera, nokia 808 920 และ smart phone ที่กล้องดีขึ้นเรื่อยๆ เป็นลิ่งที่เคลื่อนไปในทางเดียวกันครับ มือถือที่กล้องดีขึ้น กับ กล้องที่มีฟังชั้นแบบมือถือ สุดท้ายมันก็เป็นตัวเลือกหนึ่ง และเป็นการโยนหินถามทาง
สิ่งที่เป็นข้อเสียเห็นจะเป็นเรื่องราคา เพราะ cpu ram และ จอใหญ่ๆ มันมีต้นทุนเยอะ ใครไม่ชอบก็อย่าซื้อ ถ้ามันขายไม่ดีไปไม่รอด Samsung ก็จะหยุดทำออกมาเอง แต่ถ้ามันขายดีก็ต้องยอมรับ
ปล. Android เดี่ยวนี้มี ram 2-3 GB ผมไม่ห่วงเรื่อง burst shot สักเท่าไร่ มันถ่ายรัวประมาณ 10 รูปแล้วให้เราเลือกรูปที่จะเก็บ ซึ่งเหมาะมากสำหรับ shot รับใบปริญญา หรือ shot สวมแหวน/จูบในงานแต่งงาน ที่มีใด้แค่ครั้งเดียว
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
"Android เดี่ยวนี้มี ram 2-3 GB ผมไม่ห่วงเรื่อง burst shot สักเท่าไร่ มันถ่ายรัวประมาณ 10 รูปแล้วให้เราเลือกรูปที่จะเก็บ ซึ่งเหมาะมากสำหรับ shot รับใบปริญญา หรือ shot สวมแหวน/จูบในงานแต่งงาน ที่มีใด้แค่ครั้งเดียว"
DSLR รุ่นล่างๆ burst shot ต่อเนื่องได้เป็นอย่างต่ำ 20 ภาพ (ที่ราว 4-5 fps)อยู่แล้วครับ ถ้าเป็นรุ่นสูง+การ์ดความเร็วสูงนี่ไปแตะ 100 ภาพ (ที่ 7-9 fps) ได้เป็นของปกติครับ
ตรงนี้ไม่ใช่ข้อได้เปรียบของของ Android Smart Camera เลย
ส่วนเรื่องถ่ายภาพงานแล้วแชร์ออก wifi ทันทีนั้นตอนนี้มี SD card แบบ Eye-fi เป็นตัวเลือกอยู่แล้วครับ
Organizer จัดงานแต่งหลายๆเจ้าเริ่มเอามาใช้แล้ว ถ่ายที่หน้าซุ้มเป็น Raw+JPG แล้วส่งเฉพาะ JPG เข้าคอมเพื่อปริ้นท์ออกให้แขกที่ประตูทางเข้างานได้ทันที
ส่วนเรื่องอัพผ่าน 3G นั้นฟังดูเข้าท่าครับ แต่ใช้งานจริงผมว่าไม่ practical ครับ
JPG ขนาดใหญ่ ไฟล์หนึ่งอย่างน้อยๆก็ต้องมี 2-3MB ถ่ายแล้วกว่าจะอัพเสร็จ ไหนจะเรื่องความเสี่ยงของสัญญาณในพื้นที่นั้นๆ และ Bandwidth กับ FUP อีกต่างหาก
Burst Shot ของ Samsung S3 max ที่ 20 รูป ผมไม่มี S4, Galaxy Camera หรือ Galaxy NX มาเทียบเลยคาดต่ำเอาไว้ก่อน แต่ Sony Xperia Z ทำได้ 999 ภาพ (68 วินาที) - ประมาณ 14.6 ภาพต่อวินาที เนื่องจาก cpu แรง แรมเยอะ max ของ Burst Shot น่าจะเป็นเรื่องของ design มากกว่า
Android ถ่ายแล้วเป็นไฟล จากนั้นจะมีอีกโปรแกรมมาดึงขึ้นเน็ต ทำให้สามารถถ่ายเพิ่มใด้ทันที ไฟลไม่หาย ถ้าคิดว่าไฟลรูปละ 3mb ไช้ 3G ขนาด 1 GB จะส่งรูปใด้ 333 รูป ซึ่งก็เยอะอยู่ โปรน่าสนเช่น
กลัวเปลืองก็สามารถเลือกรูปก่อน upload ใด้ ต่อให้ติด FUD ที่ 256 kbps ก็น่าจะ upload ใด้ 10-20 รูปต่อชั้วโมง ไม่กลัวเปลือง (เช่นมี wifi นอกสถานที่) ก็สามารถสั้ง upload ตรงจากกล้องขึ้นเน็ตใด้
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
อย่าเพิ่งหลงประเด็นนะครับ
ตอนนี้ไม่ใช่การเอา spec มาข่มกันว่า Burst Shot กันได้กี่ภาพ
แต่จุดที่ผมต้องการชี้คือสิ่งที่คุณยกว่าเป็นจุดขายของ Android Smart Camera นั้น DSLR สามารถทำได้อยู่แล้วในระดับที่มืออาชีพเขาใช้งานกันเพียงพอแล้ว เช่นการ Burst Shot 100 ภาพเป็นเวลา 10 วินาที นั่นคือสุดๆที่ช่างภาพมืออาชีพยังใช้กันไม่ค่อยจะถึงเลยครับ
การจะ Burst ได้มากกว่า 100 ภาพ เช่นทำได้ 999 ภาพไม่มีความหมายในการใช้งานจริงครับ
ส่วนเรื่องอัพภาพ ผมบอกแต่แรกแล้วครับว่าใช้สำหรับ consumer ทั่วไปนั้นน่าสนใจครับ เพราะลักษณะการใช้งานมันไปกันได้
แต่กับระดับ Prosumer/Professional นั้นไม่ใช่แน่ๆ เพราะชม.นึงถ้าช่างภาพอาชีพโดยเฉพาะสาย Event ถ่ายกันจริงๆนั้น 8-16 GB ก็หมดได้ครับ
ตลาดที่กล้องแอนดรอยด์ฟีเจอร์ล้นๆ มันน่าจะลุยได้ คือพวกคอมแพ็คหรือกล้องตัวเล็กๆ ระดับ consumer ทั่วไปใช้งานมากกว่าครับ
ประเด็นที่ถกกันอยู่ตอนนี้คือ Galaxy NX มันมาเป็น DSLR ซึ่งคนที่ใช้ DSLR ไม่ได้ต้องการกล้องฟีเจอร์ล้นๆอยู่แล้ว แต่ต้องการกล้องที่พร้อมจะถ่ายในทันที และเชื่อถือได้ ซึ่งกล้องแอนดรอยด์ยังตอบตรงนี้ได้ไม่ดีครับ (ผมลองเปิดกล้องจากสแตนบายของ Galaxy Camera มันก็ยังช้ากว่า Canon 550D อยู่ดีครับ และคิดว่า NX คงไม่หนีกันมาก)
เอาง่ายๆ คือ 550D ในโหมดสแตนบาย คุณสามารถยกกล้องขึ้นมาแล้วกดโฟกัสแล้วกดถ่ายได้ทันทีไม่ต้องรอมัน wake สักติ่งเดียวครับ และกล้องที่รุ่นสูงกว่านี้ก็ทำงานได้เร็วกว่านี้อีก (แต่อันนั้นคงไปเกี่ยวที่ระบบโฟกัสแล้วแหละ ไม่เกี่ยวกับ wake แล้ว) ในขณะที่ galaxy camera ที่เคยลอง อย่างน้อยๆก็รอมันตื่นประมาณวินึง
มีตลาด compact consumer prosumer แล้วก็ DSLR professional อยู่แล้ว ตัวที่มาใหม่นี่อาจจะเปิดตลาดใหม่แยกออกมาก็ได้นี่ครับ
ถ้าจอหลังกล้องใหญ่ขนาดไอแพดขนาดนี้ผมก็ไม่กล้าจะอ้างเรื่ิองแก้ไขภาพลำบากแล้วล่ะครับ =_=
ย้อนกลับไปไซส์เล็กปกติบนหลังกล้องหรือไซส์มือถือก็ตามแต่ ผลกระทบที่ตามมาคือแบตมันควรจะขนาดเท่าไหร่เพื่อที่จะบาลานซ์การใช้งานอันหนักหน่วงแบบนี้เพราะสำหรับผมเรื่องความอึดของแบตคือหนึ่งในเหตุผลหลักในการเลือกกล้อง ไม่ใช่ว่าถ่ายไป 10 ภาพนั่งแต่งเสร็จแล้วต้องหยิบแบตก้อนใหม่มาเปลี่ยนนี่ยังไม่นับถึงการแชร์ใน social network นะครับ จากหลายๆเหตุผลที่กล่าวมาผมถึงคิดว่ามันยังไม่ถึงเวลาของการจับ Android เอาไปลงกล้องทื่อๆ
นับว่าเป็นแนวคิดที่ดีแต่ทุกวันนี้คุณภาพกล้องคอมแพ็คของซัมซุงผมว่ายังเป็นรอง Canon/Fuji อยู่เยอะ
กล้อง DSLR/mirrorless ก็ยังเป็นรอง Canon/Nikon/Fuji/olympus อยู่เช่นกัน
เพราะฉะนั้นตัวนี้ผมว่ายากที่จะมาตีตลาดเจ้าตลาดเดิมอยู่ในตอนนี้แต่ในอนาคต ถ้าแอนดรอยส์มีความสามารถในกาจัดการพลังงานที่ดีขึ้น มีความสเถียรภาพขึ้น (หมายถึงสเถียรภาพพอๆกับกล้องดิจิตอลที่โอกาศแฮงค์แล้วค้างน้อยมากกกกกกก)
และที่สำคัญคุณภาพของเลนส์และเซ็นเซอร์ทำได้ดีใกล้เคียง Canon/Nikon/Fuji ค่อยว่ากันครับ
ปล.อาจจะไม่ได้รวมทุกอย่างในเครื่องเดียวแบบซัมซุงเครื่องนี้ แต่ทุกวันนี้มี SD Card WiFi ถ่ายปั๊ปก็เอามาดูใน iOS/Android จะแต่งหรืออัพโหลดก็ตามสบาย
Failed product มาก ยุค 3/4 ดันออก apsc เจ๊งร้อยเปอร์เซนต์
4/3 หรือ 3/4 อะครับ
4/3 เซ็นเซอรเล็กกว่า aps-c อีกนะครับ
เอ่อ กล้อง DSLR ที่เป็นเจ้าตลาดก็เป็น aps-c นะครับ
ส่วนตัวผมว่าการยัด OS ใหญ่ๆ แบบแอนดรอยด์เข้ามาในกล้อง DSLR มันยังไม่เวิร์กนะ อย่างน้อยๆ ก็ในตอนนี้
สูตรของความสำเร็จคือโดนด่าแล้วเอาไปปรับปรุง บางคนก็ตั้งป้อมเกิน ขนาดกล้องใหญ่เค้ายังมีซอยรุ่นตั้งแต่เบสิคยันโปร เพราะความต้องการของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน
ยาวดีแท้ - - อ่านตาลาย
เกรงว่าจะมีคนซื้อมาลง Instagram นะครับ
ตัวผมในตอนนี้ไม่ต้องการสิ่งนี้แน่นอนครับ ถ่ายกล้องใหญ่แล้วเอามาแต่งแล้วค่อยอัพก็ได้ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าไฟล์"รอ"
ผมว่าพี่ซัมเขาไม่คิดมากขนาดนั้น พอดีโรงงานมีเครื่องจักรว่างก็เลยยัดนู่นใส่นี่มาให้เป็นผลิตภัณฑ์เพิ่มอีกตัว ขายได้มากน้อยยังไงถือซะว่าเป็นการใช้งานเครื่องจักรให้คุ้ม ส่วนตัวใช้จะไม่ใช้พวกระบบวุ่นวายขนาดนี้แน่ ใช้ฟังก์ชันพื้นฐานควบคุมการรับแสงพอ คุณภาพภาพอยู่ที่เลนส์กับตัวรับแสง
DSLR - ไม่มีปุ่มควบคุม มีแต่ touch screen = fail
ถ้าภาพได้ไม่ทันใจแน่นอน
ข้อดีของการเอา android มาใส่ใน DSLR คืออะไรกัน
มีโปรคนไหนแต่ภาพที่หลังกล้องบ้าง -_-
ในอนาคต อาจมีการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ 3 (cloud to any os device) ก็เป็นได้ครับ
ลงไลน์คงเล่นเพลินดี เล่นไลน์ในกล้อง นึกถึงสมัยใช้ n-gage หูช้างโทรเลย ตอนแรกคนรอบข้างก็ว่าแปลก พอไม่นานก็เริ่มฮิตในกลุ่ม
ที่แน่ๆ ตอนนี้ผมขี้เกียจแบก DSLR แล้วครับ ไปเที่ยวทีแบกไป เมื่อยไหล่
หลายคนบอกจะเอามา process ภาพในกล้อง มันไม่เปลืองแบตแย่หรอครับ แค่ลำพังถ่ายรูปอย่างเดียวก็เห็นต้องพกแบตกันคนละหลายก้อนละ กล้องถ่ายรูปมันต้องใช้นอกสถานที่นะ เรื่องแบตสำคัญมาก ถึงจะไม่ process ภาพ ก็ยังมีจอแสดงผลกับพลังงานที่ต้องใช้รัน OS อีก ผมว่ามันไม่ค่อยเวิคเลยนะ ไอเดียนี้