จากการเปิดตัว EOS 70D ที่มาพร้อมกับเซนเซอร์ตัวใหม่ Dual Pixel CMOS AF สำหรับปรับปรุงการโฟกัสภาพระหว่างถ่ายวิดีโอให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นนั้นเป็นวิธีใหม่ เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายทาง Canon จึงทำวิดีโอเพื่อโชว์ความสามารถในการโฟกัสภาพระหว่างถ่ายวิดีโอด้วยเซนเซอร์ตัวใหม่ในชื่อ Handmade ขึ้นมา (พร้อมเบื้องหลังการถ่ายทำด้วย)
อ้างอิงข้อมูลทางเทคนิคของ Canon แต่ละพิกเซลในเซนเซอร์ Dual Pixel CMOS AF จะมีไดโอดรับแสงอยู่หนึ่งคู่ โดยทั้งคู่สามารถทำงานได้พร้อมกันในโหมดถ่ายวิดีโอ (หรือ Live View) โดยสามารถทำ Phase detection ได้ในตัวทั้งคู่ ผลที่ได้คือสามารถโฟกัสภาพได้เร็วขึ้นมาก (และการถ่ายภาพนิ่งยังสามารถใช้งานได้พร้อมกันด้วย)
นอกจากปรับประสิทธิภาพในการโฟกัสแล้ว วิดีโอชุดนี้ยังแสดงให้เห็นถึงยุคใหม่ของระบบโฟกัสอัตโนมัติบนกล้อง DSLR ทั้งการล็อกวัตถุ ความลื่นไหลระหว่างโฟกัส การเปลี่ยนจุดโฟกัสด้วยการสัมผัส การถ่ายวิดีโอด้วยตัวเอง และยังทำงานร่วมกับเลนส์เดิมๆ ที่มีอยู่แล้วได้อย่างไม่มีปัญหา
ลองดูวิดีโอตัวอย่างได้ท้ายข่าวครับ
ที่มา - dpreview
เบื้องหลังการถ่ายทำ
Comments
อยากกินพิซซ่า ขึ้นมาเลย
ผมว่าถ้าโฟกัสตรงจาก Sensor แบบนี้
พวก Mirrorless น่าจะได้ประโยชน์เต็มๆนะครับ (หรือผมเข้าใจผิด)
DSLR ใช้เป็นหลักในช่วงถ่ายวิดีโอ เพราะภาพนิ่งระบบโฟกัสเค้าเทพอยู่แล้ว
แบบนี้ EOS M ตัวหน้าได้ใส่ไอ่นี่แน่ๆ
เห็นด้วยว่ามันน่าจะมีประโยชน์กับกล้องไร้กระจกครับ
ฟังชันน์ใหม่ๆนี่ชักจะคล้ายกล้องสมาร์ตโฟนเข้าไปทุกที
ยังได้ยินคนบอกในข่าว 70D ที่แล้วเลยว่า โปรเค้าไม่ใช้ระบบ Auto-focus กันหรอก หมุนมือเท่านั้น
เราก็สงสัยว่าไปได้ยินมาจากไหน กล้องภาพนิ่งปัจจุบันลงทุนกับระบบโฟกัสอัตโนมัติไปเยอะมาก จนมีเซ็นเซอร์อีกตัวเพื่อตรวจโฟกัสต่างหาก แล้วในส่วนของ SLR ที่มาถ่ายวิดีโอ ที่เขาไม่ใช้ระบบโฟกัสอัตโนมัติกันเพราะมันห่วย กว่าจะโฟกัสได้กินเวลาไปหลายวิ เลยหมุนมือดีกว่า
เหมือนกับเถียงกันเรื่อง จบหลังกล้อง ยุคสมัยนี้ผมว่าใครครบเครื่องกว่าคนนั้นชนะ
เห็นด้วยครับ
เรื่องหลังกล้องนี่ยอมรับว่าเดี๋ยวนี้ถ้าไม่ถ่ายเสียมาก Software มันช่วยได้มากจริงๆ
บางคนแต่งออกมานี่แบบ บริ๊งๆ เลย (เค้ามีจินตนาการ)
แต่ Skill หลังกล้องมันก็ต้องมีไว้ด้วย จะได้แต่งน้อยลง
คุณภาพรูปดีมาตั้งแต่เริ่ม ปรับนิดหน่อยให้เข้าทาง เพราะห่วยมามันก็แต่งไม่ขึ้นเหมือนกัน
เหมือนสาวๆแหละ จะสวยเด่นได้แม่ต้องให้มาดี(หรือศัลยกรรม) มีฝีมือแต่งหน้าควบคู่กัน
ถ้าไม่สวยเลยก็แต่งกันลำบาก แต่ถ้าสวยแล้วแต่งผิดแนวก็ไม่ขึ้น
ดังนั้นทั้งกล้อง ทั้งคนถ่ายนี่แหละต้องครบเครื่อง อิ อิ
ต้องแยกประเด็นให้ถูกนะครับ ... ข่าวที่แล้วผมก็หมายถึงวิดีโอ ไม่ใช่ภาพนิ่ง
ภาพนิ่งเด๋วนี้มีน้อยคนมากๆ จะใช้มือหมุน มีเฉพาะกลุ่มครับ ที่ยังหลงไหลเสน่ห์เลนส์มือหมุน ส่วนใหญ่ออโต้แน่นอนครับ
ส่วนการถ่ายวิดีโอนั้น การคอนโทรลด้วยมือยังถือว่าเชื่อใจได้ สั่งได้ดั่งใจกว่าอยู่ดีครับ ยิ่งสมัยนี้นิยมการใช้ dof ในงานวิดีโอมากขึ้น การโฟกัสแบบค่อยๆ หมุนให้ชัด ไล่ระนาบ dof ยังคงให้อารมณ์ที่ออโต้โฟกัสแบบชัดปุบปับไม่ได้ครับ
การถ่ายภาพยนต์ มิวสิค การโฟกัสด้วยมือยังสำคัญมากๆ ครับ เห็นได้จากทุกกองถ่าย ตั้งแต่สมัครเล่น จนถึงฮอลลีวูด นอกจากตากล้องที่คอลโทรลกล้อง หามุมแล้ว ก็ยังมีอีกคนแยกต่างหาก สำหรับทำหน้าที่โฟกัสวิดีโอโดยเฉพาะครับ
สงสัยเพิ่มเติม ถาม @Adamy ได้ครับ
WE ARE THE 99%
ก็ต้องดูว่าเราจะสามารถ touch to focus กับ 70D ตัวจริงได้เนียนเหมือนวิดีโอตัวอย่างที่แตะที่หน้าคน แล้วมาแตะที่อาหาร แล้วกล้องก็ค่อยๆ หมุนโฟกัสไปให้อัตโนมัติรึเปล่านะครับ
ถ้าไปได้ถึงขั้นที่ว่า ปรับสปีดการโฟกัสให้ช้าหรือเร็วได้ เมื่อใช้กับเลนส์โฟกัสนุ่มๆ อย่าง STM นี่ฟินเลยนะครับ ^^
WE ARE THE 99%
มันมีเรื่องสปีดการโฟกัสด้วยนะครับ บางทีเราก็ต้องการช้าๆครับ ต้องมาดูกันว่าตัวนี้ทำได้มั้ย
ถ้าลองดูหนังหรือ mv จะเข้าใจครับ
ไม่เข้าใจว่าผมเข้าใจถูกรึเปล่านะครับ อ่านมาจาก DPreview บอกว่าเซ็นเซอร์ใหม่ของ Canon ตัวนี้ คือมันแยกรับแสงซ้าย-ขวา เพื่อใช้โฟกัสอัตโนมัติแบบ Phase-detect ที่เอาแสงข้างซ้าย-ขวา มาเทียบกันหาโฟกัส
ไม่น่าใช่หาโฟกัสข้างหนึ่ง แล้วรับแสงข้างหนี่งนะครับ
ปล. นั้นหมายถึงกล้องนี้มี 40 ล้านพิกเซล แล้วหาร 2 รึเปล่า
การทำงานเหมือนกับที่เป็นครึ่งวงกลมสองอันประกบกันที่ไว้เล็งโฟกัสสมัยก่อนหรือเปล่าครับ? ถ้าใช่นี่ก็เข้าใจได้เลยนะว่าทำไมถึงโฟกัสได้ดีขนาดนั้น
ผมเรียกชื่อไม่ถูกครับ ขออภัย
เรียกว่า split screen ครับ
คือการโฟกัส โดยปรับให้ภาพทั้งสองที่เหลื่อมกันอยู่ ให้มันกระกบเป็นภาพเดียวกัน
ปัจจุบันระบบออโต้โฟกัสใน DSLR ยังคงใช้ split prism. อยู่ แต่เค้าใช้ ccd ในการวัดแทนใช้ตาคน
แต่ไม่นึกว่างวดนี้ แคนน่อนจะมาแปลก. โดยเอา split prism ฝังไว้ในเซ็นเซอร์เลย. งานนี้ ตลาด mirrorless คงคึกคักในไม่ช้า
phase detection ในระดับเซ็นเซอร์มีมาพักใหญ่แล้วครับ
http://www.dpreview.com/news/2010/08/05/fujifilmpd
อย่างล่าสุดเด่นๆ ก็มีใน Fuji X100S
แต่ผมก็หวังว่า mirrorless ก็จะเอามาใช้กันเยอะๆ ซักที
เห็นเมื่อไม่กี่เดือนก่อนผมรู้สึกคุ้นๆ ถ้าจำไม่ผิดว่ามีข่าว Olympus กับ Sony มั้งครับ ร่วมมือกันทำเซ็นเซอร์ที่ใช้ phase detection ได้
แต่ผมก็สงสัยอีกอย่างว่า แล้วอย่างนี้ยังมีโอกาสเกิด back front focus เหมือนการใช้เซ็นเซอร์โฟกัสแยกหรือเปล่า
ลองอ่านใน link แล้ว phase detection แบบของฟูจิมันเป็นการใช้ pixel เพื่อการ detection โดยเฉพาะโดยการบังการรับแสงของ pixel ไปครึ่งนึง ทำให้เสีย pixel นั้นไปเลย แล้วอาศัย pixel ข้างๆเกลี่ยเอา ทำให้มี pixel ประเภทนี้ได้ไม่เยอะด้วย
ส่วนของ canon นี่ใช้วิธีแบ่งแสงลง จุดละ 2 pixel ทุกจุด แล้วรวมแสงกลับทำให้ไม่เสีย pixel ไป และใช้ focus ได้ทุก pixel(ยกเว้นขอบๆ)ครับ
อ้อแล้วก็การ focus ที่ระนาบ sensor เลยแบบนี้ไม่น่ามี back/front แล้วนะครับ (แต่ชุด focus แบบเดิมก็ยัง back/front ได้อยู่)
ถ้าเป็นจริง
แสดงว่าดีกว่าพวก Sensor ตระกูล Fuji Olympus Sony เสียอีก
ถ้าทำงานได้ดีกว่าอย่างจริงๆ การนำเทคนิคนี้ไปใช้ใน Mirrorless จะยิ่งลดช่องว่างกับ DSLR ลงไปอีก
ซึ่งผมมองว่า แนวโน้มการพัฒนามันก็เทไปด้านนั้นจริงๆ
จริงๆ มีใน Fujifilm F300EXR และ Nikon One System ที่เป็น mirrorless มาก่อนแล้วแต่ Canon เป็นเจ้าแรกที่เอามายัดใส่ DSLR เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ต้องดูกันต่อไปว่าคุณภาพไฟล์ที่ได้จะเจ็บไหม
พูดถึงกล้องไร้กระจก มันไม่มีฟร้อนโฟกัสแบ็คโฟกัสอยู่แล้วนะครับ แสงลงที่เซ็นเซอร์รับภาพตรงๆก็จับโฟกัสเอาตอนนั้น
มันพัฒนาเพิ่มขึ้นจากแบรนด์คู่แข่งครับ ลองอ่าน อธิบายเทคโนโลยี ในหน้านี้แล้วจะกระจ่างเลย
http://www.dpreview.com/previews/canon-eos-70d/3
ใช่ครั้บกล้องมี 40 ล้านพิกเซล แล้วรวมแสงกลับเป็น 20 ล้านพิกเซล
วัดกันแค่ถ่ายวีดีโอ ถ้าเอาไปเทียบกับรุ่นเก่าของโซนี่อย่าง A77 ตัวไหนน่าสนใจกว่ากันหว่า
พวก DSLT ผมว่ามันยอมลดความโหดด้านภาพนิดนึง(ยอมเสียแสงไปกับ Translucent)
เพื่อจัดเต็มด้านวิดีโอเลยนะ อ้อแต่ก็ได้ Speed เยอะโขอยู่ (ไม่ต้องสับกระจก)
ถ้าแพ้เทคนิคนี้ของ Cannon เห็นทีจะเสียจุดเด่นด้านภาพเคลื่อนไหวไป สำหรับ DSLT
แต่ผมก็ไม่รู้อยู่ดีว่าตัวไหนโหดกว่าด้านภาพเคลื่อนไหว
ถ่ายสวยครับ ไม่รู้เลยว่าใช้ DSLR
และที่แน่ๆ คือหิวเลยครับ
I need healing.
เซลไซต์ซ้ายขวาไม่ได้แบ่งหน้าที่ตัวหนึ่งถ่ายวิดีโอ ตัวหนึ่งหาโฟกัสครับ มันทำหน้าที่เดียวกัน คือรับภาพ พร้อมรับแสงคนละเฟส เพื่อหาโฟกัสไปในตัว
canon เอา android ใส่ในกล้องด้วยเลย
กลัวแบตไม่หมด? / ถ่ายวิดีโอยังร้อนไม่พอ? -____-"
@mamuang
ผมยังไม่เห็นประโยชน์ที่จะเอาไปใส่เลยครับ แค่ตัวซอฟท์แวร์ที่มากับกล้องตอนนี้ก็ดูเยี่ยมมากๆ แล้ว
เห็นแล้วหิวเลย
กล้อง dslr สมัยนี้แทบจะทำให้กล้องถ่ายวีดีโอแทบจะสูญพันธุ์กันเลยทีเดียว
กล้องถ่ายวิดีโอ (ที่ราคาเท่ากัน) ก็มีข้อดีเหนือกว่าใช้ SLR ถ่ายเหมือนกันครับ :-)
DSLR เท่าที่ผมได้ฟังมา ประมาณว่า Sensor มันทนการรับแสงนานๆในระยะยาวไม่ได้
พวกซื้อมาถ่ายหนังสั้น หรือมือสมัครเล่นหัดทำหนัง นิยมใช้กัน
แล้วมาปล่อยมือ 2 ถูกๆ
เพราะถ้าถ่ายหนังซักเรื่องสองเรื่อง ถึงเลขชัตเตอร์ไม่เยอะ
แต่ Sensor เสื่อมไปไวมาก
เคยเอา DSLR ไปถ่ายละครเวทีครับ อยากได้ Depth สวยๆ ผ่านไป 5 นาที กล้องตัดหยุดเพราะ sensor ร้อนเกิน สุดท้ายกลับไป A1 เหมือนเดิม 555
ที่จริงผมก็สงสัยนะว่า ไอ้ที่ร้อนเนี่ย Sensor หรือตัวประมวลผล
ถ้าอยากได้ Depth อาจจะต้องใช้กล้องพวก Red มั้ง ? (มีอะไรอีก Sony NEX-F series ?)
Sensor เนี่ยแหละครับที่ร้อน ไซส์มันใหญ่ สะสมความร้อนได้มาก ถ้าพวก sensor เล็กมันจะระบายความร้อนได้ดีกว่า
Sony NEX-F เป็น APS-C ได้ Depth ไม่เท่า Fullframe ส่วน Red แพงมากครับ 555
NEX-FS100 ,FS700 ,VG900 Sensor เป็นฟูลเฟรม
FS700 นี่ตีกับ Red ได้สบายๆ ทำ Slow Motion 10x ที่ Full HD ได้
กล้อง DSLR เอามาถ่ายหนัง มันก็ได้แค่พื้นๆ เน้นแค่ประหยัดต้นทุน
มันต้องเอาไปทำต่อในคอมเยอะ ยังไงมันก็สู้กล้องเฉพาะทางไม่ได้
ผมเข้าใจว่ากระบวนการทาง post process นี่มันแล้วแต่ฝีมือและความต้องการของแต่ละโปรเจ็คมากกว่า ไม่เกี่ยวว่าทำเยอะทำน้อยนะครับ ถึงแม้จะเอาไฟล์ที่ได้จาก Red มาตัดต่อแบบทื่อๆ มันก็คงไม่น่าดูสักเท่าไหร่
จริงๆ มันคงแล้วแต่ขนาดของโปรดักชั่นนั่นแหละครับผมว่า ถ้าเลือกได้เค้าก็คงเอากล้องที่ดีที่สุดที่เป็นไปได้มาใช้อยู่แล้ว
ก็จริงอย่างที่คุณ nrml ว่า
แต่อุปกรณ์ดีมันก็ลดข้อจำกัดในการทำ Post Process ลงไปได้แน่นอน แม้จะเล็กๆน้อย มันก็คือเวลา
คงไม่มีใครเอากล้อง Red ไปถ่ายหนังเพราะแค่มันให้คุณภาพไฟล์ที่ดีกว่า DSLR จริงมั๊ยครับ
ขอโทษครับ ผมเข้าใจ NEX-F เป็น NEX-F3 ครับ ^^'
สงสัยครับ กล้องอะไรถ่าย Video 5 นาทีแล้วหยุด เพราะตอนผมใช้ D7000 , D600 ถ่ายไปครึ่งชั่วโมง มันก็ยังถ่ายได้ปกติ ไม่เห็นมันตัดอะไร
เป็นไปได้ว่าการ์ดช้าไปหรือเปล่าครับ ?
5D MKII ครับ ถ่ายชอตแรกๆจะนานกว่า 5 นาทีครับ แต่ถ่ายๆไปนานๆมันจะได้ราวๆ 5 นาทีเนี่ยแหละครับ(ความร้อนมันสะสม)
อ้อ อัด ISO สุดด้วยครับ เพราะมันมึดมาก ไม่แน่ใจว่ามีผลอย่างมีนัยสำคัญรึเปล่า
อัด ISO มีผลครับ
จริงๆ การถ่ายหนังเค้าจะถ่ายแค่ซีนสั้นๆ อยู่แล้วครับ นานๆ จะเจอแบบยาวๆ สักที ซึ่งต่างจากการถ่ายพวกโฮมวิดีโอที่กล้องแนวๆ Handicam จะยังเหนือกว่าอยู่ เพราะฉะนั้นในการใช้งานจริงผมว่าก็ใช้ได้เหมือนกัน
+1
Long-Shot นี่ส่วนใหญ่เป็นการโชว์พาวของผู้กำกับมากกว่า
จำได้มีหนังสั้นเรื่องนึงยาว 15 นาที 1 Shot แต่ซ้อมก่อนถ่ายปีกว่า...
Shut up and ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ raise your dongers ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ
อยากขาย 60D แล้วซื้อ 70D เดี๋ยวนี้เลย -*-
วีดีโอถ้าถ่ายในห้องเย็นๆ จะถ่ายเท่าไหร่เท่ากันไม่มีตัดเลยจ้า
ส่วนการมาของ 70D มาเพื่อเป็น Cinema เลย ไม่ได้มีผลกับภาพนิ่ง สำหรับการใช้งานจริงเท่าไหร่ :D
เข้าใจเทคโนโลยีนี่แบบละเอียดๆ อ่านได้ที่นี่ครับ อธิบายได้เยี่ยมมากๆ แจ่มแจ้งเลย
http://www.dpreview.com/previews/canon-eos-70d/3