อะไรเป็นสาเหตุให้ หน่วยงานของรัฐ มีเว็บไซต์ ที่ใช้ IE Only ตอนนี้ 8 พฤษภาคม 2550 เวลา 0.29 น. พอดีผมง่วงแต่นอนไม่หลับ นั่งอ่าน forum blognone เห็นมีคนลงชื่อ ตั้ง 9 คน ก็เลย ขอเขียนล่วงหน้าก่อน
'#-- บทความนี้ มิได้เจตนา ระบุให้หน่วยงานใด หน่วยงานหนึ่งเสียหาย หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งเสียหาย ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ---#
อะไรเป็นสาเหตุให้ หน่วยงานของรัฐ มีเว็บไซต์ ที่ใช้ IE Only เนื่องจาก หน่วยงานของรัฐ มีมากมาย ผมก็จะเอ่ยคร่าวๆ ไม่ระบุชัดเจน
ก่อนคำถามถึงสาเหตุให้หน่วยงานรัฐมี เว็บไซต์ที่ใช้ IE Only ต้องย้อนไปอีกคำถามเพื่อหาคำตอบว่า ทำไม หน่วยงานของรัฐจึงต้องมี เว็บไซต์
ปัจจุบัน หน่วยงานราชการส่วนใหญ่ จะต้องรับการประเมินจากหน่วยงาน กพร.(คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ) เพื่อประเมินประสิทธิ์ภาพการทำงาน ในองค์รวมของหน่วยงานนั้นๆ ซึ่งสิ่งที่จะได้รับจากการประเมิน คือ เงินตอบแทน ซึ่ง ภาษาชาวบ้านเรียกว่า เงินโบนัส ซึ่ง มูลค่าของเงินนี้ จะจัดสรรตาม ตำแหน่ง ถ้าระดับผู้บริหาร ระดับกระทรวง ละก็ บางแห่ง สามารถ ถอย รถป้ายแดง ได้ หนึ่งคันเลยทีเดียว แต่ว่าโดยมารยาทแล้ว ผู้บริหารจะนำเงินก้อนนี้ เลี้ยง ข้าราชการชั้นผู้น้อย แต่ก็ขึ้นอยู่ถึงจิตใต้สำนึก ของผู้บริหารนั้นๆ
ทีนี้ เรามาดูกันว่า เขาประเมินอะไรกันบ้าง ทาง กพร. จะกำหนดกรอบ การประเมิน เช่น งานด้านบริการ งาน ฯลฯ และที่ขาดไม่ได้คือ งานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งหน่วยงานทุกหน่วยงานที่เข้ารับการประเมิน ต้องมี การประเมินผลงานด้านนี้ (บางแห่งเรียกว่าตัวชี้วัด) แล้วรายละเอียดของตัวชี้วัด ใครเป็นคนกำหนด อันนี้ขอบอกได้ว่าแล้วแต่หน่วยงาน โดยส่วนใหญ่ ทางหน่วยงานที่มีหน้าที่ด้าน งานเทคโนโลยีสารสนเทศ ประจำหน่วยงานนั้นกำหนด หรือ ตามคำแนะนำของบริษัท ทริส (บริษัท ทริส คือบริษัทที่ กพร. จ้างมาเพื่อประเมินหน่วยงานราชการ แปลกดีไหมให้เอกชนมาประเมินราชการ แล้วให้คะแนน) ซึ่ง บริษัท ทริส กับ กพร. ก็เหมือนพระเจ้า ในเวลาตรวจประเมิน เพราะ หน่วยงานจะได้เงินโบนัสเยอะแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับการให้คะแนนของ บริษัท ทริส ทีนี้ ในการกำหนดตัวชี้วัดในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ สิ่งที่ ปรากฏในตัวชี้วัดที่ ให้ ทาง คนตรวจดูเนี่ย มันจะมีอยู่ข้อนึงคือ ร้อยละของหน่วยงานที่มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ บางแห่งอาจจะระบุลงไปชัดเจนว่า หน่วยงานต่างๆ ต้องมีเว็บไซต์ ขึ้นอยู่กับการเขียน ตัวชี้วัด เหตุผลว่าทำไมต้องระบุว่าให้มีเว็บไซต์ เพราะว่าในการตรวจแต่ละครั้ง ผู้ตรวจแม้จะมาตรวจดูหน้างาน จริงๆ แต่ด้วยหน่วยงานที่ต้องประเมินมีเยอะ ทางผู้ตรวจจึงเน้นถึงเอกสาร ที่แสดงถึง ผลงานจริงๆ เพราะฉะนั้น หน่วยงานบางเหตุ จึงระบุลงไปอย่างนั้น แล้วเวลาส่งเอกสารก็แค่ พิมพ์หน้าเว็บ ก็เป็นอันเสร็จพิธี
ต่อมา หลังจากเรารู้แล้วว่าทำไมต้องมีเว็บไซต์ของหน่วยงานต่างๆแล้ว มาดูว่าทำไม เว็บไซต์หน่วยงานถึงใช้ได้แต่ IE Only
เราต้องมาดูว่า ใคร เป็นคนทำเว็บไซต์หน่วยงาน ผมขอแบ่งหลักๆ กว้าง
1. จ้างภายนอก 1.1 จ้างในรูปบริษัท 1.2 จ้างในรูปบุคคลเช่น ครู อาจารย์ นักศึกษา ฯลฯ ที่รับเขียนเว็บไซต์ 2.เจ้าหน้าที่ภายในหน่วยงาน 2.1 เจ้าหน้าที่ จบ คอมพิวเตอร์ 2.2 เจ้าหน้าที่ มิได้จบคอมพิวเตอร์
เรามาดูหลักๆ ในหัวข้อแรก คือจ้างภายนอก ในการจ้างภายนอก นี้ส่วนใหญ่จะเป็นหน่วยงานที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ หรือมีแต่ขี้เกียจ โดย การจ้างนี้ก็ขึ้นอยู่กับหน่วยงานว่าจะจ้างกันที่เท่าไหร่ แต่จากประสบการณ์แล้ว สิ่งที่แปลกคือ ผู้บริหารในหน่วยงานนั้นๆ หรือผู้ตรวจรับงานนั้นๆ จะชอบให้เว็บไซต์ ใส่ Flash หรือภาพเคลื่อนไหว โดยไม่สนใจว่ามันจะทำให้โหลดช้า แต่อย่างใด และอีกประการ หนึ่งเลย ที่สำคัญ ในการจ้างภายนอก ทำเว็บไซต์ ทางหน่วยงานส่วนใหญ่ไม่ได้กำหนดลงไปชัดเจน ใน TOR (ข้อกำหนด) หรือในสัญญาจ้าง ว่าให้สามารถ รองรับ Browser อื่นๆนอกจาก IE ได้ ซึ่งจุดนี้เองที่ ทำให้ผู้รับจ้าง ไม่จำเป็นต้อง ตรวจสอบว่างานที่ส่งนี้ มันจะแสดงผลอย่างถูกต้องใน Browser หรือไม่ ขอเพียงตรวจรับผ่าน และรับเงินได้พอ
มาดูหัวข้อต่อมา คือให้เจ้าหน้าที่ภายในหน่วยงานทำ อันนี้ผมขอออกตัวไว้ก่อนว่าไม่ได้มีเจตนา ดูถูกคนที่ทำงานด้านนี้ในหน่วยงานของรัฐว่ามักง่าย เพียงแต่ว่า ขอแสดงความคิดเห็นสักเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ภายในหน่วยงานที่ทำงานด้านคอมพิวเตอร์โดยส่วนใหญ่มิได้มีหน้าที่ในการเป็น webmaster เพียงอย่างเดียว แต่ต้องทำงานสารพัด ที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ หรือไม่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์เลย อย่างน่าเห็นใจ ในอัตราเงินเดือนนี้ต่ำต้อย น้อยกว่าบริษัท อยู่โข ยกตัวอย่าง ตำแหน่ง นักวิชาการคอมพิวเตอร์ ระดับ 3 คุณสมบัติ ต้องจบ วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ หรือ วิทยาการคอมพิวเตอร์ หรือสาขาที่เกี่ยวข้อง รับเงินเดือน ครั้งแรก 7630 บาท (เจ็ดพันหกร้อยสามสิบบาทถ้วน) + 1,000 บาท ในกรณีที่เงินเดือนไม่ถึง 1 หมื่นบาท แต่โดนหัก ค่า กบข(กองทุนบำเน็จบำนาญข้าราชการ) อีก สอง-สามร้อยบาท ถ้าบุคคลในตำแหน่งนี้ ไปทำงานเอกชน เงินเดือนต่ำๆ เราคงรู้กันดีอยู่ว่าได้เท่าไหร่
ทำให้หน่วยงานของรัฐขาดแคลนบุคคลากรด้านนี้อยู่มาก ส่วนใหญ่จะแก้ปัญหาโดยการจ้าง พนักงานราชการ,พนักงานของรัฐ ซึ่งบางหน่วยงานจ้างเองในงบรายจ่ายของหน่วยงานนั้นๆ แทน หรือแม้กระทั้ง ให้เจ้าหน้าที่ ในหน่วยงานนั้นเองที่พอมีความสามารถ ด้านคอมพิวเตอร์ โหลดงานด้านนี้เพิ่มขึ้นจากงานประจำ
ในบางหน่วยงาน ต้องยอมรับว่า เจ้าหน้าที่เหล่านี้ขาดประสบการณ์ ในการทำเว็บไซต์ จะเห็นได้จาก บางเว็บไซต์ เขียนออกมา เหมือนในหนังสือ เปี๊ยบ
รูปแบบของเว็บไซต์ที่สร้างนี้ ก็มาจากความต้องการของผู้บริหารของหน่วยงานนั้นๆ ที่อยากจะได้อะไร ซึ่ง ก็เหมือนเคยว่า อยากได้ที่มันสวยๆ ภาพเยอะๆ เคลือนไหวได้ยิ่งดี
ครับถึงจุดนี้ก็พอเห็นภาพแล้วใช่ไหมครับว่า ทำไม อะไรเป็นสาเหตุให้ หน่วยงานของรัฐ มีเว็บไซต์ ที่ใช้ IE Only
สงสัยได้เวลา spread firefox อีกรอบ (รอบที่แล้วทำด้วยเรอะ?)
มีอยู่ กระจึ๋งเดียว ทำแบบ Free Hug ดิ
ทำคับ!
แต่ทำไมมัน spread ได้แค่นั้นอะพี่ - -
ผมว่าน่าจะ spread CMS ดีกว่า
เห็นด้วยครับ เริ่มที่ CMS เหมาะสมกว่าครับ
mambo ตอนนี้หน่วยราชการก็พยายามส่งเสริมกันอยู่หนิ ? แต่เห็นใช้งานกันน้อยมาก ------------------- meddlesome.tech.blog
เป็นอีกช่องทางให้คอรัปชันด้วยครับ
เท่าที่อ่านๆแล้ว ปัญหาหลักๆจะเกิดจาก TOR กับ เงินเดือน ผมเข้าใจถูกไหมครับ
/me ถอนหายใจด้วยความเซ็งแล้วเดินออกไปอย่างเงียบๆ...
ผมเชื่อว่าเว็บมันจะดีหรือไม่ดี ขึ้นอยู่กับการให้ความสำคัญกับเว็บของเจ้าของเว็บ แต่ทุกวันนี้บริษัทส่วนมากมีเว็บไว้ไม่ใช่เพราะต้องการให้คนเข้า แต่เพราะต้องการแค่มีเว็บต่างหาก และหลายๆครั้งเขาไม่สนใจด้วยซ้ำว่าราคาจะเท่าไหร่ เว็บบางเว็บราคาหลายหมื่น แต่ไม่มีอะไรเลยนอกจากเว็บที่ขโมยเท็มเพลทผู้อื่นมา และมีเนื้อหาที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้า
ถูก พูดถูกใจมาก
จบแล้ว? รู้สึกว่ามันน่าจะมีอะไรมากกว่านี้อีก
We need to learn to forgive but not forget...
ม่อนมันใส่น้ำเยอะจัด
จ่าสรุปคร่าวๆ ได้ว่า คนดูแลไม่มีความรู้ แล้วคนทำก็มักง่ายมาก เลยเนียนใช้ IE + Windows-874 ซะอย่างนั้น
ถูกต้องนะครับ
ก็อย่างว่าครับ มันไม่ได้เกิดขึ้นมากจากที่ว่า จะมีเวบเพื่อแก้ปัญหาอะไร
ผมมองอย่างนี้นะครับ เป็นเพราะหน่วยงานของรัฐมีงบประมาณจำกัด (แค่ใช้ตามปกติก็ยังไม่พออยู่แล้ว ยังจะกินกันไปถึงไหนก็ไม่รู้) ทำให้ไม่สามารถจัดจ้าง คนทำงานที่มีความเป็น professional มาทำงานได้ ที่เคยเห็นมักจะเป็น บริษัทบริโภคแหลก .. รับเงินไปเยอะ โฆษณาดี (sale ทำงานเก่ง) แต่ developer ทำอะไรไม่เป็น เบื้องหลังจ้างพวกนักเรียน นักศึกษา พวกรับงานราคาถูก ทำแบบชุ่ยๆ
งบน้อยนี่ไม่จริงครับ ที่น่าเศร้าคือเงินเหลือ จะมีความผิดฐานใช้งบไม่มีประสิทธิภาพ ท้ายๆ ปีงบประมาณ พวกรีสอร์ทหรือโรงแรมก็รับเละกันไป เพราะจัดสัมนามันไม่ต้องคิดมากดี
น่าจะเป็นคำว่า ใช้งบไม่มีประสิทธิภาพ มากกว่า
เสนอราคาก็ต้องเลือกเจ้าราคาต่ำสุด ผมละช้ำใจ อยากได้ของแพงก็ต้องเขียนอธิบายสามหน้า แถมโดนเจ้าราคาต่ำสุดขู่อีกต่างหาก
ไม่น้อยครับ โครงการหนึ่งประมาณสี่หมื่นถึงหกหมื่นครับ
คนซื้อไม่มีความรู้ (แต่อยากได้ผลงาน อยากได้โบนัส) คนขาย (รับงาน) ก็อยากได้งาน
งบได้มาทำเวบเยอะมากครับ แต่จ้างถ่อยมากๆ บริษัทรับงานมาโยนให้นักศึกษาทำ ให้่ค่าจ้างทำไม่กี่พัน ที่ผมรู้มาบางเวบเด็กมัธยมที่เพิ่งหัดทำเวบทำไห้ด้วยครับ
โดนจัยครับ
MASAKA... (แปลว่า พูดเป็นเล่นไป - -")
คุณภาพของเว็บขึ้นกับ TOR ใครทำไม่สำคัญ ถ้าผ่าน TOR ก็ต้องทำใจ
บางทีก็ถูกบริษัทข้ามชาติหลอกเอาครับ (แหมขายฝันซะหรู พอไป implement จริงๆ ไม่เห็นมันจะได้อย่างที่เมิงโม้เลย)
ปล. ผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสียนะ แม้จะทำงานเว็บที่เป็น IE only ให้กับหน่วยงานของรัฐบางแห่ง เพราะว่าผลิตภัณฑ์ตัวนั้นมันต้อง IE เท่านั้นจริงๆ ถึงจะ Work! (ตัวอื่นก็พอดูได้ แต่ทำอะไรได้ไม่มาก)
bank บางแห่งยัง IE Only เลย
ผมว่าเกี่ยวกับความเข้าใจของ web developer, web designer ด้วยครับ ส่วนใหญ่ยังเข้าใจว่า internet = IE + outlook อยู่เลย (ดูสถิติผู้ใช้ blognone เองก็ได้)
เครื่องมือที่ใช้ทำเว็บ ก็สำเร็จรูป dreamweaver บ้าง go-live บ้าง หรือบางรายที่ใช้ CMS ที่ implement เรื่อง web standard ก็ดีไป ไม่ใช้ table จัดเลย์เอาท์ แต่ก็ไม่วาย windows-874 อยู่ดี
ยิ่งถ้าใช้ tool ของฝั่ง MS แล้วยิ่งแย่ใหญ่ เจอฝังโค๊ดอะไรเต็มไปหมด
เลยต้องบอกว่า this website best view with IE and monitor size 1024x768 ซะเลย
ทางแก้น่าจะเป็นการส่งเสริม web standard และ opensource ให่กระจายออกสู่วงกว้างมากกว่านี้ แต่คงหวังหน่วยงานของรัฐยาก เว็บใหม่ของ sipa ก้ยังเข้าข่ายนี้อยู่ดี ;-)
มีใครแนะนำทางอื่นได้อีกมั้ยครับ
-------------------- izziSoft
มีแผงหนังสือเป็นข้อยืนยันครับ จากการไปสำรวจแผงหนังสือมาหลายร้าน หนังสือที่สอนทำเวบไซท์ ก็จะหมายถึงหนังสือใช้งาน dreamweaver, outlook, photoshop อะไรเทือกนั้น ไม่ต้องแปลกใจครับ หากเด็กที่ผ่านหลักสูตรทำเวบไซท์ในบ้าเราจะหันมาถามคุณว่า HTML กับ css คืออะไร
BioLawCom.De
น่าเศร้านิ
สงสัยว่าพวก Web designer นี่ไม่จำเป็นต้องรู้พวก Web programming เลยเหรอ ผ่านออกมาได้งั้นๆ น่ะ สถาบันสอนทำเว็บเนี่ยใครคิดหลักสูตรวะ (สงสัยใช้โปรแกรมเถื่อนสอนด้วยรึเปล่าเนี่ย)
We need to learn to forgive but not forget...
หงุดหงิดจริง ๆ ที่สำคัญบางเว็บที่ IE Only ก็ไม่ทำงานกับ IE7 ... เหอๆ =============================== My Little World Blog - บล็อกของผม (ไม่เกี่ยวกับคอมเลยนะ)
@TonsTweetings
เอาจริงบ้านเราคนก็ยังใช้ IE7 กันไม่เยอะนิ
ในสายงานของหน่วยงานรัฐ ที่ซื้อ windows OEM มาก็จะได้รับอนิสงฆ์อัพเดทหมด
น่าจะแถม office มาด้วยเลยนะ ;P
อนิสงฆ์ -> อานิสงส์
We need to learn to forgive but not forget...
web design = dreamweaver + photoshop email = hotmail good web design = flash มากๆ, ตัวหนังสือวิ่งมากๆ browser = IE
ถ้าคนส่วนใหญ่ยังมองได้แค่นี้อยู่ การพัฒนาเว็บบ้านเรา ก็คงไปไม่ถึงไหน เศร้าจัง :-(
ความจริงที่โหดร้าย...
ลอง www.rotc33.net สิครับ ศูนย์ฝึก ร.ด. เชียงใหม่ ตัวอย่างที่ดี ----- German Pride--, Werder Bremens
@TonsTweetings
ไปอ่านสัมภาษณ์ MFEC มา ยิ่งเศร้าใจไปใหญ่ http://www.thairath.com/news.php?section=technology03c&content=45206
เรื่อง website เรื่อง internet มันเป็นส่วนหนึ่งของ ICT ทั้งก้อน ถ้าภาพรวมไม่ดี ไม่มีความหวัง เรื่องย่อยอย่าง website ภาครัฐ คงไม่ต้องพูดถึง
ความจริงช่างโหดร้าย
อ่านบทสัมภาษณ์แล้วหดหู่ครับ
ในหลายๆ ประเด็น ผมกลับมองตรงข้ามนะ อย่างเรื่องที่ว่าอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์สร้างกำไรให้กับประเทศน้อย ผมมองว่าไม่น่าจะจริง (ไว้จะไปหาข้อมูลมาให้อีกที)
คิดง่ายๆ คือพวกย้ายฐาน outsource มาที่บ้านเรา บ้านเราได้เต็มๆ เลยคือเงินเดือนครับ เงินลงมากองอยู่ในบ้านเราล้วนๆ และเงินเดือนคนกลุ่มนี้ก็ไม่ถูกด้วย ต่างจากโรงงานทั่วไป เพราะต้นทุนของอุตสาหกกรมนี้อยู่ที่คนเป็นส่วนใหญ่ ไม่ใช่วัตถุดิบหรือเครื่องจักร
เรื่องที่ว่าเค้ากินกำไรมากกว่าเราผมว่ามันก็โอเคล่ะ เพราะเรายังทำไม่ได้เท่าเค้า SIPA พยายามให้ทุนเพื่อให้ Software House ไปทำ CMMI กันมานานพอดูผมก็ยังไม่เห็นที่ไหนทำได้เด่นๆ Level 4-5 ขึ้นมาได้ชัด ถ้าเรายังทำให้น่าเชื่อถือเพื่อออกไปค้าขายกับต่างชาติโดยตรงเพื่อกินส่วนต่างกำไรได้มากๆ มันก็แฟร์ดีที่เราจะกินส่วนต่างน้อยๆ อย่างนี้ไปก่อน
อย่างที่ MFEC ให้สัมภาษณ์นั่นเป็นเรื่องจริงที่น่าเศร้าครับ คือปริมาณแรงงานที่มีคุณภาพบ้านเรามันน้อยๆ จนตอนนี้ฐานเงินเดือนขึ้นไปถึง 25,000 แล้ว แค่บริษัทใหญ่ๆ ย้านฐานมาลงทีฐานเงินเดือนก็ขยับที ถ้าเป็นอย่างนี้คงไม่ต้องพูดถึงว่าจะไปแข่งกับอินเดียล่ะครับ ------ LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
ดูเวปของกระทรวงหลักของประเทศอย่างกระทรวงมหาดไทยแล้วจะอึ้ง http://www.moi.go.th/
อึ้งจริงๆ
สมกับที่เป็นกระทรวงหนึ่ง ที่มีงบประมาณสูงที่สุดในประเทศไทย สถิติเข้าชม สามล้านกว่า ตั้งแต่ปี 99 ภูมิใจมาก เลยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงใดๆ :-) :-) :-)
ให้ phonebook ของ tot ใช้ Firefox ได้ก็พอใจแล้วครับ
ความด้อยพัฒนา เป็นคำตอบสุดท้ายครับ
ผมเองก็ทำงานในหน่วยงานของรัฐนะครับ ส่วนใหญ่จะใช้ Windowns กันแทบทั้งนั้น
ดังนั้น IE จึงเป็นคำตอบสุดท้าย
*บุคลากรเองก็ไม่ค่อยขวนขวายหาความรู้เพิ่มกันหรอกครับ มีอะไรก็ใช้มันใช้ไปแค่นั้น แค่ FireFox ยังไม่ค่อยจะรู้จักกันเลย - -"
ก็ตราบใดที่หน่วยงานยังใช้Windows IE ก็เป็นเหมือนสิ่งที่คู่กัน แล้วคนใช้งานเอง ก็ไม่ได้มีความรู้ และเข้าใจว่า บางคนอาจไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้หรอกค่ะ ในเมื่อมี IE ใช้ก็ใช้ IE แต่ถ้าเปิดเว็บด้วย IE ไม่ได้ี่สิ เรื่องใหญ่ เพราะคงไม่รู้ว่าจะไปหาบราวซ์เซอร์ตัวไหนมาเปิดกันหล่ะ คงต้องเน้นไปทีการกำหนด TOR ให้ครอบคลุมตั้งแต่ตอนจ้างเขียนหล่ะค่ะ
แต่ถ้าคิดแบบผู้ใช้ธรรมดาๆ ที่ไม่มี ไม่มีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์เลยนะ ก็ไม่เห็นความสำคัญที่จะต้องทำให้เปิดได้ด้วยบราวซ์เซอร์หลายตัวไปทำไม เพราะชีวิตนี้ก็รู้จัก แต่ IE นี่แหละ
เศร้าจัง
ถ้าซื้อของแท้ใช้ คงต้องคิดบ้าง