เว็บไซต์ ZDNet มีโอกาสสัมภาษณ์ สตีฟ บัลเมอร์ เนื่องในการประกาศลงจากตำแหน่งซีอีโอของไมโครซอฟท์ และ จอห์น ธอมป์สัน หนึ่งในคณะกรรมการบริษัทไมโครซอฟท์ มีประเด็นที่น่าสนใจ ดังนี้
- บัลเมอร์กล่าวว่า เขาคิดถึงเรื่องเกษียณอายุมานานแล้ว และตัดสินใจได้เมื่อหนึ่งถึงสองวันก่อน โดยบริษัทได้เรียกประชุมคณะกรรมการบริษัท และตกลงกันว่านี่เป็นทางเดินที่ถูกต้องที่บริษัทจะก้าวต่อไป
- บิล เกตส์ไม่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจให้ลาออกหรืออยู่ต่อ และเกตส์ก็เคารพต่อการตัดสินใจของเขา
- บัลเมอร์ยอมรับว่า เขายังไม่ได้คิดถึงสิ่งที่จะทำถัดไปในอนาคต และเขาจะยังไม่คิดถึงเรื่องนี้จนกว่าคณะกรรมการบริษัทจะหาซีอีโอคนใหม่ได้
- สิ่งที่บัลเมอร์ภูมิใจนำเสนอมากที่สุดในช่วงการทำงานของเขา คือเป็นส่วนหนึ่งของการให้กำเนิดการประมวลผลส่วนบุคคลอัจฉริยะ (intelligent personal computing) ในยุคปี 80 และ 90 ซึ่งเขากล่าวว่ามีผลต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนอย่างคาดไม่ถึง ณ เวลานี้ผู้คนกว่าพันล้านคนมีโทรศัพท์เคลื่อนที่ใช้ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่โทรศัพท์จากบริษัทเราทั้งหมดก็ตาม ส่วนสิ่งที่บัลเมอร์ผิดหวังมากที่สุดคือการตัดสินใจที่แย่มากๆ ในช่วง Longhorn ไปยัง Windows Vista และสิ่งนี้ก็มีผลกระทบหลายด้านเมื่อเขาสร้างทีมขนาดใหญ่โตเพื่อมาทำบางสิ่งที่ไม่ได้รับการพิสูจน์ว่ามีคุณค่าเพียงพอ เขายังกล่าวว่าเขามีโอกาสทำผิดพลาดมากมายหลายครั้งเนื่องจากคนทุกคนพุ่งความสนใจไปยังช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งเท่านั้น
- ธอมป์สันกล่าวว่า ไมโครซอฟท์ทำงานร่วมกับบริษัทภายนอกเพื่อค้นหาว่าอะไรบ้างที่ซีอีโอคนถัดไปควรจะมี แต่เขายังไม่สามารถตอบอะไรได้มากในเวลานี้ ส่วนบัลเมอร์ก็กล่าวว่า คณะกรรมการบริษัทได้พูดถึงการวางแผนการเปลี่ยนผ่านว่าผู้นำคนถัดไปควรเป็นอย่างไรมากว่า 10 ปีแล้ว หนึ่งในประเด็นที่มีการพูดคุยคือซีอีโอในอนาคตจะแตกต่างไปอย่างไรเนื่องจากเขายังเป็นเสมือนผู้ก่อตั้งองค์กรคนหนึ่ง บัลเมอร์ยังกล่าวว่าเขาได้ตกลงกับคณะกรรมการบริษัทเมื่อสามหรือสี่ปีที่แล้ว โดยเขาจะไปพบปะคนนอกบริษัทไมโครซอฟท์ที่บริษัทคิดว่าน่าจะมาเป็นซีอีโอคนถัดไปได้ และรายงานกลับไปยังคณะกรรมการบริษัท
- เมื่อ ZDNet ถามว่าไมโครซอฟท์กำลังคาดหวังว่าการขาดทุนด้านฮาร์ดแวร์จะช่วยดึงลูกค้าเข้ามาใช้งานเซอร์วิสต่างๆ ที่บริษัทหวังว่าจะทำเงินในอนาคตได้ (a loss leader for services) อยู่หรือไม่ บัลเมอร์กล่าวว่าเราไม่ควรมองว่าฮาร์ดแวร์นั้นไม่ประสบความสำเร็จ (ซึ่งเป็นที่มาของการต้องลงบัญชีเป็นหนี้สูญ (write off)) แต่ควรมองว่าการทำฮาร์ดแวร์คู่กับบริการนั้นเป็นการบูรณาการเชิงโมเดลธุรกิจ (integrated business model) คือตั้งแต่นวัตกรรมด้านฮาร์ดแวร์ ระบบปฏิบัติการ เซอร์วิสที่บริษัทให้บริการกับผู้ใช้ตามบ้าน และเซอร์วิสที่บริษัทให้บริการผู้ใช้ในองค์กร ไม่เหมือนกับผู้เล่นรายอื่นในภาคอุตสาหกรรมอย่างแอปเปิลที่พยายามทำเงินจากฮาร์ดแวร์ หรืออเมซอนและกูเกิลที่พยายามทำเงินจากงานที่อยู่เบื้องหลังการให้บริการ
- เมื่อ ZDNet ถามว่าเนื่องจากไมโครซอฟท์ประสบความสำเร็จในตลาดผู้ใช้องค์กรอย่างมาก ทำไมไมโครซอฟท์ไม่เป็นแบบไอบีเอ็มแต่อยากเป็นผู้เล่นในตลาดสินค้าผู้ใช้ตามบ้าน บัลเมอร์ก็ตอบว่าประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่าบริษัททำตลาดผู้ใช้ตามบ้านหรือผู้ใช้องค์กร เนื่องจากไมโครซอฟท์เติบโตขึ้นมาจาก Windows และ Office ที่เหมาะกับการใช้งานกับคนทุกกลุ่ม เว้นเสียแต่ว่าบริษัทจะเหมือนกับออราเคิลหรือแอปเปิล ส่วนธอมป์สันก็กล่าวว่าการจำกัดว่าบริษัทควรจะทำตลาดใดตลาดหนึ่งนั้นแคบเกินไป และหากมองกลับไปในอดีตจะพบว่าการที่บริษัทขนาดใหญ่ในภาคอุตสาหกรรมนี้ไม่สนใจตลาดผู้ใช้ตามบ้านจะเป็นการลดบทบาทในการผลักดันสิ่งต่างๆ ในภาคอุตสาหกรรมลง ไมโครซอฟท์นั้นต้องการเป็นส่วนสำคัญของภาคอุตสาหกรรมนี้ตลอดไป โดยการให้ความสำคัญระหว่างตลาดผู้ใช้ตามบ้านและผู้ใช้ในองค์กรอย่างเหมาะสม
ที่มา: ZDNet (1, 2)
Comments
-แคบเกินมา --> แคบเกินไป
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
อัจริยะ => อัจฉริยะ
ขอให้รุ่งให้เรืองครับ เฟอกี้ไป พันธมิตรไป บัลเมอร์ก็จะไปอีกคนละ ใจหายแท้ละ
ชอบคำถามสุดท้าย
อย่างน้อยๆก็ดีกว่า CEO ของ BB ที่ไหวตัวทัน
บทสัมภาษณ์นี้ ทำให้ไมโครซอฟต์ ได้ใจผมไปเยอะเลย
ปกติไม่ค่อยจะอินอะไรกับ MS ซักเท่าไหร่
เอาใจช่วยครับ
มันเป็นระบบอย่างนึงครับไม่ใชาฮาร์ดแวร์ จากคำภาษาอังกฤษ น่าจะแปลว่า การประมวลผลส่วนบุคคลอัฉริยะ
Microsoft ทำถูกแล้วล่ะ ที่รุกตลาดตามบ้าน เอาจริงๆ ผู้ซื้อตามบ้านนี่กำลังซื้อไม่ใช่น้อยเลย ถ้าเข้าถึงพวกเข้าได้และราคาสินค้าไม่แพงเกินไป เน้นขายปริมาณ (ตัวอย่าง Windows 8 ราคาประหยัด) แทน :D ไหนจะเครื่องเล่นเกม Xbox , Kinnect และอุปกรณ์ Mouse , Keyboard , Webcam รวมถึง Tablet และอื่นๆ
ผมลืมไปแล้ว่า Windows มี Longhorn ด้วย
อดีตที่ไม่น่าจดจำสินะ
Longhorm คือสิ่งที่น่าจดจำครับ และเชื่อว่าหลายๆ คนคาดหวังกับมันไว้มาก แต่กลับโดนยกเลิกไปแล้วเอา Vista มาแทน
Longhorn ผมว่าดูเลิศกว่า Windows 8 ซะด้วยซ้ำนะ Transitions ดูสวยดี เปิดกรุ เอา Longhorn Project มาประยุคย์อีกครั้ง + ความสามารถเข้าไป แล้ว เปิดตัวหลัง Windows 8 ไปเลย
ป.ล. ผมว่าผู้ใหญ่ที่ยังไม่เก่งคอมพิวเตอร์ มีมึนกันบ้างแหละ
อย่าเสียใจไปเลยครับ ถ้าไม่มี Vista ตัว 7 ก็ไม่มี แล้วก็จะไม่มี 8 ที่เสถียรขนาดนี้เกิดขึ้น ตัดสินใจถูกแล้วครับที่เลือกความเสถียรมากกว่าความเร็วใน Longhorn
คำตอบของข้า คือ ประกาศิต
ต้องขอบคุณความผิดพลาดของ vista สินะ
7 นี่ผมยอมรับว่าดีจริงครับ แต่ 8 นี่ผมว่ายังไม่ใช่ครับ ตัว 8 นี่ทำให้ผมคิดเลยว่าอาจจะเป็นหนึ่งในปัญหาที่ทำให้เขาตัดสินใจออก (ยกเว้นเรื่องราคา)
ผมว่า XP ดีที่สุด อายุในตลาดยาวนานที่สุดในบรรดา Windows ทั้งหมด