หลังการเปิดตัว Surface รุ่นที่สองอย่างเป็นทางการ ไมโครซอฟท์ก็ได้เปิดเผยสเปคฉบับเต็มและราคาของแต่ละรุ่นออกมา ดังนี้
Surface 2
- ขนาด 10.81" x 6.79" x 0.35" (บางกว่าเดิม 0.02 นิ้ว)
- น้ำหนักน้อยกว่า 1.49 ปอนด์ (ราว 670 กรัม) (Surface RT เดิม 1.5 ปอนด์)
- ตัวเครื่อง VaporMg วัสดุเป็นแมกนีเซียมสีเงิน ขาตั้งปรับได้สองระดับ
- หน้าจอ 10.6 นิ้ว ClearType Full HD รองรับการสัมผัส 5 จุด (Surface RT เดิม ที่ความละเอียด 720p)
- ซีพียู Tegra 4 (T40) ที่ 1.7 กิกะเฮิรตซ์
- แรม 2 กิกะไบต์
- รองรับ Wi-Fi (802.11a/b/g/n) และ Bluetooth 4.0 LE (Surface RT เดิมรองรับแค่ Bluetooth 4.0)
- แบตเตอรี่อยู่ได้นาน 10 ชม. สำหรับการเล่นวิดีโอต่อเนื่อง เปิดสแตนบายได้นาน 7-15 วัน
- กล้องหน้า 3.5 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล ทั้งคู่รองรับการบันทึกวิดีโอที่ 1080p และมีประสิทธิภาพการทำงานในพื้นที่แสงน้อยดีกว่ารุ่นเดิม
- มีไมโครโฟนสองตัว
- มีพอร์ต USB 3.0 แบบเต็มและ HD video out อย่างละหนึ่งพอร์ต มีช่องเสียบการ์ด microSDXC (Surface RT เดิมมีแค่ USB 2.0)
- ติดตั้ง Office 2013 RT ประกอบด้วย Word, Excel, PowerPoint, OneNote และ Outlook
ตัวเครื่องรับประกันหนึ่งปีเช่นเคย สนนราคารุ่น 32 กิกะไบต์ที่ 449 ดอลลาร์ และรุ่น 64 กิกะไบต์ที่ 549 ดอลลาร์
Surface Pro 2
- ขนาด 10.81" x 6.81" x 0.53" (เท่ากับ Surface Pro เดิม)
- น้ำหนัก 2 ปอนด์ (ราว 900 กรัม) (เท่ากับ Surface Pro เดิม)
- ตัวเครื่อง VaporMg สีตัวเครื่องเป็นสีดำ (Dark Titanium) ขาตั้งปรับได้สองระดับ
- หน้าจอ 10.6 นิ้ว ClearType Full HD รองรับการสัมผัส 10 จุด
- ซีพียู Core i5-4200U ที่ 1.6 กิกะเฮิรตซ์ ขณะทำงานปกติ และที่ 2.6 กิกะเฮิรตซ์เมื่อ Turbo Boost ทำงาน
- ชิปกราฟิก HD Graphics 4400
- แรม LPDDR3 แบบ dual channel ขนาด 4 หรือ 8 กิกะไบต์ (ขึ้นกับแต่ละรุ่น)
- มีโมดูล TPM 1.2
- รองรับ Wi-Fi (802.11a/b/g/n) และ Bluetooth 4.0 LE
- กล้องหน้าและหลังรองรับการบันทึกวิดีโอที่ 720p
- มีไมโครโฟนหนึ่งตัว
- มีพอร์ต USB 3.0 แบบเต็มและ Mini DisplayPort อย่างละหนึ่งพอร์ต มีช่องเสียบการ์ด microSDXC
- ที่ชาร์จไฟรองรับการชาร์จอุปกรณ์อื่นผ่านพอร์ต USB เช่นเคย
- ติดตั้ง Office 365 ทดลองใช้ฟรีหนึ่งเดือน
ตัวเครื่องรับประกันหนึ่งปี สนนราคารุ่น 64 กิกะไบต์พร้อมแรม 4 กิกะไบต์ ที่ 899 ดอลลาร์, รุ่น 128 กิกะไบต์พร้อมแรม 4 กิกะไบต์ ที่ 999 ดอลลาร์, รุ่น 256 กิกะไบต์พร้อมแรม 8 กิกะไบต์ ที่ 1,299 ดอลลาร์ และรุ่น 512 กิกะไบต์พร้อมแรม 8 กิกะไบต์ ที่ 1,799 ดอลลาร์ ทุกรุ่นมากับปากกา Surface pen หนึ่งด้ามเช่นเคย
บริษัทจะเริ่มวางจำหน่ายแท็บเล็ตและอุปกรณ์เสริมใน 21 ตลาด ซึ่งรวมถึงตลาดในเอเชียอย่างฮ่องกงในวันที่ 22 ต.ค. นี้ และวางจำหน่ายในจีนในต้นเดือนพฤศจิกายน ส่วนตลาดในภูมิภาคอื่นนั้นบริษัทจะประกาศวันวางจำหน่ายในอีกหนึ่งถึงสองเดือนข้างหน้า
ที่มา: Microsoft News Center, สเปค Surface 2 (ไฟล์ docx) และ Surface Pro 2 (ไฟล์ docx))
Comments
เพิ่มแรมอีกนิดก็เล่นเกมโหดๆได้แล้ว
8GB นี่ยังไม่พอสำหรับเล่นเกมโหดๆอีกหรอครับ ผมว่าไปเพิ่มตรงการ์ดจอดีกว่า (ซึ่งก็ไม่น่าจะเพิ่มได้อีกเพราะเน้น Tablet + Ultrabook)
ตัว pro กล้องแค่ 720p เอง ทำไมไม่เท่า ตัวธรรมดาเนี่ย
น่าจะมี3Gด้วยเลยนะเนี่ย
สเป็กซ้ำกันครับ
ตัว 1799 ดอลลาร์ ต้อง 512 กิกะไบต์ รึเปล่าครับ
แก้แล้วครับ
เสริมครับ
น่าจะตกคำว่า บันทึก
ตัว Pro 128GB RAM 4GB ราคาถูกกว่า VAIO Tap 11 อยู่พอสมควรเลยแฮะ
แท็บเล๊ตราคาห้าหมื่น =0=!! แพงมาก ซื้อ macbook air ได้เลย ใหญ่กว่าหน่อยนึง
มองว่า mba ราคา 3 หมื่นกว่า แต่ touch ไม่ได้ ก็ได้นะคับ เทียบแล้วก็ประมาณตัว surface pro 128GB
มันคือ PC ครับ
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
ยังมีคนคิดแบบนี้อีกเยอะมั้ย 555555
วัด spec กันตรงๆ นี่ surface pro 2 ก็กินขาดแล้ว ไหนจะปากกาก + touch + SkyDrive + Skype + TPM อีก
ผมว่าส่วนใหญ่คนอยากได้ Pro ในราคา RT อ่ะ
+1024
ใช่เลย
ชั่งใจกับ Sony vaio Tap 11
- มีให้เลือก ความจุเดียว แรมเดียว
- จอใหญ่กว่า
- เบากว่า
- อุปกรณ์เสริมน่าจะน้อยกว่า
- ปากกา รองรับแรงกดน้อยกว่า
- ราคาถูกกว่า แม้รวมคีบอร์ดแล้ว
เมื่อมองจากข้อดีของ Sony เพียงหนึ่งเดียวคือ เบากว่า
สรุป ผม รอ Surface 2 pro ดีกว่า
ติดอยู่ที่จะมาเมื่อไหร่ ?
อยารได้มาลองติดตั้ง Mac OS X
Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project
ผมว่าก็ยังยืนยันคำเดิมว่า ถ้า MS จะเข้ามาเล่นตลาด tablet สำหรับ RT 2 32GB น่าจะอยู่ที่ $399 ซึ่งพอรวม touch/type cover แล้ว จะอยู่ที่ $499-529 ทำให้ราคาไม่ห่างมาจาก Nexus 10 32GB ที่ $499 ซึ่งจะสร้างความลังเลให้กับคนซื้อได้บ้าง
ส่วน Pro 2 64GB ไม่รวม cover น่าจะลงมาอยู่ที่ราวๆ $799
งวดนี้จะขาดทุนเท่าไหร่เนี่ย
positivity
สถิติมีไว้ทำลาย
ผมรู้สึกว่า surface อยู่ในระดับเดียวกับ tablet ทั่วไป แต่ มีความสามารถเท่า laptop
ซึ่งพอราคาไปพอๆกับ laptop แล้ว มันทำให้ ความน่าสนใจ ลดลงไปเยอะ เลย
ทำไมผมอ่านแล้วรู้สึกมันย้อนแย้งชอบกล
สรุป คือ ถ้าจะซื้อแทบเล็ตในราคาแลปท๊อป ขอซื้อแลปท๊อปดีกว่า
ใช่ครับ
ไม่คุ้มเลยนะ
pro ถูกสุดเข้าไทยคง 3 หมื่น+
เป็นผมเลือก macbook air 555+
เอิ่ม เห็นการตั้งราคาของ BB แล้วเละไม่เป็นท่าไหมเนี่ย
รู้สึกว่า MS จะเจ็บแล้วไม่รู้จักจำ
ตัว RT จะรอดไม่รอด รอดูกัน
ตัวโปรผมว่าไปสวยแน่ๆ มันคือ Labtop ชัดๆ นั่นแหละ
Shut up and ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ raise your dongers ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ
ผมว่า ชื่อมันบ่งบอกอยู่แล้วล่ะครับมันเป็น Product ที่ไม่ใช่ Tablet ซะทีเดียว แต่ก็ไม่ใช่ Notebook ทั่ว ๆ ไป
มันคือ Surface ซึ่งจะว่าไปแล้วก็คือ Tablet Ultrabook
ถ้าเล่นเกม ทำงานทั่วไป ใช้แค่ Surface 2 ก็เพียงพอ
แต่ถ้าหากต้องการใช้งานขั้นสูงเพิ่ม ก็จ่ายเงินเพิ่มเพื่อซื้อ Surface Pro 2 ครับ
ซึ่งเราจะหา Ultrabook ฟีเจอร์เท่ากับ Surface Pro 2 ในราคาถูกกว่านี้ก็น่าจะยากนะครับ (ที่ใช้ SSD นะ)
ผมไปดูตลาด Laptop Touch Screen เครื่องราคา 5 หมื่นก็ยังมีเลย
ที่จริงราคามันก็ไม่ได้แย่หรอกแค่ไม่ wow เมื่อรวมกับการไม่มีสาวกระดับ apple และ marketing&thinking แบบ USA only(รวม EU JP) มันก็เลยขายไม่ดีนั่นแหล่ะ
ที่จริงตัว RT ตัดใจขายถูกๆให้ตลาดเกิดก่อนก็น่าจะดีพอติดตลาดค่อยเพิ่มราคาก็ได้จะได้ไม่ต้องตัดเป็นยอดขาดทุนตั้งเกือบพันล้านเพราะขายไม่ออก ถ้าจะกลัว partner. ขายไม่ออกก็ควรเลิกคิดได้แล้วเพราะที่ทำขายจริงก็มีไม่กี่รายและยอดขายก็คงเหมือนกับmarket share ของnon-lumia ใน windows phone
สวย โดนใจมากๆเลยครับ น่าใช้มากๆเลย