เปิดประเด็นโดย lew : รายงานตลาดปาล์มปีนี้จากทาง IDC พบว่าในปีนี้ตลาดรวมมีขนาดลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยยอดรวมทั้งปี 2004 มียอดขายอยู่ที่ 9.2 ล้านเครื่อง เทียบกับปี 2003 ที่มียอดขายถึง 10.6 ล้านเครื่อง ลดลงประมาณ 17 เปอร์เซนต์

โดยในตอนนี้ผู้นำตลาดยังคงเป็น PalmOne ซึ่งแม้จะเป็นผู้นำแต่ยอดขายของบริษัทนี้ก็ลดไปถึง 11.1 เปอร์เซนต์ด้วยเช่นกัน

หรือจะหมดยุคของปาล์มไปแล้ว?

ที่มา english.eastday.com

สนทนาโดย mk แทนที่เราจะสนใจตัวเลข ซึ่งไม่ค่อยมีใครสน เรามาสนใจดีกว่าว่าทำไมถึงเป็นอย่างนี้ อย่างแรกสุดเลยคือ แนวโน้มนี้บอกให้รู้ว่า ตลาดพีดีเอมีขนาดจำกัด และซ้อนทับกับตลาดมือถือเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าคนที่ตัดสินใจซื้อและพกพีดีเอต้องเป็นกลุ่มคนที่มีมือถืออยู่แล้ว และมีความรู้ความเข้าใจในคอมพิวเตอร์อยู่พอสมควร ต่างกับมือถือที่ตลาดกว้างกว่ามาก และยังโตได้เรื่อยๆ เราจะเห็นได้ตั้งแต่เด็กอนุบาลยันคุณยายพกมือถือเป็นของปกติ

เรื่องที่สองนอกจากความรู้แล้ว ขนาดของกระเป๋าก็ยังสำคัญ คนส่วนมากเลือกที่จะพกอุปกรณ์ไฮเทคเพียงอันเดียว และนั่นเป็นที่มาของอัตราการเติบโตของสมาร์ทโฟน ที่สนองความต้องการแบบเดียวกับพีดีเอได้ แต่ไม่ต้องพกแยกสองชิ้น จะเรียกว่าสมาร์ทโฟนดึงยอดขายพีดีเอไปก็ไม่ผิดนัก

เรื่องสุดท้ายเป็นปัญหาเดียวกันกับตลาดมือถือกำลังเจออยู่ คือการอัพเกรด ทุกวันนี้มองไปรอบๆ ตัวเราน่าจะยังเห็นคนพก 3310 กันอยู่เยอะ ในขณะที่มือถือออกใหม่เกือบทุกเดือน สถานการณ์เดียวกันกับพีดีเอ ถ้า Palm Vx ของคุณยังใช้ได้ เรื่องอะไรจะซื้อ Treo 650 ล่ะ สิ่งที่ต่างกันคือมาร์จินของตลาดมือถือใหญ่พอที่จะรับส่วนต่างกำไรในการผลิต แต่ตลาดพีดีเอไมได้ใหญ่ขนาดนั้น ผมคิดว่าสามข้อนี้น่าจะอธิบายสาเหตุของความซบเซาของพีดีเอได้นะครับ

หมายเหตุ: Blognone ยุคใหม่เราจะเริ่มเน้นบทวิเคราะห์ให้มากขึ้น นอกจากความเร็วที่เป็นจุดขายแต่เก่าก่อน ชอบไม่ชอบยังไงก็อยากให้คอมเมนต์กันมาเยอะๆ นะครับ