NDU (National Defense University) หรือวิทยาลัยป้องกันประเทศของจีน เปิดตัวหุ่นยนต์ AnBot ในงาน Chongqing Hi-Tech ครั้งที่ 12 เมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่ง AnBot นี้ถือเป็นหุ่นยนต์ตำรวจติดอาวุธตัวแรกของโลก
AnBot เป็นหุ่นยนต์สูง 1.5 เมตร หนัก 78 กิโลกรัม สามารถทำงานได้นาน 8 ชั่วโมงต่อการชาร์จแบตเตอรี่แต่ละครั้ง สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วสูงสุด 18 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเมื่อต้องไล่จับผู้กระทำผิดหรือในภาวะฉุกเฉิน ตัว AnBot มีระบบวิเคราะห์วิดีโอ และระบบนำทางอัตโนมัติในตัว มันสามารถวิ่งไปยังจุดเกิดเหตุได้เองหากได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ทั้งยังสามารถจัดการชาร์จไฟตัวเองได้เมื่อพลังงานใกล้หมดได้ด้วย ตัว AnBot เองมีหน้าจอสัมผัสอยู่บริเวณส่วนที่เปรียบเสมือน "หัว" ของมัน หากผู้ที่อยู่ใกล้เคียงต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน ก็สามารถกดปุ่มฉุกเฉินที่หน้าจอนั้นเพื่อเรียกกำลังเสริมมาช่วย AnBot ได้ด้วย
สำหรับกระบวนการ "คิดวิเคราะห์" ของเจ้าหุ่น AnBot นั้น มันสามารถวิเคราะห์ภาพและเสียงจนรับรู้ได้ว่าเหตุการณ์ที่มันเห็นและได้ยินนั้นเป็นการกระทำผิดกฎหมายหรือไม่และทำบันทึกการกระทำผิดนั้นไว้เพื่อใช้อ้างอิงในภายหลัง มันสามารถวิเคราะห์และระบุตัวผู้ที่กำลังอยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุมได้หากมันพบเจอ นอกจากนี้ AnBot สามารถคิดและตัดสินใจได้เองว่าควรลาดตระเวนไปในพื้นที่ไหน
สิ่งที่ทำให้ AnBot แตกต่างจากหุ่นยนต์ตำรวจ หรือหุ่นยนต์รักษาความปลอดภัยอื่นที่มีมาก่อนหน้า คือมันมีอาวุธในตัว ทาง NDU อธิบายว่านอกเหนือจากงานลาดตระเวนตรวจความเรียบร้อยแล้ว AnBot สามารถทำงานรับมือเหตุก่อความวุ่นวาย การจลาจลได้ มันมีปืนช็อตไฟฟ้าเพื่อกำราบผู้ก่อเหตุ และทำได้แม้กระทั่งวิ่งทับคนเพื่อทำการจับกุม โดยระบบปืนช็อตไฟฟ้านั้นจะไม่ทำงานอัตโนมัติ หากแต่ต้องอาศัยการควบคุมจากระยะไกลโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น ทั้งนี้ด้วยขนาดตัวที่ใหญ๋ของ AnBot ก็อาจเป็นไปได้ว่าในอนาคตอาจมีการติดตั้งอาวุธหรือเครื่องมืออื่นเพื่อรับมือสถานการณ์เผชิญหน้าผู้กระทำผิดเพิ่มมากขึ้น
AnBot จะไม่ถูกนำมาใช้เพื่อทดแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียทีเดียว หากแต่จะถูกนำมาช่วยเสริมกำลังให้หน่วยงานตำรวจ เพราะข้อจำกัดหลายประการที่ยังต้องใช้มนุษย์ทำงานอยู่ ไม่นับเรื่องที่ AnBot ปีนป่ายหรือลงน้ำไม่ได้แล้ว มันยังไม่ยังไม่รู้วิธีเกลี้ยกล่อมผู้กระทำผิดด้วย (เจอเป็นจับอย่างเดียว) ที่สำคัญความเสี่ยงเรื่องการถูกโจมตีทางไซเบอร์ก็ยังมีอยู่ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าอย่างไรก็ยังต้องมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นมนุษย์ทำงานควบคู่กัน
ที่มา - Popular Science
Comments
Star war coming...
มันจะเจ๋งได้ขนาดนั้นจริงๆ หรอครับ
ชักเหมือนเรื่อง ROBOCOP
โจรหนีลงบันได ?
โจรหนีลงน้ำ ?
^
^
that's just my two cents.
อนาคตคง บินตามลงไปได้
กะลังจะบอก robocop
แต่นึกถึงอีก 2 เรื่อง
Shappie กับ i-Robot
ถ้าโดนแฮ็กพร้อมๆ กันสัก 100 ตัวล่ะ ยังดีที่ติดแค่ปืนไฟฟ้า ถ้าเป็นปืนกลนี่น่ากลัว
สาดน้ำใส่ ..
my blog
มันจะยุ่งยากกว่าเดิมหรือเปล่า เพราะยังไงมันก็ต้องไปกับตำรวจ
เกิดมันทะเล่อทะล่าทำอะไรไม่เข้าท่า ก็ยุ่งยากเขาอีก
ไม่มีขาไม่กลัวหรอกวิ่งขึ้นบันไดชั้นนึงก็ตามไม่ได้แล้ว
อ่านข่าวทีแรกไม่มีรูปนึกถึงโรโบคอป
พอรูปมานี่ R2D2 ชัดๆ 555+
ประเด็นอยู่ตรงนี้สินะ เอาจัดการพวกชุมนุมต่อต้านรัฐบาล
เนียนๆไปว่าโดนภายนอกแฮคแล้วก็ไล่ทุบไล่ช๊อตผู้ชุมนุมป่าวครับ
ดูจากทรงแล้ว เอาไม่อยู่แน่นแน
เพื่อให้ดูน่าเกรงขาม
Anbot >> autobot
หน้าตาพอๆ กันเลย
จีนนี่จีนจริมๆ
ว้ายยย ตอนแรกนึกว่าข่าวเดียวกัน แต่เค้าอาจจะมีเหตุผลที่ model คล้ายๆกันก็ได้ เหมือนที่มือถือปัจจุบันก็รูปร่างคล้ายๆกันไรงี้ 55555
อ้างถึง r2d2 กับ delek กันมาแต่ไหนแต่ไร.. สงสัยจะมีแรงบันดาลใจร่วมกัน
หนัก 78 กิโล และวิ่งทับคนเพื่อจับกุมได้ แอฟฟ!!!
78 กิโลเอง ยกขึ้นรถตู้ขาย รวยๆ
มีจรวดนิวเคลียร์ในตัวแล้วเอามาตั้งไว้จับพวกฝ่าไฟแดง ขับรถเร็วเกินกำหนดในกรุงเทพนะ แหม ไม่อยากจะนึกภาพ บรรลัย
อืม...ออกใบสั่งไม่ได้ฮะ
ลืมกฎ 3 ข้อของหุ่นยนต์กันไปหมดแล้ว
ใครบัญญัติเหรอครับ?
ไอแซค อสิมอฟ
ความหมายของผมคือ มันเป็น "กฎ" ในนิยายที่เขียนไว้เพื่อความบันเทิง ไม่ใช่กฎที่มีการบัญญัติไว้จริงๆ ทำไมจะต้องทำตาม (แบบที่อีกท่านให้ความเห็นเหมือนกัน) ครับ
BOT ทำตามหน้านี่นะครับ ค้นหาข้อมูลให้
แล้วทำไมต้องไปเชื่อกฎในนิยายพวกนั้นล่ะครับ
กฏมันเอาไว้ควบคุมAIที่คิดเองได้ ไม่ใช่เหรอครับ
ดูเหมือนว่า ฟากทหารเค้าเอาปืนกลมาติดนานแล้ว
บางทีอาจจะเทคโนโลยีเริ่มลงตัว เลยเอามาใช้ในเมืองเป็นตำรวจ
https://en.wikipedia.org/wiki/Military_robot
ต่อไป รบกัน -> เปิดบอท .. จบ
ดูอย่าง RO หลังจากยุค Rise of Machine แล้ว
ก็แทบหาคนเล่นจริงๆไม่ได้เลย
โลกจริงก็ไม่น่าจะต่างกัน
เริ่มสงสัยคำพูดไอสไตน์ ที่ว่า
"ผมไม่รู้ว่า สงครามโลกครั้งที่ 3 จะรบกันด้วยอะไร
แต่ สงครามโลกครั้งที่ 4 น่าจะรบกันด้วยไม้และก้อนหิน"
ยังจะเป็นจริงได้อยู่มั๊ยหนอ?
ไม่ใช่จริงๆแล้วถึงขั้น มนุษย์สูญพันธ์นะ
เพราะรบด้วยนิวเคลียร์ ยังมีที่ๆไม่สำคัญ ทำให้มีจุดไม่โดนรังสี ให้มนุษย์รอดได้แบบคนป่าตามที่ว่า
แต่เจอหุ่นยนต์ แบบ boston ตั้งโปรแกรม seek&destroy ซ้ำนี่ ไม่น่ารอด
รบด้วยนิวเคลียร์ สิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่รังสีที่กระจายตอนที่ระเบิด แต่เป็นฝุ่นรังสีที่ลอยไปทั่วโลกนะครับ ขนาดเชอร์โนบิลระเบิดยังลอยไปถึงยุโรปเลย ยิ่งถ้ายิงอัดกันมากๆ ฝุ่นลอยไปคลุมโลกกลายเป็น Nuclear Winter ได้อดตายกันทุกคนแน่นอนครับ
อาจจะมีหุ่นพร้อมติดระเบิด EMP มาใช้ดับไฟฟ้ากับมือถือตอนชุมนุมทางการเมืองได้ชะงักเลย
Get ready to work from now on.
ระเบิด EMP นี่มันทำตัวเล็กๆ ได้ด้วยเหรอครับ?
คือพอเค้าระบุว่าเป็น EMP ประเภทระเบิดนี่ผมนึกออกแต่ NEMP เลยนี่สิครับ ตัวที่ลิงก์มานี่ก็ยังไม่น่านับเป็นระเบิดได้ (หรือเปล่า?)
สเปคมันได้ 100kV/m ที่ระยะ 1 เมตร, ลดทอนตามระยะ แล้วจะทำให้อุปกรณทั่วๆ ไปดับได้ในรัศมีเท่าไหร่หว่า ? .. apelc.com/product/suitcase-system-100-kvm-hp-rf-source/
ถ้าตัดสัญญานมือถือนี่ใช้ Jammer สองสามตัววางไว้รอบๆ ก็พอมั้งครับ ส่วนตัดไฟฟ้านี่.....ตัดทำไม?