พักนี้ชีพจรลงเท้าครับ เดินทางไม่ได้หยุดหย่อน คราวนี้ผมกับนายสมศักดิ์ นักวิจัยประจำศูนย์ไทยกริด และคุณนวพล ฝ่ายประสานงาน ได้รับเชิญจากไมโครซอฟต์ให้ไปเยือนศูนย์วิจัย Microsoft Shanghai ที่ Zizhu science park, เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 18 – 20 มิถุนายน 2551 เรื่องของเรื่อง คือ ตอนนี้เราช่วยร่วมมือกับไมโครซอฟต์ Windows HPC group , Microsoft Server and Tools Business ในการประเมินผลิตภัณฑ์ Microsoft Windows Compute Cluster Server 2008 รุ่น Beta ซึ่งยังไม่ถูกส่งออกสู่ตลาด โดยทางศูนย์ได้รับหน้าที่เป็นหนึ่งในไม่กี่ศูนย์ทดสอบในโลกที่ทดลองผลิตภัณฑ์นี้และทางทีมวิจัยได้ทำรายงานผลการประเมินโดยละเอียดเพื่อทางฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟต์จะได้นำความต้องการเหล่านี้ไปปรับปรุงและกำหนดทิศทางของผลิตภัณฑ์ต่อไป ก่อนหน้านี้ทาง Windows HPC group manager ที่เซี่ยงไฮ้ชื่อคุณ Alex Sutton เขาแวะมาที่ศูนย์ไทยกริดตอนวันที่ 5 มิถุนายน ให้เรานำเสนอผลงาน งานนี้มีนายสมศักดิ์หรือเซียนจุ๊เป็นคนทำ และผมเป็นกองเชียร์ ตามเคย จากนั้นเราก็ไปที่เซี่ยงไฮ้ไปเยี่ยมทีมของเขาบ้างงานนี้อยากจะขอเล่าสู่กันฟังว่าไปเจออะไรบ้าง
สำหรับการเดินทางครั้งนี้ทีมเราก็ไปทำงานสองสามอย่างครับ คือ
ทางไมโครซอฟต์ได้แสดงข้อมูลทางเทคนิคและทิศทางของ Microsoft Windows Compute Cluster Server 2008 เพื่อขอรับข้อเสนอแนะ
ทางศูนย์ได้นำเสนอความเป็นมาของศูนย์ไทยกริดและทิศทางของ Grid และ HPC ในประเทศไทย
ให้ทางนักวิจัยของศูนย์นำเสนอข้อคิดเห็นจากการทดสอบและประเมินผลิตภัณฑ์ของบริษัทไมโครซอฟต์
ทางไมโครซอฟต์ได้แสดงข้อมูลทางเทคนิคและทิศทางของ Microsoft Visual Studio Debugging และได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่อง Next generation parallel programming ทั้งแบบ multithreading และ parallel programming บนระบบ windows
อ้อคราวนี้ขาเข้าเมืองได้ขึ้นรถ MAGLEV ที่ลอยได้ด้วยวิ่งได้ตั้ง 300 กว่ากิโลเมตรต่อวินาที น่าทึ่งมากเนื่องจากสร้างมาได้ไม่นานก็เสร็จ(แล้วไม่มีน้ำรั่วด้วยครับ) ส่วนประเทศเราสร้างสนามบินทำลายสถิติความนานของโลก ผมว่าใช้เวลากว่าอียิปต์สร้างพีระมิดอีกครับ เอาเถอะไงก็เสร็จครับ ถึงจะร้าวๆหน่อยเหมือนหัวใจคนไทยก็ตามที
วันแรกเราก้ไปนอนที่โรงแรมก่อน ตอนเช้าวันที่ 19 คุณ George Yan ทาง Windows HPC group manager ของจีนก็ขับรถสวยๆมารับเป็น BMW แบบมี Sun roof เท่มากๆ ขับไปซักครึ่งชั่งโมงก็ถึง Zizhu science park ที่ตั้งชั่วคราวของไมโครซอฟต์ ตอนนี้ไมโครซอฟต์กำลังสร้าง campus มหึมาขนาด 5 ตึกอยู่ยังไม่เสร็จ
เราก็ขึ้นลิฟต์ไปชั้น 4 ที่นี่ก็เป็น office แบบ partition แบบธรรมดาแต่ที่เสาเขาเล่นสี ส้มอ่อน เขียวอ่อน แดงอ่่อน สวยน่าทำงานมากครับ คนน่าจะราวสัก 50-100 คนได้ครับที่ทำงานที่นี่
มาถึงเราก็เริ่มสำรวจหาห้องน้ำกับของกิน พบห้อง pantry กระจกเห็นวิวไกลมากๆ สวยดี
มีน้ำขวด น้ำชา กาแฟ ให้หยิบฟรีหมด มี fitness ขนาดย่อยๆ กลางห้องมีโต๊ะสนุกเกอร์และโต๊ะปิงปองให้เล่นได้ตลอดเวลา ท่าจะทำงานกันเครียดนะนี่
ตอนเช้าเขาก็เริ่มเลยครับ ทางทีมของเขาก็เป็นคนจีนหมด ท่าทางเก่่งจัดมาก มีราวสัก10 คนเห้นจะได้ เริ่มต้นทางทีม โดย Microsoft Windows Compute Cluster Server ได้นำเสนอการออกแบบและพัฒนา web service support ใน compute cluster server เพื่อทำให้การ integrate next generation application ทำได้อย่างง่ายดายและคล่องตัวมากขึ้น เราเกือบถึงจุดที่สามารถพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ที่เชื่อมกับระบบสมรรถนะสูงได้ง่ายแล้วครับ ใช้เวบเซอร์วิสธรรมดานี่เองก็สามารถสร้างโปรแกรมสำหรับซูปเปอร์คอมพิวเตอร์ได้ง่ายๆ
หลังเที่ยงหนังตากำลังหย่อนเขาก็ให้ทางศูนย์พูดบ้างแก้ง่วง ผมเลยได้นำเสนอความเป็นมาและทิศทางของประเทศไทย จากนั้นสมศักดิ์ก็ได้นำการสนทนาเรื่องการเปรียบเทียบ windows cluster solution และ linux cluster solution โดยมีการแลกเปลี่ยนความเห็นในทางเทคนิคด้านลึกลับกับนักพัฒนาของไมโครซอฟต์อย่างเข้มข้น
ทางเราได้เสนอให้ปรับใส่ขีดความสามารถต่างๆไปพอสมควร ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้เนื่องจากอาจถูกตามล่าสุดขอบโลกเหมือนอินเดียน่าโจนส์ครับ แต่เราพบว่าผลิตภัณฑ์ WCCS2008 ใช้งานง่ายขึ้นมากกว่าเก่าการทำโปรแกรมประยุกต์ที่เชื่อมกับระบบคลัสเตอร์โดยตรงและมีส่วน user interface สวยๆก็ทำได้ดี
ทีเด็ดคือ ตอนเย็นเขาชวนออกไปกินข้าว เป็นอาหารจีนที่อร่อยมากๆ และยังได้นั่งคุยกับคุณ Chris Philips ซึ่งเป็น General manager ของ Windows Server Solution Group ทั้งโลก ได้ฟังเรื่องเด็ดๆหลายเรื่อง ตอนนี้ Microsoft พยายามนำจุดเด่นเรื่อง usability เข้ามาเปลี่ยนวงการ high performance computing ครับเนื่องจากการพัฒนาแบบเก่านั้นมี productivity ต่ำเกินไปทำให้การประยุกต์ใช้ ระบบคลัสเตอร์ไม่แพร่หลายเท่าที่ควรเนื่องจากมีคนรู้เรื่องการพัฒนาน้อย ทั้งวงการก็ติดกับ software crisis มากว่า 10 ปีแล้ว ผมเองเสนอให้เขาเข้ามาดึงเด็กไทยไปทำงานบ้างเพราะเรามีคนเก่งๆพอควร เขาก็รับว่าจะดูให้ ทางเขาขอบคุณเรามาก เขาอยากให้ทีมพัฒนาคุยกับลูกค้า จะได้รับความต้องการมาได้ดี นอกจากนั้นเขาอยากให้ทีมเห็นว่างานที่พัฒนามีคนใช้จริง คนพัฒนาจะได้มีแรงบันดาลใจในการพัฒนาที่ดีขึ้น
กินเสร็จเขาก็เอาไปปล่อยที่โรงแรม
วันรุ่งขึ้นเราก้ไปกันเองด้วยแท๊กซี่ เช้าก็ลุยเลยครับเริ่มด้วยทาง Goerge Yan, HPC HPC Group manager ได้แนะนำถึง product development life cycle ที่ทางไมโครซอฟต์ใช้อยู่ ว่ามีการศึกษาความต้องการลูกค้า มาสู่การเขียนความต้องการและ feature จากนั้นก็ทำ architectural design เสร็จแล้วก็พัฒนาโดยแยกเป็น mile stone เป็นช่วงๆ สุดท้ายก็มีการทดสอบรวมอย่างหนักและวางโครงสร้าง support รวมไปถึงเขาวงจรการวางแผนพัฒนารอบใหม่ แต่ละงานมีการทำเอกสารละเอียดและ review อย่างมาก ดูการทำงานเป็นระบบมากแต่ท่าทาง cycle การทำงานค่อนข้าง fixed และยาว open source ดูเหมือนจะได้เปรียบตรงนี้ครับ
พอตอนบ่ายถึงคิวของทางทีมงานของศูนย์ได้พบปะกับทาง Microsoft Visual Studio development team เพื่อเสนอเรื่อง next generation parallel programming บนระบบคลัสเตอร์ และการทำ debugging support ที่ควรเป็น ทางทีมได้ไมโครซอฟต์แนะนำแนวทางพัฒนาเทคโนโลยี many core ซึ่งเป็นจุดเน้นในช่วงนี้ ทางไมโครซอฟต์กำลังพัฒนา Visual Studio ให้ทำงานพัฒนาและดีบักโปรแกรมแบบ multicore ได้ นอกจากนั้นยังใส่การสนับสนุน parallel language ใหม่ดูเหมือนจะชื่อ concert ครับ ต้องรอสักพักถึงออกมาได้
พอคุยเสร็จเขาก็เรียก taxi ให้ ร่ำลาอาลัยกันพักหนึ่งผมกับเด็กก็เผ่นตรงไปสนามบินเลยครับ
จากการไปเยี่ยมศูนย์วิจัยบริษัทไมโครซอฟต์ในครั้งนี้ ขอสังเกตุอะไรนิดหน่อยครับ
ขอเขียนไปแก้ไปนะครับ กำลังเอารูปขึ้นด้วย รอหน่อยครับ
Comments
ชอบมากครับ
สุดยอดครับ ถ้าอ่านภาษาจีนออกนี่เข้าถึงคลังข้อมูลอีกมหาศาลเลย
รอดูรูปคับ
---
Khajochi Blog : It's not a Bug ... It's a Feature
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
อ่านได้ไม่หมดเพราะเยอะมากจริง ๆ เอาเป็นว่าน่าอิจฉานะครับ
© NgOrXz ™ ® แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เก่งที่สุดในโลก
"เอาแต่ทำเทคโนโลยี short term ที่ train กันง่ายๆ certify กันเร็วๆ"
Quote ประจำวันเลยนะเนี่ย
Ford AntiTrust’s Blog | PHP Hoffman Framework
ผมว่าการตรงต่อเวลาเนี่ย เป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้ในเมืองไทยเลยครับ ย้ายไปอยู่ประเทศใหม่อาจจะง่ายกว่า 555
อือม ผมว่าทำได้นะครับ ต้องสอนเด็กๆก่อน ค่อนข้างหมดหวังกับผู้ใหญ่แล้วครับ ตอนนี้ผมว่าสิ่งที่หักพังที่สุดในบ้านเรา คือ ระบบการศึกษา การศึกษาต้องสอนค่าทัศนคติที่ดีให้เด็กครับครับ ผมว่าต้องทำให้คนเจริญทั้งร่างกายและจิตใจ ผมเคยสอนหนังสือที่อเมริกามาหนึ่งคอร์ส วิชาไมโครโปรเซสเซอร์ เจอเด็กในห้องที่ฝึกเทควานโดมา วันหนึ่งเห็นเขาถือหนังสือวิถีแห่งเต๋า ก็ถามว่าสนใจด้วยเหรอ เขาบอกว่า ครูสอนว่า วิชาการต่อสู้มันอันตรายมาก หากปราศจากจิตใจที่ดีมาควบคุมไว้ เรามุ่งสอนคนให้ฉลาด ต้องถามตัวเองว่าตอนนี้สอนคนให้ดีออกมาพอหรือยังครับ ขอบ่นแบบอาจารย์แก่ๆหน่อย