Samsung Galaxy A9 Pro เป็นรุ่นอัพเดตต่อจาก Galaxy A9 ที่มาพร้อมกับสเปคด้านแบตเตอรี่อึดจนลืมพาวเวอร์แบงก์ไปได้เลย และกล้องหลังที่มีความละเอียดสูง น่าจะถูกใจคนรักการเล่นเกม ถ่ายรูป ที่สำคัญ ราคาไม่แรงเพียงแค่ 15,900 บาท

ในเมื่อเป็นสมาร์ทโฟนที่ชูเรื่องแบตเตอรี่เป็นสเปคเด่น เราจึงไม่พลาดที่จะทดสอบแบตเตอรี่มาฝากกัน

ก่อนอื่นมาดูสเปคคร่าวๆของ Samsung Galaxy A9 Pro กันก่อน

• แบตเตอรี่ 5000 mAh
• แรม 4GB
• กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง 1.9
• กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง 1.9
• ระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow
• หน้าจอ Super Amoled กว้าง 6 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 1920 พิกเซล
• การใช้งานเครือข่าย รองรับ 2 ซิม ได้ทั้ง 3G และ 4G สลับซิมได้โดยไม่ต้อง restart เครื่อง
• รองรับเทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือ สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มโฮม

เริ่มจากรูปลักษณ์ ดีไซน์

รูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่นที่สุดคือขนาดหน้าจอกว้างถึง 6 นิ้ว ตัววัสดุเป็น Gorrilla Glass 4 ขอบเป็นอลูมิเนียมอัลลอยด์ที่มาพร้อมกับความบางดูสวยหรู ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยม สีสันหน้าจอคมชัดสดใส ความกว้างของหน้าจออาจเป็นอุปสรรคในการจับถือเล็กน้อย

เทียบความบางกับดินสอ

ทดสอบแบตเตอรี่

ผู้เขียนทดสอบการใช้งานแบตเตอรี่ ชาร์จเต็ม 100% และจนถึงตอนนี้ขณะที่เขียนรีวิว ผ่านไปสามวัน เหลือ 33% (ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคน) ใช้ถ่ายรูป ถ่ายคลิปวิดีโอ เล่นโซเชียล ในการใช้งานทั่วไปแบตจะลดค่อนข้างช้า แต่มาลดเยอะหน่อยตอนเล่นเกม Clash Royale ลดจาก 50% เหลือ 34% อยู่ได้ 17 ชั่วโมง (เล่นตั้งแต่เริ่มเลเวล 1 ถึง เลเวล 2) แต่ถ้าเปิดโหมดประหยัดพลังงาน จะอยู่ได้นานขึ้นอีก 1 ชั่วโมง และถ้าเปิดโหมดพลังงานสูงสุด จะอยู่ได้ถึง 39 ชั่วโมง

รายละเอียดแบตเตอรี่หลังจากผ่านไปสามวัน

ยกระดับความโหดของเกมขึ้นมาอีกขั้น แม้ประเทศไทยจะยังเล่น Pokemon Go ไม่ได้ ก็ขอลองเล่น Ingress ไปก่อน Ingress มีวิธีการเล่นคล้ายกับ Pokemon Go ผู้เล่นต้องออกไปตาม portal ที่อยู่ข้างนอก เพื่อตีป้อมให้แตก และแน่นอนต้องเปิด GPS ตลอดเวลา เรียกได้ว่าซดแบตเตอรี่ยังกับน้ำเปล่า เหมาะแก่การทดสอบแบตเตอรี่ของ A9 Pro อย่างยิ่ง

ตอนเริ่มเล่นเวลาคือ 12.37 น. เล่นตั้งแต่เลเวลแรก (มือใหม่หัดเล่น) มีแบต 83% เล่นโดยไม่เปิดโหมดประหยัดพลังงานใดๆ

ถ่ายตอนยังมีสัญญาณไวไฟจากที่พัก

ออกไปเล่นได้สักพัก สะบักสะบอมกลับมา พบว่าเลเวล 1 ยังไม่เหมาะที่จะตี portal ใครได้ ทำได้เพียงเดินเก็บไอเทม เก็บพลังงานชีวิตไปเรื่อยๆ

ผ่านไปประมาณ ชั่วโมงกว่า รู้สึกเหนื่อย เหงื่อแตก และมีฝนตกปรอยๆ เลยกลับมาที่ที่พัก และพบว่าแบตเตอรี่ลดเหลือ 75% ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับการเล่น Ingress สลับกับเล่นแชท โซเชียลไปด้วย ภายในเวลา 1 ชั่วโมงกว่า

ถ่ายไว้ตอนกลับมาที่พักแล้ว จึงเห็นว่าเป็นสัญญาณไวไฟ

การเผาผลาญแบตเตอรี่ ของ Samsung A9 Pro ให้ลดฮวบจนเหลือ 0 คงต้องเล่น Ingress ทั้งวันทั้งคืน อาจจะทำให้หมดได้ จึงไม่มีโอกาสรีวิวว่าใช้เวลาชาร์จเท่าไรถึงจะเต็ม แต่รุ่นนี้รองรับเทคโนโลยี Fast Charging ใช้เวลาไม่เกิน 3 ชั่วโมงในการชาร์จ

คุณภาพรูปถ่าย

ทดสอบแบตเตอรี่แล้วก็มาดูเรื่องกล้องกันบ้าง

กล้องถ่ายรูปของ Samsung A9 Pro เป็นอีกสเปคเด่น ด้วยกล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง 1.9 ไม่มีปัญหาเมื่อถ่ายในที่มืด ส่วนกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง 1.9 เช่นกัน รองรับการเซลฟี่ด้วยแขนด้วย

มาเริ่มที่กล้องหลังกันก่อนเลย

จะเห็นได้ว่าสีสันค่อนข้างสดใส ถ่ายออกมาดูสวยจริงๆ ทีนี้มาดูรูปกล้องหน้ากันบ้าง

การใช้งานในภาพรวม

โดยรวมต้องยกให้แบตเตอรี่อึดจริงๆ ในการใช้งานทั่วไปสามารถอยู่ได้ข้ามวัน เรียกได้ว่าไปทำงานแล้วลืมเอาที่ชาร์จไปก็ไม่มีปัญหา แม้จะเล่นเกมกินแบตเตอรี่เป็นระยะเวลานานก็ยังเหลือพลังงานแบตให้ใช้เยอะ ซึ่งถ้าจะทำให้แบตหมดเรียกได้ว่ายากมาก

ความเร็ว การทำงานสลับไปมาระหว่างแอพพลิเคชั่นต่างๆ ไม่สะดุด ทำงานลื่นไหล น่าจะเป็นเพราะแรมที่ให้มาเยอะถึง 4GB และชิปเซ็ต Snapdragon 652 ที่เป็นที่ยอมรับว่าประมวลผลรวดเร็วและไม่กินพลังงานมาก

Samsung Galaxy A9 Pro เริ่มขายในประเทศไทยเดือนกรกฎาคมนี้