จากการเปิดตัวเฮดเซต Apple Vision Pro ก็มาพร้อมคำถามยอดนิยม แบบเดียวกับทุกสินค้าเฮดเซตประเภทนี้ นั่นคือคนที่ต้องใส่แว่นสายตาจะใช้งานเฮดเซตนี้อย่างไร?
คำตอบของแอปเปิลคือการร่วมมือกับ ZEISS บริษัทผู้ผลิตเลนส์ชื่อดัง ออกเลนส์ ZEISS Optical Inserts ซึ่งปรับให้เข้ากับปัญหาสายตาของแต่ละบุคคล แล้วนำส่วนเลนส์เสริมนี้ติดด้วยแม่เหล็กเข้ากับเฮดเซต Apple Vision Pro ทำให้สามารถมองเห็นได้ปกติ และรองรับฟีเจอร์การตรวจจับดวงตา
เรื่องต่อมาที่คนอยากรู้คือราคา ซึ่งแอปเปิลและ ZEISS ก็ยังไม่มีรายละเอียดส่วนนี้ บอกเพียงสินค้านี้จะจำหน่ายแยกในปีหน้าที่อเมริกา พร้อมกับช่วงการขายของ Vision Pro
ในงานเปิดตัวเฮดเซต Mixed Reality (MR) Vision Pro ของแอปเปิล แอปเปิลได้นำเสนอคำตอบ ของหนึ่งในโจทย์ที่ท้าทายทุกผลิตภัณฑ์โลกเสมือน ก็คือคอนเทนต์ที่นำมาใส่จะน่าสนใจแค่ไหน โดยแอปเปิลประกาศความร่วมมือกับดิสนีย์ และได้ซีอีโอ Bob Iger มาเป็นผู้นำเสนอเอง
ดิสนีย์ประกาศว่าจะนำคอนเทนต์ต่าง ๆ มาให้รับชมในรูปแบบประสบการณ์ Immersive แบบครบทุกมิติ ผ่านบริการสมัครสมาชิก Disney+ (ในอเมริกา) ซึ่งสามารถรับชมได้ตั้งแต่วันแรกที่เฮดเซต Vision Pro ขาย
ในงาน WWDC23 เมื่อคืน แอปเปิลให้รายละเอียดของแว่นตาผสมผสานโลกเสมือน Apple Vision Pro โดยบอกว่าทำงานด้วยระบบปฏิบัติการใหม่ visionOS ที่มีพื้นฐานมาจาก iOS มีส่วนติดต่อผู้ใช้งานเป็นแบบ 3D
อย่างไรก็ตามสิ่งท้าทายของแอปเปิลคือทำอย่างไรให้มีแอปมารันในแพลตฟอร์มใหม่มากพอ แบบที่เกิดขึ้นแล้วใน iOS, iPadOS แอปเปิลจึงประกาศความร่วมมือกับ Unity เพื่อนำเทคโนโลยีอย่าง PolySpatial มาช่วย เพื่อให้แอป 3D ที่พัฒนาบนพื้นฐานของ Unity อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นแอปใช้งานหรือเกม สามารถพอร์ตมารองรับให้ทำงานบน visionOS ได้ รวมถึงให้แอปอื่นมาปรับรูปแบบเป็น 3D ได้ง่ายขึ้นด้วย
แอปเปิลเปิดตัวแว่น mixed reality (MR) ของตัวเองตามข่าวลือก่อนหน้านี้ในชื่อ Apple Vision Pro ตัวแว่นทำงานแบบแว่น VR ความละเอียดสูง พร้อมกล้องด้านหน้าทำให้สามารถถ่ายภาพสภาพแวดล้อมเข้าไปแสดง ผสมกันระหว่างโลกความเป็นจริงกับโลกเสมือน
ภายในแว่นเป็นจอแสดงผลความละเอียดสูงถึง 23 ล้านพิกเซลเพื่อให้แสดงภาพได้เหมือนจริง สามารถแสดงภาพเหมือนมีหน้าจอขนาด 30 เมตรอยู่ตรงหน้า โดยมีปุ่มปรับได้ว่าจะผสมโลกความเป็นจริงเข้ามาในภาพที่แสดงผลมากน้อยแค่ไหน