AnandTech มีสกู้ปการแปลง XBox มาลง Linux และนำมาต่อเป็นคลัสเตอร์ราคาถูกครับ ราคารวม Mod Chip แล้วตกเครื่องละประมาณ $210 ถูกกว่าพีซีที่เป็น Sempron หรือ Celeron ซึ่งเฉียดๆ $300 อยู่พอควร แต่ประสิทธิภาพก็ไม่ต้องหวังมากนัก เพราะข้างใน XBox เป็น P!!! ครับ ออกมาก็นานแล้ว นอกจากนั้นยังมีการเอาไปทำเป็น Media Center อีกด้วย น่าสนใจทีเดียว

ชาร์ปเปิดตัวจอ LCD ขนาดใหญ่ถึุง 45 นิ้ว ซึ่งเป็นขนาดใหญ่ที่สุดที่ผลิตในเลิงการค้าในขณะนี้

จอภาพรุ่น LC-45G1H AQUOS 45V เป็นจอที่มีความละเอียดถึง 1920*1080 โดยจะออกวางตลาดในเดือนธันวาคมนี้ในฮ่องกง พร้อมกันนี้ชาร์ปยังประกาศถึงแผนการผลิตจอขนาดถึง 65 นิ้วในปรหน้าอีกด้วย

ที่มา SHARP

เป็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอีกขั้นหนึ่ง เมื่อแผงวงจรที่เราเคยนั่งกัดปรินต์กัน สามารถสร้างได้ด้วยเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ต โดย Epson ใช้หมึกสองประเภท คือ เป็นตัวนำ และเป็นฉนวนกั้นระหว่างชั้น โดยเทคโนโลยีนี้จะใช้ในการสร้างบอร์ดแบบหลายเลเยอร์ ซึ่งมีขนาดบาง ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายลงได้มาก Ars Technica: http://arstechnica.com/news.ars/post/20041101-4366.html

ทาง VIA ได้ให้การสนับสนุนกลุ่มนักประดิษฐ์ที่ชื่อว่า The Prodigies เพื่อสร้างหุ่นยนต์ เพื่อใช้แข่งขันในงาน DARPA Grand Challenge ที่ในปีนี้มีเงินรางวัลสูงถึง 2 ล้านดอลล่าห์

ไม่มีการเปิดเผยว่าทีมนี้ใช้ซอฟท์แวร์ใดบ้าง แต่การแข่งขันในครั้งที่ผ่านมา ทีมที่ทาง VIA สนับสนุนคือ LoGHIQ นั้นใช้ Slackware Linux ในการพัฒนา

VIA เป็นผู้ผลิตซีพียูที่มีส่วนแบ่งตลาดจำนวนไม่มากนักในปัจจุบัน แต่มุมมองใหม่ของ VIA ที่มุ่งพัฒนาระบบพีซีให้มีขนาดเล็กลงเพื่อให้นำไปใช้ในงานทั่วๆ ไป ได้ง่ายขึ้น เช่นเครื่องเล่น MP3 ในรถ ทำให้สินค้าของ VIA น่าจับตามองทีเดียว

LG ประกาศความสำเร็จในการผลิตจอ OLED ขนาด 20.1 นิ้วได้แล้วในวันนี้ นั่นหมายถึงความเป็นไปได้ที่เราจะเห็นโน๊ตบุ๊ค OLED ในเร็ววันนี้แล้ว

OLED คือไดโอดเปล่งแสงที่สามารถนำมาใช้ทำจอภาพได้ ข้อดีของมันคือการประหยัดพลังงานและลดขนาดอุปกรณ์ เนื่องจากไม่ต้องใส่หลอดไฟเพื่อให้แสงสว่าง

ที่มา The Korea Times

VIA ประกาศแล้วในวันนี้ว่ากำลังเตรียมเปิดสายการผลิตชิป 64 บิต แบบใช้พลังงานต่ำ

ชิปดังกล่าวนั้นใช้ชุดคำสั่งร่วมกับออปเทอรอนของเอเอ็มดีได้ครับ ก็เลยวางใจได้ว่าจะไม่มีรรายการแตกแถว แต่จริงๆแล้ว VIA เองเป็นผู้ครองตลาดเพียงส่วนน้อย การที่ใช้ชุดคำสั่งของเอเอ็มดีก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

VIA นั้นในช่วงหลังๆ แล้วลงไปเล่นตลาดคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กมากเป็ส่วนใหญ่ครับ โดยชิปส่วนใหญ่จะเน้นที่ประหยัดพลังงาน และบอร์ดรวมของระบบมีขนาดเล็ก ซึ่งก็ดูดีทีเดียว เพราะสามารถนำมาใช้ในงานเฉพาะด้านได้จำนวนมาก โดยล่าสุดก็มีการวางขายบอร์ด NANO-ITX กันเรียบร้อยแล้วในญี่ปุ่น

ฟลอริน่า หญิงเหล็กแห่งวงการไอที ไปเยือนเกาหลีวันที่ 10 ถึง 12 เริ่มแต่เปิดศูนย์วิจัยใหม่ที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น ตอนนี้ก็มีข่าวการเพิ่มความสัมพันธกับซัมซุง ผู้ผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ไปเรียบร้อยแล้วครับ แต่ข่าวอย่างเป็นทางการยังไม่ออกมา

LG ประกาศเปิดสายการผลิตจอ LCD รุ่นที่ 6 ซึ่งจะเป็นสายการผลิตสำหรับจอ LCD ใหนาดใหญ่

สายการผลิตนี้จะมีการผลิตจอ LCD ขนาดใหญ่ออกมาสามรุ่นด้วยกัน คือ 32 37 และ 42 นิ้ว การพัฒนาสายการผลิตนี้ต้องสร้างโรงงานใหม่ โดยทาง LG ต้องลงทุนไปถึง 2.7 พันล้านดอลล่าห์

ความจริงแล้ว LG สามารถลิตจอ LCD ขนาด 52 นิ้วได้แล้ว แต่เป็นเพียงการผลิตในระดับตัวต้นแบบเท่านั้น โดยจอขนาด 52 นิ้วนั้นมีการเปิดตัวไปเมื่อธันวาคม 2002 แต่การผลิตจอขนาดใหญ่เพื่อการค้านี้เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นเองครับ

มหาวิทยาลัยเยลประกาศความสำเร็จในการสร้างชิปควอนตัมในวันนี้ โดยชิปควอนตัมเป็นเทคโนโลยีที่คาดกันว่าจะเป็นยุคต่อไปของโลกการคำนวณ เนื่องจากมันสามมรถทำงานได้ที่ความเร็วสูงกว่าคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันที่ใช้เทคโนโลยีสารกึ่งตัวนำมากๆ

ความสำเร็จในครั้งนี้ยังเป็นเพียงในระดับห้องแลป ซึ่งหมายถึงมันจะยังไม่เป็นสินค้าวางขายในตลาดอย่างน้อยก็อีกสองสามปี แต่ความสำเร็จนี้ก็ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มได้ว่าเราอาจได้เห้นควอนตัมคอมพิวเตอร์เป็นยุคถัดไป

กลุ่มผู้ประกอบการในใต้หวันคาดการณ์ว่าปีนี้ยอดขายโน็ตบุ๊คจะโตขึ้นถึง 45 % ตามรายงานการศึกษาของบริษัท Global Source

ความชัดเจนในแนวโน้มตลาดที่เคลื่อนจากตลาดเดสท๊อปไปสู่ตลาดแลปท๊อปเริ่มมาตั้งแต่การที่ราคาโน๊ตบุ๊คตกลงอย่างฮวบฮาบเมื่อสี่ปีก่อน และข่าวการเพิ่มขนาดตลาดในระดับนี้ก็เป็นเครื่องยืนยันได้ดี

ข่าวนี้มาพร้อมกับตัวเลขที่ชิ้นส่วนต่างๆ ของโน๊คบุ๊คสัญชาติใต้หวันนั้นจะถูกผลิตในจีนสูงถึง 80 % เทียบกับ 65% ในปีที่แล้ว

ที่มา Teipei Times

ข่าวใหญ่วันนี้ครับ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (DOJ) สั่งฟ้อง และศาลได้ปรับเงิน Infineon ผู้ผลิต DRAM สัญชาติเยอรมัน 160 ล้านเหรียญ ฐานรวมหัวกับผู้ผลิตรายอื่น (ที่เกี่ยวข้องได้แก่ Samsung, Hynix และ Micron) ตรึงราคาแรม

Dell และ Gateway ผู้ผลิตพีซีรายใหญ่ของสหรัฐได้เริ่มขายพีซีที่ไม่มีฟลอปปี้ไดรว์กันแล้ว หลังจากแอปเปิลเป็นรายแรกที่ถอดฟลอปปี้ไดรว์ออกไป ใน iMac ตัวแรกที่ขายตั้งแต่ปี 1998 ตอนนั้นแอปเปิลโดนวิจารณ์เยอะอยู่บ้าง แต่ปี 2004 นี้ ฟลอปปี้ก็แทบไม่จำเป็นจริงๆ ด้วยการอุดช่องว่างด้านความจุด้วย CD-RW และอุดช่องว่างเรื่องความสะดวกด้วยแฟลชไดรว์ช่วงปีสองปีหลัง

Yahoo! บอกว่า ฟลอปปี้กำลังดำเนินตามรอยของม้าเมื่อมีรถยนต์เกิดขึ้น นั่นคือมันยังมีอยู่ เพียงแต่ไม่สำคัญเหมือนเดิมอีกแล้ว ผู้ซื้อพีซีของเกตเวย์ต้องจ่ายเพิ่มอีก 10-20 เหรียญเพื่อเพิ่มฟลอปปี้ไดรว์เข้ามา (ราคาก็พอๆ กับบ้านเรา ประมาณสี่ร้อยบาท)

theINQUIRER วันนี้หนังสือพิมพ์ Nihon Kaizai Shimbun ของญี่ปุ่นได้รายงานถึงความคืบหน้าของบริษัทมิตซูบิชิ (Misubishi - อันเดียวกับที่ผลิตรถนั่นล่ะครับ) ที่สามารถเร่งความเร็วในการตอบสนองการแสดงผลบนจอ LCD ได้เร็วขึ้นเป็นเท่าตัว

เป็นที่รู้กันมานานแล้วว่าข้อเสียหลักของจอ LCD นั้นมีอยู่สองประการคือมุมมองภาพที่แคบ และการตอบสนองที่ช้า ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เป็นผลเสียต่อการใช้งานจอ LCD ในด้านการบันเทิงไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมหรือการดูภาพยนต์ ทำให้คนบางกลุ่มยังคงยึดกับจอ CRT หรือข้ามไปใช้จอ Plasma แทนจอ LCD เนื่องจากข้อเสียดังกล่าว

theINQUIRER ข่าวใหญ่วันนี้คงหนีไม่พ้นสามยักษ์ใหญ่วงการเครื่องใช้ไฟฟ้าของญี่ปุ่น คือ ฮิตาชิ โตชิบา และมัตซึชิตะ (เจ้าของยี่ห้อพานาโซนิค) ร่วมกันตั้งบริษัทเพื่อมุ่งตลาดผลิตโทรทัศน์ LCD

งานนี้คนที่ร้อนที่สุดน่าจะเป็นซัมซุงนั่นเองครับ เพราะชั่วโมงนี้ตลาด LCD นั้น ซัมซุงเป็นผู้ครองตลาดเสียส่วนใหญ่