แอปเปิลประกาศโครงการซ่อม iPhone 14 Plus ซึ่งระบุว่ามีปัญหาเป็นจำนวนน้อยมาก โดยพบภาพที่ถ่ายด้วยกล้องหลัง ไม่แสดงรูปในพรีวิว (รูปภาพเล็ก ๆ ตรงมุม)
iPhone 14 Plus กลุ่มที่ได้รับผลกระทบนั้น แอปเปิลบอกว่าผลิตในช่วง 10 กันยายน ถึง 28 กันยายน 2024 โดยสามารถตรวจสอบว่า iPhone 14 Plus เครื่องที่ใช้งานเป็นกลุ่มมีปัญหาหรือไม่ด้วยการกรอกหมายเลขซีเรียลที่เว็บไซต์ของโครงการ
หาก iPhone 14 ที่ใช้เข้าเงื่อนไขกล้องมีปัญหาดังกล่าว สามารถนำเครื่องมารับการแก้ไขปัญหาฟรีที่ศูนย์ซ่อม AASP หรือที่ Apple Store
แอปเปิลยกเลิกการขาย iPhone รุ่นเก่าหลายรุ่น ตามรอบปกติหลังการเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ประจำปีตระกูล iPhone 16 พร้อมกับลดราคารุ่นเก่าลงเพื่อเป็นทางเลือก
iPhone ที่ยกเลิกการขายผ่ายช่องทางออนไลน์ของแอปเปิล ได้แก่ iPhone 13, iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max เป็นรูปแบบเดียวกับปีที่แล้ว ทั้งนี้ iPhone รุ่นดังกล่าวอาจยังมีขายในช่องทางอื่นต่อไป
ส่วนราคาขาย iPhone ทั้งหมดทุกรุ่นที่มี เป็นดังนี้
iPhone สมาร์ทโฟนจากแบรนด์ผลไม้ชื่อดังที่รู้จักกันไปทั่วโลกอย่าง Apple ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมในการใช้งานเป็นอย่างมาก เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ติดตัวที่ใครหลายคนต่างก็ใช้งานกันอย่างเสมอ และด้วยความยอดนิยมนี้เองจึงทำให้นอกจากยอดขายที่ออกมาเป็นเทน้ำเทท่าแล้วนั้น รุ่นใหม่ ๆ ก็มักจะเรียงคิวออกมาให้ใช้งานกันแบบที่เรียกว่าปีต่อปีกันเลยทีเดียว และยิ่งมีให้เลือกใช้งานมากยิ่งขึ้นนั้น ก็คงมีหลายคนที่กำลังสงสัยกันอยู่ว่ารุ่นไหนถึงจะดี และเหมาะสมกับตัวเองที่สุด วันนี้เราจะมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้กัน ไปดูกันเลย
แอปเปิลประกาศขยายเวลาทดลองใช้งานฟรี สำหรับ Emergency SOS ฟีเจอร์ขอความช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉินผ่านการเชื่อมต่อกับดาวเทียม รองรับพื้นที่ซึ่งอาจไม่มีสัญญาณมือถือ ซึ่งแอปเปิลเปิดให้กับผู้ซื้อ iPhone 14 และ iPhone 14 Pro เมื่อปีที่แล้ว ใช้งานฟรี 2 ปี
โดยสำหรับผู้ซื้อ iPhone 14 และ iPhone 14 Pro ที่เปิดใช้งานก่อน 15 พฤศจิกายน จากเดิมใช้งานได้ 2 ปี (ครบกำหนดปลายปี 2024 สำหรับผู้ซื้อกลุ่มแรก) จะเพิ่มให้อีก 1 ปี เป็นหมดในปี 2025 ทำให้ช่วงครบกำหนดจะเท่ากับผู้ซื้อ iPhone 15 และ iPhone 15 Pro ที่ได้ใช้งาน 2 ปีเช่นกัน
เมื่อปีที่แล้ว iFixit ได้ให้คะแนนการซ่อมง่ายของ iPhone 14 ด้วยตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบหลายปีสำหรับ iPhone คือ 7 เต็ม 10 เนื่องจากเครื่องสามารถเปิดได้ง่าย ทั้งหน้าจอและด้านหลังเครื่อง พร้อมบอกว่าน่าจะเป็นต้นแบบให้ iPhone รุ่นถัด ๆ ไป แต่ล่าสุด iFixit เปลี่ยนใจแล้ว
iFixit บอกว่าได้ปรับลดคะแนนการซ่อม iPhone 14 ลง จาก 7 ลงมาเหลือเพียง 4 คะแนนเท่านั้น โดยบอกว่าการให้คะแนนตอนนั้นเป็นเรื่องของฮาร์ดแวร์ ที่แกะประกอบได้ง่าย แต่ตอนนี้การซ่อม iPhone 14 ทำได้ยากและซับซ้อนขึ้นเนื่องจากซอฟต์แวร์ของ iPhone
เมื่อแอปเปิลเปิดตัว iPhone 15 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่เรือธงประจำปี iPhone รุ่นเก่าหลายตัวก็ถูกยกเลิกการขายไป หรือรุ่นที่ยังขายต่อก็ปรับราคาใหม่เป็นทางเลือก
โดย iPhone รุ่นที่แอปเปิลยุติการขายผ่านช่องทางของแอปเปิล ได้แก่ iPhone 13 mini ซึ่งเป็น iPhone รุ่นเรือธงจอเล็ก 5.4 นิ้ว ตัวสุดท้ายที่ยังมีขาย เช่นเดียวกับ iPhone 12 ที่หยุดขายเนื่องจากแอปเปิลปรับไลน์ให้ iPhone 13 เป็นรุ่นเรือธงเก่าที่สุดที่ยังขายต่อไปนั่นเอง ส่วน iPhone 14 เหลือเฉพาะรุ่น iPhone 14 และ iPhone 14 Plus ตัดรุ่น Pro ออกไปเหมือนปีก่อน
โดย iPhone รุ่นทั้งหมดที่มีขายผ่านช่องทางของแอปเปิลเป็นดังนี้
Straits Times รายงานอ้างอิง The Times of India (TOI) ว่าคู่สามีภรรยาในรัฐเบงกอลตะวันตก ประเทศอินเดียถูกกล่าวหาว่า ขายลูกชายวัย 8 เดือน เพื่อซื้อ iPhone 14 มาทำ Instagram Reels
ตำรวจได้จับหญิงชาวอินเดียถูกระบุชื่อว่า Sathi ส่วนผู้ชายชื่อ Jaydev ยังคงหลบหนีอยู่ ในรายงานกล่าวว่าเพื่อนบ้านเริ่มสงสัยพบว่าลูกชายของทั้งคู่วัย 8 เดือน เหมือนจะหายไป ทั้งสองตอบเพียงว่าทิ้งลูกไว้กับญาติและดูไม่มีท่าทีเครียดเมื่อถูกถามเลย
ความผิดปกติเริ่มมากขึ้น เมื่อเพื่อนบ้านเริ่มสังเกตเห็นว่าทั้งสองมี iPhone 14 ทั้งที่ทั้งคู่ไม่มีเงินมากพอที่จะสามารถซื้อสมาร์ตโฟนในราคาสูงขนาดนี้ได้ ซึ่งราคาอย่างต่ำในอินเดียอยู่ที่ 100,000 รูปี (41,980 บาท) และในขณะเดียวกันก็พบว่าทั้งคู่ก็เริ่มทำ Instagram Reels
แอปเปิลออกโฆษณาใหม่สำหรับ iPhone 14 โดยโฟกัสฟีเจอร์เด่น รายละเอียดดังนี้
โฆษณาแรกชื่อว่า Battery for Miles ชูจุดเด่นของ iPhone 14 Plus ที่มีแบตเตอรีความจุมากที่สุด (ประมาณ 4,325 mAh) ในบรรดา iPhone ทุกรุ่น หนังโฆษณาเล่าเรื่องของชายชราที่ขับรถทรัคพร้อมกับฟักทองยักษ์ แล่นไปอย่างช้า ๆ บนถนนที่ยาวสุดลูกหูลูกตาแม้แต่ใน Apple Maps ปิดด้วยคำโฆษณาว่าถึงทางจะอีกไกล แต่ก็สบายใจได้เพราะแบตเตอรีของ iPhone 14 Plus อยู่ได้นาน
แอปเปิลยังออกโฆษณาอีกตัวพร้อมกันสำหรับ iPhone 14 Pro ชื่อว่า Crash Test นำเสนอจุดขายเรื่องระบบตรวจจับอุบัติเหตุรถชน ผ่านวิดีโอแบบสโลโมชันของรถยนต์ทดสอบอุบัติเหตุ ให้เห็นรูปแบบการทำงานของระบบ Crash Detection ใน iPhone
จากต้นปีที่ Apple เปิดตัว iPhone 14 พร้อมเปิดตัวคุณสมบัติใหม่ใช้บริการเชื่อมต่อดาวเทียมเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ซึ่งตอนนี้ Apple เริ่มเปิดให้ใช้ฟีเจอร์เชื่อมต่อดาวเทียม ใน iPhone 14, iPhone 14 Plus, iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max ให้กับลูกค้าเพิ่มอีก 2 ประเทศใน ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
ฟีเจอร์เชื่อมต่อดาวเทียมสามารถใช้ได้เมื่อผู้ใช้เกิดเหตุฉุกเฉินบริเวณที่ไม่มีเครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์หรือ Wifi โดยสามารถใช้ Emergency SOS ผ่านดาวเทียมเพื่อส่งข้อความขอความช่วยเหลือสั้นๆ ไปยังหน่วยช่วยเหลือ และยังสามารถแชร์ตำแหน่งที่อยู่กับเพื่อนและครอบครัวในแอปฯ Find My
แอปเปิลเปิดตัว iPhone สีใหม่โดยใช้ชื่อเรียกว่า สีเหลืองใหม่หรือ New Yellow มีเฉพาะรุ่น iPhone 14 และ iPhone 14 Plus เท่านั้น ไม่มีในรุ่น Pro ตรงตามข่าวลือ ทำให้สีเหลืองใหม่นี้เป็นตัวเลือกสีที่หกของ iPhone 14 เพิ่มจากสีมิดไนท์, สตาร์ไลท์, แดง Product RED, ฟ้า และม่วง
การออก iPhone สีใหม่เพิ่มเติม หลังเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ประจำปีช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ดูจะเป็นธรรมเนียมไปแล้วของแอปเปิล โดย iPhone 12 ได้เพิ่มสีม่วง ส่วน iPhone 13 ก็เพิ่มสีเขียวอัลไพน์เข้ามา
มีรายงานจากหลายแหล่งข้อมูล ว่าแอปเปิลเตรียมประกาศสินค้าใหม่ในสัปดาห์หน้า โดยหนึ่งในนั้นคือ iPhone 14 และ iPhone 14 Plus ที่จะเพิ่มเติมสีใหม่คือสีเหลือง (Yellow) แต่ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมว่าแอปเปิลจะประกาศกลุ่มสินค้าใหม่ด้วยหัวข้ออะไร
ช่วงหลายปีที่ผ่านมา แอปเปิลใช้วิธีการออก iPhone สีใหม่เพิ่มเติมในช่วงต้นปีฤดูใบไม้ผลิ เพื่อกระตุ้นยอดขายหลังสินค้าออกมาระยะหนึ่ง โดยใน iPhone 13 เป็นสีเขียว ส่วน iPhone 12 เป็นสีม่วง จึงไม่น่าแปลกนักถ้าจะทำแบบเดียวกันกับ iPhone 14
บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM ผู้ให้บริการดาวเทียวของไทย ได้ Globalstar (ผู้ให้บริการดาวเทียมกับ Apple Inc.) ร่วมเป็น Partner ในการให้บริการดาวเทียมวงโคจรต่ำ หรือ Leo Satellite เมื่อปี 2565 ล่าสุด อ้างอิงจาก THCOM Oppday Year End 2022 พบนักลงทุน ซึ่งจัดโดยตลาดหลักทรัพย์ฯ แจ้งความคืบหน้าล่าสุด ได้ทำการก่อสร้าง Infrastructure ให้กับ Globalstar ในประเทศไทย และขอยื่น Landing right กับ กสทช. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการ ได้ภายในไตรมาส 2 ปี 2566 นี้
ข้อมูลนี้มาจากโพสต์ของผู้ใช้งานบน Naver ชื่อบัญชี yeux1122 ซึ่งมีประวัติให้ข้อมูลแอปเปิลตรงสลับกับไม่ตรง โดยบอกว่ายอดขายของ iPhone 14 Plus ที่ลดลงมาตลอด ทำให้แอปเปิลต้องการปรับกลยุทธ์ใหม่ทั้งหมดสำหรับ iPhone รุ่นนี้
ช่วงหลายปีที่ผ่านมา แอปเปิลใช้กลยุทธ์ออก iPhone รุ่นใหม่แต่ละปี 4 รุ่นย่อย โดยปีล่าสุดของ iPhone 14 เปลี่ยนจากการออกรุ่น mini หน้าจอเล็ก 5.4 นิ้ว มาเป็นการออกรุ่นจอใหญ่ 6.7 นิ้ว คู่กับรุ่นปกติ 6.1 นิ้ว แล้วเติมคำว่า Plus แทน นั่นคือ iPhone 14 Plus ส่วนอีกสองรุ่นคือตระกูล Pro
เหตุเกิดจากรถที่มีคนอยู่ 2 รายขับผ่านพื้นที่ป่าในอุทยาน Angeles National Forest ในเมือง Los Angeles รถได้ออกนอกถนนและยื่นออกจากเส้นทางไหล่เขา จนทำให้กันชนหน้าร่วงลงไปในหน้าผาข้างล่าง
ผู้ที่อยู่ในรถตัดสินใจใช้บริการสื่อสารผ่านดาวเทียมฉุกเฉินบน iPhone 14 เพราะบริเวณนั้นไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต จนหน่วยดับเพลิงของเมือง นายอำเภอ และทีมค้นหาและกู้ภัยมอนโทรสได้รับการติดต่อ ทำให้ทีมกู้ภัยสามารถนำเฮลิคอปเตอร์เข้าช่วยเหลือและส่งตัวผู้ที่อยู่ในรถที่มีอาการบาดเจ็บเข้ารักษาในโรงพยาบาลได้ในที่สุด
Apple ได้รับสิทธิบัตรใหม่จากสำนักสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าสหรัฐอเมริกา มีหัวข้อว่า “Communication Terminal” จุดที่น่าสนใจ คือ สิทธิบัตรนี้มีรายชื่อของนักพัฒนาบริการสื่อสารผ่านดาวเทียมของ Apple และยังมีรายละเอียดว่าบริการดาวเทียมจะมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการสตรีมวิดีโอ โทรทัศน์ วิทยุ รวมทั้งข้อมูลเสียงอย่างเช่น การโทรศัพท์ ข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตและอื่น ๆ ซึ่งทำให้ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ให้บริการแค่เรื่องฉุกเฉินเท่านั้น
Apple เปิดบริการ Emergency SOS บริการข้อความผ่านดาวเทียมที่เปิดใช้งานฟรีให้กับผู้ซื้อ iPhone 14 โดยเฟสแรกจะเปิดบริการในสหรัฐฯ และแคนาดาก่อน แล้วจึงเปิดบริการในฝรั่งเศส, ไอร์แลนด์, และสหราชอาณาจักรในเดือนธันวาคมนี้
นอกจากการเปิดบริการจริง แอปเปิลยังอธิบายถึงขั้นตอนการใช้งานบริการนี้ละเอียดขึ้น โดยผู้ใช้ต้องพยายามโทรแจ้งเหตุร้าย (ในสหรัฐฯ คือหมายเลข 911) ก่อนเมื่อโทรศัพท์เชื่อมต่อเครือข่ายโทรศัพท์มือถือไม่ได้จึงจะขึ้นตัวเลือกแจ้งเหตุร้ายผ่านทางดาวเทียม จากนั้นโทรศัพท์จะสอบถามข้อมูลเบื้องต้นและส่งข้อมูลไปพร้อมกับพิกัดล่าสุด, ระดับแบตเตอรี่, หมายเลขประจำตัวทางการแพทย์ จากนั้นจะสามารถส่งข้อความสอบถามเพิ่มเติมได้เหมือนการส่ง SMS
MacRumors ระบุว่าเห็นบันทึกภายในของ Apple ระบุว่า iPhone 14 ทุกรุ่นมีบั๊ก โดยผู้ใช้บางส่วนอาจได้รับการแจ้งเตือนว่า “SIM Not Supported” และหลังจากนั้น iPhone ก็อาจจะค้างไปเลย
Apple กำลังตรวจสอบบั๊กดังกล่าวแต่ก็ยืนยันว่าไม่ใช่ปัญหาด้านฮาร์ดแวร์อย่างแน่นอน โดยบันทึกแนะนำให้ผู้ใช้อัปเดต iOS ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเสมอ ทั้งนี้ หากมีการแจ้งเตือนว่า “SIM Not Supported” ให้รอดูว่าข้อความหายไปหรือไม่ หากข้อความไม่หายไป Apple ย้ำว่าผู้ใช้ไม่ควรพยายามแก้ไขด้วยตนเองแต่ควรนำเครื่องไปที่ Apple Store หรือผู้ให้บริการรายอื่น ๆ เพื่อตรวจเช็ค
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการ iOS 16.0.3 ซึ่งแก้ไขบั๊กหลายรายการที่มีรายงานออกมาก่อนหน้านี้ ผู้ใช้งานสามารถอัพเดตแบบ OTA ได้โดยไปที่ Settings > General และเลือก Software Update
รายละเอียดปัญหาที่แอปเปิลระบุว่าได้แก้ไขในอัตเดตนี้ ได้แก่ ปัญหาการเตือนเมื่อมีสายโทรเข้าหรือ การแจ้งเตือนของแอปดีเลย์ ที่พบใน iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max, ปัญหาเสียงไมโครโฟนเบา เมื่อต่อ CarPlay ใน iPhone 14 ทุกรุ่น, ปัญหาเปิดกล้องช้า หรือสลับโหมดกล้องช้า พบใน iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max และปัญหาแอปอีเมลเมื่อได้รับเมลบางประเภท
แอปเปิลยังออกอัพเดต watchOS 9.0.2 ระบบปฏิบัติการของ Apple Watch ด้วยเช่นกัน โดยแก้ปัญหาการสตรีมจาก Spotify, ปัญหาการเตือน และอื่น ๆ
หนึ่งในฟีเจอร์ของ iPhone 14 ที่ถือเป็นของใหม่สำหรับสมาร์ทโฟนจาก Apple คือระบบ Crash Detetcion ที่จะตรวจจับว่าผู้ใช้งานประสบอุบัติเหตุรถชนหรือไม่ หากมันตรวจจับการชนก็จะช่วยโทรติดต่อเจ้าหน้าที่ 911 เพื่อให้มาช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ อย่างไรก็ตามดูเหมือนระบบ Crash Detetcion จะยังมีข้อผิดพลาดอยู่บ้าง เมื่อมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ 911 ได้รับสายที่โทรจาก iPhone 14 อัตโนมัติในระหว่างที่ผู้ใช้กำลังนัง่รถไฟเหาะ
ข่าวลือการตั้งชื่อรุ่นของ iPhone 14 นั้นมีออกมาตั้งแต่ต้นปี ซึ่งบอกว่ารุ่นทั่วไปจะเรียก iPhone 14 สำหรับจอ 6.1 นิ้ว และ iPhone 14 Max สำหรับจอใหญ่ 6.7 นิ้ว แต่สุดท้ายแอปเปิลก็ประกาศชื่อว่า iPhone 14 Plus แทน
อย่างไรก็ตามมีข้อมูลที่สนับสนุนว่า เดิมแอปเปิลจะใช้ชื่อ iPhone 14 Max จริง ๆ โดยมีผู้พบว่าในหน้า Support ที่แนะนำวิธีการระบุรุ่น iPhone เนื้อหาส่วน iPhone 14 Plus รูปประกอบชื่อใช้ตั้งชื่อไฟล์มีคำว่า iphone-14-max และยังไม่ได้แก้ไข ขณะที่รูปประกอบของรุ่นอื่นตั้งชื่อตรง
แหล่งข่าวของ Bloomberg เปิดเผยว่า Apple ยกเลิกแผนเพิ่มการผลิต iPhone 14 ที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะผลิตเพิ่มถึง 6 ล้านเครื่องในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ หลังยอดขายจริงไม่ถึงที่คาดไว้ และเปลี่ยนไปตั้งเป้าผลิตให้ได้ทั้งหมด 90 ล้านเครื่องแทน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับปีที่แล้วและเป็นตัวเลขที่ตั้งเป้าไว้ก่อนที่จะมีแผนเพิ่มการผลิต
สาเหตุที่ Apple ยกเลิกแผนการผลิตมาจากยอดขาย iPhone 14 ไม่ดีอย่างที่ตั้งเป้าไว้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเศรษฐกิจจีนซึ่งเป็นตลาดสมาร์ทโฟนที่สำคัญของ Apple ซบเซาลง ยอดขาย iPhone 14 ในจีนลดลง 11% ในช่วง 3 วันแรกที่วางขายเมื่อเทียบกับช่วงเวลาที่วางขาย iPhone 13 นอกจากนี้ยังมีผลมาจากภาวะเงินเฟ้อและสงครามยูเครน-รัสเซีย ทำให้ตลาดสมาร์ทโฟนซบเซาลง
หลังจากเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา Apple ได้เริ่มผลิต iPhone 14 ในอินเดียแล้วหลังผ่านมาไม่ถึง 3 สัปดาห์ จากก่อนหน้านี้ที่มีรายงานว่า Apple วางแผนว่าจะเลื่อนมาผลิตในอินเดีย 2 เดือนหลังเปิดตัว
ปกติ Apple มักจะเริ่มผลิตในอินเดียภายหลังจากการเปิดตัวไปราว 6-9 เดือน แต่ Apple ได้ร่วมมือกับบริษัทซัพพลายเออร์เพื่อเร่งการผลิตในอินเดียและลดความล่าช้าจากการผลิตในจีน
Foxconn ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ของ Apple ก็กำลังศึกษาวิธีการขนส่งชิ้นส่วนจากจีนเพื่อมาผลิตยังอินเดียโดยต้องคำนึงถึงการปฏิบัติตามมาตรฐานการเก็บความลับสินค้าของ Apple ร่วมด้วย
iFixit รายงานถึงการแกะ iPhone 14 ที่แทบทุกสำนักข่าวจะระบุว่ามีความเปลี่ยนแปลงไม่เยอะมาก เพราะมองจากภายนอกแล้วแทบเหมือนเดิม ภายในทั้งซีพียู หรือกล้องก็ยังเป็นชุดเดิมแม้มีการปรับปรุงเล็กๆ น้อยๆ แต่ฟีเจอร์หลักๆ เหมือนเดิม ทาง iFixit กลับมองต่าง เพราะแนวทางการออกแบบให้เครื่องซ่อมง่ายขึ้นทำให้แอปเปิลต้องออกแบบตัวถังใหม่หมด แม้ผู้ใช้จะมองเห็นภายนอกเหมือนเดิมก็ตามที
หลังจากที่ทาง Apple ได้เปิดตัว iPhone14 เมื่อคืนวันที่ 7 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา ด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆที่ สมาร์ท มากขึ้น และที่โดนใจที่สุด คงเป็นฟีเจอร์ที่ชื่อว่า Dynamic Island เป็นแถบวงรีสีดำเล็กๆด้านบน ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งาน iPhone มากยิ่งขึ้น เช่น การรับโทรศัพท์โดยไม่ต้องออกจากหน้าจอที่เปิดอยู่ และอีกสิ่งที่น่าสนใจ คือฟังก์ชัน กล้อง ที่อัพเกรดขึ้นหลายส่วน เช่นเพิ่มความละเอียดมาเป็น 48 MP ทำให้สามารถถ่ายภาพในที่มืดได้คมชัดขึ้น
Apple ยืนยันว่าบั๊กของ iOS 16 ทำให้เกิดปัญหาเรื่องการเชื่อมต่อ Wi-Fi ขณะตั้งค่าเพื่อเปิดใช้งานเครื่องใหม่ พร้อมทั้งแนะนำว่าผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบ ควรกดเลือก “Connect to Mac or to a PC with iTunes” ไปก่อนแล้วค่อยกดย้อนกลับมาหน้าเดิมเพื่อพยายามเชื่อมต่อ Wi-Fi อีกครั้ง
Apple ระบุว่าขณะนี้ยังไม่มีวิธีแก้ปัญหาดังกล่าวและไม่จำเป็นต้องส่งเครื่องซ่อม สำหรับผู้ที่จะเปิดใช้งาน iPhone 14 ขณะนี้มี iOS 16.0.1 ที่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องการตั้งค่าเครื่องใหม่ ถ้าหากมีปัญหาเมื่อเปิดใช้งานเครื่องจะต้องอัปเดตซอฟต์แวร์ให้เป็น iOS 16.0.1 ผ่าน Mac หรือ PC เพื่อแก้บั๊กก่อน
นอกจากนี้ ผู้ใช้ iPhone 14 ที่ยังไม่ได้อัปเดตเป็น iOS 16.0.1 อาจจะไม่สามารถเปิดใช้งาน iMessage และ FaceTime ได้