McDonald’s แจ้งยุติการทดสอบระบบสั่งอาหารที่ทำงานด้วย AI ของลูกค้าไดรฟ์ทรู (ขับรถไม่ต้องเข้ามาในร้าน) หลังจากทดสอบมากกว่า 100 สาขาในสหรัฐอเมริกา
ระบบสั่งอาหารไดรฟ์ทรูด้วยเสียงนี้ชื่อว่า Automated Order Taking เป็นความร่วมมือระหว่าง McDonald’s กับ IBM มาตั้งแต่ปี 2021 ซึ่ง IBM ได้ซื้อส่วนธุรกิจ McD Tech Labs นี้จาก McDonald’s โดยการทำงานลูกค้าจะพูดรายการอาหารที่ต้องการสั่ง และ AI จะสรุปเป็นคำสั่งซื้อทั้งหมดให้ ความนิยมของระบบ AI สำหรับไดรฟ์ทรูยังถูกนำไปใช้ในเชนฟาสต์ฟู้ดอื่นอีกหลายรายในอเมริกา
เมื่อวานนี้ร้านแมคโดนัลด์หลายสาขาในหลายประเทศพบปัญหาระบบไอทีขัดข้อง ทำให้ไม่สามารถให้บริการได้ เนื่องจากระบบสั่งอาหาร จ่ายเงินล่มทั้งหมด โดยมีรายงานทั้งในสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย แคนาดา อิตาลี นิวซีแลนด์ สหราชอาณาจักร
แมคโดนัลด์ออกแถลงการณ์ยืนยันปัญหานี้ว่าเกิดขึ้นประมาณเที่ยงคืนวันศุกร์ ตามเวลา Central เป็นปัญหาระบบเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อใช้งานทั่วโลก โดยแก้ปัญหาอย่างรวดเร็วและตอนนี้กลับมาใช้งานได้เป็นส่วนใหญ่แล้ว พร้อมบอกว่าไม่ใช่ปัญหาการโจมตีทางไซเบอร์ แต่เกิดจากการแก้ไขคอนฟิกของผู้ให้บริการภายนอกที่ส่งผลกระทบ
ผู้ใช้งาน X ในญี่ปุ่นจำนวนมากต่างโพสต์ภาพที่แมคโดนัลด์ปิดให้บริการ บางภาพแสดงให้เห็นหน้าจอทั้งหมดในร้านแสดงโลโก้ค้างอยู่
McDonald’s ประกาศความร่วมมือกับกูเกิล เซ็นสัญญาเป็นระยะเวลาหลายปีเพื่อนำร้านอาหารหลายพันแห่งทั่วโลก เชื่อมต่อกับเทคโนโลยีของ Google Cloud พัฒนาการให้บริการไปอีกขั้น ซึ่งรวมทั้งการอัพเกรดฮาร์ดแวร์ ข้อมูล และการนำ AI มาใช้ เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ทั้งกับลูกค้า ทีมดูแลร้านอาหาร และพนักงานทุกคน
รายละเอียดเบื้องต้นที่ McDonald’s พูดถึง เช่น การพัฒนาแพลตฟอร์มต่อยอดจากระบบสมาชิกในแอปมือถือ ที่มีผู้สมัครใช้งานกว่า 150 ล้านคน ไปจนถึงการปรับปรุงระบบตู้คิออสก์สั่งอาหารที่มีกระจายในร้าน McDonald’s ทั่วโลก ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถนำมาประมวลผลและบริหารจัดการข้อมูลในแต่ละสาขาได้
มีผู้ใช้ Twitter ชาวญี่ปุ่นที่ชื่อ @shao1555 ได้เข้าไปใช้ห้องน้ำในร้านฟาสต์ฟู้ดชื่อดัง McDonald’s แล้วสังเกตเห็นอะไรบางอย่างที่เขาไม่คุ้นตามมาก่อนบริเวณอ่างล้างมือ มันเป็นช่องว่างเล็กๆ เรียวยาวอยู่บริเวณขอบอ่าง และเมื่อเขาอ่านคำแนะนำการใช้งานต่างๆ ก็เข้าใจในที่สุดว่ามันคือช่องทำความสะอาดสมาร์ทโฟน
@shao1555 ได้โพสต์วิดีโอการใช้ระบบทำความสมาร์ทโฟนนี้ด้วย ผู้ใช้เพียงนำสมาร์ทโฟนสอดลงไปในช่องว่างดังกล่าว จากนั้นเครื่องจะดึงสมาร์ทโฟนลงไปและปิดฝาช่องทำความสะอาด ในระหว่างที่เครื่องทำความสะอาดสมาร์ทโฟนอยู่นั้นจะมีไฟ LED บอกให้รู้ว่าเครื่องอยู่ในระหว่างการทำงาน และหลังจากนั้นไม่กี่วินาทีฝาเครื่องก็จะเปิดออกพร้อมกับดันสมาร์ทโฟนกลับขึ้นมาคืนให้ผู้ใช้ ทั้งนี้ข้อความบนฝาปิดช่องทำความสะอาดระบุไว้ว่าเป็นการทำความสะอาดด้วยรังสี UV (ดูวิดีโอได้ท้ายข่าว)
ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ราคาเงินคริปโตได้ปรับตัวลงค่อนข้างมาก ทำให้เกิดมีมต่าง ๆ ตามมา โดยมีมหนึ่งที่มีการส่งต่อมากคือกราฟแท่งเทียนราคาของบิตคอยน์ ที่มีลักษณะคล้ายโลโก้ของแมคโดนัลด์ ดูเหมือนมีมนี้จะโดนใจมาก แม้แต่ Nayib Bukele ประธานาธิบดีเอลซัลวาดอร์ ซึ่งเป็นประเทศที่รับรองบิตคอยน์ ก็ถึงกับเปลี่ยนรูปโปรไฟล์เป็นชุดพนักงานแมคโดนัลด์อยู่ช่วงหนึ่ง
แมคโดนัลด์ประกาศว่า ได้ขายธุรกิจ Dynamic Yield สตาร์ทอัพพัฒนาเครื่องมือการตลาดออนไลน์ ให้กับ Mastercard โดยไม่เปิดเผยมูลค่าของดีล
เมื่อปี 2019 แมคโดนัลด์ได้ซื้อกิจการ Dynamic Yield โดยตอนนั้นให้เหตุผลว่า เพื่อนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ ให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการลูกค้าที่ดีขึ้น ซึ่งได้นำมาใช้แล้วกับบริการไดรฟ์ทรูและตู้คิออสก์สั่งอาหาร
Mastercard หวังว่าจะนำเทคโนโลยีของ Dynamic Yield มาใช้ปรับปรุงบริการและข้อเสนอสำหรับลูกค้าได้ดีมากขึ้นด้วยข้อมูลต่าง ๆ
ที่มา: CNBC
IBM ประกาศซื้อกิจการ McD Tech Labs บริษัทเทคโนโลยีของ McDonald’s ที่พัฒนาระบบรับออเดอร์อัตโนมัติ (Automated Order Taking - AOT) ที่ใช้ AI รับฟังคำสั่งเสียงจากลูกค้าในระบบไดรฟ์ทรู แทนการใช้คนแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
McD Tech Labs เกิดจากการที่ McDonald's ซื้อกิจการบริษัท Apprente ในปี 2019 เพื่อพัฒนา AI ฟังคำสั่งซื้อของลูกค้า โดย McDonald's ระบุว่าการขายกิจการครั้งนี้ไม่ได้เป็นการเลิกทำ AOT แต่เป็นการโอนทีมด้าน AI ไปให้กับ IBM ที่เชี่ยวชาญเรื่องนี้มากกว่า มีสเกลในการขยายร้านอาหารที่รองรับสูงกว่า (McD Tech Labs จะเข้าไปอยู่ใต้ IBM Watson) และทั้งสองบริษัทจะยังพัฒนา AOT ร่วมกันต่อไป
McDonald’s ประกาศพบแฮกเกอร์ขโมยข้อมูลจากระบบในสหรัฐฯ, เกาหลีใต้ และไต้หวัน โดยทางบริษัทระบุว่าได้จ้างที่ปรึกษาเพื่อทำการตรวจสอบเหตุการณ์นี้แล้ว
McDonald’s ระบุว่าข้อมูลลูกค้าที่ผู้บุกรุกได้ไปมีทั้งอีเมล, เบอร์โทรศัพท์, ที่อยู่สำหรับลูกค้าดิลิเวอรี่ในเกาหลีใต้และไต้หวัน และชื่อกับข้อมูลการติดต่อลูกค้าเฉพาะในไต้หวัน ซึ่งทางบริษัทยืนยันว่าไม่มีข้อมูลการจ่ายเงินหลุดออกไป และมีไฟล์ที่หลุดออกไปจำนวนน้อย แต่ไม่ระบุชัดเจนว่ามีผู้ได้รับผลกระทบเท่าไร
นักพัฒนาซอฟต์แวร์จากเยอรมนี ค้นพบช่องโหว่ในระบบไอทีของ McDonald's ประเทศเยอรมนี ทำให้เขาสามารถสั่งอาหารได้ฟรีทุกครั้งไป
ท้ายใบเสร็จของ McDonald's เยอรมนีมีลิงก์ไปยังเว็บเพจที่สอบถามความเห็นของลูกค้า ตอบแล้วจะได้โค้ดไปแลกรับเครื่องดื่มขนาดเล็กได้ฟรี ซึ่ง David Albert นักพัฒนาซอฟต์แวร์ในข่าวค้นพบแพทเทิร์นการออกโค้ดที่ซ้ำเดิมตลอดเวลา ทำให้เขาสามารถออกโค้ดแลกรับเครื่องดื่มได้เอง
นอกจากนี้ David ยังค้นพบวิธีการหลอกให้แอพ McDonald's บนมือถือ เชื่อมต่อกับโปรแกรมของเขาเพื่อหลอกให้แอพจ่ายเงิน (จ่ายปลอมๆ คือ 0 ยูโร) แล้วออกใบแจ้งออเดอร์ไปยังห้องครัวได้ด้วย วิธีการนี้ทำให้เขาสามารถสั่งอาหารได้ฟรีเสมอ
แมคโดนัลด์ประกาศบรรลุข้อตกลง เพื่อซื้อกิจการ Apprente สตาร์ทอัพที่พัฒนาเทคโนโลยีด้านเสียงและบทสนทนา โดยไม่ได้เปิดเผยมูลค่าของดีล ซึ่งเป็นอีกครั้งที่แมคโดนัลด์เข้าซื้อกิจการด้านเทคโนโลยี เพื่อนำมาปรับใช้กับธุรกิจฟาสต์ฟู้ด
เทคโนโลยีของ Apprente มีการทดสอบใช้งานในร้านแมคโดนัลด์บางสาขาอยู่แล้ว โดยนำมาใช้กับการสั่งอาหารแบบไดรฟ์ทรู ช่วยให้การทำงานง่ายและเร็วมากขึ้น แมคโดนัลด์ยังคาดหวังจะนำเทคโนโลยีนี้มาใช้กับการสั่งอาหารที่ตู้คีออสและแอปมือถือด้วย
ก่อนหน้านี้แมคโดนัลด์ก็ซื้อกิจการ Dynamic Yield เพื่อนำเทคโนโลยีมาใช้ปรับแต่งหน้าแสดงผลเมนูสำหรับลูกค้าไดรฟ์ทรู ให้แสดงรายการอาหารตามช่วงเวลา สภาพอากาศ ทำให้ยอดขายเพิ่มสูงขึ้น
แมคโดนัลด์ประกาศเข้าซื้อกิจการ Dynamic Yield บริษัทผู้พัฒนาเครื่องมือสำหรับการตลาดออนไลน์ ให้สามารถปรับแต่งข้อมูลสำหรับลูกค้าแต่ละคน (Personalized) ของอิสราเอล โดยไม่มีการเปิดเผยมูลค่าดีลแบบทางการ แต่คาดว่าอยู่ราว 300 ล้านดอลลาร์ ทำให้กลายเป็นดีลซื้อกิจการที่ใหญ่ที่สุดของแมคโดนัลด์ในรอบ 20 ปี
โดยแมคโดนัลด์บอกว่าจะนำเทคโนโลยีของ Dynamic Yield มาใช้สำหรับการปรับปรุงเมนูสำหรับลูกค้าที่ขับรถเข้ามาสั่งอาหาร (ไดรฟ์ทรู) โดยให้ข้อเสนอที่เหมาะกับสภาพอากาศ ความหนาแน่นของลูกค้าในร้าน ตลอดจนเมนูที่อยู่ในเทรนด์ จากนั้นเตรียมนำมาใช้กับส่วนอื่นภายในร้านต่อไป
นับตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นไป แมคโดนัลด์ทุกสาขาในไทยจะรองรับการชำระเงินผ่าน Alipay ซึ่งไทยเป็นประเทศแรกนอกจากจีนที่เชนฟาสต์ฟู้ดจากสหรัฐรองรับการชำระเงินผ่าน Alipay
นอกจากแมคโดนัลด์แล้ว ตอนนี้แท็กซี่เอกชนหลายร้อยคันในกรุงเทพก็เริ่มรับชำระเงินผ่าน Alipay แล้ว โดยทาง Alipay มีแผนจะขยายจำนวนเพิ่มเติมในปีนี้ด้วย
ด้าน Alipay ระบุว่าถึงแม้ปัจจุบัน Alipay จะสร้างเครือข่ายกับผู้ประกอบการจำนวนมากซึ่งครอบคลุมทั้งร้านช็อปปิ้ง ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร เครื่องดื่ม โรงแรมและสถานที่ท่องเที่ยวแล้วก็ตาม ประกอบกับอัตราการเติบโตที่สูงมากในไทย ทว่าโอกาสทางธุรกิจก็ยังคงมีอีกมาก โดยยอดค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวจีนในไทยไม่ตำ่กว่า 64,000 บาท
ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์
แมคโดนัลด์ไทยประกาศขยายแพลตฟอร์มการชำระเงินแบบดิจิทัล ด้วยการจับมือเป็นพาร์ทเนอร์กับ mPay, BluePay, AliPay และ TrueMoney Wallet รองรับการชำระเงินผ่าน QR Code จากผู้ให้บริการทั้ง 4 เจ้าที่หน้าเคาท์เตอร์
อย่างไรก็ตามทางแมคโดนัลด์ยังไม่รองรับการชำระเงินผ่าน Thai QR Payment ที่อยู่บน Promptpay โดยยังไม่มีข้อมูลว่าจะเริ่มรองรับ PromptPay หรือไม่และเมื่อใด นอกจากนี้ยังประกาศจับมือกับ Omise ผู้ให้บริการ Payment Gateway แบบออนไลน์สำหรับการสั่งอาหารผ่านเว็บไซต์และแอปด้วย
McDonald’s เคยให้รายละเอียดกับ Business Insider ว่า จะให้ลูกค้าสั่งอาหารและจ่ายเงินได้ผ่านสมาร์ทโฟน และล่าสุดทาง McDonald’s ก็เร่ิมทดสอบระบบดังกล่าวแล้ว
McDonald’s เริ่มให้ผู้ใช้แอพในวอชิงตันและแคลิฟอร์เนียทดสอบการสั่งอาหารก่อนที่จะเข้าไปที่ร้านอาหาร จากนั้นเมื่อไปถึงร้านอาหารก็สามารถเช็คอิน และจ่ายเงินผ่านแอพ จากนั้นก็เดินเข้าไปรับอาหารที่เคาน์เตอร์, drive-thru หรือรับแบบ curbside pickup (ให้พนักงานนำมาส่ง)
ฟีเจอร์ดังกล่าวของ McDonald’s ยังคงอยู่ในช่วงทดสอบเท่านั้น ซึ่งในอนาคตร้านอาหารกว่า 14,000 ร้านของ McDonald’s จะรองรับฟีเจอร์นี้
ตัวแทนบริษัทแมคโดนัลด์ให้สัมภาษณ์เว็บไซต์ข่าว Bussiness Insider ว่า ทางบริษัทเตรียมให้ลูกค้าสั่งอาหาร และกดจ่ายเงินได้ผ่านสมาร์ทโฟน โดยเริ่มต้นจะเปิดให้ใช้ในสหรัฐฯ และตลาดต่างประเทศบางแห่งภายในปีหน้า และจะสามารถใช้ระบบนี้ได้ 25,000 สาขา ภายในปี 2018
การปรับตัวครั้งนี้ทำไปเพื่อไล่ตามให้ทันคู่แข่งอื่นอย่าง Starbucks, Dunkin’ Donuts และ Chick-fil-A ที่ต่างก็มีระบบสั่งอาหารและจ่ายเงินผ่านแอพพลิเคชั่น สั่งซื้ออาหารเสร็จก่อนที่ตัวจะไปถึงร้าน แมคโดนัลด์เคยเปิดให้ใช้ระบบดังกล่าวมาก่อนหน้านี้ในออสเตรียและไทย แต่ปรากฏว่าคนที่ใช้จริงๆ มีแค่กลุ่มคนยุโรป และครั้งนี้ทางบริษัทตั้งใจยกระดับระบบนี้ให้อยู่ในตลาดที่กว้างขึ้น
ร้านกาแฟ Starbucks และร้านอาหาร McDonald's ในสหรัฐฯ กำลังดำเนินการปิดกั้นการเข้าถึงเว็บไซต์อนาจารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไร้สายของร้านตน ผ่านการผลักดันของกลุ่มต่อต้านความอนาจาร (ภาษาอังกฤษใช้คำว่า anti-porn) ชื่อ Enough is Enough และ National Center on Sexual Exploitation ที่มองว่าภาพอนาจารบนอินเทอร์เน็ตคือวิกฤตด้านสุขภาพของประชากร ผู้ปกครองควรตระหนักรู้ว่าร้านอาหารสำหรับครอบครัวต้องปลอดภัยจากการเข้าถึงสิ่งที่ไม่เหมาะสมเหล่านี้
แม้ไม่มีตัวเลขมายืนยัน แต่ Donna Rice Hughes จากกลุ่ม Enough is Enough ก็ระบุเพิ่มเติมว่าอินเทอร์เน็ตสาธารณะมักถูกใช้เป็นทางผ่านในการเข้าถึงเว็บไซต์อนาจารกับเยาวชนสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมันฟรีและเปิดสู่ทุกคนนั่นเอง
McDonald's ในยุโรปและบริษัทอื่นๆ เริ่มทดลองใช้ฉลาก RFID เพื่อติดตามดูว่าในระหว่างที่สินค้าของตนเองถูกขนส่งมานั้น มันอยู่ในพื้นที่ซึ่งมีอุณหภูมิเท่าใดบ้าง ทั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานประกันคุณภาพสินค้าในระหว่างการขนส่ง
การใช้ฉลากหรือป้าย RFID เพื่อติดตามตำแหน่งสินค้าในระหว่างการขนส่งนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ฉลาก RFID ที่ McDonald's กำลังทดลองใช้งานนี้ไม่เพียงแต่ใช้เพื่อระบุพิกัดตำแหน่งในระหว่างที่มันกำลังเดินทางเท่านั้น มันยังมีแบตเตอรี่ (ซึ่งสร้างขึ้นจากการพิมพ์แบบ 2 มิติ), เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิ, วงจรนาฬิกา, หน่วยเก็บข้อมูลและเสาอากาศสำหรับการสื่อสารกับเครื่องอ่าน RFID ด้วย
McDonald's สวีเดนคิดไอเดียเก๋ จับมือกับนักจิตวิทยาเด็ก Karl Eder และ Fadi Lahdo ออกแบบกล่อง Happy Meal รุ่นพิเศษชื่อ Happy Goggles ที่สามารถแปลงเป็นแว่น VR ได้เลย
ไม่ใช่แค่แว่น VR เท่านั้น McDonald ยังออกแบบเกมพิเศษชื่อว่า Slope Stars ซึ่งจะถ่ายทอดประสบการณ์เล่นสกีแบบ 360 องศาในฉากที่ลาดชันบนสมาร์ทโฟน และเกมนี้ยังผ่านการรับรองจากนักกีฬาสกีทีมชาติสวีเดนอีกด้วย
Happy Meal รุ่นพิเศษจะเริ่มวางจำหน่ายวันศุกร์ที่ 4 มีนาคมนี้ มีจำนวนจำกัด 3,500 ชิ้น ขายเฉพาะใน 14 สาขาทั่วประเทศสวีเดนค่ะ หน้าตาเป็นอย่างไรติดตามได้จากคลิปท้ายข่าวนะคะ (แอบอิจฉาเด็กๆ สวีเดนเนอะ ว่ามั้ย)
ร้านค้าในประเทศจีนเริ่มให้บริการสั่งซื้อสินค้าและชำระเงินผ่านโทรศัพท์กันมากขึ้น เพื่อตอบสนองแนวโน้มการเติบโตของตลาด ร้าน McDonald's และ KFC ในกรุงปักกิ่ง เพิ่มตัวเลือกชำระเงินผ่านโทรศัพท์ เพื่อเพิ่มยอดขายและตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคชาวจีน
McDonald's เริ่มทดสอบการสั่งและจ่ายเงินผ่านโทรศัพท์ภายใต้โครงการนำร่องในไตรมาสที่สาม ส่วน KFC ร่วมมือกับ Alibaba เปิดระบบชำระเงินผ่านโทรศัพท์ ลูกค้าสามารถจ่ายเงินหลังสั่งอาหาร โดยการสแกนบาร์โค้ดผ่านระบบชำระเงินออนไลน์ Alipay นอกจากนี้ร้านค้า Wal-Mart บางแห่งในประเทศจีน ก็เริ่มใช้การชำระเงินผ่านระบบ Alipay แล้ว
McDonald's ประกาศความร่วมมือกับ Aircharge ผู้ผลิตแท่นชาร์จแบตเตอรี่ เตรียมติดตั้งแท่นชาร์จมาตรฐาน Qi จำนวน 600 ชิ้นเพื่อให้บริการแก่ลูกค้าของ McDonald's ใช้งานได้ฟรีใน 50 สาขาในสหราชอาณาจักร
McDonald's ได้จับมือกับ Aircharge ทดลองให้บริการแท่นชาร์จนี้มาระยะหนึ่งแล้วในร้าน 2 สาขา และพบว่าลูกค้าชื่นชอบบริการนี้เป็นอย่างมาก ถึงขนาดที่ว่าลูกค้ารายหนึ่งยอมรอคิวนาน 30 นาทีเพื่อรอให้โต๊ะที่ติดตั้งแท่นชาร์จนี้ว่างก่อนจะเข้าไปนั่งเพื่อทานอาหาร ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ McDonald's ไม่ลังเลที่จะทำบริการนี้อย่างจริงจัง ทว่าทั้ง 2 บริษัทยังไม่เปิดเผยว่าแท่นชาร์จทั้ง 600 ชิ้นจะถูกนำไปติดตั้งให้บริการใน McDonald's สาขาไหนบ้าง
ข่าวใหญ่วงการ mobile payment สัปดาห์ที่ผ่านมาย่อมหนีไม่พ้น Apple Pay vs CurrentC อย่างไรก็ตาม โลกเรายังมีแพลตฟอร์ม mobile payment อีกหลายตัวให้สนใจ
ข่าวนี้เป็นของ Softcard หรือ ISIS เดิม ซึ่งเป็นความร่วมมือของโอเปอเรเตอร์รายใหญ่ในสหรัฐ 3 รายคือ AT&T, Verizon, T-Mobile ที่ต้องการสร้างมาตรฐานการจ่ายเงินด้วยอุปกรณ์พกพา ปัจจุบัน Softcard ใช้ได้เฉพาะบน Android แต่ก็กำลังร่วมมือกับแอปเปิลเพื่อให้ Softcard เข้าถึง NFC บน iPhone ได้ และน่าจะสามารถใช้งานได้ในปีหน้า
กระแสเครื่องพิมพ์สามมิตินั้นเริ่มมีให้เห็นมากขึ้นในปีนี้ และเริ่มมีบริษัทรายใหญ่เอาไปใช้จริงกันบ้างแล้ว แม้จะยังมีแต่บริษัทไอทีก็ตาม ล่าสุดเชนร้านอาหารแฟรนไชส์รายใหญ่อย่างแมคโดนัลด์อาจนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้บ้างแล้ว
แนวทางที่แมคโดนัลด์จะหยิบเครื่องพิมพ์สามมิติไปใช้คือนำไปผลิตของเล่นชิ้นเล็กๆ ที่แถมไปกับชุด Happy Meals โดยแนวคิดนี้มาจาก Mark Fabes ผู้จัดการฝ่ายไอทีของแมคโดนัลด์สาขาสหราชอาณาจักร
ถ้าหากแผนนี้มีการใช้จริง นั่นหมายความว่าจะแก้ปัญหาของหมดที่เกิดขึ้นกับตัวละครดังๆ ได้ แต่คงยังไม่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้ เนื่องจากถ้ายักษ์อย่างแมคโดนัลด์จะเข้าไปทำธุรกิจกับอะไรที่เป็นไอที คงต้องหาคู่ค้ารายใหญ่มากมาร่วมด้วย
เว็บไซต์แมคโดนัลด์ประเทศไทยถูกแฮกโดยแฮกเกอร์ผู้ใช้ชื่อว่า Maxney ซึ่งเป็นหนึ่งกลุ่มแฮกเกอร์ชาวตุรกี จากการโจมตี Maxney ได้เข้าถึงส่วนควบคุมระบบซึ่งทำให้เขาสามารถเข้าถึงข้อมูลลูกค้าได้ โดยข้อมูลที่เผยแพร่ออกมานั้นเป็นชื่อ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์กว่า 1,901 รายการ
ทางเว็บไซต์ Cyber War News ได้อ้างว่า Maxney เปิดเผยข้อบกพร่องของระบบความปลอดภัยว่า เว็บไซต์ดังกล่าวนี้มีการใช้รหัสผ่านที่ง่ายต่อการคาดเดามากส่งผลให้ผู้โจมตีเข้าถึงระบบได้อย่างง่ายดาย
หลังจากคู่แข่งอย่าง Square จับมือกับ Starbucks ทำระบบจ่ายเงินด้วยมือถือนำร่องไปก่อนแล้ว ฝั่งยักษ์ใหญ่อย่าง PayPal ก็มีข่าวว่าจับมือกับร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดรายใหญ่อย่าง McDonald's เช่นกัน
ในส่วนของ McDonald's กำลังทดสอบระบบของ PayPal ในฝรั่งเศสจำนวน 30 สาขา และก่อนหน้านี้เคยทดสอบระบบในสหรัฐอเมริกาไปแล้ว ระบบของ McDonald's ที่ทดสอบนี้สามารถจ่ายเงินได้จากตัวแอพ จ่ายออนไลน์ และจ่ายเงินด้วยเครดิตของ PayPal ได้
PayPal อาจขยับตัวช้ากว่า Square แต่การจับมือกับยักษ์ใหญ่อย่าง McDonald's ก็มีความได้เปรียบเรื่องจำนวนสาขามากกว่า 30,000 แห่งทั่วโลก
จากที่มีข่าวว่า Epson หันมาลุยตลาดเครื่องพิมพ์แบบหมึกแทงค์ในไทย คู่แข่งอย่าง HP ก็ออกมายืนยันว่าไม่สนใจตลาดนี้
นายกฤษณ์ กิตติทัตต์ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ตลาดคอนซูเมอร์ กลุ่มธุรกิจภาพและการพิมพ์ (ไอพีจี) บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจว่า
กรณีที่ผู้ซื้อบางกลุ่มนิยมใช้หมึกแท็งก์ และมีผู้เล่นบางรายผลิตเครื่องพิมพ์แท็งก์ของแท้เข้ามาจำหน่าย บริษัทมองว่าไม่ได้ตอบโจทย์ด้านความประหยัดอย่างแท้จริง ทั้งผลวิจัยของพีซีเวิลด์ยังระบุว่าไม่เหมาะกับผู้ใช้งานระดับน้อยถึงปานกลาง