LINE เปิดตัวบริการใหม่ LINE JOBS แพลตฟอร์มหางานผ่าน Official Account ใน LINE อุดปัญหาการหางานแบบเดิมๆ ในอดีต ตั้งเป้าสิ้นปีเติบโตขึ้น 10 เท่า

อุดช่องว่างการหางานทั่วไป

ในช่วงปีที่ผ่านมา LINE ได้เปิดบริการใหม่ๆ เยอะพอสมควร ส่วนใหญ่เป็นบริการ Local ที่พัฒนาขึ้นในประเทศไทยโดยเฉพาะ ซึ่งบริการใหม่อย่าง LINE JOBS ก็เป็นบริการ Local เช่นกัน เป็นบริการที่จับกลุ่มตลาดแรงงาน ได้เปิดทดลองมาเป็นเวลา 4 เดือนแล้ว

เหตุผลที่ LINE สนใจตลาดนี้ก็เพราะว่ายังเห็นช่องว่างในตลาดอีกมาก พบว่าตลาดแรงงานทั่วโลกมีมูลค่าสูงถึง 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และในประเทศไทยก็มีแพลตฟอร์มหางานจำนวนมาก แต่ก็ยังพบ Pain Point ทั้งผู้จ้าง และผู้สมัคร

ส่วนใหญ่จะเป็นแพลตฟอร์มในเว็บไซต์ ผู้สมัครต้องกรอกรายละเอียดเยอะ ไม่เห็นการตอบรับจากผู้ว่าจ้าง ส่วนทางด้านผู้ประกอบการเองก็พบว่ามีจำนวน Candidate น้อย ราคาแพง และข้อมูลผู้สมัครไม่อัพเดต และยอดผู้หางานส่วนใหญ่หาผ่านเว็บไซต์เฉลี่ยไม่เกิน 2 ล้านคน ยังอยู่กับโลกออฟไลน์จากการที่เพิ่มแนะนำ หรือเข้าสมัครเองมากกว่า

LINE จึงปั้นบริการ LINE JOBS ขึ้นมาเพื่ออุดช่องว่างต่างๆ ทั้งผู้สมัคร และผู้จ้าง ใช้จุดเด่นที่หางานบน LINE ได้เลยผ่าน Official Account ไม่ต้องเข้าเว็บไซต์ และใช้ฐานลูกค้าของ LINE ที่มี 42 ล้านยูสเซอร์

อริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้จัดการ LINE ประเทศไทย กล่าวว่า

“เชื่อว่าทุกบริษัทมีปัญหาในเรื่องการหาคน ซึ่งตลาดหางานมี Pain point ที่ชัดเจน และมีขนาดใหญ่พอที่ LINE จะเข้ามา เราชูจุดเด่นที่ไม่ต้องโหลดแอป ไม่ต้องเข้าเว็บ หางานผ่าน Official Account ซึ่งตรงกับพฤติกรรมคนยุคนี้ที่อยู่กับสมาร์ทโฟนตลอด และมีการใช้ LINE ตลอด”

เน้นจับกลุ่มงานด้านบริการ เพราะ Turn Over สูง

ถ้าพูดถึงตลาดแรงงานในประเทศไทยมีจำนวนประชากรที่อยู่ในตลาดนี้ 38.2 ล้านคน แต่ที่เป็นลูกจ้างจริงๆ มี 14.4 ล้านคน แบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ กลุ่ม White Collar พนักงานออฟฟิศ จำนวน 2.1 ล้านคน มีอัตราการ Turn Over หรือเปลี่ยนงาน 10% Blue Collar พนักงานโรงงาน 6.8 ล้านคน

กลุ่มที่ทาง LINE สนใจก็คือกลุ่ม Service หรืองานบริการ มีจำนวน 5.5 ล้านคน ซึ่งมีอัตราการ Turn Over สูงถึง 29-300% มีโอกาสในการหางานมากกว่ากลุ่มอื่นๆ

ทำให้ในช่วงแรกนี้ LINE JOBS โฟกัสที่กลุ่มงานบริการก่อนเป็นอันดับแรก รวมงานโรงแรม ร้ายอาหาร ร้านกาแฟต่างๆ

พีรพล สง่าเมือง หัวหน่าฝ่ายบริการใหม่ LINE ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า

“จุดเด่นของ LINE JOBS คือสามารถทำทุกอย่างจบภายใน LINE ไม่ต้องออกนอกแอปให้ยุ่งยาก ตอนนี้โฟกัสที่กลุ่มงานบริการ ถ้าแก้ Pain Point ของกลุ่มนี้ได้ก็จะขยายไปยังงานกลุ่มอื่นๆ และมีการใช้เทคโนโลยี Machine Learning จากพาร์ทเนอร์ Scout Out ในการพัฒนาระบบ”

“ที่สำคัญคือเราดีไซน์ LINE JOBS ให้เข้าหาผู้บริโภค ดีไซน์ให้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเขา เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคคุ้นเคย ไม่ได้ไปเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ เขาชอบใช้ LINE ก็เอาบริการเข้าไป”

เตรียมเปิดแพคเกจเก็บค่าบริการจากนายจ้าง

หลังจากเปิดทดลองให้บริการ 4 เดือน ตอนนี้ LINE JOBS มีผู้ติดต่ม 550,000 คน มีตำแหน่งงาน 30,000 ตำแหน่ง มีผู้ส่งใบสมัครมากกว่า100,000 ครั้ง และมีการติดต่อสัมภาษณ์แล้วมากกว่า 10,000 ครั้ง

โดยที่กลุ่มผู้สมัครมีหลากหลายตั้งแต่อายุ 10 กว่า ไปจนถึง 50 กว่าปี แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มแรงงานอายุ 20-30 ปี

พีรพลมีการตั้งเป้าว่าภายในสิ้นปีนี้จะต้องเติบโตขึ้นอีก 10 เท่าเพราะมีโอกาสในตลาดอีกเยอะ

ตอนนี้มีพาร์ทเนอร์ที่เป็นผู้ประกอบการจำนวน 50 ราย จะเปิดให้รายอื่นๆ ได้ทดลองใช้ในวันที่ 1 พฤษภาคม สามารถโพสท์รับสมัครงานได้ 10 โพสท์ และมีแผนที่จะออกแพ็คเกจที่ให้ผู้จ้างจ่ายเงินในการลงรับสมัครงาน แต่ยังอยู่ในขั้นตอนว่าจะมีแพ็คเกจอย่างไรบ้าง

สรุป

จะเห็นได้ว่าการเปิดบริการใหม่ๆ ของ LINE มีความใกล้ชิดผู้บริโภคมากขึ้น เป็นตลาดที่มีช่องว่าง ทั้ง LINE TAXI มาถึง LINE JOBS ที่เป็นตลาดใหญ่ มีผู้เล่นเยอะ แต่ก็มีช่องว่างเยอะเช่นกัน ซึ่ง LINE ยังคงใช้จุดแข็งจากการที่เป็นแพลตฟอร์มที่มีฐานผู้ใช้เยอะ มีการใช้ทุกวันมาต่อยอดบริการใหม่ๆ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

LINE เปิดตัวบริการ LINE JOBS บริการสำหรับหางานรูปแบบใหม่ผ่าน LINE เชื่อมต่อผู้หางานและผู้ว่าจ้างเข้าด้วยกัน ชูจุดเด่นในด้านความง่าย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งมุ่งช่วยแก้ปัญหาในตลาดหางานที่ยังมีคนอยู่ในรูปแบบออฟไลน์เป็นจำนวนมาก LINE JOBS เป็นบริการที่ใช้เทคโนโลยี Machine Learning ซึ่งผู้สมัครงานสามารถหางานที่ต้องการได้ผ่าน 3 เงื่อนไข คือ...

ก่อนหน้านี้ ทีมงานได้มีการรีวิวและแนะนำแอปติดตามการนอนหลับสำหรับ Apple Watch มาให้ชมกันหลายแอป และมีหลายคนตั้งข้อสงสัยว่า ใส่ Apple Watch ตอนนอนสะดวกจริงหรือ แล้วจะชาร์จ Apple Watch ตอนไหน วันนี้เรามีคำตอบมาให้ชมกันค่ะ

ปัจจุบัน โรคนอนไม่หลับ โรคเครียด เกิดขึ้นกับคนในวัยทำงานมากขึ้น ซึ่งบางคนอาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเราตกอยู่ในภาวะนอนไม่หลับหรือหลับยาก จึงทำให้มีการพยายามหาเครื่องมือที่ช่วยวัดประสิทธิภาพระหว่างนอนหลับ

การใส่ Apple Watch ตอนนอนเหมาะกับใคร

การใส่ Apple Watch เพื่อวัดคุณภาพการนอนเหมาะกับคนที่มีปัญหาการนอน ตื่นมาแล้วยังรู้สึกงัวเงีย ไม่สดชื่น หลับดึกตื่นเช้า ซึ่ง Apple Watch จะทำงานร่วมกับแอปติดตามการนอน เพื่อวัดการนอนหลับของเราว่าหลับสนิทได้กี่ชั่วโมง ตื่นช่วงไหนบ้าง สาเหตุที่ทำให้ตื่นเกิดจากอะไร อัตราการเต้นของหัวใจระหว่างนอนหลับผิดปกติหรือไม่ เป็นต้น

ผู้ใช้จะได้นำข้อมูลมาวิเคราะห์หาสาเหตุและปรึกษาแพทย์ เพื่อแก้ไขปัญหาการนอนหลับได้อย่างตรงจุด แต่สำหรับบางคนที่นอนหลับเป็นปกติ แต่อยากจะเช็คการนอนหลับ ก็สามารถใส่นอนได้เช่นกัน

ใส่ Apple Watch ตอนนอนสะดวกจริงหรือ?

จริงๆ แล้วประเด็นนี้ต้องบอกเลยว่าเป็นความสะดวกส่วนบุคคล บางคนนอนหลับยากและบางคนก็นอนหลับง่ายแตกต่างกันไป หลายคนคิดว่าการใส่ Apple Watch หรือสายรัดข้อมือตอนนอนแล้วจะทำให้รู้สึกอึดอัด นอนไม่หลับ ส่วนตัวเป็นคนหลับง่าย จึงไม่มีปัญหากับการสวมใส่ขณะนอนหลับ

สำหรับคนที่ยังไม่เคยลองใส่นอน ให้ลองใส่นอนประมาณ 2-3 คืน ให้ร่างกายปรับพฤติกรรมให้ชิน การสวมใส่ระหว่างนอนไม่ควรรัดข้อมือแน่นจนเกินไป ให้รัดพอดีกับข้อมือ แต่ถ้ายังคงไม่สะดวกหรือยังไม่ชิน แนะนำให้ลองเปลี่ยนสายนาฬิกา (Watch Brand) ที่มีน้ำหนักเบา อย่างรุ่น Sport Loop หรือ Woven Nylon มาใส่แทน

แต่ถ้ายังไม่เป็นผล ใส่ Apple Watch ตอนนอนแล้วไม่สะดวกจริง แนะนำว่าให้วาง Apple Watch หรือ iPhone ไว้บนเตียง อาจจะวางข้างหมอน และใช้งานร่วมกับแอปที่วัดการสั่นสะเทือนระหว่างนอนได้ แต่จะไม่ละเอียดเท่ากับการใส่ Apple Watch ทีข้อมือ เนื่องจากแอปมีการวัดอัตราการเต้นของหัวใจด้วย ซึ่งจะให้ข้อมูลที่ละเอียดมากกว่า

ส่วนคนนอนดิ้น อาจจะกังวลว่า ขณะนอนหลับอาจจะเผลอเหวี่ยงข้อมือไปชนหัวเตียงหรือสิ่งกีดขวาง ก็ลองหาหมอนมากั้นใส่โซนที่เราคิดว่าจะทำให้ Apple Watch ไปชนจนทำให้เสียหาย หรือจัดของที่กีดขวางให้เป็นระเบียบจะดีกว่า

หากใส่ Apple Watch มาทั้งวัน และต้องใส่นอนอีก จะชาร์จแบตตอนไหน

เป็นคำถามที่มีคนถามค่อนข้างเยอะในกลุ่ม Apple Watch User Thailand มีสมาชิกในกลุ่มหลายคนแนะนำว่า ให้ชาร์จ Apple Watch ขณะที่เราถอดพัก เช่น ขณะที่อาบน้ำและพักผ่อนก่อนนอน เพราะ Apple Watch ชาร์จแบตได้ค่อนข้างไว เมื่อตื่นนอนก็ถอดชาร์จก่อนออกไปทำงาน แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละบุคคล

แอปอะไรบ้างที่สามารถวัดการนอนหลับและใช้งานร่วมกับ Apple Watch ได้

• รีวิว Apple Watch กับแอป Pillow มาเช็คกันว่านอนหลับเพียงพอแล้วหรือยัง
• รวม 5 แอป Apple Watch สำหรับเก็บข้อมูลระหว่างการนอน
• แอป Sleep Cycle เปิดตัวแอปสำหรับ Apple Watch แล้ว คนที่มีอาการนอนกรน ไม่ควรพลาด

การสวมใส่ Apple Watch เวลานอนขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละบุคคลจริงๆ ใครที่ต้องการวัดประสิทธิภาพการนอนหลับโดยใช้ Apple Watch ก็ลองใส่ดูก่อน แล้วค่อยๆ ปรับเปลี่ยนวิธีนะคะ เชื่อว่าหลายคนมีวิธีจัดการตามธรรมชาติและพฤติกรรมของตนเอง

The post ใส่ Apple Watch ตอนนอนสะดวกจริงหรือ แล้วจะชาร์จตอนไหน appeared first on iPhoneMod.

การเติบโตของอุตสาหกรรมกัญชาในฝั่งตะวันตกน่าจับตามอง ล่าสุด นักวิเคราะห์มองว่า จะกระทบกับอุตสาหกรรมเบียร์-แอลกอฮอลล์ เพราะในรัฐที่กัญชาถูกกฎหมาย อัตราการดื่มสุราน้อยลงอย่างชัดเจน

 อุตสาหกรรมกัญชา VS เบียร์

นับวันการเติบโตทั้งในแง่กฎหมายและเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมกัญชาในฝั่งตะวันตก (โดยเฉพาะแคนาดาและสหรัฐอเมริกา) จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์ที่เชี่ยวชาญในธุรกิจกัญชา เคยคาดการณ์ตัวเลขไว้ว่า ตลาดนี้จะมีมูลค่าสูงถึง 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ และที่สำคัญมูลค่าตลาดอาจจะแซงหน้าอุตสาหกรรมน้ำอัดลมที่ถือว่าเป็นตลาดขนาดใหญ่ได้ในปี 2030

หากไปดูตลาดกัญชาที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างประเทศแคนาดา หุ้นของบริษัทสายกัญชาปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา

• หุ้นของ Aurora Cannabis และ Cronos Group โตขึ้นเกือบ 240% ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา
• ส่วนหุ้นของ Canopy Growth บริษัทกัญชาเบอร์ 1 ของแคนาดาก็เติบโตสูงเช่นกัน เกือบ 200% เมื่อปีที่แล้ว

ล่าสุด Azer กรรมการผู้จัดการและนักวิเคราะห์อาวุโสจาก Cowen ให้ความเห็นถึงอุตสาหกรรมกัญชาโดยเปรียบเทียบกับอุตสาหกรรมเบียร์-แอลกอฮอล์ไว้ว่า “การเติบโตของอุตสาหกรรมกัญชา คือข่าวร้ายของอุตสาหกรรมเบียร์ “

Azer บอกว่า สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือ อัตราการดื่มสุราที่ลดต่ำลงอย่างมีนัยยะสำคัญในหลายมลรัฐที่อนุญาตให้ผู้ใหญ่สามารถเข้าถึงกัญชาได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย คิดเป็นตัวเลขคือประมาณ 80% ของผู้ใหญ่ที่เข้าถึงกัญชาได้ มีอัตราการดื่มแอลกอฮอล์ลดน้อยลง

แต่เอาเข้าจริงๆ แล้ว ถ้าดูจากจำนวนตัวเลขมูลค่าตลาดของทั้ง 2 อุตสาหกรรม  ตลาดกัญชาจะมีมูลค่าถึง 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2030 แต่เมื่อเทียบกับมูลค่าของตลาดเบียร์-แอลกอฮอล์ในปัจจุบันที่ใหญ่ถึง 2.1 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2017 ตลาดกัญชาน่าจะต้องใช้เวลาในการไล่ตามในด้านมูลค่าอีกมาก

หรือไม่แน่ว่า ทางออกอาจจะเป็นการกิบรวบทั้ง 2 ตลาดด้วยการผลิตเบียร์ผสมกัญชา วางออกจำหน่ายในตลาดไปเสียเลย

ข้อมูล – CNBC

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

ในวันที่ 25-27 เมษายนที่จะถึงนี้ ทางเว็บไซต์ lazada.co.th ได้ออกมาประกาศจัดงานปาร์ตี้ครบรอบ 6 ปี ลดกระหน่ำสูงสุดถึง 90%, เตรียมแจกคูปองส่วนลดอีกกว่า 2,000 รายการ และยังมีดีลสายฟ้าแลบอีกกว่า 600 รายการ

สำหรับตอนนี้ทาง Lazada ยังไม่มีการระบุว่าสินค้าชนิดใดบ้าง ที่จะลดบ้าง และจะลดมากเท่าไหร่ บอกเพียงแค่ว่า ให้กลับมาดูราคาในวันที่ 25-27 เมษายนนี้ ซึ่งวันนี้ทีมงาน MacThai ได้ไปส่องสินค้าแอปเปิลจากร้านแอปเปิลแบบทางการ ที่น่าโดนในช่วง Lazada ลดราคานี้มาให้ดูกันมีอะไรบ้าง

iPhone ลดสูงสุด 36%

• iPhone X ลด 13-16%
• iPhone 8 Plus ลด 7-8%
• iPhone 8 ลด 7-10%
• iPhone 7 Plus ลด 2%
• iPhone 7 ลด 2%
• iPhone 6s Plus ลด 22%
• iPhone 6s ลด 13-16%
• iPhone 6 ลด 36% (เหลือ 9,890 บาทเท่านั้น)

สำหรับสินค้าอื่น ๆ

• Apple Watch Series 3 ลด 3-6%
• iPad mini 4, iPad, iPad Pro ลด 5%
• สินค้าตระกูล Mac ลด 2-4%
• AirPods ลด 14%
• Beats ลดสูงสุด 15-34%
• อุปกรณ์เสริมอื่น ลด 7-20%

สำหรับราคาดังกล่าว ยังไม่ใช่ราคาที่ถูกที่สุด ถ้ากดเข้าไปแล้วเห็นโลโก้ ครบรอบ 6 ปี ตามรูป ทาง Lazada อาจจะมีการลดราคาเพิ่มอีกก็เป็นได้ ซึ่งถือว่าลดเยอะมาก เมื่อเทียบกับซื้อที่ Apple online หรือตามร้านค้าทั่วไป

นอกจากนี้ยังมีโปรโมชันบัตรเครดิต และโค้ดโปรโมชัน เพื่อเป็นส่วนลดเพิ่มเติมเข้าไปอีก คือ ไม่มีอะไรคุ้มกว่านี้อีกล่ะ สามารถเข้าไปดูโปรโมชันบัตรเครดิต หรือตามหาโค้ดโปรโมชันส่วนลดได้ ที่นี่

 

รายงานโดย
ทีมงาน MacThai

The post เตรียมตังค์ให้พร้อม !! Lazada เตรียมลดกระหน่ำ ครบรอบ 6 ปี, สินค้า Apple ลดสูงสุด 36% appeared first on Macthai.com.

เป็นที่เข้าใจว่าเรือธงรุ่นต่อไปของ LG ที่น่าจะเป็น LG G7 ThinQ ได้มีแผนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า และเพื่อสร้างสีสันก่อนงานเปิดตัว เจ้าพ่อข่าวหลุดคนดังอย่าง @evleaks ก็ได้มีการปล่อยเรนเดอร์ภาพของรุ่นนี้ออกมาให้ชมกัน จากภาพจะเห็นว่าตัว LG G7 มากับสีเงิน/เทา ด้านหน้าเป็นสีดำ รอยบากด้านบนของจอเป็นพื้นที่สำหรับกล้องหน้า, ลำโพงสนทนา และอาจจะมีเซ็นเซอร์วัดแสงอยู่ตรงนี้ด้วย ขณะที่พื้นที่ด้านล่างของจอจะเห็นว่ามีสัดส่วนที่บางกว่าสมาร์ทโฟน...

ข่าวดีลใหญ่น่าสนใจวันนี้ เมื่อบริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ VGI ได้เตรียมเข้าถือหุ้น 23% ในบริษัทลอจิสติก เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) เพื่อขยายกลุ่มธุรกิจให้ครบวงจรมากขึ้น

Kerry Express Thailand // ภาพจาก Shutterstock รายละเอียดของดีล VGI และ Kerry

ในข้อตกลงนี้ซึ่งมีมูลค่าดีลราว 5,900 ล้านบาท นั้น VGI ใช้วิธีการแลกหุ้นของบริษัทฯ ให้กับผู้ถือหุ้น เคอรี่ เดิม โดยสิ่งที่ VGI ได้คือหุ้นของ เคอรี่ (ประเทศไทย) 23% ซึ่งเป็นส่วนของผู้ถือหุ้นเคอรี่เดิมขายให้

VGI ถือหุ้น Kerry ไปแล้วดีอย่างไร

VGI ระบุว่าเมื่อดีลการซื้อหุ้นนี้แล้วเสร็จ Kerry ประเทศไทย จะเข้ามาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจหนึ่งเดียวในการจัดส่งพัสดุด่วนของบริษัทฯ ตลอดจน BTS ซึ่งเป็นถือหุ้นใหญ่ใน VGI นอกจากนี้ Kerry ประเทศไทย จะได้สิทธิใช้รถไฟฟ้า BTS เพื่อดำเนินงานจัดส่งพัสดุ, จัดตั้งร้านค้า Kiosk, เคาน์เตอร์ หรือจุดให้บริการต่างๆ บนสถานีรถไฟฟ้า BTS

และเนื่องจาก VGI เป็นบริษัทบริหารพื้นที่สื่อโฆษณา VGI จึงคาดว่าจะได้ใช้ประโยชน์พื้นที่ของ Kerry ในการพัฒนาสื่อโฆษณาใหม่ๆ เช่น บนยานพาหนะขนส่ง, ในร้านค้า และจุดให้บริการต่างๆ เป็นการผสานกันระหว่างสื่อออนไลน์และออฟไลน์ (O2O)

ที่มา: ตลาดหลักทรัพย์ฯ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

หลังจากที่เพิ่งมีเบาะแสของสมาร์ทโฟนรุ่นอัพเกรด Samsung Galaxy A6 และ Galaxy A6+ ได้ไม่นาน ล่าสุดก็มีภาพเรนเดอร์ของรุ่นท็อปในตระกูลนี้หลุดออกมาแล้ว แสดงให้เห็นงานดีไซน์แบบยูนิคบอดี้ด้วยโลหะทั้งชิ้น และการวางลายเสารับสัญญาณ ด้านหน้าจอดีไซน์แบบ Infinity Display และมีกล้องหลังคู่เหมือนที่ใช้ในรุ่น Galaxy S9+ และอาจจะมีการจัดวางลำโพงของเครื่องไว้ใต้ปุ่มเปิดปิดด้านข้าง อีกจุดที่น่าสนใจคือรุ่นนี้มีช่องใส่ซิมการ์ดสองจุด โดยที่ช่องใหญ่คาดว่าเป็นช่องใส่ซิมคู่...

หลังจากหายหน้าหายตาไปนาน ในที่สุด Mitsubishi ก็เตรียมนำโมเดลในตำนานอย่าง Lancer มาปัดฝุ่นด้วยการปรับรูปแบบจากรถยนต์ Sedan สู่ Subcompact SUV ตามยุคสมัยนิยม แต่ยังคงจุดเด่นขับเคลื่อน 4 ล้อไว้

การกลับมาครั้งยิ่งใหญ่ของโมเดลในตำนาน

ต้องยอมรับว่ากระแส Subcompact SUV หรือรถแบบ Crossover ขนาดเล็กที่จะลุยก็ได้ ขับในเมืองก็คล่องตัว กำลังเป็นที่นิยมในตลาดเป็นอย่างมาก และค่ายรถยนต์เกือบทุกรายต่างทำโมเดลนี้มาแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็น C-HR ของ Toyota, HR-V ของ Honda รวมถึง XV ของ Subaru

ทำให้ Mitsubishi ที่เคยเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์กลุ่ม Crossover มาก่อนจะตกขบวนไม่ได้ ผ่านการปรับโฉมรถ Sedan รุ่น Eclipse ให้กลายเป็น Eclipse Cross ที่พร้อมลุยมากขึ้น นอกจากนี้ยังส่งรุ่น e-Evolution ที่เมื่อได้ยินชื่อ Evolution แล้ว คนเล่นรถยนต์ยุค ’90s คงร้องอ๋อ เพราะเป็นโมเดลตำนานของ Mitsubishi รุ่น Lancer

อย่างไรก็ตามทั้ง 2 รุ่นยังคงเป็น Concept Car อยู่ และน่าจะต้องรออีกสักระยะกว่ารถทั้ง 2 รุ่นจะเปิดตัว แต่ก็ถือว่าเป็นสัญญาณดีที่หลายคนจะได้เห็น Lancer ออกมาโลดแล่นบนท้องถนนอีกครั้ง แต่เพื่อให้ตามยุคสมัยขึ้นไปอีก Mitsubishi จึงใส่เครื่องยนต์ไฟฟ้าเข้าไปใน e-Evolution ด้วย กลายเป็น Subcompact SUV ไฟฟ้า 100%

Trevor Mann ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการของ Mitsubishi Motors เล่าให้ฟังว่า หาก Lancer ยังเป็นแค่รถยนต์ Sedan 3 ตอนอยู่ การจะแข่งขันกับผู้เล่นรายอื่นก็ยาก เพราะทุกรายต่างมาพร้อมกับรุ่น Hatchback แต่ถ้าไปตามคู่แข่งก็คงไม่ใช่เช่นกัน ดังนั้นการทำรถยนต์ Hatchback แบบใหม่ออกมาเลยน่าจะเป็นทางออกที่ดี

สำหรับจุดเด่นของ e-Evolution อีกเรื่องคือ การติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าถึง 3 ตัว แบ่งเป็นตรง 2 ล้อหน้า 1 ตัว และ 2 ล้อหลังอีก 2 ตัว เพื่อช่วยเพิ่มแรงบิด และทำให้การลุยแบบ Crossover ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และหากนับเรื่องการดีไซน์ตัวถังสุดอวกาศ ก็ทำให้รถยนต์รุ่นนี้ของ Mitsubishi ดูน่าสนใจมากขึ้นไปอีก

อ้างอิง // Autoblog, Mitsubishi Motors

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

Asus เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Zenfone Max Pro M1 มาพร้อมกับหน้าจอ IPS LCD ขนาด 6 นิ้ว อัตราส่วน 18:9 และมีแบตเตอรี่ 5,000mAh โดยที่มีกล้องหลังคู่ ชิปเซต Snapdragon 636...

มีรายงานการสรุปยอดจำหน่าย iPhone ในช่วงไตรมาส มี.ค. 2018 พบว่า iPhone X ขายได้น้อยกว่า iPhone 8 / 8 Plus สื่อให้เห็นว่า iPhone X ได้รับความนิยมน้อยลง

iPhone X ได้รับความนิยมน้อยกว่า iPhone 8 / 8 Plus ช่วงเดือน มี.ค. 2018

CIRP รายงานข้อมูลจากการสำรวจในสหรัฐว่า ในไตรมาสเดือน มี.ค. 2018 นี้ (ไตรมาส 1 ปี 2018) iPhone 8 มีความต้องการ (ขายได้) สัดส่วนประมาณ 23% และ iPhone 8 Plus ทำได้ 21% จากยอด iPhone ทุกรุ่น ซึ่งมากกว่า iPhone X ที่ทำได้เพียง 16%

นั่นหมายความว่าในช่วงเดือน มี.ค. 2018 iPhone 8 / 8 Plus ได้รับความนิยมมากกว่า iPhone X โดยในรายงานเผยว่า iPhone X มีสัดส่วนการขายจากทุกรุ่นที่เคยได้ 20% ลดลงเหลือ 16% กล่าวคือ iPhone X เริ่มได้รับความนิยมลดลงนั่นเอง

สื่อต่างประเทศเผยว่าในไตรมาส 2 ปี 2018 ที่ Apple เปิดขาย iPhone 8 / 8 Plus สีแดง (PRODUCT) RED จะทำให้ความนิยมของ iPhone 8 / 8 Plus เพิ่มขึ้นไปอีก และ iPhone X ก็จะได้รับความนิยมลดลงไปอีก

CIRP เผยเพิ่มเติมว่า iPhone 6s และ iPhone 7 / 7 Plus ยังทำได้ดีอยู่ โดยเฉพาะ iPhone 6s / 6s Plus ที่เป็นรุ่นเก่าแล้วมีสัดส่วนอยู่ที่ 13% และ iPhone SE ที่ยังขายได้อยู่มีสัดส่วนอยู่ที่ 8% ซึ่งถือว่าได้รับความนิยมอยู่เช่นกัน

ที่มา – 9to5mac

The post (CIRP สำรวจ) iPhone X ขายได้น้อยกว่า iPhone 8 / 8 Plus ช่วงไตรมาส มี.ค. 2018 appeared first on iPhoneMod.

เครื่องมือค้นหาหรือ Search Engine มีหลากหลายค่ายให้เลือกใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น Google, Bing, Yahoo และ DuckDuckGo ที่ช่วยให้เราสามารถค้นหาข้อมูลอะไรก็ได้ตามใจต้องการ การเลือกใช้เครื่องมือค้นหา ก็แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคน

ปกติแล้วค่าเริ่มต้นของ Search Engine ที่มาพร้อมกับ Safari จะเป็น Google ที่คนส่วนใหญ่จะถนัดใช้งานและเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง แต่สำหรับบางคนอาจจะชอบใช้ Bing, Yahoo หรือ DuckDuckGo ในการค้นหา ก็สามารถเปลี่ยนค่าเริ่มต้นเครื่องมือสำหรับค้นหาได้ตามความสะดวก

วิธีเปลี่ยนค่าเริ่มต้นเครื่องมือการค้นหา (Search Engine) บน Safari

ไปที่ การตั้งค่า (Settings) > Safari > เครื่องมือค้นหา (Search Engine) > เลือกเครื่องมือค้นหาที่ต้องการ

เมื่อเราเปลี่ยนค่าเริ่มต้นของเครื่องมือค้นหาแล้ว เวลาที่เปิด Safari และใช้ Smart Search ของ Safari ในการค้นหาข้อมูล การค้นหาก็จะใช้เครื่องมือตามที่เราได้ตั้งค่าไว้

เครื่องมือการค้นหาของแต่ละค่าย ก็มีจุดเด่นและการนำเสนอการค้นหาที่แตกต่างกันไป แนะนำว่าให้เลือกใช้ตามความสะดวกนะคะ

ขอบคุณ iMore

The post วิธีเปลี่ยนค่าเริ่มต้นเครื่องมือการค้นหา (Search Engine) บน Safari appeared first on iPhoneMod.

ล่าสุด TSMC ได้ออกมาเปิดเผยว่าตอนนี้ว่า เทคโนโลยี Fin Field-Effect Transistor (FinFET) ที่ระดับ 7nm ตอนนี้พร้อมผลิตให้กับผู้ผลิตสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ในตลาดแล้ว ซึ่งชิป FinFET ของ TSMC ที่ระดับ 7nm นี้มีจุดเด่นที่มีความหนาแน่นของบอร์ดมากกว่าเดิม 1.6 เท่า, เร็วขึ้นประมาณ 20% และใช้พลังงานที่ต่ำลงถึง 40% เลยทีเดียว

โดยจากข่าวนี้ ทำให้เราคาดการณ์ได้ว่า แอปเปิลน่าจะสนใจเสนอให้ TSMC ผลิตชิป Apple A12 ให้กับไอโฟนรุ่นปี 2018 ที่จะเปิดตัวในปีนี้ก็เป็นได้ เนื่องจากในปี 2017 แอปเปิลได้เปิดตัวชิป Apple A11 Bionic ที่ 10nm ซึ่งคาดว่าปีนี้แอปเปิลน่าจะไปใช้ชิปที่ผลิตในระดับ 7nm เพื่อให้ไอโฟนรุ่นใหม่เร็วแรงและประหยัดพลังงงานขึ้น

และจาก TSMC ได้ประกาศว่า ชิปดังกล่าว สามารถนำไปใช้กับคอมพิวเตอร์ได้ ทำให้แอปเปิลอาจจะผลิตชิป​ ARM เองให้กับ MacBook แทนการใช้ชิปจาก Intel ตามข่าวลือก่อนหน้านี้ก็เป็นได้

ถ้าการคาดการณ์นี้เป็นจริง ก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นพอสมควร นอกจากที่เราจะได้เห็นไอโฟนรุ่นใหม่ใช้ชิปที่ระดับ 7nm แล้ว อาจจะยังเห็น MacBook ใช้ชิปของแอปเปิลเอง ซึ่งคาดว่าจะแรงขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว

 

ที่มา – TSMC ผ่านทาง Notebookcheck

The post TSMC เตรียมพร้อมผลิตชิป Apple A12 ที่ 7nm ให้กับ iPhone รุ่นใหม่ และอาจนำไปใช้บน MacBook ได้ด้วย appeared first on Macthai.com.

Tencent และ EA ประกาศเปิดตัว Red Alert Online ซึ่งจะเป็นเกมเวอร์ชันสมาร์ทโฟน หลังจากเคยสร้างความสำเร็จมาแล้วในเวอร์ชัน PC โด่งดังไม่น้อยกว่า Counter Strike ในยุคนั้นเลยทีเดียว

Red Alert Online Red Alert Online เตรียมลง iPhone และ Android

การประกาศเกิดขึ้นในวันจันทร์ที่ 23 เมษายนที่ผ่านมาโดยผู้ให้บริการรายใหญ่ในจีนอย่าง Tencent ซึ่งกำลังจะนำเกม Red Alert Online เข้าไปยังระบบ Android และ iOS แต่ยังไม่มีใครทราบรายละเอียดปลีกย่อยแต่อย่างใด แต่จากภาพชี้ให้เห็นถึงรถถังและเครื่องบินแบบที่เราคุ้นเคย (รวมถึงตัวละครเอกอย่างยูริที่มีพลังจิต)

Tencent ถึงแม้จะเป็นบริษัทจีนแต่ก็ไม่ใช่หน้าใหม่ในวงการ ก่อนหน้านี้เคยได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย และอีกความสำเร็จก็คือเกม PUBG Mobile ซึ่งเป็นเกม Battlegrounds ที่กำลังติดกันอยู่ทั่วบ้านทั่วเมือง โดยผู้เล่นหลายคนบอกว่าทำออกมาได้ดีกว่าเวอร์ชัน PC หรือ Xbox เดิมเสียอีก

ที่มา – digitaltrends

The post Red Alert Online เตรียมเปิดตัวเกมเวอร์ชันสมาร์ตโฟนทั้ง iPhone และ Android appeared first on iPhoneMod.

ยิ่งขาย ยิ่งจ่าย ยิ่งได้ทรูพอยท์ ผนึก ทรูยู ทรูไอดี ทรูมันนี่ เสริมแกร่ง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล ดึง “โป๊ป ธนวรรธน์” ชวนร้านค้าเพิ่มยอดขายและกำไรอย่างสมาร์ท

ด้วยแอปฯใหม่ “ทรู เถ้าแก่ 4.0-True Merchant 4.0” สมัครฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่ต้องลงทุนเพิ่ม

กรุงเทพฯ 23 เมษายน 2561 – กลุ่มทรู ผนึก ทรูยู ทรูไอดี ทรูมันนี่ สานต่อนโยบายรัฐก้าวสู่สังคมไร้เงินสด เปิดตัวแคมเปญ “True Point & Pay ยิ่งขาย ยิ่งจ่าย ยิ่งได้ทรูพอยท์” ผ่าน “ทรูเถ้าแก่ 4.0-True Merchant 4.0” แอปพลิเคชันใหม่คู่ใจร้านค้า ช่วยเพิ่มยอดขาย และกำไร นำ “โป๊ป ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ” เชื่อมต่อกระแส ออเจ้า เจาะกลุ่มพ่อค้าแม่ค้ายุคใหม่เจ้าของร้านค้ามาเป็นพันธมิตร เพื่อให้ธุรกิจเติบโตไปด้วยกัน สมัครฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่ต้องลงทุนเพิ่ม และยังโปรโมทร้านฟรีผ่านสื่อแบบครบวงจรอีกด้วย โดยแอปฯ “ทรูเถ้าแก่ 4.0-True Merchant 4.0” ซื้อ-ขายง่าย ผ่าน QR Code เพียงสแกน QR Code ของร้าน ก็ชำระเงินผ่าน ทรูมันนี่ วอลเล็ท ได้ทันที ปลอดภัย ไม่ต้องใช้เงินสด ทั้งนี้ร้านค้าที่สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปฯ “ทรู เถ้าแก่ 4.0-True Merchant 4.0” เพื่อใช้เป็นแอปฯ รับชำระเงินลูกค้า ได้ทั้งระบบ iOS และ แอนดรอยด์ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.trueyou.co.th/truemerchant4.0

นายฐานพล มานะวุฒิเวช ผู้อำนวยการฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์และบริหารความสุขลูกค้าบมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้ายุคดิจิทัล สนับสนุนการสร้างสังคมไร้เงินสด ตามนโยบายของรัฐบาล จึงเปิดแคมเปญยิ่งใหญ่แห่งปี True Point & Pay ชูแนวคิด ยิ่งขาย ยิ่งจ่าย ยิ่งได้พอยท์ โดยสำหรับลูกค้ายิ่งใช้จ่าย ยิ่งได้พอยท์เพิ่ม ส่วนร้านค้ายิ่งขาย ยิ่งได้ ยิ่งรวย ดึงพระเอกแห่งยุค โป๊ป ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ มาชวนร้านค้าให้มาร่วมเป็นพันธมิตรกับทรู เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชันใหม่ “ทรูเถ้าแก่ 4.0- True Merchant 4.0” ซื้อ-ขายง่าย ผ่าน QR Code เพียงสแกน QR Code ของร้าน ก็ชำระเงินผ่าน ทรูมันนี่ วอลเล็ท ได้ทันที ปลอดภัย ไม่ต้องใช้เงินสด ไม่ต้องทอนเงิน และทุกรายรับ 25 บาท ร้านค้าจะได้รับทรูพอยท์ 1 คะแนน และทุกการชำระเงิน 25 บาท ลูกค้าจะได้รับทรูพอยท์ 1 คะแนน สะสมได้ผ่านแอปฯ นำไปเป็นส่วนลด และแลกซื้อสินค้าได้มากมาย นอกจากนี้ลูกค้าทรูมูฟ เอช ที่ชำระเงินผ่านทรูมันนี่ วอลเล็ท ในแอปทรูไอดี ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการ ก็จะได้ รับทรูพอยท์เพิ่มเป็น 10 เท่าในทุกวันที่ 10 ของเดือน (สูงสุดไม่เกิน 300 ทรูพอยท์ต่อเดือน) ตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม ถึง 10 ธันวาคม 2561 โดยร้านค้าที่มาร่วมกับเรา ยังสามารถเพิ่มยอดขายและกำไรแบบสมาร์ท พร้อมโปรโมทร้านฟรี ผ่านสื่อครบวงจร”

“นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นพิเศษ จับรางวัลทุกวัน 5 รางวัลสำหรับลูกค้า 5 รางวัลสำหรับร้านค้า ตั้งแต่วันที่ 15พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2561 รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท อาทิ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และทองคำ” นายฐานพล มานะวุฒิเวช กล่าวสรุป

นายธีรวัฒน์ ติลกสกุลชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ในฐานะที่ทรูมันนี่เป็นผู้ให้บริการด้านการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ และบริการทางการเงินสำหรับผู้บริโภคในยุคดิจิทัล รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาร่วมแคมเปญนี้ ลูกค้าและร้านค้าจึงสามารถมั่นใจและวางใจได้ว่านอกจากได้รับความสะดวกสบาย
ในการใช้จ่ายแล้ว ยังจะได้รับการปกป้องรักษาความปลอดภัยบัญชีผู้ใช้ด้วยมาตรฐานระดับโลก”

นางสาวญาดาผนิต โพธิ์เนียร หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ บริษัท ทรู ดิจิตอล แอนด์ มีเดีย แพลตฟอร์ม จำกัด กล่าวว่า “ทรูไอดี แอปพลิเคชันที่ตอบโจทย์ความความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าในทุก ไลฟ์สไตล์ รู้สึกยินดีที่ได้มอบสิทธิพิเศษต่างๆ จากทรูยู โดยทุกการใช้จ่าย 25 บาทจะได้รับ 1 ทรูพอยท์เพื่อนำไปแลกรับเป็นส่วนลดในร้านค้าต่างๆ อีกมากมาย”

สำหรับร้านค้าที่สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปเถ้าแก่ 4.0 เพื่อใช้เป็นแอปรับชำระเงินลูกค้า ได้ทั้งระบบ iOS และ
แอนดรอยด์ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.trueyou.co.th/truemerchant4.0

The post กลุ่มทรู สนับสนุนสังคมไร้เงินสด เปิดแคมเปญยิ่งใหญ่ True Point & Pay appeared first on Macthai.com.

การย้ายแอปใน iOS 11 สามารถย้ายได้แอปได้หลายๆ แอปพร้อมกัน ช่วยให้การย้ายแอปไปยังหน้าจอหรือโฟลเดอร์อื่นทำได้ง่ายและเร็วมากขึ้น ชมวิธีกันเลย

วิธีย้ายแอปพร้อมกันหลายไอคอน บน iPhone

แตะค้างที่แอป 1 แอป จนไอคอนแอปกระดิก

ลากแอป 1 แอปออกมาไปยังตำแหน่งอื่นบนหน้าจอ โดยไม่ต้องยกนิ้วออก

ใช้นิ้วอื่น แตะแอปที่ต้องการย้าย (แบบจิ้มสั้นๆ) ทีละแอป ซึ่งขั้นตอนนี้สามารถจิ้มได้หลายแอป แอปจะเลื่อนมารวมกันในแอปแรกที่เราแตะค้างไว้

เมื่อเลือกแอปเรียบร้อยแล้ว ให้ใช้นิ้วที่รวมแอป ลากและวางแอปทั้งหมดไปยังหน้าจออื่นๆ หรือนำไปรวมในโฟลเดอร์ได้เลย

หากดูภาพแล้วยังไม่เข้าใจ สามารถรับชมวิดีโอด้านล่างนี้ได้เลย

เพียงเท่านี้ เราก็สามารถย้ายแอปทีละหลายแอปพร้อมกันได้ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ซึ่งดีกว่าการมานั่งย้ายทีละแอป ก็ฝากทริคเล็กๆ น้อยๆ สำหรับคนที่ยังไม่เคยทราบมาก่อน ลองทำกันดูนะคะ

The post วิธีย้ายแอปพร้อมกันหลายไอคอนบน iPhone ใน iOS 11 appeared first on iPhoneMod.

TSMC ผู้ผลิตชิพให้ Apple จะมีรายได้เพิ่มขึ้นมากจากการผลิตและส่งมอบชิพ A12 และเตรียมส่งมอบให้ Apple ช่วงครึ่งหลังปี 2018 นี้

TSMC อาจมีรายได้เพิ่มสูงมากจากการส่งมอบชิพ A12 ให้ Apple

DigiTimes รายงานข้อมูลว่า Apple ได้สั่งให้ TSMC ผลิตชิพ A12 แบบ 7nm และเตรียมส่งมอบในครึ่งหลังปี 2018 นี้เพื่อใช้ใน iPhone รุ่นใหม่ และจะทำให้ TSMC สร้างรายได้จากการส่งมอบนี้มากพอสมควร

ในรายงานเผยว่า TSMC จะมีสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้น 10% – 15% จากไตรมาส 2 เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์ว่า TSMC มีรายได้จากการผลิตชิพให้ Smartphone และอุปกรณ์ขุดเงิน Crypto ลดลง

(คาดว่าชิพ A12 จะใช้ใน iPhone รุ่นใหม่อย่าง iPhone OLED 5.8″, 6.5″ และ LCD 6.1″)

Qualcomm เผยว่าแบรนด์ Smartphone ที่ไม่ใช่ Apple เริ่มสั่งผลิตชิพมากขึ้น และ TSMC จะมาเป็นผู้ผลิตชิพ A12 สำหรับ iPhone รุ่นใหม่เป็นหลัก คาดว่าสัดส่วนรายได้จากการผลิตชิพให้ Apple ของ TSMC จะมีสัดส่วนประมาณ 40% และอีก 40% เป็นชิพประมวลผลของอุปกรณ์อื่น

ที่มา – iClarified

The post TSMC ส่งมอบชิพ A12 ให้ Apple จะช่วยให้บริษัทมีรายได้สูงมากในปี 2018 appeared first on iPhoneMod.

ผลสำรวจจากผู้ใช้ iPhone X พบว่า ผู้ใช้ส่วนใหญ่พึงพอใจทุกฟีเจอร์ใน iPhone X แต่มีเฉพาะ Siri ที่ผู้ใช้ไม่ค่อยพึงพอใจการใช้งาน

ผู้ใช้ iPhone X ส่วนใหญ่พึงพอใจต่อการใช้งาน

Techpinions ได้สำรวจความพึงพอใจต่อการใช้งานจากผู้ใช้ iPhone X พบว่า 97% ของผู้ใช้พึงพอใจต่อการใช้งานและ 85% พึงพอใจต่อการใช้งานในระดับสูงมาก

สำหรับฟังก์ชันและฟีเจอร์ที่ผู้ใช้พึงพอใจต่อการใช้งานในระดับสูงคือ การออกแบบ, ประสิทธิภาพการใช้งาน, คุณภาพของภาพถ่าย, Face ID, แบตเตอรี่, Portrait Mode และอื่นๆ (พึงพอใจ 70% – 97%) แต่ผู้ใช้จากการสำรวจไม่ค่อยพึงพอใจต่อ Siri ใน iPhone X มากนัก (พึงพอใจ 20%)

ผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า Apple กำลังประสบปัญหาในการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีของ Siri ต่อผู้ใช้ เพราะนอกจากใน iPhone X แล้ว ผู้ใช้ HomePod ต่างก็รายงานว่า Siri ยังไม่สมบูรณ์แบบมากนักเมื่อเทียบกับ AI ของคู่แข่ง จึงเป็นการบ้านที่ Apple ต้องแก้ไขต่อไป

ที่มา – iClarified

The post (ผลสำรวจ) ผู้ใช้ iPhone X พึงพอใจทุกฟีเจอร์ยกเว้น Siri appeared first on iPhoneMod.

บทความโดย นฤพนธ์ ชมภูศรี

เคยรู้สึกว่าบ้านของคุณมันดูน่าเบื่อบ้างไหม? ผ้าม่านเดิมๆ ผ้าปูโต๊ะเดิมๆ ปลอกหมอนเดิมๆ ทุกอย่างเดิมๆ IKEA ได้ส่งเสริมมาตลอดให้คนตกแต่งบ้าน เพราะเชื่อว่า บ้านที่ดี ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยดีขึ้น

บ้าน = ตัวตนของผู้อยู่อาศัย

แคมเปญ The Wonderful Everyday สนับสนุนให้คนแสดงความเป็นตัวตนออกมา ผ่านการแต่งบ้านด้วยผ้า “Be a maverick with fabric” เพราะบ้านเป็นสิ่งที่สะท้อนตัวตนของผู้อยู่อาศัยได้อย่างสมบูรณ์แบบ

หนังโฆษณา “Ghost” มีการเล่าเรื่องโดยการนำ เหล่าแก๊งผีในชุดสีขาวที่ออกมาปาร์ตี้ แต่หลังจากนั้นจะมีเหตุการณ์อะไรลองไปชมกันดีว่า

นอกจากหนังโฆษณา “Ghost” แล้ว ในแคมเปญ The Wonderful Everyday IKEA ยังไปร่วมงานกับ Teleman วงดนตรีอินดี้ที่ลอนดอน ออก Music Video เพลง Repeater ที่ผสมผสานจังหวะของเครื่องดนตรีตัดกับภาพของเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้าน IKEA ได้ออกมาอย่างลงตัว

อาจถึงเวลาที่เราต้องออกไปหาอะไรมาแต่งบ้านบ้างแล้ว…ก็เป็นได้

source: adweek, adworld

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

ก้าวอีกขั้นของ Coca-Cola ได้ทำการเป็นพันธมิตรกับธุรกิจกลุ่ม Rideshare โดยมีการนำเอาสินค้าในเครือเข้าไปวางจำหน่าย หรือให้ทดลองดื่มใน Uber และ Lyft

ภาพจาก Pixabay

ถือเป็นการขยายตลาดเพื่อเพิ่มช่องทางการขายให้มากขึ้นสำหรับ Coca-Cola ที่เข้าเป็นพันธมิตรร่วมกับแบรนด์ Rideshare ซึ่งเป็นธุรกิจดาวรุ่งที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยที่ได้เริ่มทดลองที่แบรนด์ Glaceau Smartwater แบรนด์น้ำแร่ในเครือ โดยที่มีวางเสิร์ฟแก่ผู้โดยสารใน Uber และ Lyft ให้บริการในตลาดที่ Atlanta ที่เป็นสำนักงานใหญ่ก่อน

Atlanta เป็นตลาดใหม่สำหรับกลุ่ม Cargo ได้เริ่มเปิดตัวในเดือนมิถุนายน 2017 และได้ให้บริการที่ New York, Chicago, Boston, Minneapolis, Washington D.C. และ Baltimore โดยที่มีแผนการลงทุนที่ 5.5 ล้านเหรียญ ในการขยายตลาดเพิ่มขึ้นในปีนี้ ซึ่งจะเข้าถึงผู้โดยสารได้ 25 ล้านคน จากจำนวน 20,000 คัน

ตลาด Rideshare Commerce เป็นที่น่าสนใจไม่น้อย มีหลายแบรนด์จ้องที่จะเข้าไปทำตลาดในการวางสินค้า หรือแจกสินค้าให้ผู้บริโภคได้ทดลองใช้ ทดลองทาน เช่น Rideshare Commerce

RxBar เป็นโปรตีนบาร์ โดยกลุ่ม The Kellogg Company ได้เซ็นสัญญากับธุรกิจนี้เมื่อเดือนกันยายน 2017 ส่วนแบรนด์ขนมอื่นๆ ก็มีจำหน่ายในรถบางรุ่น เช่น ได้แก่ Sour Patch Kids, Extra, Altoids, BelVita, Clif Bars และ Goodness Know

และยังมีสินค้าสำหรับอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือ ยาแก้ปวดหัว ยาแก้แฮงค์ เป็นต้น

ซึ่งผู้ขับจะได้รับเงินเพิ่มเมื่อวางสินค้าที่คอนโซลกลางของรถ และจะได้รับค่าคอมมิชชั่น 25% ในการขายแต่ละครั้ง บวกกับรายได้ 1 เหรียญที่เป็นฐานประจำ เมื่อผู้โดยสารซื้อสินค้าอะไรบางอย่าง

แน่นอนว่ายุคนี้มีการแข่งขันรอบด้าน ทำให้แบรนด์ต้องมีการกระตือรือร้นในการเพิ่มช่องทางการขาย จะพึ่งพาแค่ขายสินค้าตามห้างค้าปลีกอย่างเดียวไม่ได้ หลายแบรนด์เริ่มลงทุนหนักในการพัฒนาช่องทางอีคอมเมิร์ซ ช่องทางขายตรง และขยายช่องทางใหม่ๆ อย่าง Rideshare Commerce ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่น่าจับตามอง

ซึ่งช่องทาง Rideshare Commerce เองก็มีโอกาส และช่องว่างมากมาย ผู้โดยสารที่ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Gen M และ Gen Z เป็นกลุ่มคนที่ชอบความสะดวกสบาย มีกำลังซื้อสูง การที่มีสินค้าตอบโจทย์ความต้องการของเขาก็ยิ่งดีไปกันใหญ่

Source

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา