ขอขอบคุณย้อนหลัง สำหรับผู้สนับสนุนงานพัฒนาซอฟต์แวร์เสรีของผมในช่วงปลายเมษายน 2558 ถึงต้นกันยายน 2558 ที่ผ่านมาครับ คือ:
ขอให้ทุกท่านมีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน คิดสิ่งใดก็ขอให้สมปรารถนานะครับ
สี่เดือนที่ผ่านมา นับจาก บันทึกขอบคุณครั้งที่แล้ว งานพัฒนาที่ทำไปพอสรุปได้ดังนี้:
ขณะเดียวกัน ช่วงนี้งานที่ผมรับเพื่อ support ตัวเองเป็นงานสอน ซึ่งต้องใช้เวลาค่อนข้างมากในการเตรียมเนื้อหา จึงอาจเหลือเวลามาทำงานพัฒนาน้อยลง แต่ก็พยายามเจียดเวลาเท่าที่จะทำได้ครับ
ข่าวประชาสัมพันธ์
กรุงเทพฯ – 1 กันยายน 2558 : ชไนเดอร์ อิเล็คทริค จัดทำผลสำรวจด้านพลังงาน (Energy Survey) จากผู้เข้าร่วมงาน Xperience Efficiency 2015 กว่า 1,200 ราย ใน 4 จังหวัดใหญ่ที่เป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมทั้ง กรุงเทพมหานคร ระยอง ขอนแก่น และสุราษฎ์ธานี ผลสำรวจชี้ชัดทั้งภาคธุรกิจ และภาคอุตสาหกรรมต่างมุ่งให้ความสำคัญกับแนวคิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ (energy efficiency) เพื่ออนาคตทางธุรกิจที่ยั่งยืน
ผลสำรวจ Energy Efficiency ของ กรุงเทพมหานคร
มร.มาร์ค เพลิทิเยร์ ประธาน ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประเทศไทย กล่าวว่า “ในการสำรวจดังกล่าว ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้แยกผลการสำรวจการใช้พลังงานออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มภาคธุรกิจ อันประกอบไปด้วย องค์กรธุรกิจขนาดต่างๆ ในกรุงเทพมหานคร และภาคอุตสาหกรรมต่างจังหวัด ซึ่งประกอบด้วยผู้ผลิตจากอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อเป็นการรับทราบแนวคิด ตลอดจนความพร้อมขององค์กรธุรกิจ ผู้ประกอบการ และผู้ผลิตในอุตสาหกรรมต่างๆ ในการนำแนวคิด และเทคโนโลยีด้านการประหยัดพลังงานไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ”
จากผลสำรวจ ภาคธุรกิจ และภาคอุตสาหกรรมต่างมองว่าต้นทุน และค่าใช้จ่ายด้านพลังงานคือภาระชิ้นสำคัญทั้งในการดำเนินธุรกิจ และในการการผลิตสูงถึงร้อยละ 90 และร้อยละ 88 ตามลำดับ ผู้ตอบแบบสอบถามทั้งสองกลุ่มต่างต้องการที่จะนำแนวคิดด้านการประหยัดพลังงาน และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพเข้ามารวมอยู่ในแผนการดำเนินธุรกิจในอนาคตสูงถึงร้อยละ 88 ในกลุ่มธุรกิจ และร้อยละ 91 จากกลุ่มผู้ผลิต
ผลสำรวจ Energy Efficiency จากภาคอุตสาหกรรม จังหวัด ขอนแก่น ระยอง และสุราษฎร์ธานี
หากพิจารณาถึงอุปสรรคสำคัญในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพแล้วนั้น ทั้งสองกลุ่มให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า อันดับ 1) คือการขาดความรู้ ความเข้าใจที่มีต่อการใช้พลังงาน (ร้อยละ 43 ในกลุ่มผู้ผลิต และร้อยละ 37 ในกลุ่มธุรกิจ) อันดับ 2) คือต้นทุน และค่าใช้จ่ายด้านอุปกรณ์ (ร้อยละ 38 ในกลุ่มผู้ผลิต และร้อยละ 35 ในกลุ่มธุรกิจ) อันดับ 3) คือการได้รับความเห็นชอบ และยอมรับจากฝ่ายบริหาร (ร้อยละ 10 ในกลุ่มผู้ผลิต และร้อยละ 15 ในกลุ่มธุรกิจ)
นอกจากนี้ การสำรวจยังเจาะลึกถึงความต้องการของทั้งภาคธุรกิจ และภาคอุตสาหกรรมว่าต้องการปรับส่วนใดในการทำงานพื่อให้องค์กร หรือโรงงานมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือเป็น “กรีน” เพิ่มมากขึ้น ทั้งสองกลุ่มมีความเห็นเดียวกันคือ การปรับระบบการใช้แสงสว่าง (Lighting) เป็นอันดับแรกที่อยากมีการปรับเปลี่ยน โดยในอันดับ 2 กลุ่มธุรกิจใ ห้ความสนใจในการปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมให้ความสำคัญกับระบบความร้อนความเย็นและระบบปรับอากาศ (HVAC)
“ชไนเดอร์ อิเล็กทริค ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านระบบการบริหารจัดการพลังงานและออโตเมชั่น รู้สึกยินดีที่ได้เห็นว่าทั้งภาคธุรกิจ และภาคอุตสาหกรรมของไทย ต่างตระหนักและหันมาให้ความสำคัญในด้านการประหยัดพลังงาน รวมถึงการเตรียมความพร้อมที่จะนำแนวคิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเข้าไปใช้ในการวางแผนการดำเนินงาน และการทำธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน อย่างแท้จริงในอนาคต โดย ชไนเดอร์ อิเล็คทริค จะเดินหน้าสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสู่ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมในวงกว้าง เพื่อให้ทุกภาคส่วนสามารถวางแผนจัดการพลังงานอย่างเกิดประโยชน์สูงสุด” มร.มาร์ค กล่าวทิ้งท้าย
The post ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เผยผลสำรวจการใช้พลังงานของภาคธุรกิจไทย appeared first on EnergyThai.
โครงการ fonts-tlwg กำลังอยู่ระหว่างพัฒนาเพิ่มเติมให้รองรับภาษาชาติพันธุ์ที่เขียนด้วยอักษรไทยได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยรอบนี้เจาะไปที่ภาษามลายูปาตานีที่นอกจากจะต้องผ่อนคลายกฎการซ้อนอักขระต่าง ๆ แล้ว ยังต้องการอักขระเพิ่มเติมจากบล็อคยูนิโค้ดภาษาไทยอีก 4 ตัว เพื่อเป็นเครื่องหมายกำกับเสียงอ่าน กล่าวคือ:
สองตัวหลังดูไม่มีอะไรมาก แค่เพิ่ม glyph ให้ก็ดูจะเพียงพอ แต่สองคัวแรกซึ่งเป็นอักขระประกอบ (combining character) ก็เลยมีปฏิสัมพันธ์กับสระบน-ล่าง วรรณยุกต์ และเครื่องหมายกำกับเสียงของไทย ทำให้ต้องมาจัดระเบียบใหม่ ซึ่งปรากฏว่าต้องทั้งขยับอักษรไทย ทั้งเปลี่ยนลำดับ normalization ของยูนิโค้ดด้วย
ตัวหนอนบอกเสียงนาสิกดูจะไม่มีประเด็นอะไรสำหรับภาษามลายูปาตานี เนื่องจากคำที่มีเครื่องหมายนี้จะไม่มีสระบนและวรรณยุกต์กำกับอยู่แล้ว ส่วนตัวขีดเส้นใต้ก็ควรขีดเส้นใต้พยัญชนะที่ความกว้างไม่เท่ากันให้สวยงามทั้งสี่ตัวด้วย (กล่าวคือ ไม่ใช่ใช้อักขระเดียวขีดเส้นใต้อักขระทุกตัว แต่ความยาวของขีดควรปรับตามความกว้างของพยัญชนะด้วย) รวมทั้งต้องตัดเชิง ญ เมื่อขีดเส้นใต้ด้วย
ก็ดูไม่ยุ่งยากอะไร ตัวหนอนก็แค่ทำประหนึ่งมันเป็นสระอิอีอึอือเสียก็จบ ส่วนตัวขีดเส้นใต้ก็สร้าง ligature glyph สำหรับ ง ญ น ม ขีดเส้นใต้สำเร็จรูปเท่านั้นเอง ผลออกมาก็งามน่าแล
แต่ช้าก่อน ฟีเจอร์ของภาษามลายูปาตานีฟังดูน่าสนใจไม่น้อยสำหรับคนพูดภาษาแต้จิ๋วอย่างผม
แต่การนำเครื่องหมายทั้งสองมาใช้กับภาษาแต้จิ๋วก็ทำให้พบกับ requirement ที่สูงขึ้น เพราะพยางค์ในภาษาแต้จิ๋วสามารถผสมกับสระและวรรณยุกต์ของไทยได้อย่างอิสระกว่ามาก ทำให้ตัวหนอนบอกเสียงนาสิกต้องสามารถผสมกับไม้หันอากาศและสระอิอีอึอือและใช้วรรณยุกต์ได้ด้วย ส่วนตัวขีดเส้นใต้ก็ต้องผสมกับสระล่างได้ด้วยเช่นกัน
ในการทำฟอนต์นั้น ไม่ใช่ว่าเราจะรองรับเฉพาะอักขรวิธีที่กำหนดไว้เท่านั้น แต่ยังควรเตรียม fallback สำหรับรองรับการแสดงผลรูปแบบที่อยู่นอกเหนือจากที่กำหนดด้วยตามสมควร ถึงแม้ไม่มีโจทย์ภาษาแต้จิ๋ว ก็ต้องคิดเผื่ออยู่แล้วว่าจะจัดการกับกรณีทั่วไปที่อยู่นอกเหนือข้อกำหนดของภาษามลายูปาตานีอย่างไร การมีโจทย์สมมุติของภาษาแต้จิ๋วเช่นนี้ก็เท่ากับทำให้เห็นแนวทางชัดเจนยิ่งขึ้น
ประเด็นของโจทย์ก็คือ:
ปัญหาของตัวหนอนนาสิกไม่มีอะไรซับซ้อน แก้ได้ด้วยการเพิ่มกฎ GSUB สำหรับสลับตัวหนอนนาสิกกับวรรณยุกต์ทั้งสี่ตัวเท่านั้นก็จบ และอาจจะนับตัวหนอนเป็นสระบนอีกหนึ่งตัวในกฎที่ยกไม้ไต่คู้ นิคหิต ยามักการขึ้นสูงและย่อขนาดลงเพื่อความสวยงามสักหน่อยด้วย
แต่ปัญหาของตัวขีดเส้นใต้ซับซ้อนกว่าที่คาดไว้มาก เพราะมีประเด็นอื่นที่ต้องพิจารณาร่วมด้วยอีก 2 ประเด็น คือ
การเพิ่มกฎสำหรับกลับลำดับตัวขีดเส้นใต้จึงต้องระวังที่จะไม่ไปกีดขวางการทำงานของกฎดังกล่าวด้วย โดยถ้าทำก่อน ตัวขีดเส้นใต้ก็จะมาขวางกฎ ปู่ ให้ไม่ทำงาน และถ้าทำทีหลัง วรรณยุกต์จากกฎ ปู่ ก็จะมาขวางกฎสร้าง precomposed glyph ให้ไม่ทำงาน
หลังจากคิดและทดลองอยู่หลายตลบ ผมก็ได้ข้อสรุปเป็นลำดับกฎว่าดังนี้ :-
สตริงเริ่มแรก: C + Macron + BV + T Uniscribe/Harfbuzz: C + BV + T + Macron 1: สลับ T กับ Macron C + BV + Macron + T 2: สลับ BV กับ Macron C + Macron + BV + T 3: ligature C-Macron-lig + BV + T || C + Macron + BV + T 3: สลับ Macron กับ BV C + BV + Macron + T 4: สลับ Macron กับ T C + BV + T + Macron general composition C + T.low + BV + Macron 5: สลับ BV กับ Macron C + T.low + Macron + BVกล่าวคือ เริ่มจากเลื่อนตัวขีดเส้นใต้ไปชิดกับพยัญชนะก่อนเพื่อให้กฎ ligature ทำงาน และถ้าตัวขีดเส้นใต้ไม่ได้ทำให้เกิด ligature ก็เลื่อนกลับที่เดิมเพื่อให้กฎ ปู่ ใน general composition ทำงาน จากนั้นจึงสลับตัวขีดเส้นใต้ให้มาก่อนสระล่าง ก็เป็นอันได้ลำดับที่เราต้องการ
กรณีลำดับของพินทุกับสระล่างที่ Uniscribe/Harfbuzz แปลงสารมาก็ทำนองเดียวกัน มีความซับซ้อนเล็กน้อย แต่ก็แค่กับกฎ ปู่ เท่านั้น :-
สตริงเริ่มแรก: C + Ph + BV + T Uniscribe/Harfbuzz: C + BV + Ph + T 1: สลับพินทุกับ BV C + Ph + BV + T general composition: C + Ph + T.low + BV 2: สลับพินทุกับ T.low C + T.low + Ph + BVกล่าวคือ สลับพินทุกับสระล่างกลับให้เป็นเหมือนเดิม แล้วปล่อยให้กฎ ปู่ ใน general composition ทำงาน เสร็จแล้วก็เลื่อนวรรณยุกต์ตัวต่ำให้เข้าไปชิดกับพยัญชนะ
ผลที่ได้ดูจะทำงานได้ดีเมื่อทำ stress test ด้วยภาษาแต้จิ๋ว:
และเนื่องจาก requirement ในเรื่องตัวหนอนนาสิกและตัวขีดเส้นใต้ของภาษาแต้จิ๋ว เป็น superset ของมลายูปาตานี การผ่านการทดสอบด้วยภาษาแต้จิ๋วย่อมถือว่าครอบคลุมภาษามลายูปาตานีโดยปริยาย
สังเกตว่า ในขณะที่ทำภาษามลายูปาตานีในขั้นแรกนั้น ผมลืมกรณีที่พยัญชนะขีดเส้นใต้มีสระล่างไปเสียสนิทด้วยซ้ำ การเล่นกับภาษาแต้จิ๋วยังช่วยจับบั๊กนี้ให้ด้วย
เมื่อทดลองกับฟอนต์ Garuda เป็นที่พอใจแล้ว ก็มาสรุปขั้นตอนทุกอย่างอีกครั้งกับฟอนต์ Kinnari:
แล้วก็ใช้ฟอนต์ Kinnari เป็นแบบสำหรับฟอนต์อื่น ๆ ต่อไป โดยเริ่มจากฟอนต์ Norasi:
ตอนนี้ทำถึงขั้นนี้เท่านั้นครับ ยังมีฟอนต์อื่น ๆ อีกสิบกว่าฟอนต์ในชุด fonts-tlwg ที่ผมจะค่อยทยอยทำต่อไปเมื่อมีเวลาว่าง คาดว่าคงใช้เวลาอีกหลายเดือน :-P
ผมสร้าง หน้าทดสอบ โดยใช้ web font ที่สร้างจากตัวล่าสุดที่อยู่ระหว่างพัฒนาไว้ด้วย คงจะอัปเดตไปเรื่อย ๆ ตามความคืบหน้าครับ
ในอีกด้านหนึ่ง ก็ได้ อภิปรายและเสนอแพตช์ สำหรับ Harfbuzz เพื่อขอตัดการ override combining class ของสระล่างของไทยเสียด้วย ดูจะได้รับความเห็นชอบ แต่ยังไม่ apply เสียที อาจจะเกรงความไม่เข้ากันกับ Uniscribe หรือเปล่าก็ไม่ทราบได้ แต่การแก้ในฟอนต์ที่ผมทำไปก็เท่ากับทำให้มันทำงานบนวินโดวส์ได้ด้วย