ในงาน AWS Summit ที่กรุงเทพสัปดาห์ที่ผ่านมา aCommerce ผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ชกับแบรนด์ต่างๆ เปิดตัวบริการในชุดโปรแกรม Market Insight ที่เปิดให้ลูกค้าสามารถสำรวจข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจได้ตามมุมมองที่ตนเองต้องการ
Market Insight เป็นการรวบรวมข้อมูลอีคอมเมิร์ชจากแหล่งต่างๆ รวมกว่าแสนล้านชุดข้อมูล เปิดทางให้ธุรกิจสามารถวิเคราะห์การแข่งขัน เช่น ราคาคู่แข่ง, เทรนด์สินค้าใหม่ๆ, หรือกระทั่งมอนิเตอร์ว่าสินค้าของแบรนด์ตนเองว่ามีการขายในราคาที่ผิดปกติหรือไม่ โดยบริการนี้มีมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ในงานครั้งนี้ทาง aCommerce เปิดฟีเจอร์ AskIQ ที่เปิดให้ผู้ใช้ถามข้อมูลได้โดยตรง โดยระบบสามารถออกรายงานจากข้อมูลที่มีทันที
aCommerce สตาร์ทอัพที่ให้บริการโซลูชันหลังบ้านสำหรับอีคอมเมิร์ซ ประกาศรับเงินทุนมากกว่า 10 ล้านดอลลาร์เพิ่มเติมจากนักลงทุนปัจจุบัน นำโดยกลุ่ม KKR & Co, กองทุน Blue Sky, DKSH Holding และกลุ่มบริษัท Sinar Mas ของอินโดนีเซีย
ซีอีโอ พอล ศรีวรกุล กล่าวว่าบริษัทมีแผนจะเพิ่มทุนอีกราว 5 ล้านดอลลาร์ ภายในปีนี้ โดยเป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มทุนซีรี่ส์ B เพิ่มเติม และบริษัทยังเตรียมความพร้อมเพื่อการไอพีโอเข้าตลาดหุ้นต่อไปใน 2-3 ปีข้างหน้า
aCommerce บริษัทด้านเทคโนโลยีและโซลูชันด้านอีคอมเมิร์ซ เปิดตัว BrandIQ แพลตฟอร์มในรูปแบบ SaaS (Software as a Service) วิเคราะห์ข้อมูลนักช้อปออนไลน์ เพื่อช่วยให้แบรนด์สินค้าแต่ละรายเข้าถึงข้อมูลเชิงลึก นำไปต่อยอดสำหรับสร้างกลยุทธ์การขายสินค้าออนไลน์ได้อย่างตรงใจลูกค้า และช่วยเพิ่มยอดขายให้มากยิ่งขึ้น
ฟีเจอร์สำคัญของ BrandIQ ได้แก่ การตรวจสอบสินค้าในสต็อกและยอดขายย้อนหลังได้อย่างน้อย 5-10 ปี, สามารถติดตามสินค้านั้นๆ ได้ว่ามีการจัดส่งรวดเร็วเพียงใด, ลูกค้ามีการพูดถึงสินค้าว่าอย่างไร, มีลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าเดิมซ้ำหรือไม่ รวมไปถึงสามารถวิเคราะห์ยอดขายและ Market Share ของคู่แข่ง เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปเปรียบเทียบกับแบรนด์สินค้าของเราเองได้ เป็นต้น
aCommerce ให้บริการสนับสนุนระบบหลังบ้านแก่บริษัทอีคอมเมิร์ซ รวมทั้งให้บริการด้านโลจิสติกส์, fulfillment และบริการดิจิทัล แถลงยุทธศาสตร์ตั้งเป้าเป็น One platform, one stop service ให้แก่ลูกค้า และเตรียมลงทุนเพิ่มทุกด้านเพื่อบริการลูกค้าได้แบบ end-to-end
นายพอล ศรีวรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท aCommerce ระบุว่า อีคอมเมิร์ซมีความซับซ้อน การซื้อขายเกิดขึ้นหลายช่องทางเช่น LINE, Marketplace, Facebook Messenger, เว็บไซต์ เป็นต้น ระบบภายในของแบรนด์ต้องตอบสนองลูกค้าได้ทุกช่องทาง นำมาสู่โมเดลธุรกิจของ aCommerce คือ รวมคอมเมิร์ซเข้าด้วยกัน (Unified Commerce) และสร้างบริการให้ลูกค้าตั้งแต่ต้นจนจบตั้งแต่ให้คำปรึกษาลูกค้า การทำการตลาดไปจนถึงระบบโลจิสติก (full service end-to-end) ด้วยเหตุนี้จึงต้องลงทุนทุกด้านทั้งบุคลากร, เทคโนโลยีคลาวด์ ระบบจัดการในฝ่ายงานปฏิบัติการ โกดัง การจัดซื้อ การขนส่ง
aCommerce สตาร์ทอัพที่ให้บริการสนับสนุนอีคอมเมิร์ซ ทั้งโลจิสติกส์, fulfillment และบริการดิจิทัล ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในประเทศไทย ประกาศรับเงินลงทุนซีรี่ส์ B อีก 65 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2,100 ล้านบาท จากกลุ่มนักลงทุนนำโดย Emerald Media
เมื่อสองปีที่แล้ว aCommerce ได้รับเงินลงทุนจาก DKSH ทำให้ตอนนี้มีเงินลงทุนรวมแล้ว 94 ล้านดอลลาร์ โดยปัจจุบัน aCommerce ให้บริการอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้แก่ ไทย, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ มีลูกค้ารายสำคัญอาทิ ซัมซุง, ยูนิลีเวอร์, เนสท์เล่ และลอรีอัล
aCommerce สตาร์ทอัพแนวโลจิสติกส์สัญชาติไทยที่มีแผนจะขยายไปทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพิ่งได้เงินทุนก้อนใหม่จากบริษัทด้านการจัดจำหน่ายสินค้าและเวชภัณฑ์สัญชาติสวิสฯ DKSH แลกกับหุ้นส่วนจำนวน 20% โดยไม่เปิดเผยมูลค่าการลงทุน
ก่อนหน้านี้ aCommerce เพิ่งได้ระดมทุนรอบแรกกว่า 10.7 ล้านเหรียญไปเมื่อกลางปี 2014 ก่อนจะเพิ่มทุนอีกครั้งเมื่อกลางปี 2015 อีก 5 ล้านเหรียญ ตามมาด้วยการลงทุนด้านกลยุทธ์จาก DKSH ในครั้งนี้ที่ไม่เปิดเผยจำนวนเงิน คาดว่า aCommerce จะเลื่อนการระดมทุนรอบสองออกไปซักระยะ โดยประเมินว่าจะเป็นเม็ดเงินกว่า 30 ล้านเหรียญด้วยกัน