กฎหมายห้ามไม่ให้แสดงความเห็นต่อ "เหตุการณ์ปัจจุบัน" ในเว็บเครือข่ายสังคมออนไลน์ หรือ Decree 72 ที่กำหนดการใช้อินเทอร์เน็ตและข้อมูลออนไลน์เริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 กันยายนที่่ผ่านมา ส่งผลให้การกระทำหลายอย่างที่เป็นเรื่องปกติบนโลกอินเทอร์เน็ตกลายเป็นเรื่องผิดกฎหมายไป

กฎหมายนี้ระบุว่าหน้าเว็บส่วนบุคคลห้ามใช้รวบรวมข้อมูลจากสำนักข่าวและหน่วยงานของรัฐไว้ด้วยกัน การระบุเช่นนี้ทำให้เว็บเครือข่ายสังคมออนไลน์ทั้งหลายจะเหลือพื้นที่ให้คุยเรื่องส่วนตัวได้เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีมาตราที่ระบุห้ามการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นภัยต่อความมั่นคงเอาไว้ต่างหาก

มีรายงานในวงการความปลอดภัยว่ากลุ่มแฮกเกอร์จีนชื่อ DNSCalc ซึ่งมีสมาชิกประมาณ 20 ราย (และเคยมีผลงานโจมตีเว็บ The New York Times) หันเป้าหมายมาโจมตีภาครัฐของอาเซียนแทน

กระบวนการของ DNSCalc จะใช้วิธีอัพโหลดไฟล์ .ZIP ชื่อที่เกี่ยวข้องกับ U.S.-ASEAN Business Council ลงใน Dropbox และแชร์ไฟล์ไปยังคนหรือหน่วยงานภาครัฐของอาเซียนแล้วหลอกว่าควรสนใจเอกสารชิ้นนี้ (เป็น phising แบบหนึ่ง) เมื่อเหยื่อดาวน์โหลดไฟล์มาขยายจะพบไฟล์ PDF และมัลแวร์ที่จะแอบฝังอยู่ในเครื่องของเรา

มัลแวร์ตัวนี้จะส่งข้อมูลไปยังบล็อกบนระบบ WordPress ของแฮกเกอร์ และส่งข้อมูลหมายเลข IP รวมทั้งเบอร์พอร์ตกลับไปยังต้นทาง

GfK Asia รายงานว่าเกือบครึ่งของยอดขายสมาร์ทโฟนทั้งหมดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ใช้ระบบปฏิบัติการ Android ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ มากกว่าไตรมาสแรกของปีที่แล้วที่มียอดขายอยู่ที่ 15% เท่านั้น โดยอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนในภูมิภาคของเราเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งคิดเป็น 25.4% ของยอดขายโทรศัพท์มือถือทั้งหมดแล้ว

เมื่อดูตัวเลขอย่างใกล้ชิดแล้ว จะพบว่าประเทศอินโดนิเซีย เป็นประเทศมีตลาดสมาร์ทโฟนใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ที่มีอัตราการเติบโตที่สูงที่สุด ในขณะที่ประเทศที่มีอัตราส่วนการใช้สมาร์ทโฟนสูงที่สุดในภูมิภาคคือมาเลเซียและสิงคโปร์ ที่ประชาชน 9 ใน 10 คนใช้สมาร์ทโฟนแล้ว

ภาคประชาสังคมอาเซียน รวมถึงเครือข่ายพลเมืองเน็ต ได้ออก "แถลงการณ์ประชาสังคมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 2010 ว่าด้วยอินเทอร์เน็ตภิบาล" (2010 Southeast Asia Civil Society Statement on Internet Governance) หลังการประชุมการกำกับดูแลอินเทอร์เน็ต เวทีภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก (Asia-Pacific Regional Internet Governance Forum - APrIGF) ที่ฮ่องกงเมื่อกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

แถลงการณ์ได้ระบุถึงประเด็นคับขันของการกำกับดูแลอินเทอร์เน็ตในภูมิภาคนี้สามประเด็น คือ ความเปิดเผย การเข้าถึง และสิทธิในความเป็นส่วนตัว