Epic Games ประกาศแจกเกมฟรีลำดับที่สามของเทศกาลลดราคาปีนี้ ถัดจาก Borderlands 3 และ BioShock The Collection คือเกม Wolfenstein: The New Order เกมยิงไซไฟย้อนยุคช่วงหลังสงครามโลก ที่ออกในปี 2014
Pete Hines ผู้บริหารของค่ายเกม Bethesda ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่ากำลังพัฒนาเกม Wolfenstein ภาค 3 อยู่ในตอนนี้
Wolfenstein ภาครีบูตโดยสตูดิโอ MachineGames จากสวีเดน (เป็นบริษัทลูกที่ Bethesda ซื้อมาในปี 2010) เริ่มต้นในปี 2014 และประสบความสำเร็จอย่างมาก (รีวิวเวอร์ชัน Blognone) ก่อนจะตามมาด้วยภาคสอง Wolfenstein II: The New Colossus ในปี 2017
Wolfenstein ยังมีภาคเสริมที่นับเป็นภาคแยกอีกสองภาคคือ The Old Blood ที่แยกจากภาคแรก (ขาย 2015) และ Youngblood ที่แยกจากภาคสอง (เปิดตัว 2018 ขาย 2019)
เมื่อต้นปี Bethesda เคยประกาศว่าจะออก The Elder Scrolls V: Skyrim บน Switch ล่าสุดบริษัทประกาศส่งเกมดังอีก 2 เกมลง Switch คือ Doom และ Wolfenstein II: The New Colossus
กำหนดการวางจำหน่ายคร่าวๆ มีดังนี้
Bethesda เปิดตัว Wolfenstein II: The New Colossus ภาคต่อของ Wolfenstein: The New Order ในปี 2014
เกมภาคนี้ยังใช้ตัวเอก BJ Blazkowicz คนเดิม เนื้อเรื่องเกิดในโลกคู่ขนานปี 1961 (ภาคแรกเป็นปี 1960) แต่ใช้ฉากหลังเป็นเมืองต่างๆ ในสหรัฐอเมริกาที่ถูกนาซียึดครอง ตัวของ BJ ที่บาดเจ็บสาหัสมาจากภาคแรกต้องค่อยๆ ฟื้นฟูร่างกายกลับมา พร้อมกับต่อสู้เพื่อต่อต้านนาซีด้วย
เกมลงทั้ง Xbox One, PS4, PC วางขาย 27 ตุลาคม 2017
เรื่องนี้อาจเป็นการประกาศทำภาคต่ออย่างไม่ได้ตั้งใจก็ได้นะครับ จากบทสัมภาษณ์ของ TVN รายการจากสถานีโทรทัศน์ Polish TV กับ Alicja Bachleda-Curuś ผู้ให้เสียงพากย์ Anya Oliwa ในเกม Wolfenstein: The New Order ซึ่งบทสัมภาษณ์นี้แปลโดย Eurogamer ได้ความว่า เธอกำลังทำผลงานชิ้นใหม่อยู่
ชีวิตในวัยเด็กผม เรียกได้ว่าโตมากับเกม FPS ของค่าย id Software เลยก็เป็นได้ ไม่ว่าจะเป็นทั้ง Doom, Hexen, Heretic, Quake, RAGE และแม้แต่ซีรีส์ที่เก่าแก่ที่สุด (ไม่นับเกมอื่นที่ไม่ใช่ FPS) Wolfenstein ก็อยู่ในไทม์ไลน์วัยเด็กของผมเช่นกัน
ซีรีส์ Wolfenstein นั้นผ่านมาหลายยุคหลายสมัย มีภาคต่อและรีบูตครั้งแล้วครั้งเล่า จนมาถึงภาคล่าสุด Wolfenstein: The New Order ซึ่งเป็นภาคที่ 9 ของซีรีส์ และนับเป็นภาคที่ 3 ของเนื้อเรื่อง (ภาคที่นับว่าเป็น prequel หรือภาคก่อนหน้าที่แท้จริงก็คือ Return to Castle Wolfenstein และ Wolfenstein ในปี 2009 ภาคนี้เป็นภาคที่พยายามรีบูตซีรีส์ทั้งหมด แต่ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก)