เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สตีฟ จ็อบส์ ประกาศการลาป่วยรอบที่สาม หลังจากพบว่าเป็นมะเร็งในรอบแรก และต้องเปลี่ยนตับในรอบที่สอง
รอบนี้แอปเปิลแทบไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับอาการป่วยของจ็อบส์เลย บอกเพียงแค่ "ลาป่วย" โดยไม่ระบุระยะเวลา น้อยกว่าคราวก่อนที่บอกว่าลาป่วย 6 เดือนด้วยซ้ำ
ทุกคนย่อมอยากรู้ว่าจ็อบส์ป่วยเป็นอะไร อาการหนักเบาแค่ไหน มีโอกาสหายหรือไม่ ฯลฯ แต่นั่นคงไม่ใช่เรื่องที่สำคัญเท่ากับคำถามที่ว่า "แอปเปิลจะเป็นอย่างไรถ้าไม่มีสตีฟ จ็อบส์"
ผมเชื่อว่าเราทุกคนปรารถนาให้จ็อบส์หายดี กลับมาเป็นสีสันให้วงการไอทีอีกครั้ง แต่เมื่อประเมินจากสถานการณ์แล้ว ไม่ว่าจ็อบส์จะกลับมาดำรงตำแหน่งซีอีโอได้หรือไม่ สิ่งที่แอปเปิลต้องยอมรับก็คือ ตอนนี้ถึงเวลาที่จะคิดถึง "การสืบทอด" ตำแหน่งของสตีฟ จ็อบส์เสียที
แอปเปิลภายใต้การนำของสตีฟ จ็อบส์ โดดเด่นมากในเรื่อง "วิสัยทัศน์" ที่นำพาวงการไอทีเปลี่ยนผ่านจากคอมพิวเตอร์พีซีแบบดั้งเดิม เข้าสู่ยุคแห่งอุปกรณ์รูปแบบใหม่ๆ ที่แตกต่างออกไป แต่ตอบโจทย์เก่าๆ ได้ดีกว่าเดิม ความสำเร็จต่อเนื่องจาก iPod มายัง iPhone จนถึง iPad เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องยอมรับ และเกียรติภูมิอันนี้คงยกให้ใครอื่นไม่ได้นอกจากสตีฟ จ็อบส์ นั่นเอง
แต่สตีฟ จ็อบส์ ไม่มีวันอยู่กับแอปเปิลตลอดไป (ถึงแม้จะหายป่วยกลับมา และเป็นซีอีโอได้อีก 10-20 ปีก็ตาม มันก็ต้องมีวันที่ลงจากตำแหน่ง) และเมื่อถึงเวลานั้น แอปเปิลต้องถามตัวเองว่าต้องการ "วิสัยทัศน์" อยู่อีกหรือไม่
ถ้าให้ผมตอบคำถามนี้ ผมจะบอกว่า "แอปเปิลต้องการวิสัยทัศน์" แต่ไม่ต้องการ "ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์" อีกต่อไปแล้ว
เหตุผลประกอบมี 2 ข้อดังนี้
ถ้าเราย้อนดูประวัติศาสตร์ของวงการไอที จะเห็นว่ายุคสมัยของไอทีเปลี่ยนไม่บ่อยนัก (แม้จะเร็วกว่าอุตสาหกรรมอื่นเยอะ) เช่น เราใช้พีซีกันมาร่วมสามสิบปี ใช้คีย์บอร์ดกันมานานกว่านั้น เว็บถูกใช้ในวงกว้างประมาณ 15 ปี (แม้จะวิวัฒนาการมาเรื่อยๆ แต่แนวคิดหลักยังเหมือนเดิม)
วิสัยทัศน์ของจ็อบส์ต่อโลกไอทีในยุคหน้า คือ "อุปกรณ์ชนิดใหม่ๆ ที่ผูกกับบริการบนอินเทอร์เน็ต ตัดตอนความยุ่งยากของพีซีออกไป" ซึ่งถูกประดิษฐ์ขึ้นไม่นานมานี้ (iPod ในปี 2001 หรือจะเริ่มนับ iPhone ปี 2007) ยังไปต่อได้อีกมาก และใช้ต่อได้อีกนาน
แอปเปิลยังไม่จำเป็นต้องปฏิรูป "ฐานราก" ของระบบคอมพิวเตอร์ใหม่อีกครั้งในช่วง 5 ปีข้างหน้านี้ และ "วิสัยทัศน์" อันนี้อาจมีอายุอยู่ได้ถึง 10 ปีหรือนานกว่านั้น (อนาคตไกลกว่านั้นค่อยคิดกันต่อไป)
ดังนั้นสิ่งที่แอปเปิลต้องการในตอนนี้ไม่ใช่วิสัยทัศน์ แต่เป็นผู้บริหารที่สามารถบริหารงานภายใต้วิสัยทัศน์ที่จ็อบส์วางเอาไว้ ให้เดินหน้าไปได้อย่างไม่มีปัญหาอะไรมากกว่า
ทิม คุก (Tim Cook) คือผู้บริหารคนนั้นหรือเปล่า? ผมว่าใกล้เคียงมาก
ทิม คุก เข้าทำงานกับแอปเปิลตั้งแต่ปี 1998 หลังการกลับมาของสตีฟ จ็อบส์ไม่นานนัก เขามีชื่อเสียงจากการดูแล "สายปฎิบัติการ" (operation) ให้กับแอปเปิล โดยบริหารจัดการด้านการผลิต การจัดเก็บสต๊อค ซัพพลายเชน ฯลฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้กำไรของแอปเปิลเพิ่มขึ้น (จากการลดต้นทุนเหล่านี้ลง) พูดง่ายๆ ว่าเป็นฝั่ง "หลังบ้าน" ของแอปเปิล ดูแลฐานของบริษัทให้พร้อมสำหรับ "แม่ทัพ" สตีฟ จ็อบส์ นำออกไปรบในสมรภูมิ
ทิม คุกอยู่กับแอปเปิลมาสิบกว่าปี และซึมซับการบริหารงานของสตีฟ จ็อบส์ อย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด เขาจึงรู้จักแอปเปิลมากกว่าใคร (ยกเว้นจ็อบส์)
จากข้อมูลของ Wall Street Journal ระบุว่าตอนที่จ็อบส์กลับมาใหม่ๆ และต้องการตัวผู้บริหารมาช่วยดูแลงานภายในบริษัท จ็อบส์สัมภาษณ์คนเยอะมาก แต่ไม่ "คลิก" กับใครเลย (มีผู้บริหารคนหนึ่งที่จ็อบส์สัมภาษณ์เพียง 5 นาทีแล้วเดินออกจากห้อง) แต่เขากลับชอบบุคลิกหนักแน่นเยือกเย็นของคุก และเข้ากันได้เป็นอย่างดี
คุกพิสูจน์ตัวเองแล้วว่า เขาสามารถนำพาแอปเปิลเดินหน้าตามวิสัยทัศน์ของจ็อบส์ได้อย่างไม่มีปัญหา ในช่วงที่จ็อบส์ลาพัก 6 เดือนในปี 2009
ผมเชื่อว่าในระยะยาวแล้ว ไม่ว่าจ็อบส์จะกลับมาทำงานได้หรือไม่ คุกจะได้รับการเสนอชื่อเป็นซีอีโอคนต่อไป มากกว่าการหาซีอีโอคนนอกเข้ามาแทนจ็อบส์
และด้วยทิศทางแบบนี้ แอปเปิลในอนาคตจะยังมีแนวทางของผลิตภัณฑ์แบบเดิม (สตีฟ จ็อบส์ สไตล์) แต่มีการนำเสนอและจัดองค์กรที่ต่างไปจากเดิม คือ บริหารเป็นองค์คณะ ไม่มีผู้นำที่โดดเด่นเพียงคนเดียวอีกต่อไป เราจะเห็นผู้บริหารคนอื่นๆ ของแอปเปิลอย่าง Scott Forstall, Jonathan Ive และ Philip W. Schiller มีบทบาทในงานแถลงข่าวมากขึ้น
แอปเปิลในยุคหลังสตีฟ จ็อบส์ (Post-Jobs) ที่ใช้โครงสร้างการบริหารเป็นทีม (โดยมีหัวหน้าทีมชื่อทิม คุก) จะประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน เป็นเรื่องที่เราต้องติดตามดูกันต่อไป แต่ผมคิดว่าเป็นโครงสร้างที่เหมาะกับแอปเปิลมากที่สุดแล้ว
ถ้าให้อธิบายด้วยกรอบของ "สามก๊กไอที" ก็ต้องบอกว่ายุคของ "จิวยี่" ผู้โดดเด่นหมดไปแล้ว เป็นหน้าที่ของ "ซุนกวน" และทีมขุนศึก-ที่ปรึกษาจะดูแล "ง่อก๊ก" ต่อไป
ข้อมูลบางส่วนจาก
Comments
ถึงแม้มีหลายท่านที่ไม่ชอบแนวคิดของ apple และ jobs แต่ผมคิดว่าทุกท่านคงปรารถนาจะให้แกหายดี :)
ปล. เพราะ "คุก" นี่เอง ถึงต้อง "แหกคุก"
เขียนได้ดีครับ ชอบๆ
บล็อกนันไม่ค่อยมีข่าวที่เป็นบทวิเคราะห์แบบนี้ครับ
ผมว่าคนอ่านชอบอ่านบทความที่มีการสอดแทรกความเห็นของผู้เขียนนะครับ
แต่ผมชอบแบบนี้นะครับ ผมไม่ค่อยชอบการแทรกความเห็นของผู้เขียนซักเท่าไหร่เพราะเหมือนเป็นการชี้นำครับ
กลับเข้าเรื่อง.. ผมเองก็อยากให้จ๊อบส์หายเร็วๆเช่นกันครับ ถึงแม้ผมจะไม่ชอบเหล่าทหาร zealot ก็ตาม แต่ผมชอบที่ Apple เป็น Innovation ในการคิดนอกกรอบครับ..
ปล.สิ่งแรกหลังจากที่เกิดขึ้นจ๊อบส์ลาป่วยก็คือ.. Playboy แบบไม่เซ็นเซอร์บน iPad :P
ในหนังสือพิมพ์ หรือนิตยสาร มันก็จะมีทั้ง "ข่าว" และ "คอลัมน์" ครับ
อันนี้ขึ้นกับผู้เขียนครับ เราเปิดให้แสดงความเห็นได้ แต่ต้องแสดงอย่างชัดเจนว่าตรงไหนเป็นความเห็น ตรงไหนเป็นข้อเท็จจริง
lewcpe.com, @wasonliw
ขอเพิ่มความเห็นกันความเข้าใจผิด ผมชอบบทความนี้ครับ อยากให้มีบทความแบบนี้เยอะๆครับ
ผมเข้าใจผิดไปแล้ว = ="
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
เข้าใจว่าจ็อบส์ เป็นเนื้องอกที่ 'ตับอ่อน' แต่ได้รับการผ่าตัดเปลี่ยน'ตับ' นะครับ
ตับ ตับ ตับ ตับ…
แก้ตามนั้นครับ
เป็นมะเร็งตับอ่อนกระจายไปตับครับเลยผ่าเปลี่ยนตับครับ
แล้วอนาคตแอปเปิลจะเป็นอย่างไร…
โดยส่วนตัวแล้วผมเชื่อว่ายุคทองของแอปเปิลจะจากไปพร้อมลุงจ็อบส์ แม้ว่าแอปเปิลจะไม่ได้ล่มสลายลงไปแต่ก็คงไม่อาจโดดเด่นได้เท่าการนำของลุงจ็อบส์ ทิม คุก อาจจะเก่งมีวิสัยทัศน์ แต่ทิมไม่ใช่ศาสดา แอปเปิลไม่อาจขวางโลกได้ถ้าไม่มีจ๊อบส์ การเข้ามารับตำแหน่งแม่ทัพในเวลาที่ ศัตรูน้อยใหญ่ต่างก็แห่กันเข้ามาโจมตี เกิดพลาดท่าเสียที เกมเปลี่ยนจะเป็นยังไง คงจะได้เห็นกันในไม่ช้า
+1
Jobs ในอีกแง่หนึ่งก็เป็นแบรนด์/ความเชื่อ/ลัทธิ
บางครั้งความบกพร่อง ถูกมองข้ามไปได้ด้วยความเชื่อในJobs
คนที่มาใหม่ต้องสร้างภาพทางการตลาดได้ด้วย
+10 agree with u na ka onimaru
ศรัทธาเป็นคำเดียวที่คุกไม่มี
ต่างจากไมโครซอฟท์ที่มี Ballmer มองได้ว่าเป็นผู้นำที่โดดเด่น ทดแทน Gates ได้
ผู้นำเป็นสิ่งสำคัญเหมือนกันนะ มันเหมือนเป็นสัญลักษณ์ เป็นอะไรที่คนนึกถึง อย่างพูดถึง Facebbok ก็นึกถึง Zuckerberg หรือกูเกิล ก็นึกถึง Larry Page หรือ Eric Schmidt
แต่จะว่าไปบางบริษัทเราก็ใช้อยู่ทุกวันแต่ไม่ได้เห็นภาพผู้นำบริษัทชัดนัก อย่าง twitter, samsung, htc
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ทิม คุก โหงวเฮ้ง ไม่ให้อ่ะ
คิดต่าง อย่างสิ้นเชิง
ผมว่าเค้า ดูเป็นคน สุขุม มีมาด ดีออก ผมเพิ่งเห็นหน้าเค้านะ แต่ตอนนี้
รู้สึกชอบ เค้ามากกว่า ลุงจ๊อบอีก
คุณจ็อบส์ กลับมาคราวหน้าอาจจะกลายเป็น iJobs ไปแล้วก็ได้นะ
เป็น Avatar ที่ใช้เสียงสังเคราะห์ที่ใกล้เคียงเสียงจริง
+ ai ใช้สำนวนกับท่าทางเหมือนตัวจริงออกมานำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ
ทีนี้จะได้อยู่คู่ Apple ไปอีกนานแสนนาน...
ผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับประโยคที่ว่า
"แอปเปิลต้องการวิสัยทัศน์" แต่ไม่ต้องการ "ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์" อีกต่อไปแล้ว
ผมว่าแอปเปิลยังต้องการทั้งสองอย่างเท่าเดิมหรือมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ ไม่เช่นั้นจะเกิดปัญหาขึ้น
ปัญหาคืออะไร? ปัญหาคือว่าความโดดเด่นและความสำเร็จของแอปเปิลถูกมองว่าเป็นผลงานของบุคคล(คือจอบส์)มากเกินไป นี่อาจจะเป็นข้อผิดพลาดอย่างหนึ่งของแอปเปิล เพราะผู้คนทั้งภายในและภายนอกจะจ้องมาที่บุคคลที่จะมาแทนจ็อบส์ หากคนเป็นเหมือนจ็อบส์ ทำได้เท่าจ็อบส์ คนนี้จะขาดทุน หากคนนี้ทำได้เท่าจ็อบส์ และมีความแตกต่างสักอย่างโดดเด่นออกมา คนนี้จะเสมอตัว ถ้าเขาอยากจะชนะเขาต้องทำให้ได้ถึงขั้นเสมอตัวก่อน แล้วอดทน อดทน และอดทน จนถึงวันหนึ่งที่ผู้คนทั่วโลกมองไปที่ผลิตภัณฑ์ของแอปเปิล หลับตาแล้วเห็นสัญลักษณ์แอปเปิลแทนหน้าสตีฟ จ็อบส์ใส่แว่นอมยิ้มอยู่
คำถามสำคัญคือ จะไปหาจากไหนล่ะครับ ผู้นำแบบจ็อบส์
ทิม คุก คู
พูดยากนะ ผมมองว่าจ็อบส์กลายเป็น "สัญญัลกษณ์" ไปแล้ว รูปแอปเปิ้ลแหว่งกับรูปชายแก่ใส่เสื้อยืดคอเต่ามันติดตาพอๆ กัน ถึงวิสัยทัศน์ของจอบส์จะคงอยู่ แต่ความรู้สึกของผู้ใช้ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาวก) จะรู้สึกว่ามันไม่ได้เกิดจากจอบส์จริงๆ อันนี้น่าจะกระทบเรื่อง Brand Royalty บ้าง ไม่มากก็น้อย ไหนจะเรื่องการตอบคำถามเวลาผลิตภัณฑ์มีปัญหาอีก (รวมไปถึงการโฆษณาหรือเปิดตัวผลิตภัณฑ์ด้วย) ผมว่าจอบส์มีพลังบางอย่าง ที่ทำให้การกระทำแต่ละอย่างของเฮียแกมี impact เยอะ อันนี้ต้องใช้เวลามากๆ สำหรับคนที่จะมาแทน (นี่ยังไม่นับรวมความกดดันที่คนที่มาแทนจะได้รับไปเต็มๆ เพราะโดนเปรียบเทียบกับจอบส์ตลอดเวลาอีกนะ)
ทำให้นึกถึงช่วงที่เกตส์ค่อยๆ fade ไป แล้วบัลเมอร์โดนเพ่งเล็งและเปรียบเทียบตลอดเวลา (จำได้ว่าช่วงแรกมีแต่คนบอกว่าบัลเมอร์แทนเกตส์ไม่ได้)
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
+1 ต้องรอดู
... ผมจะบอกว่า "แอปเปิลต้องการวิสัยทัศน์"
.... แอปเปิลไม่ต้องการ "วิสัยทัศน์" ใหม่ เพราะสตีฟ จ็อบส์ สร้างไว้ให้แล้วอย่างเหลือเฟือ
อ่านแล้วงง
ประโยคแรกเต็มๆมัน
... ผมจะบอกว่า "แอปเปิลต้องการวิสัยทัศน์" แต่ไม่ต้องการ "ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์" อีกต่อไปแล้ว
ความหมายก็เหมือนประโยค2นั่นแหละ คือแอปเปิลมีวิสัยทัศน์ที่ดีแล้ว และต้องการคนนี้จะมารักษาวิสัยทัศน์นี้ไว้ มากกว่าคนที่จะสร้างวิสัยทัศน์ใหม่ขึ้นมา
และต้องการคนที่จะมารักษาวิสัยทัศน์นี้ไว้
พิมพ์ผิด edit ไม่ได้แล้วด้วย -0-
แรกๆ ก็อาจจะขัดเขินกันอยู่บ้าง สักพักก็จะกลับมาเด่นดังเหมือนเดิม ถ้ารูปแบบยังนำสมัยกว่าชาวบ้านอยู่เสมอ
ทำไม iphone ที่คุณจ็อบส์ถือจึงเป็นสีขาว
มันคือ i4 ของ TWZ ครับ
ผมว่าสินค้า apple อันแรกที่ออกมามันไม่เคยสมบูรณ์เลย แต่มีบางอย่างที่เป็น "ว้าว" ทำให้เหล่าสาวกมองไม่เห็นจุดอ่อนของสินค้า ซึ่ง jobs เก่งมากที่ทำแบบนั้นได้
ขอให้หายเร็วๆ ออกมาคิดอะไรที่มัน "ว้าว" อีกเยอะๆ
ตรงที่มีแสง
ผมว่าแกเป็นบุคคลที่ทรงคุณค่าในมุมของเทคโนโลยี่นะครับ แบบนี้ในโลกจะมีอยู่สักกี่คนกันเชียว ? ส่วนใหญ่ CEO ก็จะอิงกับระบบเศรษฐกิจกันทั้งนั้น (คนส่วนใหญ่เป็นไปยังไงเราก็เป็นไปอย่างนั้น) ดูอย่างโนเกีย(รวมถึงบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆอีกเยอะมากๆ) เป็นผู้นำตลาดอยู่ตั้งนานแกก็ยังเอาแต่ จะปั๊มเงินอยู่นั้นแหละ ไม่คิดจะพัฒนาอย่างจริงจัง โลกนี้ถ้าไม่มีคนอย่างแกนี่ เทคโนโลยีของโลกคงถอถอยไปอีกนาน ป่านนี้เราคงต้องใช้ โทรศัพท์แบบปุ่มกดไปอีกสักร้อยปีมั็ง - -* ถ้าแกตายละยุ่งเลย ยังไงผมก็อยากให้คนอย่างนี้มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ไปอีกนานๆ
ส่วนเรื่องหา CEO ทดแทนแก คงยากหน่อยละครับคนอย่างนี้จะมีสักกี่คนในโลกใบนี้กันเชียว
สำหรับเรื่องเขียนข่าว ผมว่าก็เป็นบทควาที่ดีนะครับ ส่วนตัวแล้วผมชอบที่จะอ่าน ความเห็นของคนเขียนด้วยซ้ำไป สำหรับผมไม่ถือว่าเป็นการชี้นำหรอกครับ ในความเห็นของผมแล้วถือว่าเป็นการให้ข้อมูลแนวความคิดของผู้เขียน ส่วนเราผู้อ่านซึ่งพอจะมีสติปัญญาอยู่แล้วก็นำไปพิจารณาเอาเองว่า มันควรเป็นตามนั้นหรือไม่ (มันไม่แปลกหรอกถ้าเราจะมีแนวความคิดคล้อยตามหรือคัดค้าน หรือ อื่นๆ)
เพิ่งเคยเห็นหน้า Tim Cook ก็คราวนี้แหละ ดูเขาเป็นคนสุขุมนะ
Apple ยุคหลัง Jobs จะเป็นยังไง คนที่จะตอบได้ดีที่สุดน่าจะเป็นคนของ Apple เอง
คิดว่า Apple ถึงไม่มีลุง Jobs ก็ยังเจริญไปต่อได้ เพราะ iPod, iPhone, iPad, Mac มาในทิศทางที่ถูกที่ควรแล้ว
แต่ถ้าไม่มีลุง Jobs ก็ดูเหมือนจะหมดโอกาสที่จะได้เห็นแนวทางใหม่ๆ จากลุง ที่เหลือก็คงต้องดูว่า Cook และคณะว่าจะชี้แนวทางใหม่ๆ ได้แบบ Jobs หรือไม่ และแนวทางใหม่นั้นจะถูกใจแฟนๆ Apple หรือเปล่า ถ้าทำได้แค่ตามวิสัยทัศน์ของลุง Jobs ผมว่า Apple คงจะหมดเสน่ห์อยู่ดี
จะบอกว่า ชอบ คนนี้ tim cook เพิ่งเคยเห็นหน้า แต่ถูกชะตา
ผมว่า jobs คือ "ปรากฏการณ์" บนโลก IT เลยทีเดียว
จะหาทดแทนคงเป็นไปได้ยาก ขนาด Ballmer กอดคอมากับ Gates ก็แค่พอไปได้
ไม่รับ ทักษิณ ไปเป็น CEO บ้างหรอ เก่งน้า
เคยอ่านเจอว่า 90% ที่บริบัทไปได้ไกลเพราะว่าผู้ตามเก่งอะ ไม่ใช่ผู้นำ เหมือนประเทศ นายกเก่งคนเดียวมันจะไปรอดได้ยังไง
ซึ่งก็ make sense นะ ส่วนกรณี apple ไม่รู้จะเป็นแบบไหน
ผมไม่มีความรู้เชิกการตลาดสักเท่าไร
แต่ผมใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องแรก ก็ MacSE ใช้ 6.0.7T โน่น
ซี่งประทับใจในความเรียบง่ายของ UI ของ Mac
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ลุงจ๊อบส์หายไวไวครับ
ตา Jobs แกไม่มีลูกหรอครับ
มี ญ 3 ชาย 1 ครับ
comment หลายๆ อัน เหมือนด่วนตัดสิน ทิมคุกไปก่อนแล้ว ไม่ให้โอกาสเค้าบ้างเลย
Jonathan Ive +1
+1 ครับ ชอบมาดของ Jony Ive มากกว่า เท่ดี
+1 ครับ ชอบเสียงและมาดเฮียคนนี้มากครับ
twitter.com/exfictz
ผมสังสำเนียง British เค้าไม่ค่อยรู้เรื่อง :(
ผมว่าคนนี้ก็ดีนะ มาดเป็นไอดอลได้เลยเหมือนกัน ส่วนเรื่องภายในอาจจะต้องเป็น คุก คืออาจจะต้องรวมหลายคนเพ่ือให้กลายเป็น 1 จ๊อบ
ที่ผมเสียดายคืออาจจะไม่ได้เห็นไอเดียที่แปลกใหม่แบบของจ๊อบเนี่ยแหละ (อย่าง iPhone ที่ทำให้วงการมือถือเปลี่ยนไปหมด)
จริงๆ ผลิตภัณฑ์หลายชิ้นก็ไม่ใช่ไอเดียของจ็อบส์นะครับ อย่าง iPod ก็ไม่ใช่ เพียงแต่จ็อบส์นำมาขยายผลจนได้ดิบได้ดี (ซึ่งก็ต้องให้เครดิตไม่แพ้กัน)
ผลประกอบ Apple ดีสุดๆ แต่ Jobs ไม่อยู่ หุ้นร่วง
จริงๆ วันนี้ เวลานี้ คือจุดที่ดีที่สุด สูงที่สุด ของ Apple เท่าที่เราเคยเห็น ในอนาคตทำให้ดีเท่ากับปัจจุบันก็ยากแล้ว ส่วนดีกว่านี้ต้องครบเครื่องสุดๆ..
ผมว่านี่เป็นปรากฏการณ์ เพราะภาพคือ Apple = Jobs และ Jobs= Apple เมื่อหายไปก็เป็นห่วง อนาคตก็ไม่ใส ธุรกิจมีขึ้นมีลง Apple ต้องทำให้เห็นว่า ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคนๆ เดียว
ถามว่า Jobs ไม่อยู่จะเจ๊งมั๊ย ก็ไม่เจ๊งหรอก ยังไปได้แต่จะดีเท่าที่ผ่านมามั๊ย ตอบยาก เพราะต่อให้ Jobs อยู่ก็ใช่ว่าจะง่ายที่จะทำให้สุดยอดแบบนี้ แต่ถ้าอยู่จะดีกว่า.......เอ๊ะยังไง
Apple คงเตรียมการรองรับกรณี Jobs ไม่อยู่ไว้แล้ว แต่เราอาจจะไม่เห็น หรือครั้งนี้ก็เป็นหนึ่งในการเตรียมการก็ได้.....
ในมุมผม ถ้าไม่มี Jobs แล้วเจ๊ง ก็เป็นความผิดพลาดของ Apple/Jobs เอง ที่ไม่ถอยตัว Jobs ออกมา เอาแบบค่อยๆ ถอนออกมา เช่น เปิดตัวสินค้า ให้พี่แกไปร่วมงานแต่ไม่ต้องขึ้นเวทีก็ได้ หรืองานสัมภาษณ์ต่างๆ ก็ไม่ต้องให้แกตอบก็ได้ จัดทีมงานดีๆ มาทำแทน ภาพแกจะค่อยๆ ลงไป หรือง่ายๆ ไม่ต้องให้แกเป็นข่าวมากเกินไป
ส่วนทิม คุก ไม่มีความเห็นครับ จนกว่าจะมีใครเอาบทสัมภาษณ์พี่แกมาลง
เห็นด้วยนะ Apple ไม่ต้องการ jobs แล้ว
ต้องการคนมา improve efficiency ลด waste ของ Apple system มากกว่า
GE ก็ประสบความสำเร็จจากวิธีแบบนี้มาแล้ว
Jonathan Ive น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี ในด้านสัญลักษณ์
twitter.com/djnoly
ทิม คุกคือนักบริหารที่ดี แน่นอนว่าเค้าสามารถบริหารบริษัทให้ไปรอดได้
แต่คนที่จะมาแทนจ๊อบส์อาจจะต้องมีมากกว่าการเป็นนักบริหาร
เอาจริงๆ คงไม่มีใครมาแทนจ๊อบส์ได้ ต่อให้แอปเปิลพยายามถ่ายเลือดยังไง โลกก็ยังต้องการคนแบบจ๊อบส์อยู่ดี
อยู่ไปนานๆ นะป๋า
ก่อนจากไป ศาสดา จะทิ้งถุงไว้สามถุง
ถ้า apple เข้าตาจนให้เปิดอ่านทีละถุง
555555555
ตาจ็อบเป็นคนที่เปลี่ยนแปลงโลกได้เลยนะครับ จะมีใครมาแทนที่โดยสมบูรณ์คงยากหน่อย
ถ้าตาจ็อบเป็นอะไรไป อย่าลืมแช่แข็งสมองไว้นะ >.<
หายไวๆนะลุง
บริษัทที่ขาดผู้นำที่ได้กลายเป็นสัญลักษณ์หรือโลโก้ขององค์กรไปแล้ว มักจะมีปัญหาในการหาบุุคคลมาทดแทน พูดตามตรงว่าผมเปลี่ยนจากใช้ windows มาเป็น mac ก็ตอนที่จ๊อบส์อยู่นี่แหล่ะ ~~'
z^z ผู้ที่ได้มากกว่า windows กับ mac คือผู้สร้าง
กลับมาอ่านอีกทีก็ยังทันอยู่นะเนี่ย
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ