ช่วงวันสองวันนี้ ข่าวที่วงการไอทีต่างประเทศพูดถึงกันมากคือ Color แอพสำหรับแชร์ภาพถ่ายบน iPhone/Android
แนวคิดของ Color จะต่างไปจาก Instagram/PicPlz อยู่บ้าง เพราะ Color ใช้งานได้โดยไม่ต้องลงทะเบียน ไม่มีระบบเพื่อน แต่ Color จะบังคับให้เราเปิด GPS เพื่อระบุพิกัดของภาพถ่าย แล้วจัดกลุ่มภาพในระยะใกล้กัน (รัศมี 150 ฟุต) ให้เอง แปลว่าทุกคนที่ไปงานอีเวนต์ใดๆ และแชร์ภาพถ่ายผ่าน Color จะเห็นภาพทั้งหมด (ของใครก็ไม่รู้นั่นแหละ)
แนวคิดเข้าใจลำบากหน่อย ลองเล่นเองอาจจะพอเข้าใจครับ เล่นคนเดียวไม่ได้ด้วย ต้องหาเพื่อนเล่นสักสองคนขึ้นไป
ที่มา - TechCrunch
ความสามารถและโอกาสตลาดของ Color ยังเป็นที่น่ากังขาว่าจะไปได้แค่ไหน (ซึ่งอาจจะไปได้สวย เพราะในอดีต Facebook/Twitter คนก็ไม่เข้าใจว่ามันคืออะไรในตอนแรกๆ) สิ่งที่ทำให้เป็นข่าวกลับไม่ใช่ตัวแอพ Color แต่เป็นเงินลงทุนที่ Color ได้รับจำนวน 41 ล้านดอลลาร์! (มากกว่าเงินลงทุนที่กูเกิลเคยได้ในตอนแรกด้วยซ้ำ)
ปัจจัยสำคัญที่ Color ซึ่งยังไม่เคยมีฐานผู้ใช้เลย ได้เงินสนับสนุนจากบริษัทนักลงทุนเยอะขนาดนี้ ก็เป็นเพราะทีมพัฒนาเป็นการรวมดาวแห่งซิลิคอนวัลเลย์ ผู้นำทีมคือ Bill Nguyen อดีตผู้ก่อตั้งบริการดนตรีออนไลน์ Lala (ที่ขายให้กับแอปเปิล) พร้อมกับอดีตพนักงานของกูเกิลและแอปเปิลอีกมาก
สื่อไอทีหลายแห่งได้วิจารณ์ว่าการที่ Color ได้เงินสนับสนุนถึง 41 ล้านดอลลาร์ ทั้งที่ตัวไอเดียและตัวแอพยังไม่เจ๋งเท่าไร อาจเป็นสัญญาณว่าวงการไอทีสหรัฐ โดยเฉพาะการลงทุนในบริษัทหน้าใหม่ อาจเริ่มเข้ายุคฟองสบู่อีกครั้ง หลังจากที่เคยเกิดขึ้นแล้วกับธุรกิจเว็บจนฟองสบู่แตกในปี 2001
ที่มา - GigaOm, TechCrunch, Business Insider
Comments
ที่อยากรู้คือตอน pitch กับบรรดา VC เขาทำยังไง เล่าอะไร ถึงได้เงินมาขนาดนี้ก็ตามที
แค่บอกว่าไปงานอีเวนต์เดียวกัน ถ่ายภาพจาก Color แล้วมันจะแชร์กันแค่นี้ก็เข้าใจแล้วล่ะ มันเหมือน Auto add printer เลย จากไหนบ้างไม่รู้ ซะป๊ะ
จุดที่น่าสนใจน่าจะอยู่ตรงที่การควบคุม ไม่งั้นจะกลายเป็นช่องโหว่กระจายมัลแวร์เฉย
ทำไมในความเห็นมีแต่คนบอกว่าห่วยหว่า
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
มันเจ๋งตรงชื่อนี่แหละ เอาไปเฉยเลย
นั่นสิ แถมโดเมน color.com ด้วย
มีตั้ง 41 ล้าน โดเมนเอาไป 1 ล้านก็พอ
My iOS apps
My blog
+1
ชอบ domain
เท่าที่ไปอ่านใน TechCrunch เกี่ยวกับวิธีใช้แอพนี้
สมมติตัวอย่างเข้าไปในร้านอาหารกับเพื่อนๆ เราใช้แอพนี้ขึ้นมาถ่ายรูปอาหาร แล้วคนรอบๆตัวเราที่ใช้แอพนี้รัศมี 150 ฟุตก็จะเห็นภาพเมนูอาหารเรา
ถ้าต่างคนต่างแชร์กันถ่ายรูป บางทีเราอาจจะได้ลองเมนูใหม่ๆ (ที่ดูน่ากิน) ก็ได้มั้ง :D
แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าเราไม่ได้ไปร้านอาหารนั้น เราก็สามารถดูจาก"เพื่อน"ได้แทน ว่ารอบๆตัวเพื่อนในรัศมี 150 ฟุตมีใครแชร์รูปสถานที่นั้นบ้าง!
"Color is trying to give you a way to see everything that’s going on around you, and everything that’s going on around the people you care about."
นั่นก็คือ แฟนเราก็สามารถเห็นภาพบรรยากาศรอบๆตัว (รัศมี 150 ฟุต - กรณีมีคนใช้แอพนี้รอบตัวเรา) ได้นั่นเองแม้ไม่ได้มาด้วย! (แอบหนีเที่ยวไม่ได้แล้วสิ!)
เหมือน foursquare เหรอครับ
มีคนเปรียบว่ามันคือ Foursquare เวอร์ชันภาพถ่ายครับ
เราถ่ายรูปอาหารในร้านแล้วโพสท์ โต๊ะข้าง ๆ ถ่ายรูปกันเองมาติดเรากับสาวที่มากินข้าวด้วย
งานเข้า!
นั่นแหละ ประเด็น!
ตายแน่นอน -
จริง ๆ ผมชอบแนวคิดมันมากนะ
มันอาจจะถูกสร้างมาจากงานวิจัยหลาย ๆ งาน และหลายความจริงที่ว่า
การแสดงความเห็นแบบไม่เผยตัวตนจะทำให้ได้การแสดงความเห็นที่จริงใจ แต่แน่นอน อาจจะตามมาด้วยความวุ่นวายได้ อันนี้ต้องดูว่าจะควบคุมอย่างไร
มนุษย์เป็นสัตว์สังคม อันนี้ Social Network จะต้องสร้างความสัมพันธ์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งอยู่แล้ว ตรงนี้ไม่ต้องพูดก็รู้กันดีอยู่แล้ว
เราย่อมไปในที่ ๆ เราอยากไป หรืออาจจะไม่อยากแต่จำเป็นต้องไป แต่ทุกที่ย่อมมีจุดน่าสนใจอยู่บ้างไม่มากก็น้อย จุดที่เราอาจจะสนใจนั้นอาจจะมองไม่เห็นจากมุมของเรา แต่ในระยะ 150 ฟุต อาจจะมีคนเห็น และแชร์มัน
ภาพที่แชร์แทนคำพูด ซึ่งภาพนั้นให้จิตนาการมากกว่า และบอกเรื่องราวได้มากกว่าในหลายกรณี
เพจตัวอย่างผลงานถ่ายภาพ / วีดีโอ
ถ้าเอาไป link กับ แผนที่ google ตอนนี้ที่มี street view ได้ ก็คงจะดีไม่น้อย แต่มันจะติดเรื่องสิทธิส่วนบุคคลรึเปล่า ถ่ายเห็นหน้าคนอื่น แล้วมีคนเข้ามาดูได้หมดเลย
อ่านประโยคนี้แล้วยิ่งใหญ่จริงง
ใน App Store โดนด่ายับเลยแอพนี้ บ้างก็บอกว่าไม่มีวิธีใช้เลย มีอยู่ 3 ปุ่ม ไม่รู้ปุ่มไหนทำอะไร กับเรื่องความเป็นส่วนตัว
ได้เรทติ้งแค่ 2 ดาวเอง
http://itunes.apple.com/app/color/id427763573?mt=8
อ่านแล้ว...มันขนาดนั้นเลยเหรอ
เอาไว้ดูใครแอบตามมาหรือเปล่า
สมมุติว่าไปเที่ยวนครวัด แล้วทุกคนใช้ App นี้ เราคงจะได้เห็นมุมมองที่แตกต่างกันนับร้อยนับพันเลยทีเดียว ส่วนตัวผมชอบนะ
แต่เงินลงทุนทำไมมันเยอะจังหว่า??
Jusci - Google Plus - Twitter
นัดแนะกันให้อยู่คนละมุม ภาพที่ได้เหมือนพาโนรามา 3D เลย
ลองใช้ดูนิดหน่อยแล้วครับ
แต่งงๆปุ่๋มนิดหน่อย คงต้องศึกษาเพิ่ม เพราะไม่มีวิธีใช้ให้ดู + เมนูไม่สื่อซักหน่อยครับ
เพิ่งอัพลองแถวๆอโศกไป 2 รูปเองครับ มีคนลองเล่นเหมือนกันด้วยแฮะครับ
เรื่องสนุกๆที่ผมนึกออกก็คือ มันจะเหมือนกับเป็น Google Earth ที่มองจากมุมมองผ่านกล้องแทน / ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด เมื่อเราเปิดรูปภาพหนึ่งขึ้นมา มันจะก็แสดงภาพอื่นๆที่อยู่ในระยะ 150 ฟุตให้เห็น พอเราคลิกดูที่รูปภาพอีกรูปนึง ก็จะเปลี่ยนศูนย์กลางของ 150 ฟุตเป็นรูปนั้นแทน เป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆจนไม่มีที่สิ้นสุด ... ซึ่งถ้ามีรูปภาพในระบบมากพอและทั่วทุกแห่งหนในโลก ก็หมายความว่าเราสามารถเที่ยวรอบโลกได้โดยไม่ต้องเดินทางไปถ่ายภาพเองเลย
แล้วเค้าจะถอนทุนคืนได้ยังไง
ถ้ามันดังขึ้นมาจะจัดการกับรูปจำนวนมหาศาลยังไง เดินเข้าร้านทีรูป load มา 1,000 รูปเป็นรูปคนไม่รู้จักเค้ากำลัง party เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว อยากรู้เค้ามีวิธีจัดการความเกี่ยวข้องกับความสดใหม่ยังไง
My iOS apps
My blog
ผมว่ามันน่าสนใจนะครับ ถ้ามันเป็นเรื่องของ สถานที่+เวลา หากเว็บเปิดไป 10ปี เราถ่ายรูปวัด อยากเห็นว่าเมื่อ 10 ปีก่อนเป็นอย่างไร หรือถ่ายสถานที่เกิดเหตุ ผมว่ามันมีประโยชน์ทีเดียว แต่ไม่แน่ใจว่ามีกำหนดช่วงเวลาหรือเปล่า
น่าลงทุนในระยะยาวนะ ลองคิดดู ว่าเวลาผ่านไปหลายๆปี และจำนวน user มีมากขึ้น data ที่เก็บไว้จะมีคุณค่าขนาดไหน เผลอๆ google อาจมาซื้อ data เข้าไปรวมกับ google map ก็เป็นได้
แต่ในระยะสั้น อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด
มีใครใช้กับ Galaxy S ได้บ้าง?
แย่งคำถามผมไปซะแล้ว
ใช้ได้ครับ :)
หาใน market เจอด้วยหรอครับ?
หนึ่ง scenario
ไปงานปาร์ตี้ ถ่ายรูปกันเล่นด้วยมือถือในงาน กดแชร์ขึ้น color คนในพื้นที่นั้นเห็นรูปที่เพื่อนถ่ายกัน
My blog
ใช้กับ Galaxy Tab ไม่ได้แฮะ มันให้กด Start แต่กดไม่ได้
เพจตัวอย่างผลงานถ่ายภาพ / วีดีโอ
ตอนแรกก็กดไม่ได้เหมือนกัน
แต่พอผ่านไปซักพักหยิบมากดใหม่ กดได้แหะ
ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
แต่ผม Optimus one นะ
เช่นกันครับ อยู่ ๆ ก็ใช้ได้ละ ประหลาดดี แต่ปุ่มมันกดซ้ำแล้วเปลี่ยน Mode ได้อีก ถ้าไม่มีคู่มือบอกในเวปเลย มันก็ค่อนข้างสร้างความสับสนได้ แต่ผมชอบไอเดียว มันน่าจะ Work แต่ในไทยจะ Work ไหมไม่รู้เหมือนกัน ใช้แถวบ้านไม่มีคนใช้เลย แต่บ้านผมมันไกลผู้ใกล้คนมีแต่สวน 5 5 5
เพจตัวอย่างผลงานถ่ายภาพ / วีดีโอ
อย่าแอบถ่ายคลิปนะ
แนวคิดเดียวกับ picture multicast ที่วิ่งบน wlan กับ BT แต่นี่วิ่งบน internet เลยทีเดียว
คลื่นลูกใหม่มาแล้ว
น่าสนใจดี ได้มองโลกในมุมที่คนอื่นมอง