สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าแอปเปิลได้ยื่นร่างมาตรฐานของซิมการ์ดแบบใหม่ไปยัง The European Telecommunications Standards Institute (ETSI) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลมาตรฐานโทรคมนาคมของยุโรป
ตัวแทนของ ETSI ยืนยันว่าแอปเปิลเสนอร่างมาตรฐานเข้าไปจริง ส่วนการพัฒนาไปเป็นมาตรฐานของ ETSI ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเดินหน้าอย่างไร และกระบวนการทั้งหมดอาจใช้เวลามากกว่า 1 ปี ถ้าหากบริษัทต่างๆ ในอุตสาหกรรมมีความเห็นที่ขัดแย้งกัน
ส่วนตัวแทนจาก Orange เครือข่ายมือถือของฝรั่งเศสออกมาสนับสนุนร่างมาตรฐานของแอปเปิล โดยระบุว่าซิมการ์ดแบบใหม่จะเล็กกว่า Micro SIM ที่ใช้ใน iPad/iPhone รุ่นปัจจุบัน
มาตรฐาน Micro SIM ก็ถูกรับรองโดย ETSI เช่นกัน โดยออกเป็นมาตรฐานในปี 2003
ที่มา - Reuters
Comments
ต้องชื่อว่า Nano sim แน่ๆ
เล็กไปอีกก็ต้อง Pico sim
iSIM
อีซิ้ม?
แค่ Micro Sim ก็ว่าเล็กแล้ว ยังจะเล็กกว่าอีกเหรอ แค่นี้นิ้วหยิบยังหยิบมะได้เลยจ้า
กลายเป็นตัวแปรสำคัญ ในธุรกิจโทรคมนาคมไปแล้ว Apple ..
my blog
Gek SIM
ฮา...ฮ่าๆๆๆ
Like Like Like 5555+
:: DigiKin8 ::
^^
เอาพื้นที่ประหยัดได้ไปทำอย่างอื่นได้อีกสินะ
งั้นไม่ต้องใส่ซิมเลยก็ได้นะ T_T เบื่อเวลาถอดซิมอยู่ เหอะๆๆ
R-SIM
แล้วก็จะมี sim adapter ออกมาขาย
ไม่ต้องมีซิมเลยดีสุดครับ
เวลาเปลี่ยนค่ายทำไงอ่ะครับ
serial number ดิครับ
ฟังดูแล้วแปลกๆ ครับ อธิบายนิดนึง
คงหมายถึงใช้ Serial Number ในการเช็คว่าเครื่องขึ้นอยู่กับเครือข่ายไหนมั้ง
เหมือนมือถือเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว?
ต้องเอาแบบ ปลอดภัยไม่ถูกจูนด้วยหรือปล่าว?
ดักแก่มาก 555
จำได้ว่าสมัยก่อนต้องใช้มือถือกันระวัง+ระแวงกันไปหมด พ่อผมก็เคยโดนทั้ง Cellular 900 (แต่ต่อมาเค้าก็มีระบบป้องกัน เลยจูนยากหน่อย) แล้วก็ WorldPhone 800 รายนี้ต้องป้องกันด้วยการกดโค๊ด 4 ตัวตอนโทรออกแทน (แต่ก็มิวายโดนจูนแล้วคนจูนเอาไปโทรได้เป็นพัน โชคดีที่ถ้าโดนจูนจริงเราก็ไม่ต้องจ่ายตรงนั้น) กว่าจะโทรออกแต่ละทีนี่ต้องมากดโค๊ดด้วย ท้ายเดือนก็ต้องมานั่งดูบิลให้ดี นี่แหละความลำบากของโทรศัพท์ยุค 1G
..ตอนนี้โทรศัพท์ 2G (GSM) ดีขึ้นมากมาย ไม่ต้องมาพะวงโดนจูนอะไรแบบนั้นแล้ว ว่าแต่...เราอยู่กับระบบ 2G มานานเท่าไหร่แล้วเนี่ย แล้วโลกเขาไปถึงไหนแล้วเนี่ย ไม่เคยได้ใช้อะไรทันโลกกับเค้าเลย..เพราะผมอยู่สารขัณฑ์แลนด์ แดนหลังเขา :D
ผมจำได้ เคยทำหล่นใส่ขา เจ็บปวดมาก เครื่องใหญ่และหนักมาก
ที่ต่างประเทศ เขาคงไม่ค่อยเปลี่ยน sim เหมือนคนไทยหรือเปล่า เลยทำให้เล็กจิ๋วๆ ได้ไม่กลัวหยิบแล้วหล่นหาย
จะว่าไปแล้วขนาดของ Sim ก็คงเป็นอีกปัญหาหนึ่งในการออกแบบ Product (ให้เล็กลง)
ถ้าย้อนไปดูเมื่อปีที่แล้ว Apple ได้หารือกับผู้ให้บริการหลายรายในสหภาพยุโรป ว่าจะทำ iPhone ที่ไม่มี sim แบบถอดใส่ได้ คือทำแบบโทรศัพท์ CDMA ของ Verizon ไม่มีซิม แต่ผู้ให้บริการ GSM ในยุโรปโวย ไม่เอาด้วย ปีนี้เลยพยายามให้ sim มันเล็กลงอีก...รอดูกันต่อไป
เพื่อ?
เรื่องนี้ขอใช้คำว่า "ด่า" เลยนะครับ สำหรับ Apple, ถ้าไม่มีเหตุผลอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากการทำให้มันเล็กลง หรือสนับสนุนการทำงานด้านการส่งผ่านข้อมูลที่ดีขึ้นกว่าเดิม
กรณี Thunderbolt ก็ทีนึงแล้ว แต่นั่นก็พอรับฟังได้นะครับ พยายามรวมศูนย์การรับส่งข้อมูลให้เร็วขึ้น และทำให้เป็นหนึ่งเดียว (LAN, จอ, Ext.Storage, etc... เส้นเดียว หรือหลายเส้น แต่เป็นแบบเดียวกันหมด)
แนวคิดเกี่ยวกับ Computer ในทุกวันนี้เป็นไปในทิศทางของการพยายามรวมศูนย์ด้วย Standard แต่ Apple คิดจะสร้าง Platform ตัวเองขึ้นมา และพยายามผลักคนอื่นให้เข้ามาอยู่ในคอกของตัวเอง เพื่อที่จะได้เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้อย่างมหาศาล
ป.ล. เหมือนตอน Google พยายามสร้าง webm, webp ขึ้นมา ตอนแรกผมก็ fail แต่ถ้ามีเหตุผลเรื่องขนาด และประสิทธิภาพเข้ามาเกี่ยว อันนี้ก็พอรับได้ครับ
หัวข้อข่าวว่า เสนอมาตรฐานนะครับ
Apple ไม่ใช่องค์กรณ์การกุศล
เขาออกแบบเทคโนโลยีใหม่เสมอ และหาวิธีหารายได้เพิ่มเสมอ
"แนวคิดเกี่ยวกับ Computer ในทุกวันนี้เป็นไปในทิศทางของการพยายามรวมศูนย์ด้วย Standard แต่ Apple คิดจะสร้าง Platform ตัวเองขึ้นมา และพยายามผลักคนอื่นให้เข้ามาอยู่ในคอกของตัวเอง เพื่อที่จะได้เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้อย่างมหาศาล"
แล้ว???
เท่าที่ผมทราบแนวคิดมันก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็บอกรวมศูนย์ดี เดี๋ยวก็กระจายดีกว่า
คิดเหมือนกันหมด แล้วมันจะมีอะไรใหม่ขึ้นมา
ถ้าเขาไม่สนับสนุนเทคโนโลยีของเขา อีกฝากนึงก็ได้ผลประโยชน์เท่านั้นเอง
แอปเปิลอาจมีเหตุผลของเขาครับ และเสนอมาตรฐานไปที่ ETSI ตามข่าว
ที่เรารู้สึกว่าไม่มีเหตุผลเป็นชิ้นเป็นอันเพราะเขาไม่ได้เสนอมาตรฐานหรือเปิดเผยมาตรฐานกับคนทั่วไปอย่างเราๆ น่ะครับ
ถ้าม Sim card มีมาตรฐานใหม่ออกมา คนที่ได้ประโยชน์ก็คงไม่ใช่ Apple ฝ่ายเดียว เพราะมือถือค่าย อื่น ๆ ก็สามารถออกแบบโทรศัพท์ที่บางกว่าเดิมได้เช่นกันครับ
เสนอมาตราฐานใหม่ที่เล็กกว่าเดิม กลายเป็นสร้าง Platform ซะงั้น...
ถึง Apple ไม่เสนอสักวันก็มีคนมาเสนออยู่ดีนั่นแหละครับ ถ้ามันเล็กลงก็ได้พื้นที่เครื่องไว้ใส่อะไรๆมากขึ้น เครื่องอาจจะบางขึ้นได้ด้วยซ้ำถ้ามันบากจนใส่ไว้แนวขวางได้
อะไรที่มันออกมาแล้วพัฒนาดีกว่าเดิมจะมากหรือน้อยมันก็พัฒนาครับ ส่วนเรื่องที่ใครจะยอมรับอะไรยังไงมันเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนซะมากกว่า
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
ถ้างั้นป่านนี้โลกคงนังไม่มี Smart-Phone ที่ใช้นิ้วจิ้มหรอกครับ และ Netbook ก็ยังอยู่ต่อไป (ดีไม่ดี Floppy Disk อาจจะยังอยู่)
+Million และเผลอๆ USB ก็จะไม่ถูกใช้แพร่หลายอย่างทุกวันนี้
วิจารณ์แบบด่วนสรุปเกินไป
วิจารณ์แบบขอให้ได้ด่าสินะคับ
Apple
"ถ้าไม่มีเหตุผลอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากการทำให้มันเล็กลง หรือสนับสนุนการทำงานด้านการส่งผ่านข้อมูลที่ดีขึ้นกว่าเดิม"
WebM
"มีเหตุผลเรื่องขนาด และประสิทธิภาพเข้ามาเกี่ยว อันนี้ก็พอรับได้"
ขนาดและความสามารถของสองกรณีนี้มันต่างกันตรงไหนอ่ะคับ
ถ้าไม่มีใครแหวกแนวออกจากมาตราฐานเดิมๆเราก็คงยังอยู่ในยุคหินครับ
+1000
รีบร้อนไปหน่อย น่าจะตรองดูอีกนิดครับ
อย่าไปคิดแทนคนอื่น
ควรมองอะไรให้กว้างขึ้นนะครับ
ขนาดเล็กลงอย่างเดียวไม่ดี? ทำไมไม่ดี สิ้นเปลืองพลังงานและวัสดุในการผลิตน้อยกว่า ต้นทุนทางวัตถุดิบต่ำกว่า ผลิตได้ครั้งละมากกว่า ส่งได้ครั้งละมากกว่า ประหยัดทรัพยากรโลกได้มากขึ้น มันไม่ดีตรงไหนเหรอครับ?
That is the way things are.
เข้าใจคำว่า "นวัตกรรม" ไหมเนี่ย!?
ถึงมันจะเกี่ยวกับประสิทธิภาพ แต่ประสิทธิภาพก็ไม่ใช่ทุกสิ่งนะครับ
คุณไม่ชอบเพราะอะไร ลองบอก "เหตุผลอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน" ให้ฟังหน่อยสิครับ
เล็กลงนี่ ในแง่ของเศรษฐศาสตร์ และการผลิต ถือว่าก้าวหน้ามากไหมครับ?
และมันอาจจะกลายเป็นแค่ Chip ที่เปลี่ยนข้อมูลจากเครื่อง หรือ Operator ได้เลย โดยไม่ต้องเปลี่ยนซิม
เป็นไปได้ไหมครับ?
"แนวคิดเกี่ยวกับ Computer ในทุกวันนี้เป็นไปในทิศทางของการพยายามรวมศูนย์ด้วย Standard"
มันแนวคิดของใครเหรอครับ?! ถ้าสมมุติทุกอย่างมี Standard เป็นหนึ่งเดียวกันทั้งหมด คุณจะยังพอใจไหม!?
มันจะเรียกโลกเทคโนโลยี ได้หรือเปล่า...!? แล้วถ้าอะไรที่ผุดออกมานอก Standard เป็นที่ยอมรับไม่ได้
ไม่สามารถสร้างตลาด และผู้ใช้ใหม่ๆ ได้ มันยังเรียกนวัตกรรมได้อีกหรอครับ!?
ทุก Standard วันหนึ่งก็จะต้องจากไป แล้วเกิดสิ่งใหม่ขึ้นมาแทนที่ ถูกไหมครับ?
แล้วสิ่งเหล่านั้นไม่เรียก Innovation หรอครับ?
(นวัตกรรม ก็คือการออกจาก มาตรฐานหนึ่งไปสู่ (ว่าที่) มาตรฐานใหม่นะ ผมว่า)
รากของคำว่า Technology มาจากอะไร?
มันไม่ได้มาจากคำว่า téchnē ที่แปลว่า การสร้างสรรค์ ศิลปะ กับคำว่า logia ที่แปลว่า การศึกษาหรอครับ?
ส่วน Innovation มาจากอะไร?
ก็มาจาก in- ที่แปลว่า ไปสู่ + novus ที่แปลว่า สิ่งใหม่ ไม่ใช่เหรอครับ?
ทำให้มันเล็กลงเป็นเหตุผลไม่พอเหรอครับ
ความคิดแปลกๆนะเรา คิดเหมือนคนยุคก่อนอารยธรรมเลย "จะสร้างบ้านไปทำไม อยู่ในถ้ำก็กันแดดกันฝนได้เหมือนกัน ไม่ต้องเหนื่อยแรง"
สรุปคือ คุณควรไปอยู่ "ถ้ำ" ครับ
ถ้าเล็กกว่า micro SIM ที่มันเล็กเท่าวงจรอยู่แล้ว แบบนี้จะใช้กับ SIM เดิม ๆ ไม่ได้เลยหรือเปล่าเนี่ย
มาทำให้คนใช้ลำบากอีกแล้ว - -
อยากให้ใช้วิธีเปลียน ระบบ ซิมการ์ดใหม่จัง
แบบว่า ถ้าอยากเปลี่ยนเบอร์ ก็เอากล้อง ไปถ่ายโค๊ต ปุ๊บ
ก็ยายค่ายเปลี่ยนเบอร์ได้เลย
อะไรอย่างนั้น ไม่ต้อ้งถอดเข้าถอดออก
ทำ NFC sim เลยละกัน ใส่รหัสในเครื่องหน่อยนึง เอาซิมแตะเปลี่ยนค่ายแล้ว เย่!
May the Force Close be with you. || @nuttyi
Hard Reset , Flash รอมใหม่ทีหายไปทั้งซิม..
ก็เอาซิมที่มีอยู่มาแตะอีกที.. มันสะดวกตรงคนใช้หลายๆ ซิมนี่แหละ แตะเปลี่ยน แตะเปลี่ยน
May the Force Close be with you. || @nuttyi
สำหรับหลายคนที่คิดว่าซิมเล็กๆ แบบนี้ ไม่มีซิมไปเลยดีกว่า จริงๆ แล้ว Apple เค้าก็คิดจะทำแบบนั้นนะครับ แต่... ลองไปอ่านข่าวเก่านี้ครับ http://www.blognone.com/news/20048
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ผมเห็นด้วยกับแบบนี้นะ ถ้าทำได้จริงจะไม่มีปัญหาเครื่องหายอีกเลย
เดี๋ยวก็มีคนถอดรหัส แปลงมันเป็นอีกรหัสนึง เอาไปใช้ได้อีก แหละท่าน
SIM จริงนั้นมี 3 ขนาด Full Size เท่าบัตรเครดิต (ใครเคยเห็นมั่งอ่ะ), Mini ขนาดเท่าที่เราคุ้นเคย, และ Micro อย่างที่ใช้ใน iPhone4
จริงๆด้วยเทคโนโลยี คงจะสามารถทำให้วงจรมันเล็กๆและเสียบได้ง่าย แต่ตอนนี้มันติดที่หน้าสัมผัสที่คงจะเล็กไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว ถ้าจะทำให้เครื่องบาง/เล็กกว่านี้อีก การปรับเปลี่ยนไปใช้ form-factor อื่นก็น่าจะทำให้เครื่องโทรศัพท์เล็กและบางกว่านี้ได้อีก
ว่ากันตรงๆ ต่อให้มาตรฐานออกมา ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเปลี่ยนได้ในชั่วข้ามคืน และคงไม่ได้เปลี่ยนกันทุกเครื่องทุกค่าย อีกหน่อยก็คงมีผลิตภัณฑ์ตระกูล adapter มาจำหน่ายสำหรับใช้กับเครื่องรุ่นก่อนๆอยู่ดีอ่ะแหล่ะ
Full Size นี่อย่างการ์ด TrueVisions ใช่ไหมครับ?
^
^
that's just my two cents.
บัตรประชาชนด้วยเปล่าหว่า
แบบ ATM ด้วยใช่มั้ยครับ?
ATM มันแถบแม่เหล็ก นะ
ยกเว้นพวกที่ ใช้จ่ายเงินได้ ที่มีเหมือนชิป
บัตรเครดิตก็มีสองแบบเลย
อันนั้นมัน Smart Card ไม่ใช่เหรอครับ? หรือมันอันเดียวกันกับ SIM ??
^
^
that's just my two cents.
ข้างในเหมือนกันเลยครับ
ซ้ำ
ตกพื้นทีหายไปเลย อย่าง Micro SD หึๆ
SPICYDOG's Blog
ข่าวนี้เสริมกับข่าวคอนเดนเซอร์แบบใหม่ของอินเทลพอดี ต่างคนต่างเล็ก เอาไว้ทำโทรสับขนาดเล็กหรืออุปกรณ์สำหรับสอดแนมเพื่อส่งข้อมูล อาจจะได้เห็นปากกาโทรสับ แว่นตาโทรสับ กระดุมโทรสับ ลิปสติกโทรสับ
ไม่อยากนึกถึงตอนเปลี่ยนซิมแล้วลมพัดปลิว 555
ซิมธรรมดาก็ต้องระวังหายจะตายแล้ว
micro sim ยิ่งไปอีก
ถ้าให้เล็กอีก ต้องแม็กไว้กับเนื้อกันหายหละทีนี้
ต่อไปต้องมี App Find MY SIM แล้วล่ะ
ผู้ผลิตซิมสำหรับปลดล็อคคงปวดหัวหน้าดู
เป็นแบบ ซิมไมโครเท่าเดิม แต่ข้างในบรรจุ QuadCore
หรือว่า NoSIM ดี... (นี่กลายเป็นโหวตชื่อไปเฉยเลย)
แค่ซิมปกติก็หายากอยู่ล่ะ ไอ้ MicroSim ก็ยิ่งหายากไปอีก แล้วถ้าเล็กกว่านี้จะหาเจอมั้ยเนี้ย -0-
นึกสภาพตอน xxx Sim มีขนาด 33mm --
33mm ใหญ่กว่า sd อีกนะครับนั่น
ตกจุดไปตัว 1 คร้าบบบบบ T-T
3.3mm
ใกล้ถึงยุคกระดาษแล้วสินะ หึหึ e_e
หรือว่าตั้งใจจะกันพวกทำ 2 SIM / Unlock SIM ให้ไม่มีที่พอจะใส่วงจรกันครับเนี่ย ??
อาจจะอยากให้เล็กลงอีก เพื่อทำ iPhone2sim ก็ได้นะครับ
และดีทีวีได้ด้วย ^^
~ HudchewMan's Station & @HudchewMan~