บริษัทวิจัย IDC เผยตัวเลขยอดขายและส่วนแบ่งตลาดมือถือโลกประจำไตรมาสที่สองของปี 2011
ตลาดรวมโต 11.3% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ขายมือถือได้ทั้งหมด 365.4 ล้านเครื่อง (น้อยกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย และน้อยกว่าอัตราการเติบโตของไตรมาสแรก) ที่น่าสนใจคือสัดส่วนของฟีเจอร์โฟนต่อสมาร์ทโฟนเริ่มเปลี่ยนแปลง โดยยอดขายฟีเจอร์โฟนลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 (ไตรมาสนี้ลดลง 4%) ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่าฟีเจอร์โฟนเริ่มลดความสำคัญลง
สำหรับส่วนแบ่งตลาดมือถือ รอบนี้ IDC เปิดเผยเฉพาะยอดขายมือถือรวมทุกประเภท (ไม่ได้แยกเป็นสมาร์ทโฟน) โดย 5 อันดับแรกยังคงเดิมคือ โนเกีย ซัมซุง แอลจี แอปเปิล และ ZTE แต่สัดส่วนเริ่มเปลี่ยนแปลง
โนเกียและแอลจีคือผู้แพ้ในไตรมาสนี้ โดยส่วนแบ่งตลาดลดลง และขายมือถือได้น้อยลง อัตราการขายมือถือของโนเกียตกลง 20.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2010 ส่วนแอลจีตกลง 18.9%
ซัมซุง แอปเปิล และ ZTE ขายมือถือได้เพิ่มขึ้น โดยซัมซุงเพิ่ม 10% (แต่ส่วนแบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ลดลงเล็กน้อย) ZTE โต 36% และแอปเปิลมีอัตราการเติบโตก้าวกระโดดคือ 141.8%
ส่วนแบ่งตลาด 5 อันดับแรกประจำไตรมาสนี้คือ
ที่มา - IDC
Comments
อะไรจะเกิดขึ้น ถ้าข่าวลือเรื่อง Iphone รุ่นล่างเป็นจริง -*-
ปล.แอบสงสาร LG ขึ้นมาทันใด
ซัมซุงอ่าดิ มีเฮ
สร้างชาติด้วย Samsung ,LG, K-Series, Super Junior, 2pm, และ SNSD
เกาหลี ครองโลก : )
(ซักวันหนึ่ง...)ไทยจะครองโลก
อย่าลืม Naked Girl สิท่าน
ผู้นำเค้าเก่งกว่าเราเยอะครับ ผลิตภัณฑ์พวกนี้เป็นผลพลอยได้
คนเอเชียที่เรียนอยู่ใน MIT ตอนนี้กว่าครึ่งเป็นชาวเกาหลีใต้คับ
positivity
สงสาร LG ครับ = ="
เกาหลี ถือว่าเป็นประเทศที่ใกล้เจริญในอุตส่าหกรรมด้านไอทีเต็มที่แล้วสินะเนี้ย
อินเตอร์เน็ต
คอมพิวเตอร์
โทรศัพท์
ทีวี
วิศวะกรรมคอมพิวเตอร์ ในสาขาต่างๆอีก
OMG !!!
อยากให้ไทยเป็นแบบนี้จริงๆ
ยาก พฤติกรรมผู้บริโภคบ้านเราถนัดซื้อมากกว่าผลิต และหวังรวยทางลัดด้วยการรัด
ผมว่าตอนนี้ขาดอย่างเดียวแหละครับ designer :P
จากใจผู้ใช้ Galaxy S
อยากให้ iphone เจลเบรก ไม่ได้
หรือเจลได้ ก็เล่น app ไม่ได้
วงการซอฟแวร์คงพัฒนาได้ไกลมากๆ
อย่างงั้นยอดขายในประเทศสารขัณฑ์ตกฮวบๆ เลยนะ 555
ปล.เครื่องผมไม่เคยเจล แต่พอเข้าใจแนวคิดของคนสารขัณฑ์หลายๆคน
เกาหลีเจ๋งจริง
@fb.me/frozenology@
oh ma phone.
อนึ่ง ผมเป็นคนหนึ่งที่คลั่งไคล้ดารา ไม่สิ นักร้องเกาหลี คือ Girls Generation เป็นอย่างยิ่ง ก็อย่างที่คุณๆ ท่านๆ หากได้ลองดูเกิร์ลกรุ๊ปนี้แล้ว ก็ต้องมีเหลียวหลังมาถามว่า ใครน่ะ อ่อ นักร้องเกาหลีนั่นเองน่ารักดีนะ ดังนั้นจากการที่ได้ติดตามตรวจสอบ เอ่อ ติดตามเฉยๆละกัน ด้วยความชอบส่วนตัวจึงได้เห็นระบบการทำงาน วัฒนธรรม การกิน การอยู่ ของคนประเทศนี้ รวมทั้งได้ศึกษาประวัติศาสตร์(ซึ่งมีทุนเดิมในเรื่องที่ชอบประวัติศาสตร์ของประเทศในแถบนั้น ทั้งเกาหลีใต้ เกาหลีเหนือ จีน และญี่ปุ่น)ของประเทศนี้ ถึงแม่ไม่ใช่รู้มากเป็นกูรู รู้ไปหมด แต่ก็พอรู้บ้างในความเป็นไป ทั้งสงคราม การเมือง เศรษฐกิจ
เท่าที่ผมได้เรียนรู้มา พบว่า คนประเทศนี้ มีอะไรๆ ที่น่าชื่นชม(มองในด้านบวก ด้านลบผมขอยกไว้ก่อน ขอชื่นชมก่อนนะ) เช่น วัฒนธรรมการทำงาน ซึ่งคลับคล้ายคลับคลากับประเทศเพื่อนบ้านอย่างญี่ปุ่นอยู่มาก คือ เมื่อลงมือทำอะไรสักอย่าง คุณไม่ต้องมีความทะเยอทะยานมาก แต่สังคมจะบีบคุณเองว่าทำงานใดๆแล้ว คุณต้องมีความทุ่มเท มีความพยายาม มีความตั้งใจทำให้สำเร็จ ไม่งั้นจะโดนมอง หรือวิพากษ์วิจารณ์ ว่า ทำได้แค่นี้หรอ ทำไมไม่ทุ่มเทให้มากขึ้นอีก ซึ่งวัฒนธรรมการทำงานแบบนี้ ใครเคยทำงานกับคนญี่ปุ่นคงรู้ดี ว่าเค้าทุ่มเทกับงาน(บางทีก็มากไปสำหรับคนไทยอย่างเราๆ) มากแค่ไหน
เพราะอะไร ในความคิดของผม เพราะประวัติศาสตร์ การเมือง เศรษฐกิจ มันทำให้เป็นแบบนั้น มีอะไรหลายๆอย่าง ที่ไม่ได้มาโดยง่าย เช่น ผมมีโอกาสได้ดูรายการวาไรตี้รายการหนึ่ง ซึ่งเป็นรายการเป็นรายการประมาณนี้ คือ ให้นักร้องที่กำลังเป็นที่นิยมในประเทศ ออกไปใช้ชีวิตแบบชนบท รายการก็ไม่ค่อยมีอะไร แต่ก็ฮา ขำๆ ตามประสา แต่มองลึกๆ ในรายการนั้นมีกิจกรรมคือ จะต้องปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ ตามคอนเซปรายการ มีอยู่เหตุการณ์นึง คือ ต้องปลูกผักกาด ถ้าหากเป็นที่ประเทศเรา การปลูกผักกาด ไม่น่าจะยากมาก(ผมก็ไม่เคยปลูกผักกาด) แต่หากใครจะศึกษาวิธีปลูกผักกาดสำหรับบ้านเราก็มาแชร์กัน(ซึ่งผมขอพูดในประเด็นเรื่องสภาพอากาศ ภูมิประเทศ) ที่ประเทศเกาหลีเมื่อต้องการจะปลูกอะไรสักอย่าง(ในฤดูหนาว ซึ่งฤดูหนาวนั้นค่อนข้างยาวนานเลยล่ะ) อันดับแรกคือ ต้องมีเรือนกระจก สองคือ ต้องมีไฟฟ้า สามคือ ต้องมีคนดูแลสม่ำเสมอ เพราะอะไร เพราะหากไม่ปลูกในเรือนกระจก อากาศ อุณหภูมิ จะทำลายพืชพันธ์ได้ภายในเวลาอันสั้น เมื่อนำเมล็ดไปปลูกแล้ว ต้องใช้พลาสติกคลุมอีกหนึ่งชั้น แถมต้องสร้างคล้ายๆ เรือนกระจกอันเล็กครอบอีกที สุดท้าย ต้องใช้ลวดไฟฟ้าเพื่อให้ความร้อนกับแปลงผัก ไม่งั้นอย่าหวังจะได้โตให้ได้เก็บกิน รายการก็นำเสนอกรรมวิธีในการปลูกไป ใครดูแล้วไม่คิดอะไร ก็ไม่มีอะไร แต่ผมดูแล้วมาคิดอีกที ทำไมมันยากเย็นแสนเข็ญ บ้านผมที่บ้านนอก อาเศษพริกเหลือๆ โยนๆไปหลังบ้าน มันก็ขึ้นเป็นต้นมาเอง ไม่เห็นต้องไปปลูกอะไรๆให้มันยุ่งยาก อ้อ ลืมไป เวลาในการปลูก นับกันเป็นครึ่งปี กว่าจะได้กิน ผมจึงเข้าใจคนในประเทศแบบนี้ (ผมเข้าใจว่า คนญี่ปุ่นก็คงเหมือนกัน เพราะน้องสาวเคยไปญี่ปุ่น ไปเห็นทุเรียน ลูกละพัน ก็แทบช๊อค หรือใครเคยดูโดเรมอน พ่อโนบิตะซื้อแตงโมมาครึ่งลูก มันจะดีใจไรนักหนา ออกไปปากซอย 20บาท ก็กินพุงแตกแล้ว) ว่าจะทำอะไรๆซักอย่างที่ประเทศตัวเองทำได้ยาก ต้องพัฒนาอะไรๆซักอย่างมาทดแทน เช่นนั้นแล
สุดท้าย ผมไม่ได้ดูถูกคนประเทศตัวเอง(ซึ่งก็หมายถึงดูถูกตัวเองด้วย) แล้วผมก็ไม่ได้คลั่งไคล้คนชาตินี้จนเกินพอดี ก็แค่ชอบสาวๆ สวยๆ ตามประสาหนุ่มโสด หาเมียไม่ได้ แต่ที่ผมเขียนไอ้ข้อความนี้ขึ้นมาก็แค่ผมได้มีโอกาสได้ติดตามเบื้องลึกเบื้องหลังของคนในสามประเทศนี้(จีน เกาหลี ญี่ปุ่น) ผ่านประวัติศาสตร์อันแสนโหดร้ายมากๆ ผมได้ค้นพบว่า ความมุ่งมั่น ตั้งใจทำงานให้สัมฤทธิ์ผล สามารถนำพาประเทศที่เคยเป็นประเทศที่ล้าหลัง ไม่มีอะไรจะกิน มาเป็นประเทศผู้นำด้านเทคโนโลยีได้ประเทศหนึ่งในเวทีโลก ที่เคยมีแต่ฝรั่งตาน้ำข้าวครองตลาดมาอย่างยาวนานได้
ชงชุนบุลเพ
อากาศบ้านเขาไม่ค่อยเหมาะแก่การเพาะปลูก เพราะมันหนาวววว
ประเทศไทย อากาศกำลังดี ไม่หนาว ไม่ร้อน จนเกินไป
ประเทศไทยจึงเหมาะแก่การทำเกษตกรรม
แต่อาชีพเกษตกร = จน+หนี้
/me โซวอนลูกชาวนา XD
^
^
that's just my two cents.
เพราะอากาศประเทศเรากำลังดี ไม่หนาว ไม่ร้อน ไม่มีภัยพิบัติ ไม่มี ฯลฯ ผู้คนก็เลยเป็นแบบปัจจุบันนี่แหละครับ
ไม่ได้ดูถูกคนประเทศเรานะ แต่มันก็เป็นเพราะอย่างว่าจริง ๆ
ชองชุนบุนแพ!
ปลายปีที่แล้วซันนี้บอกอยากกลับไปเยี่ยมวัวมาก แต่ตารางงานตอนนี้ทำให้แทบเป็นไปไม่ได้เลย T__T
Samsung โตเร็วมาก
ถ้ารู้จักคนเกาหลี(โดยรวม) แล้ว จะไม่อยากเป็นอย่างเกาหลี
+10000
^
^
that's just my two cents.
มันเป็นยังไงอ่ะครับ อยากรู้บ้าง
คนเกาหลีคิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้าครับ
May the Force Close be with you. || @nuttyi
จริงหรือล้อผมเล่นครับเนี่ย หนักกว่าญี่ปุ่นอีก - -" เจอคนญี่ปุ่นจะบอก I'm not Asia, I'm Japan!!
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ