ศึกระหว่างรัฐบาลจีนกับกูเกิลยังไม่จบง่ายๆ ถึงแม้ว่าจีนจะบล็อคบริการออนไลน์ของกูเกิลไปแล้วหลายอย่าง แต่เมื่อกูเกิลเองเริ่มมีบริการเวอร์ชันสมาร์ทโฟน ก็ยังเป็นช่องทางให้ผู้ใช้ในจีนเข้าถึงบริการของกูเกิลได้
ล่าสุดมีรายงานว่าระบบ Great Firewall ของจีนได้บล็อคทราฟฟิกของ Gmail Android และ Android Market แล้ว (อย่างไรก็ตามผู้ใช้มือถือยังสามารถใช้งาน Gmail ผ่าน IMAP ได้อยู่) นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าเว็บ Android Market ถูกบล็อคในจีนเช่นกัน
ตามข่าวบอกว่าการบล็อคครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก ทะไล ลามะ ประชุมทางไกลผ่าน Google+ Hangout ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีคำยืนยันว่าเกี่ยวข้องกันโดยตรงหรือไม่
ที่มา - Penn Olson, TNW Asia, The Register
Comments
ทะไล ลามะ ?? เกี่ยวกันเห็นๆ - -
บล็อดเขาแล้วทำแทนสินะ
แผนการอันแยบยล ผลักดันให้จีนหันมาใช้ Windows มากขึ้น เพื่อการล้วงตับไตไส้พุงจงกั๋วตือฮวน ความลับต่อไปจะไม่ใช่ความลับ (ดราม่า)
คำตอบของข้า คือ ประกาศิต
อ่าว นึกว่าจะบีบให้คนใช้ OS ของจีนเองเสียอีก
Android Market โดนบล็อกมาก่อนเป็นเดือนแล้วครับ
เมื่อต้นปียังเข้าได้อยู่ แต่ไม่ได้ลงแอพอะไรใหม่นานมาก
จนเมื่อ 2-3 เดือนก่อน พอลองเข้าดูปรากฏว่าเข้าไม่ได้แล้ว
ทุกวันนี้ถ้าจะลงแอพใหม่ต้องหาตัว .apk มาโยนใส่การ์ดเอา
เหตุผลการบล็อค "ที่ฟังขึ้น" คือ?
Gmail, android market สร้างผลกระทบให้จีนอย่างไรจึงต้องบล็อค? แล้วเป็นการเลือปฏิบัติหรือไม่? จีนให้คำตอบที่สากลฟังแล้วยอมรับได้หรือไม่? (หรือถ้าบอกว่าเป็นเรื่องภายในของจีน ก็ปิดประเทศไปเลย อย่ายุ่งกับใคร อย่าค้าขายกับใครอีก ก็เพราะเราอยู่ร่วมโลกเดียวกัน เหมือนเพื่อนบ้าน เราก็ต้องดูแลกัน สอดส่อง เป็นห่วงกัน)ไม่ใช่หรือ
นี่แหละคือเหตุผลที่หลายคนวิพากษ์วิจารณ์จนถึงอยากให้การปกครองแบบจีนล่มสลาย จะให้คนกลุ่มเดียวที่ประชาชนไม่มีสิทธิ์เลือกหรือแม้แต่ตรวจสอบ มาปกครองคนเป็นล้านๆ ได้อย่างไร จะแน่ใจได้อย่างไรว่าการกระทำของรัฐมันถูกต้อง มีเหตุผล ไม่เลือกปฏิบัติ ตรวจสอบได้?
สงสารคนจีนที่ใช้ชีวิตแบบไม่ต้องคิดหรือตัดสินอะไร รัฐบาลจีนคิดแทนให้หมด ..เหมือนสัตว์เลี้ยงในกรง?
ถ้าประชาชนเลือกแล้วจะได้ผู้นำดีกว่าเหรอครับ.
ปล. แค่คิดก็พอนะครับ ไม่ต้องตอบ เดี๋ยวการเมืองไปไกล
เห็น ๆ 555
+500 ไปเลย
+1
+100 55555+
เห็นแบบนี้ก็คงต้องตอบแล้วครับ ให้ผมคิดอย่างเดียวแต่ไม่ให้ผมแย้งกลับ แถมดันมีคนกด + ให้คุณเพียบ ให้ผมอยู่เงียบๆ เฉยๆ ก็คงไม่ค่อยแฟร์กับผมเท่าไหร่
ประชาชนเลือกผู้นำ ไม่มีอะไรการันตีว่าจะได้ผู้นำที่ดีกว่าหรอกครับ หลายคนอาจจะยกตัวอย่างประเทศแถวๆ นี้ก็ได้
ข้อเท็จจริง คือ รัฐบาลเป็นกลุ่มคนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน และประชาชนทุกคนก็อยากให้รัฐบาลเข้าไปบริหารเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติรวมถึงประโยชน์ของตัวเองกันทั้งนั้นแหละครับ (ทุกคนก็อยากได้รัฐบาลที่บริหารประเทศที่ทำให้ตัวเองคุณภาพชีวิตดี เศรษฐกิจดี รายได้ดี ชีวิตมั่นคง ใช้ชีวิตอยู่อย่างมีความสุข ปลอดภัย ฯลฯ)
จะเห็นว่า การเลือกผู้นำที่ดี หรือไม่ดี สุดท้ายแล้วผลของการเลือกมันจะตกอยู่กับผลประโยชน์ของประชาชนเอง ดังนั้นประชาชนใครๆ ก็อยากเลือกผู้นำที่ดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มันก็เกิดจาก...
"การเรียนรู้" ของประชาชนด้วย จุดเริ่มต้น มันอาจจะไม่สวยงาม การเลือกผู้นำของประชาชนอาจจะมีตัวแปรต่างๆ ที่ทำให้ได้ผู้นำไม่ดีบ้าง ซึ่งผลของการเลือก มันก็จะลงเอยด้วยการบริหารบ้านเมืองที่ไม่ดี เศรษฐกิจไม่ดี ซึ่งมันจะย้อนกลับมาหาประชาชนผู้เลือกเอง ซึ่งมันจะทำให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ ลองผิดลองถูก เลือกใหม่ เรียนรู้ใหม่ กระบวนการนี้อาจจะต้องใช้ระยะเวลาเป็นสิบๆ ปี หรืออาจจะร้อยปีด้วยซ้ำไปครับ ทั้งนี้มันจะพัฒนาไปตามการศึกษาของประชาชนด้วย เชื่อเถอะว่า มันจะล้มๆ ลุกๆ อย่างนี้ไปจนกว่ามันจะลงตัวล่ะ และถ้าทุกอย่างมันลงตัวแล้ว ประชาชนก็จะเลือกผู้นำที่ดี และเป็นแบบนี้ต่อไปด้วยความยั่งยืนครับ
สำหรับบ้านเรา พูดสั้นๆ ว่า การประชาชนเลือกผู้นำเอง ก็อาจจะไม่ได้ผู้นำที่ดีที่สุดหรอกครับ เพราะมันยังมีตัวแปรต่างๆ ที่ทำให้เราได้ผู้นำที่ไม่ดีอีกเยอะ เรายังต้องเรียนรู้ประชาธิปไตยกันอีกซักพัก แต่อย่างน้อยเราก็เรียนรู้ความเป็นประชาธิปไตยกันมายาวนานแล้ว มีบทเรียนต่างๆ มาก็เยอะ ผมเชื่อว่าเราผ่านกันมาเกินครึ่งทางแล้วด้วยซ้ำ เราอาจต้องเรียนรู้กันไปอีกซักพัก แต่ถ้าวันใดที่ทุกอย่างมันลงตัว วันนั้นเชื่อว่าคนไทยจะเลือกผู้นำอย่างมีสติและภูมิคุ้มกัน และเราจะได้ผู้นำที่ดี และได้ความยั่งยืนในที่สุดล่ะครับ
แต่สำหรับจีน ระบบการปกครองแบบจีนมันเป็นแบบนี้ มันอยู่ไม่ได้ตลอดไปหรอกครับ ขึ้นอยู่กับว่าจีนจะคงความเป็นคอมมิวนิสต์ได้นานแค่ไหน ทุกวันนี้มันก็โดนกัดกร่อนไปเรื่อยๆ ทั้งคอรัปชั่นในท้องถิ่นก็เยอะ โลกทุกวันนี้ก็แทบจะโลกาภิวัตน์ไปทุกทีๆ ดังนั้นจีนจึงต้องครอบงำความคิดของคนในชาติกันสุดๆ ไม่ใช่เพราะอะไรนอกจากความมั่นคงของคณะตนเอง ไม่ต่างอะไรจากการยื้อเวลาไว้ให้นานที่สุด แต่ถ้ามันแตกเมื่อไหร่ละก็ อย่าลืมว่ายังไงจีนก็ต้องเข้าสู่ความเป็นประชาธิปไตย และนั่นมันก็ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่เลยนะครับ ประชาชนต้องมาเรียนรู้กันใหม่หมดเลย
แล้วคุณว่ายังไงล่ะครับ? ผมยอมรับว่าประชาชนเลือกผู้นำ ก็ไม่ได้ผู้นำที่ดีเสมอไป แต่มันเป็นการเรียนรู้ ลองผิดลองถูก จนซักวันหนึ่ง ประชาชนมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ก็จะได้ผู้นำที่ดี และจะเป็นความยั่งยืนแบบนี้ต่อไป
จีนไม่แคร์สื่อ และ ไม่แคร์ประเทศไหนๆมานานแล้วครับ
พรรคคอมมิวนิสต์เค้าแข็งแกร่งจริงๆ
(ถ้าเทียบใน blognone ต้องบอกว่าแกร่งกว่า microsoft+apple รวมกันอีกครับ)
สิ่งที่คุณจินตนาการมาในวรรคสุดท้ายยังไม่ได้ครึ่งนึงของความจริงเลยครับ ถ้ามีญาติเป็นคนจีนแบบผมแล้วจะเข้าใจ
จริงๆคนจีนส่วนใหญ่เท่าที่รู้จัก เขาก็ออกจะเฉยๆนะ
แต่สงสารนักพัฒนาฝั่งโน้นอ่ะ ไม่รู้เป็นไงบ้าง
ผมจบจากจีน แต่สภาพความเป็นอยู่ที่เห็นที่เป็น ผมไม่ได้คิดว่าคนจีนจะคิดแบบนั้นนะ ...อย่าที่ผู้นำของเขาเคยกล่าวไ้ว้ แมวจะสีอะไร ขอให้จับหนูได้ก็พอ (ให้มันใช้งานได้เถอะ )
เห็นด้วยครับ แค่มีอะไรที่มันใช้งานได้ก็พอแล้ว
สากลยอมรับไม่ยอมรับ แล้วไง?
ก็แห่ไปทำมาหากินที่จีนกันยกใหญ่
ช่วงก่อนคว่ำบาตรพม่า แต่ก็แอบไปทำน้ำมันในพม่า
ปากก็ด่าเพื่อสร้างภาพไป หางก็กระดิก ปากเลียแผลบๆ รับเงินไป
โลกความจริงมันก็สนใจแต่ผลประโยชน์
อุดมคติ ก็เอาไว้สร้างภาพ กับเอาไว้กีดกันทางการค้าเฉยๆ
+1000
เรื่องของการเมืองบริษัทควรไม่ไปยุ่ง ยิ่งบริษััทต่างชาติอีกผมไม่เห็นด้วยกะgoogleจิงๆ
ฝรั่งเค้าไม่คิดอย่างนั้นครับ เขามองว่าคุณเป็นพลเมืองในประเทศที่มีสิทธิ คุณทำอะไรเพื่อให้คนอื่นๆ ในโลกได้สิทธิแบบเดียวกันบ้าง
ผู้บริหารกูเกิลถูกเรียกขึ้นให้การสาธารณ์ (public hearing) ในเรื่องการเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ตในจีนหลายครั้ง (แถมโดนสว. สวดไปหลายยก) ก่อนจะตัดสินใจถอนตัวจากจีน
lewcpe.com, @wasonliw
they blocks twitter, facebook, google and now this!? so .... what next?
จีนเค้าก็มีเว็บที่คล้ายๆ Facebook
มีโปรแกรมที่คล้ายๆ whatsapp
ไม่ใช่แค่คล้ายๆ ผมกว่าเหมือนยังกะแกะ
มี Sina กับ Weibo มาแทน Twitter กับ Facebook ค่ะ (แล้วจะบล็อกทำไมไม่ทราบ?)
ถ้าประเทศมีศักภาพ และไม่ต้องพึ่งใคร จะทำอะไรก็ได้ครับ ไม่ต้องแคร์สื่อ ไม่ต้องแคร์ใคร และแนวทางนี้ถูกต้องที่สุดแล้วสำหรับประเทศที่กำลังพัฒนา ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ และสิทธิบัตรก็ไม่สน ทำทุกอย่างให้ประเทศเจริญก่อน จากนั้น เมื่อจีนพร้อม ค่อยมาคุยกัน (จริง ๆ ผมคิดว่าไทยเองก็ควรทำแบบนี้ ดูจีนเป็นตัวอย่าง แต่ทำไม่ได้เพราะ เรา้ต้องส่งออก และเราถูกกล่อมเรื่องสิทธิบัตรมานาน ทั้ง ๆ ที่สิทธิบัตรที่เป็นของคนไทยจริง ๆ มีน้อยมาก)
ยังดีที่ประเทศเรานักการเมืองระดับสูงใช้พวกนี้กันมาก เลยไม่โดน :D
@TonsTweetings
อย่าไปว่าเค้าเลยครับ ขนาด มด เสือ ไก่ หนู ยังมีการปกครองที่แตกต่างกัน เพราะขนาดรัง หรือ ฝูงไม่เท่ากัน ฉนั้น การปกครองคนเยอะขนาดนั้น ก็ไม่ใช่ วิธีเดียวเหมือนกันไปทั้งหมด วัฒนธรรมและการใช้ชีวิตก็ไม่เหมือนกัน วิธีของการปกครองของจีนผมว่ามัน เป็นอะไรที่เหมาะกับประเทศของเค้ามากๆแล้ว ถ้าประเทศจีนเป็นทุนนิยมจ๋าๆเลย ป่านนี้โลกคงปั่นป่วนกว่านี้เยอะ ประเทศจีนใหญ่เกือบครึ่งหนึ่งของโลก เค้ากลัวเรื่องการแทรกแซงครอบงำผ่านทางประชาชนของเค้ามาก(แม้มันจะห้ามไม่อยู่ แต่ถ้าไม่ห้ามเลยก็ไม่ได้)
งานงอกผมแล้วสิ เสียดายฐานลูกค้าจำนวนมหาศาลในจีนจริงๆ = =' แต่ก็ยังมีทางออกนะครับ เพราะเหมือนมี 3rd party appstore ในจีนที่เปิดให้โหลด android app ได้อยู่ แถมมีบริการช่วยแปรภาษาในตัวแอพเป็นภาษาจีนให้ฟรีซะด้วย สงสัยต้องลองใช้บริการดูซะแล้ว
จ่อให้จีนปิดประเทศ ตัดโลกภายนอกหมดผมว่าเขาอยู่ได้ครับ
เขามีทุกอย่างที่แทน service ภายนอกได้หมด
พวกที่อยู่นอกจีนสิจะเดือดร้อน เพราะทุกวันนี้ต้องพึ่งจีนหมดจั้งแต่เกิดจนตาย
อย่างผมเองต้องเข้าไปฟาของลึกลับในเวบจีนเลยครับ
เวบไทยโดนลบเกลี้ยง เวบฝรั่งก้อโคตอันตราย
Destination host unreachable!!!
ผมว่ามัน ไม่ แฟร์กับตลาดโลกเลยทำไม ต่างประเทสไม่มีนโยบาย ทางการทูตหรือ อ่ะไรซักอย่างทำบ้าง อย่างนี้ก้เป็นประเทศจีนอย่างเดียวที่บุกตลาดโลกได้ ประเทศอื่น ไม่สามารถ เข้าตลาดจีนได้ เพราะถ้าเข้าได้ เดี๋ยวก็โดนลอก โดนบล็อก แบบน่าเกลียด เป็นประเทศที่มี รัฐบาล เห็นแก่ตัวที่สุดประเทศนึงเลย
พูดถึงความน่าเกลียด นี่ยังไม่ได้เสี้ยวของที่อเมริกาทำมาตลอดเลย
ไหนจะบังคับให้ใช้สกุลเงินตัวเองเป็นสกุลแลกเปลี่ยนน้ำมัน บุกประเทศอื่นตามใจชอบ ใช้มตารฐานประเทศตัวเองบังคับให้คนอื่นทำตามแล้วก็เอาเปรียบเค้าไปทั่ว ที่ทำตามก็มีแต่คนไม่มีทางสู้กับพวกที่โดนกล่อมจนไม่รู้จักคิด
จีนมีอำนาจขึ้นมาแล้ว ถ้ายอมเล่นตามเกมอเมริกาก็โง่น่าดูละครับ
+1 การเมืองระดับประเทศมันเหมือนวงการมาเฟีย ครับ ใครใหญ่ก็ทำอะไรได้ทุกอย่าง และก็ค่อยหาความชอบธรรมอ้างเหตุผลว่าตัวเองทำถูกยังไง ประเทศที่เป็นพี่ใหญ่จะได้สิทธิมากกว่าประเทศอื่น สุดท้ายถ้าไม่พอใจก็เจรจา ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องก็สงครามครับ (ตัวอย่าง สงครามอ่าว อัฟกานิสถาน) เป็นอย่างนี้มาตลอดเรื่องปกติ