Amazon รายงานผลประกอบการไตรมาสที่สามมีกำไรสุทธิเพียง 63 ล้านดอลลาร์ ลดลงถึง 73% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ขณะที่ยอดขายเพิ่มสูงขึ้น 44% เป็น 1.088 หมื่นล้านดอลลาร์ ถ้าพิจารณาตัวเลขของไตรมาสที่แล้วจะเห็นว่ายอดขายยังคงเพิ่มสูงขึ้น แต่กำไรนั้นสวนทางคือลดลงต่อเนื่องอยู่
ตัวเลขที่น่ากลัวมากสำหรับ Amazon คืออัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงาน (operating margin) ซึ่งไตรมาสล่าสุดเหลือแค่ 0.7% เท่านั้น (อธิบายให้ง่ายๆ คือขายของ 100 บาทเหลือกำไรสุดท้าย 0.7 บาท) ขณะที่ไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้วตัวเลขนี้อยู่ที่ 3.7% ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อกำไรคือต้นทุนในการส่งสินค้าที่เพิ่มขึ้น การขยายศูนย์กระจายสินค้าเพิ่มขึ้นอีก 17 แห่ง ตลอดจนการขยายของโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการให้บริการเว็บเซอร์วิส
Amazon ประเมินผลประกอบการในไตรมาสถัดไปว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นสูงเป็น 1.6-1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ ทั้งจากเทศกาลจับจ่ายซื้อของขวัญปลายปี และจาก Kindle รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไป แต่ก็ประเมินว่าตัวเลขสุทธิอาจมีกำไรบ้างหรือไม่ก็ขาดทุนไปเลย
ที่มา: Bloomberg
Comments
น่าจะขายดีนะ
ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับว่า ตัว Content จะขายดีตามตัวเครื่องด้วยรึเปล่า
อาจจะมองว่า มีการลงทุน infrastructure ไว้เตรียมรองรับลูกค้า
คือก็เข้าใจว่าในโลกยุคอินเตอร์เน็ตนี้ winner take all อเมซอนก็เลยพยายามขยายตัวเต็มที่เพื่อให้ได้ economic of scale ในระดับที่คู่แข่งอื่นๆทำไม่ได้ แล้วก็ขายกินมาร์จินต่ำสุดแต่อาศัยปริมาณมากๆแทน
และถ้ารันยาวๆ น่ากลัวนะ เสียวเฮียจะไม่ไหว
เพราะ Amazon ดูเหมือนจะเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่าน จากการกิน transaction กลายมาเป็น manufacturer
@TonsTweetings
ช่วงนี้ประเมินว่าจะขายดี เลยลงทุนเพิ่ม โดยเฉพาะเจ้า Kindle Fire เลยเตรียมรับมืออย่างจริงจังครับ จ้างผลิตเพิ่มจากเดิมที่ประมาณการณ์ไว้อีกเป็นล้านเครื่อง จ้างคนเพิ่ม 8,000 กว่ารายใน Q3
ไม่แปลกที่ตัวเลขจะพลาดเป้ามากมาย
ระยะยาวน่าจะกลับมาที่ตัวเลขเดิมได้
กำไรขั้นต้น ต่างกับ Apple ลิบลับ
ลงทุนไปเยอะ แต่มันยังไม่ใช่ช่วงเวลาเห็นผลละมั้ง เดี๋ยวระยะยาวผมว่าน่าจะเห็นผลชัดเจนมาก ๆ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ปลูกไว้รอเก็บเกี่ยว เหมือนทำสวน
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6