จากตอนแรกนั้นได้เน้นไปยัง Taskbar แบบใหม่และ Aero Peek ในตอนที่สองนี้จะพูดถึงฟีเจอร์และความเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ของ Windows 7 Beta ครับ
ป.ล. ตอนนี้ภาพจะเยอะสักหน่อย
เป็นชื่อใหม่ของ Security Center เปลี่ยนชื่อเพราะว่าเพื่อจะได้รวมปัญหาอื่นๆ นอกเหนือไปจากด้านความปลอดภัยด้วย เช่น มีโปรแกรมแครช หรือมีอัพเดต ลักษณะการใช้งานก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจาก Vista
งานทั้งหมดของ Action Center ก็ดูได้จากหน้าตั้งค่า มีทั้งหมวด Security และ Maintenance
Windows 7 จะแสดงไอคอนงานหรือ action ใน System Tray ให้เราเห็นด้วยว่า จะต้องทำอะไรกับระบบเพิ่มเติมบ้าง
Windows 7 นั้นเหมือนกับ Vista คือมี Windows Defender กับ Firewall มาให้ในตัวแล้ว ขาดแต่โปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่ต้องหามาเพิ่มเอง โดยใน Action Center มีปุ่มแนะนำโปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่ไมโครซอฟท์เป็นพาร์ทเนอร์กันอยู่ เมื่อกดแล้วจะเข้าไปยังเว็บไซต์ของ Windows 7
ในตอนนี้ยังมีเฉพาะของ Norton, AVG และ Kaspersky ซึ่งเมื่อกดที่ไอคอนก็จะเข้าไปยังเว็บไซต์ของแต่ละบริษัทอีกทีหนึ่ง (ผมลองติดตั้ง Norton 360 Beta ปรากฎว่าช้ามากจนต้องรีบเอาออก)
การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดแต่แรกของ Windows Explorer นั้นคือสีของทูลบาร์ไม่หลุดโลกแบบ Vista อีกแล้ว ถูกปรับให้เข้ากับส่วนอื่นๆ ของ Windows 7 มากขึ้น
ปุ่มเลือกมุมมองของโฟลเดอร์ (view) และปุ่มแสดง thumbnail ถูกย้ายจากขอบด้านซ้ายใน Vista มาไว้ด้านขวามือ
ใน Windows 7 เพิ่มมุมมองใหม่เข้ามาหนึ่งชนิด คือแบบ Content ซึ่งเป็นลูกผสมระหว่าง Details และ Tiles เดิม มีทั้งภาพ thumbnail และรายละเอียดของไฟล์
ใน Windows 7 จึงมีมุมมองของไฟล์ใน Explorer ทั้งหมด 8 แบบ ตามภาพ
หน้าตาของ Explorer แบบมี preview
ของใหม่ที่สำคัญใน Explorer คือแนวคิด Library หรือ virtual folder แยกตามชนิดของไฟล์ (ตอนนี้มี 4 ประเภทคือ เอกสาร, หนัง, เพลง และรูปภาพ)
Library เป็นสถานที่ใหม่ที่มีศักดิ์ฐานะเทียบเท่ากับ My Computer หรือ Home Folder แถมถูกแสดงให้เห็นใน sidebar ด้านข้างด้วย
จากภาพจะเห็นว่าแนวคิด folder tree แบบเดิมถูกขจัดออกไปเรื่อยๆ ในวินโดวส์ทุกเวอร์ชัน กลายเป็นแนวคิดเรื่อง place หรือสถานที่เก็บไฟล์โดยแยกตามกรณีการใช้งานแทน ถ้าใครยังจำฟีเจอร์ WinFS ซึ่งเดิมทีเคยถูกวางเป้าไว้ใน Vista แต่ถูกถอดออกไปในภายหลังได้ ผมคิดว่ามันจะเป็นแนวคิดในลักษณะคล้ายๆ กัน (แต่ใน Windows 7 ยังเป็นลูกผสมของโฟลเดอร์แบบ hierarchy กับโฟลเดอร์เสมือนอยู่ ส่วน WinFS นั้นเป็นการค้นหาไฟล์จาก metadata ทั้งหมด)
ถ้าเราเลือกโฟลเดอร์อันใดอันหนึ่งใน Library ส่วนแถบด้านบนของ Explorer จะแสดงข้อมูลให้เราเห็นว่า ไฟล์ที่ถูกนำมาแสดงนี้ มาจากที่ไหนบ้าง
สำหรับ Pictures ค่าตั้งต้นคือมาจากโฟลเดอร์ My Pictures (ซึ่งไดเรคทอรีจริงเปลี่ยนชื่อเป็น Pictures เฉยๆ ไม่มี My แล้ว) และโฟลเดอร์ Public Pictures แต่เราก็สามารถเพิ่มโฟลเดอร์เก็บภาพของเราเองได้เช่นกัน
ในหน้าของอุปกรณ์ต่อพ่วงถูกเน้นมากขึ้น บริษัทฮาร์ดแวร์สามารถแสดงหน้าจัดการเฉพาะของอุปกรณ์ที่เรียกว่า Device Stage ได้ (ยังมีอุปกรณ์ที่สนับสนุนฟีเจอร์นี้น้อยมาก - รายชื่อบนเว็บไซต์ของไมโครซอฟท์) เนื่องจากผมไม่มีอุปกรณ์สำหรับทดสอบ เรื่องของ Device Stage ก็ต้องรบกวนไปอ่านกันจาก Ars Technica หรือ Neowin กันแทน
ในภาพนี้สังเกตว่ามี XPS Printer เข้ามา ซึ่งแสดงถึงการทุ่มตัวผลักดันฟอร์แมต XPS ของไมโครซอฟท์ที่มาแข่งกับ PDF (ข่าวเก่า: Office 12 สนับสนุน XPS แล้ว)
ดำเนินตามรอยของ Vista แถมยุ่งกว่าเดิมอีกสักเล็กน้อย ถ้าใครชอบแบบเก่าของ XP ก็คงไม่ถูกใจสักเท่าไร
หน้าจอปรับแต่งอันใหม่ที่เพิ่มเข้ามา เลือกธีมเป็นชุดแทนการเลือกเปลี่ยนเฉพาะภาพพื้นหลังหรือกรอบหน้าต่างแบบเดิม (แต่ก็ยังเลือกแต่ละอันแยกกันได้ เหมือนกับ Appearance ของ GNOME) สามารถดาวน์โหลดธีมเพิ่มเติมได้จากหน้าเว็บของไมโครซอฟท์
หน้าจอ System แสดงข้อมูลของระบบ
ลองสั่งปิดเอฟเฟคต์ทั้งหมด สังเกตตรง Taskbar จะเห็นปุ่มซ้อนกันถูกแสดงตรงไอคอน Windows Explorer แปลกไปอีกแบบ
เนื่องจากผมไม่ค่อยชัวร์นักว่ามีโปรแกรมไหนบ้างอยู่ใน Vista แล้ว โปรแกรมไหนบ้างเพิ่มเข้ามาใน Windows 7 ก็ขอพูดถึงเท่าที่นึกออก ตามภาพจะมี Windows PowerShell ซึ่งเป็น command line ของไมโครซอฟท์ (เทียบได้กับพวก bash ในลินุกซ์) เพิ่มเข้ามาในหมวด Accessories จากเดิมที่มีให้ดาวน์โหลดแยกบน Vista
ตามข่าวเก่าที่เคยออกมาแล้ว WordPad กับ Paint ถูกเปลี่ยนให้เป็น Ribbon
อีกจุดที่น่าสนใจคือในหน้า About ของโปรแกรมแต่ละตัว จะใช้เลขเวอร์ชันของระบบเป็น 6.1 (Vista คือ 6.0) ถึงแม้ว่าแบรนด์จะใช้เป็น 7 ก็ตาม
ในตอนที่แล้วมีคนถามเรื่องเกม ผมตอบเป็นภาพหน้าจอละกันนะครับ คล้ายๆ กับของ Vista แต่ว่าจัดส่วนของเรตติ้ง คะแนนและสถิติแยกให้เป็นหมวดหมู่มากขึ้น
Gadgets ไม่ต้องใช้ Sidebar อีกแล้ว วางไว้ตรงไหนก็ได้ แต่อย่างอื่นก็ยังไม่มีอะไรใหม่เข้ามา
จากที่เขียนไว้ในตอนที่แล้วว่า ไมโครซอฟท์ตัดโปรแกรมหลายๆ ตัวที่เคยแถมมาใน Vista ออก แล้วรีแบรนด์ใหม่เป็นโปรแกรมในตระกูล Windows Live แทน โดยต้องแยกดาวน์โหลดต่างหากใต้ชื่อแบรนด์ว่า Windows Live Essential (ข่าวเก่า) ซึ่งผู้ใช้ Vista และ XP ก็สามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้ ไม่จำกัดเฉพาะ Windows 7 แต่อย่างเดียว
โปรแกรมในชุด Windows Live Essential ก็มีดังภาพ ผมคงไม่ลงในรายละเอียดเพราะมันจะกลายเป็นรีวิว Windows Live Essential ไปแทน
Windows Live Essential เป็นเหมือนส่วนเติมเต็มของ Windows 7 ในลักษณะเดียวกับ iLife ของแอปเปิล แต่วิธีการจัดชุดของไมโครซอฟท์จะแปลกๆ เล็กน้อย เพราะ Photo Gallery กับ Movie Maker ต้องดาวน์โหลดต่างหาก แต่ DVD Maker มากับตัวระบบปฏิบัติการเลย
กลยุทธ์การใช้ Windows Live Essential ส่วนหนึ่งเป็นเพราะไมโครซอฟท์ถูกบีบจากหน่วยงานภาครัฐในหลายประเทศทั่วโลกใน ข้อหาผูกขาด ผู้ใช้เองก็ได้ประโยชน์คือสามารถเลือกใช้บริการออนไลน์ตามที่ตัวเองต้องการ ได้ ไม่จำเป็นต้องผูกกับ Windows Live ส่วนอีกประเด็นคือการปรับทัพของไมโครซอฟท์เองให้มาเน้นในฝั่ง Windows Live มากขึ้น
อย่างไรก็ตามส่วนที่ผมคิดว่าไมโครซอฟท์ยังทำได้ไม่ค่อยดีคือการเชื่อมประสาน กัน ระหว่างฝั่ง Windows ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ของเรา กับ Windows Live ที่อยู่บนเว็บ
สิ่งที่ผมสังเกตว่ามีเยอะเป็นพิเศษใน Windows 7 คือลิงก์สำหรับดาวน์โหลดส่วนประกอบ (ไม่ว่าจะใช้คำว่า Plug-in, Add-on, Personalize หรือ Extension) ที่มีคนทำไว้แจกจากบนเว็บไซต์ของไมโครซอฟท์
ปัญหาคือแต่ละโปรแกรมก็มีหน้าเว็บสำหรับดาวน์โหลดของตัวเอง (อยู่บนโดเมนของไมโครซอฟท์ทั้งหมดนั่นล่ะ) แถมไม่มีวิธีมาตรฐานสำหรับการติดตั้งส่วนประกอบเพิ่มเติม บางอย่างมาเป็น .exe ต้องติดตั้งเองเหมือนโปรแกรมปกติ ในขณะที่บางอย่างใช้ได้เลยทันที
IE8 Add-ons ซึ่งประกอบด้วย Webslice, Accelerator, Search Plugin, Toolbar อยู่บน ieaddons.com
ธีม (ไมโครซอฟท์ใช้คำว่า Personalize) อยู่บน windows.microsoft.com
พวกชุดแต่งของ Windows Live Messenger (แต่ดันรวมเอา Sidebar Gadgets และ SideShow) อยู่บน Windows Live Gallery (gallery.live.com)
อันนี้ฮาร์ดคอร์มาก :D ปลั๊กอินของ Windows Live Photo Gallery สำหรับ export รูปไปยังบริการออนไลน์ต่างๆ เช่น Picasa, Facebook (ของ Flickr รวมมาให้แล้ว) นั้นอยู่บนบล็อกของทีมพัฒนา (blogs.msdn.com) อนาคตคงเป็นเรื่องเป็นราวกว่านี้
Windows Marketplace ซึ่งเป็นไอคอนอยู่ใน Start Menu เอาไว้ขายโปรแกรมที่ใช้บน Windows
และยังมีหน้ารวมโปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่เข้าได้จากหน้า Action Center ตามที่เขียนไปแล้ว
ถ้าเทียบกับโปรแกรมที่สามารถดาวน์โหลดส่วนเสริมได้โดยตรงจากหน้าเว็บอย่าง Firefox หรือโปรแกรมอย่าง Adobe AIR ที่ติดตั้งได้จากหน้าเว็บโดยตรง ก็ต้องบอกว่า Windows 7 ยังตามอยู่อีกมากในแง่ประสบการณ์การใช้งาน
ผมเจอบั๊กภาษาไทยของ IE8 ดังภาพครับ (Firefox บน Windows 7 ไม่เป็น)
เผอิญว่าผม ไม่ถนัดกับหน้าตาของ IE8 เลยไม่ได้ทดสอบอย่างจริงจังนัก แต่ก็รู้สึกได้ว่า IE8 ยังช้าและทำงานได้ไม่สมบูรณ์เท่าไร เมื่อเทียบกับส่วนอื่นๆ ของ Windows 7
UAC นั้นหายไปเยอะเมื่อเทียบกับ Vista ส่วนใหญ่จะเจอตอนดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรมใหม่เท่านั้น
ส่วนตัว Windows 7 ทั่วไปนั้นถือว่าเสถียรมาก แต่หลังจากลง Norton 360 (ตามที่มีลิงก์ให้โหลด) ก็เจอปัญหาอยู่พอสมควรคือเมื่อสั่งปิด Firefox กับ IE8 แล้วไม่สามารถเปิดขึ้นมาใหม่ได้ (ผมคาดว่าเป็นปัญหาของทูลบาร์หรือปลั๊กอินของ Norton ที่ใช้กับเบราว์เซอร์ แต่ยังไม่มีเวลาทดสอบว่าปัญหาเกิดจากอะไรกันแน่)
โดย รวมๆ แล้วผมรู้สึกว่า Windows 7 เป็น Vista ที่ "ทำเสร็จ" ครับ คือพอมาใช้เทียบกันแล้วจะเห็นชัดว่าเป้าหมายของ Vista นั้นตั้งใจจะเป็นแบบ 7 นี่ล่ะ ถ้า Windows 7 เสร็จสมบูรณ์ คนที่จดๆ จ้องๆ รอเปลี่ยนจาก XP ก็คงหันมาใช้ Windows 7 มากกว่า Vista มาก
ผมคิดว่าไมโครซอฟท์คงไม่ ปรับเปลี่ยน Windows 7 ไปจากนี้อีกมากเท่าไรนัก จะว่าไปถ้าเทียบกับ XP-Vista แล้ว Windows 7 มีส่วนที่เปลี่ยนแปลงจาก Vista น้อยมาก รากฐานต่างๆ นั้นถูกวางไว้ใน Vista หมดแล้ว Windows 7 แค่นำมาพัฒนาต่อให้ดีขึ้นเท่านั้น ผมคิดว่า Windows 7 ค่อนข้างสมบูรณ์แล้ว สิ่งที่ไมโครซอฟท์ควรรีบปรับปรุงคือ Windows Live และการเชื่อมต่อกับ Windows Live ที่ยังไม่ได้ให้ประสบการณ์ที่ดีกับผู้ใช้มากเท่าไรนัก
คำ ถามถัดไปก็คือ Windows 7 จะออกเมื่อไร ตามปกติไมโครซอฟท์จะออกเบต้าเพียงรุ่นเดียว จากนั้นเข้าสู่สถานะ Release Candidate (RC) และ Release to Manufacturer (RTM) ต่อไป เพียงแต่ว่าแต่ละช่วงของไมโครซอฟท์จะค่อนข้างนานกว่าซอฟต์แวร์ตัวอื่นๆ
สื่อฝรั่งคาดเดากันว่า RC น่าจะมาในช่วงกลางปี และตัวจริงจะออกมาในช่วงปลายปี 2009 ครับ
ส่วนที่ไม่ได้ทดสอบ
รีวิว Windows 7 Beta ของฝรั่งที่น่าอ่าน (สารภาพว่าผมก็ได้อิทธิพลมาจากรีวิวสองอันนี้เป็นหลัก)
Comments
ลิงก์ผิดนะครับ ตรงวงเล็บ (ข่าวเก่า: Office 12 สนับสนุน XPS แล้ว)
แก้แล้ว ขอบคุณครับ
ถ้าออกมาดี จะซื้อของแท้มาใช้เลยครับ น่าใช้มาก แต่ก็อยากใช้ OSX เหมือนกัน Snow Leopard ข่าวเงียบไปเลยอะ
เห็นด้วยครับ ถ้าหาก Snow Leopard ออกมาแล้ว ใครที่ได้แผ่นมา ช่วยรีวิวด้วยนะครับ
My Blog / hi5 / tumblr. / Follow me
My Blog
คนที่ได้แผ่น Snow Leopard (แบบถูกต้อง)
จะต้องเป็นสมาชิก ADC Membership (Select, Premier)
ซึ่งในสัญญามีการระบุว่า "ห้ามเผยแพร่ก่อนสินค้าออกจำหน่าย"
(Subject to NDA)
คนที่ออกมารีวิวเลยต้องเสียว ๆ หน่อย...
อาจจะโดนฟ้องได้ครับ
ผมชอบกฏข้อนี้
พีดีเอ ซ่า ดอทคอม ทำสิ่งที่คุณถืออยู่ให้มีค่ามากยิ่งขึ้น
งั้นก็ตอน Snow Leopard มันออกมาจำหน่ายแล้ว ก็ค่อยรีวิวก็ได้ครับ ว่าแต่ใครจะลงทุนซื้อแล้วมารีวิว อันนี้ ต้องขอบคุณล่วงหน้าเลยครับ :)
My Blog / hi5 / tumblr. / Follow me
My Blog
คุณ ezy อยู่ไหนเมื่อชาติต้องการ อิอิ
@TonsTweetings
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ
Antivirus ลอง Kaspersky เร็วใช้ได้แต่น่ารำคาญ Firewall มันมากต้องกลับไปใช้ของที่วินโดว์ให้มา -_-!
เพิ่งซื้อของแท้ Windows XP & Vista ไป T-T
I will change the world, to the better day.
I will change the world, to the better day.
เพิ่งอัพเกรดมาใช้เมื่อเช้านี้ครับ
ทุกอย่างราบรื่นถึงจะใช้เวลาอัพเกรดหลายชั่วโมงอยู่ (ถ้าลง Clean น่าจะเร็วกว่านี้มากๆ) เหตุผลก็คือมีการ Migrate ไฟล์กว่า 7 แสนไฟล์ในเครื่องผม ผมก็ไม่รู้ว่ามันเป็นไฟล์อะไรบ้าง
เรื่องที่เคือง ๆ ก็คือ เครื่องผมเคยทำ Rating ได้ 4.8 บน Vista แต่บน 7 ดันได้แค่ 3.0 พอดูแล้วก็เห็นว่าเกิดจาก System Drive ทำได้แค่ 3.0 ก็เลยงง ๆ ว่าทำไมไดร์ฟผมมันช้านักหรือ หรือเป็นที่ S-ATA Controller กันแน่ (ไดร์ฟระบบผมตอนนี้เป็น Seagate S-ATA2 250GB ครับ) ก็ต้องคลำหาทางแก้ตรงนี้ต่อไป
ส่วนใช้แล้วเร็วขึ้นมั้ยตอบไม่ได้ครับ เพราะผมดันอัพเกรดแรมเพิ่มเป็น 3GB ไปด้วย ระบบไม่เหมือนเดิมเทียบกันไม่ได้ครับ
ThaiGameDevX -- The First Game Developer Community in Thailand.
น่าจะเพราะ fragmentation.
NTFS /Fat32 ถ้าไฟล์เยอะๆจะต้อง defrag บ้างนานๆครั้งครับ ทำให้อ่านไฟล์เร็วขึ้น
เดี๋ยวคืนนี้จะลอง Defrag แล้วเทสต์ใหม่ดูครับ
ThaiGameDevX -- The First Game Developer Community in Thailand.
Windows Media Player 12 นี่ประทับใจผมมากเลย ถ้าหากรันมันในโหมด player (เวลาสั่ง Open with WMP ไปตรงๆ) มันกินแรมในหลายๆ กรณีน้อยกว่า Media Player Classic เสียอีก!
รู้สึกเกม InkBall จะหาย?
ใน wikipedia ก็บอกว่า inkball หายครับ
ความเห็นส่วนตัว ผมว่าน่าใช้มาก ความสามารถที่น่าประทับใจหลายอย่างในระบบปฎิบัติการอื่นๆ มีอยู่ในวินโดว์ ๗
ผมคงได้ใช้จริงๆ จังๆ ตอนนี้โน๊ตบุคเครื่องใหม่ในสองปีข้างหน้า
ปัญหา แสดงผลใน IE 8 ถ้าแสดงผลผิดพลาด
ลองสลับ compatible mode ดูครับ กดปุ่มเล็กๆ ที่ต่อจาก Address bar แล้วมันก็จะแสดงผลได้ดีขึ้นครับ
Compatible Mode คือเข้ากันได้กับมารตฐานสากล
หรือ เข้ากันได้กับมาตรฐานไมโครซอฟต์ ???
เขาเอาไอคอนออกไปเยอะเลยนะ ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไม (Text มันคงชัดเจน แต่ก็รู้สึกว่ามันไม่ WOW เท่าไร)
ezybzy.info blog
เก็บเงินซื้อ HDD ใหม่กับรอ Windows 7 ดีกว่า อยากได้หน้าตาหรูๆแบบวิสต้า แต่ผมไม่ชอบวิสต้า รู้สึกว่า Windows 7 จะเป้นคำตอบแฮะ
เป็น Windows ตัวแรกที่อยากทำให้ซื้อของแท้มาใช้เลยจริง ๆ ถ้ามันไม่แพงเกินไป
ผมเปลี่ยนกลับไปใช้ xp เหมือนเดิมเมื่อเช้านี้ครับ แรม 2gb ยังอืดเลย (r61)
เอาไว้มีตังเพิ่มแรมค่อยกลับไปเทสต์อีกที
ผมแรม 1GB ยังไม่เห็นอืดเลย spec อะไรครับเนี่ย
ตอนนี้ใช้ 64bit อยู่ ลื่นมากๆ เลย (Athlon X2 + RAM 4 GB) ถูกใจให้ห้าดาว
ไดรเวอร์ส่วนใหญ่ใช้ตัวเดียวกับ Vista 64 ได้(ซาวน์การ์ด x-fi ต้องใช้ตัวโมนิดหน่อย) DotA ก็เล่นได้อีก ....
มี Chrome ตัวเดียวที่ใช้ไม่ได้ ใครทำเป็นบอกกันบ้างนะครับ
ลง driver ได้ไม่ครบ ขาด เสียง กับ จอ แต่ว่า chrome ลงได้นะ ลงแล้วส่วนที่เป็นสีฟ้าๆ เดิมของ Chrome มันเป็นใสๆ แล้วเปลี่ยนสีตาม Theme ด้วยนะ
:→♀MOSS♂←:A LITTLE PLANT ON THE ROCK.
ยิ่งอ่านยิ่งน่าใช้จริงๆ เลย ฮี่ ๆ ๆ ถ้าออกวางจำหน่ายแล้วราคาไม่แพงมาก (ไม่เกินสามพัน) น่าจะพอซื้อไหว
my blog
3 พันนี่เอา Basic Version ละกันครับ ...
อิ ๆๆ
User เซ่อ อย่างกระผมใช้แค่ Basic ก็พอแล้วคร้าบ เพราะ XP ที่ใช้อยู่ปัจจุบันยังเป็น Home เลยอ่ะค้าบ ^__^
my blog
ผมใช้ แค่ stater เปิดได้ไม่เกิน 3 โปรแกรม เลยเน้นเปิดเครื่องเป็น ubuntu แทน T-T
:→♀MOSS♂←:A LITTLE PLANT ON THE ROCK.
ใช้ Ubuntu ได้ก็ไม่ต้องใช้ stater แล้วครับ เปลื้องเงินซื้อ window ปล่าวๆ
แต่อยากให้ Microsoft ปรับราคา Window ให้ใกล้เคียงกับ Mac OS หน่อยครับ
แล้วแนะนำรุ่นควรตั้งไม่เกินสามถึงสี่รุ่น แบบว่ามีเยอะงง แต่ถ้ามีรุ่นเดี่ยวราคาแพงซื้อไม่ไหวแน่ๆ
(มองว่าทำหลายรุ่น หลายราคาแล้วผู้ใช้จะสามารถเลือกซื้อตามการใช้งานของเขากับราคาที่สมเหตุสมผลน่ะ)
</mOkin™>มีความสุขที่พอดี กับชีวิตที่พอเพียง</mOkin™>
ทราบรึเปล่าว่า Mac OS นั้น ที่ถูกได้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะราคา Hardware ด้วยนะครับ ลองถ้า Mac OS ทำให้ลงบน non-Mac เมื่อไรละก็ ราคาคงมีพุ่งแน่นอนครับ
ผมว่าถ้า Apple ตัดสินใจขาย Mac OS for non-Apple label computer จะยังคงขายที่ราคา 129 USD นะครับ
ถ้าขึ้นราคาคงไม่ค่อยได้เห็นใน Product ของ Apple เท่าไหร่ ส่วนมากจะขายกันราคาเดิม หรือไม่ก็ลดราคา ซะมากกว่า ... เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว :-)
ทราบครับถึงกระนี้จึงได้ใช้ window ต่อไป (บวกกับชอบปรับแต่งอะไรเรื่อยเปื่อย) แต่ว่าอืมเครื่องเขาบวกความ Art กับนวัตกรรมบ้างอย่างเขาไปน่ะครับ ส่วนผมนั้นก็เลือกความคุ้มค่าครับ เพราะไม่มีเงินซื้อน่ะ
มองอีกมุมหนึ่งเครื่องน่ะจ่ายแพงจ่ายครั้งเดี่ยว แต่ซอฟแวร์น่ะ คงไม่ได้จ่ายครั้งเดี่ยวแน่ถ้ามีใหม่เราก็อยาก upgrade เป็นเวอร์ชั่นใหม่ใช่ไม่ล่ะ ที่ดูมาราคาซอฟแวร์แต่ล่ะอันที่ใช้ใน mac ถูกๆ ทั้งนั้น แถมน่าใช้อีก รวมแล้วก็คงเสียเงินเท่าๆ กัน
---- มีความสุขที่พอดี กับชีวิตที่พอเพียง
เห็นด้วยเลย ยิ่งตัวที่ออกมาเป็น box set ที่มี OS X, iLife'09 กับ iWork'09 ขายรวมกันราคาแค่ 7000 บาทเอง ซื้อวิสต้า ultimate ยังไม่ได้เลย -*-
อ่านแล้วคิดว่า xp, osx ของเราดีอยู่แล้ว
เวลาโหลดโปรแกรมโดยใช้ firefox แล้วรัน ผมจะเจอ - firefox ถามว่าจะรันแน่ใช่มั๊ย - open file security warning ถามว่าจะรันไฟล์นี้ใช่มั๊ย verify publisher ไม่ได้นะ - uac ถามว่า ไฟล์นี้จะเปลี่ยนแปลงข้อมูลในเครื่อง คุณต้องการแน่ใช่มั๊ย
สรุป กดยืนยันไป 3 รอบได้
---------- iPAtS
iPAtS
explorer หลักของ windows แฮงค์บ่อย
นอกนั้นใช้งานได้ดีครับ ไดรฟ์เวอร์ ถ้าต่อเน็ตได้ เจอหมดทุกอย่าง หาเอง ลงเอง ของมัน
ชอบ Windows Explorer แบบใหม่ครับ ที่เพิ่มระบบ libary มาสามารถเพิ่ม libary ได้รู้สึกคล่องกว่าวิสต้า หรือเอ็กซ์พีมากครับ (ไม่แน่ใจว่ามีในวิสต้ามาก่อนรึป่าว เพราะไม่เคยใช้นานๆ)ส่วนไดรเวอร์ XFI ผม 64bit ลงได้ครัับมี console launcher แต่ไม่เห็นมี EQ อ่ะ ตอนในก็วิสต้ายังมีอยู่ ใครรู้บ้างครับ
เท่าที่ลองใช้มา Explorer,Firefox เจอ Crash บ่อยมากๆ กว่า XP,Vista
ไม่สามารถลง MS Office 2003,2007 ได้ โดยตัว Windows Installer จะ Crash ไม่ทราบสาเหตุ แต่สามารถลง Office 97 ได้ แปลกดีครับ -*- (ใน XP ไม่เจอปัญหานี้เลย รวมทั้ง Vista)
นอกจากปัญหาสองข้อนี้แล้ว ข้ออื่นค่อนข้างประทับใจกับ Windows 7 มากครับ การบูตที่รวดเร็ว และกราฟิกอันไหลลื่นไม่ติดขัด สุดยอดมากๆ ครับ ^^
คนที่ใช X-Fi ทุกรุ่น แนะนำให้โหลด ไดรเวอร์ Mod ตัวนี้นะครับ จะใช้ได้ทุกความสามารถเลยครับผม
แวะมาเยี่่ยม Hi5 ของผม แอดเป็นเพื่อนกันครับ
Explorer , Firefox ไม่เคย Crash เลยครับ
Office 2003 ใช้ได้ปกติ 2007 ยังไม่ได้ลอง
ของผม 32 bit ครับ
งานนี้ Finder ของ Mac OS X แพ้อย่างเดียวครับ ทุกวันนี้จริง ๆ ก็แพ้แล้วล่ะ ไม่รู้ทำไมพี่แกไป over-obsessive กับ Cover Flow ที่ขอบอกตามตรงไม่ค่อยมีประโยชน์ซะเท่าไหร่ Windows Explorer ชนะขาดครับ ทั้งเรื่องความเร็วและ Usability
คิดไปคิดมานะ ถ้าอยู่มาวันนึงมี Microsoft Windows Antivirus ออกมานี่คงโดนรุมยำเละแน่ แต่ส่วนตัวแล้วมันน่าจะดีครับ
ตอนนี้แอปเปิลควรรีบแก้เรื่อง Finder โดยด่วน! ส่วนไอเดียที่อยากเสนอคือทำ AppStore ให้กับ OS X ด้วยคงดีไม่น้อย (ซื้อขายโปรแกรมง่ายขึ้น ไม่ต้องไปหา แต่ถ้ามา Approve ยุ่งยากไม่เอานะ)
@TonsTweetings
apt-get?
Windows Media Player 12 ช้าหน่วงอยู่พอตัว ค้างถ้าไฟล์เยอะเกินไปด้วย (มันเล่นอ่าน thumbnail ทั้งหมดเลย อ่านจนกว่าจะครบนั่นแหละ)
ยังมีเรื่องบัคที่ทำลายไฟล์ mp3 แต่แก้ไปแล้ว
ที่ไม่เข้าใจคือ ดูไฟล์ AVI บางตัวได้ช้า (เวลาเลื่อนไปดูตอนอื่นแล้วรอ render นาน)
ลง mega codec ใช้ media player ดูก็ยังช้า เลยงงว่าเป็นที่อะไร
BETA 2 ที่ปล่อยออกมานี้ดีจังเลย มีคนช่วยหา BUG ให้เยอะแยะ ^_^
แบบนี้คนที่ซื้อ Vista ไปก็เศร้าเลยสิครับ หรือเค้าให้อั๊พเกรดเป็น Windows 7 ได้เลยรึเปล่า
ในแง่ของวิสต้านี่ผมว่าคล้ายๆกับเกมCrysis ที่ทำออกมาซะหรูแล้วหวังว่าคนจะอั๊พเกรดเครื่องเพื่อเล่นมัน แต่ไม่ได้ดูเลยว่าตัวเองดีพอที่เค้าจะลงทุนขนาดนั้นรึเปล่า
คลิปตลก