ซัมซุงเปิดตัว Galaxy Watch Active 2 ภาคต่อของนาฬิกาสมาร์ทวอทช์สายลุยรุ่นแรก (ที่เปิดตัวเมื่อต้นปี แปลว่าอัพเกรดรุ่นใหม่ภายใน 6 เดือน)
Galaxy Watch Active 2 มีหน้าจอให้เลือก 2 ขนาด (ตามสไตล์นาฬิกาผู้ชาย-ผู้หญิง) คือ
สเปกอย่างอื่นเหมือนกันหมด ซีพียูเป็น Exynos 9110 ดูอัลคอร์ 1.15GHz, แรม 768MB+4GB, ฟีเจอร์อื่นคือ Heart Rate Monitoring, ECG, กันน้ำ IP68, ผ่านมาตรฐานความทนทาน MIL-STD-810G, ระบบปฏิบัติการยังเป็น Tizen, ใช้สายนาฬิกาขนาด 20mm มาตรฐาน
จุดต่างสำคัญจาก Galaxy Watch Active รุ่นแรกคือขอบของหน้าปัดจอที่เคยเป็นชิ้นส่วนหมุนได้ เปลี่ยนมาเป็นขอบดิจิทัลที่เป็นส่วนหนึ่งของหน้าจอไปแทน ซัมซุงให้เหตุผลว่าช่วยให้จอมีขนาดใหญ่ขึ้น ส่วนฟีเจอร์การหมุนขอบจอเพื่อสั่งงานก็ยังทำได้เหมือนเดิม แต่เป็นการแตะหน้าจอเพื่อหมุนแทน
Galaxy Watch Active 2 มี 2 รุ่นย่อยคือรุ่นที่เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth/Wi-Fi และรุ่นที่เพิ่ม LTE เข้ามาด้วย ส่วนตัวเรือนมีให้เลือกวัสดุ 2 แบบคือ ตัวเรือนอะลูมิเนียม-สายพลาสติก (FKM) และตัวเรือนสเตนเลส-สายหนัง (LTE มีเฉพาะเรือนสเตนเลส)
Galaxy Watch Active 2 จะเริ่มวางขายในสหรัฐอเมริกา 27 กันยายน ราคาเริ่มต้นที่ 280 ดอลลาร์
Comments
สายลุย แต่ใส่ว่ายน้ำไม่ได้
ทำไมกลิ่น apple มาเต็มมากทั้งที่ดีไชน์ไม่เกี่ยวกันเลย
Jony Ive แอบรับงานนอกรึเปล่า 55555
ลาออกแล้ว ตั้งบริษัทนอกรับงานไม่น่าจะผิดอะไร
ฮ่าๆๆๆ น่าคิส
ตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดอะไร พออ่าน Comment นี้ไปแล้ว เลื้อนกลับไปดู เออจริงด้วย
อันนี้ค่อยใช้จอโค้งให้เป็นประโยชน์หน่อย
กลิ่น Apple watch ลอยมาจริงๆด้วย 555
Active ??? ผมว่ากำลังสับสนในตัวเองแล้วหละ
Active ปรกติมันต้องลุยๆหน่อยมีหน้ากากปุ่มยาง สายซิลิโคลนบลาๆๆๆ
น่าจะตั้งชื่อ elegance/casual ก็ว่ากันไป
ขออภัยครับเผลอกดเบิ้ล
สวยงามจริงๆ เพิ่งซื้อ Active รุ่นแรก ก่อนมันเปิดตัวได้ไม่ถึงเดือนแท้ๆ 55555 เอาเถอะ อย่างน้อยก็ยังพอใช้ได้แหละนะ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
ถ้ามี Ant+ คือครบ.
ANT+ จะตายเพราะ smartwatch, smartphone ไม่ใส่กันนี่แหละครับ - -"
ไม่รู้ว่าเพราะ Bluetooth 5.0 กับ BLE เข้ามาเนี่ย เลยทำให้ ANT+ เริ่มหมดความสำคัญไปรึเปล่าครับ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
ในแง่นึง ใช่ครับ เพราะอุปกรณ์ต่างๆ เชื่อมต่อแบบใช้พลังงานต่ำได้เช่นเดียวกันกับ ANT ครับ
แต่เอาจริงคือมันทดแทนกันไม่ได้ และการคุยกับ BLE ก็ยังวุ่นวายกว่า ANT ด้วย แล้วเรื่องนึงที่มีปัญหากับผมมากที่สุดคือ BLE มันคุยได้แค่แบบ 1-1 เท่านั้นครับ อุปกรณ์ชิ้นนึงเลยส่งค่าไปหาอุปกรณ์อื่นได้ชิ้นเดียว อย่างเช่น ไปแข่งไตรกีฬา ตอนปั่นจักรยาน เราต้องเลือกว่าจะเอาค่าหัวใจไปแสดงกับ head unit ของจักรยานที่มองได้ง่ายกว่า หรือจะให้อยู่กับนาฬิกาข้อมือที่ดูยากกว่าแต่บันทึกค่ามาตั้งแต่ต้นแล้ว หรือไปฟิตเนส จะต่อดูและบันทึกข้อมูลหัวใจที่อุปกรณ์ของเราเอง หรือต่อกับของฟิตเนสให้โค้ชดูและแนะนำ
อีกหนึ่งในสถานการณ์ที่จะมีปัญหาเกิดขึ้นได้คือ BLE pair ใหม่ทุกครั้งที่เชื่อมต่อ ผมไปงานวิ่ง คาดเซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบ BLE ไป กะว่าจะเปิดแอปมาบันทึกตอนก่อนออกตัว ปรากฎว่ามีอีกคนนึงเปิดแอปสแกน (เช่น Strava เข้าหน้าเพิ่ม sensor ใหม่ ซึ่ง Strava มันสแกนเจอตัวไหนมันจะพยายามเชื่อมต่อเพื่อดึงค่ามาให้ดูด้วย) แค่นั้นครับ ผมไม่สามารถต่อกับ sensor ตัวเองได้เลย และไม่สามารถทำอะไรได้ด้วย
ทุกวันนี้เวลาพยายามต่อดูข้อมูลจากรองเท้า เวลาอยู่นอกบ้านผมเชื่อมกับรองเท้าที่ใส่อยู่แทบไม่ได้ด้วยซ้ำครับ และหาไม่เจอด้วยว่าทำไมต่อไม่ได้ ไม่รู้ว่ามันไม่ทำงานหรือมันต่อกับอุปกรณ์ใครที่ไหนหรือกระทั่งว่ามันอาจจะต่อกับอุปกรณ์อื่นของผมเองอยู่ก็ได้แต่ผมไม่รู้และทำอะไรไม่ได้เลย ?
Ant+ ไม่น่าตายครับ ตราบใดที่ Garmin ยังขายได้ ที่แปลกใจคือตัวโทรศัพท์ Samsung เองรองรับ Ant+ แต่เอาเข้าจริงก็ไม่เคยใช้เลยครับ มันไม่สะดวกเท่านาฬืกาเลยต้องย้ายจาก Galaxy Watch มา Forerunner + สายคาดใต้ราวนม Ant+ มันสะดวกกว่า BLE มากๆ ครับ เชื่อมได้หลายอุปกรณ์ด้วย สังเกตว่าเวลาวิ่งลู่วิ่งดีๆ หน่อยก็โชว์ HR ตรงกับที่วัดจากสายคาดได้เลย
เลยเสียดายที่ Galaxy Watch ไม่รองรับสักที เพราะส่วนตัวชอบการแจ้งเตือนจาก GW มากกว่าครับ
รองเท้า UA จับได้ค่อนข้างตรงกับ GPS เลยนะครับ เวลาวิ่งจับด้วย MapMyRun แสดงแผนที่เลย ข้อเสียคือ รุ่นที่อยากใส่ดันไม่มีชิป. - -"
ก็หวังว่าแบบนั้นครับ เพราะผมหากินกับ ANT+ เป็นหลักเลย ? น่าจะเป็นโปรแกรมเมอร์ไม่กี่คนในไทยที่ใช้ ANT หนักหน่วงขนาดนี้ในงานหลัก หาทางรองรับ BLE ให้มาเสริมดีๆ อยู่แต่ยังไม่ได้แนวทางเท่าไหร่เลยครับ
เหมือน Amazfit
สวย งาม
+1
ราคากลางๆมี Alway on display ก็ Gear นี่แหละ
ยี่ห้ออื่นๆใช้จอ amoled จริง แต่ยังไม่กล้าเปิด AOD กัน สงสัยกลัวซดแบต
อันหลังไม่ใช่แรมสิครับ