ตอนเก่า: รีวิว Dell Studio 1535 ตอนที่ 1
ผมทดสอบด้วย Ubuntu 9.04 Jaunty รุ่นเบต้า ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดที่ออก ณ ช่วงเวลาที่ทดสอบนะครับ การติดตั้งก็ไม่มีปัญหาอะไร เมื่อบูตขึ้นมาก็พบว่า Ubuntu รู้จักและใช้งานฮาร์ดแวร์ได้ถูกต้องเกือบหมด น่าประทับใจมาก
ความละเอียดหน้าจอก็ตรวจพบได้ถูกต้อง (1280x800) อย่างไรก็ตามผมคิดว่าขนาดฟอนต์ที่ Ubuntu กำหนดมาให้คือ 10pt นั้นตัวใหญ่ไปเล็กน้อย ลองลดลงมาที่ 9pt จะกำลังดี
ส่วนความสามารถ 3 มิตินั้นยังใช้ไม่ได้ เพราะว่าไม่มีไดรเวอร์ของ ATI (fglrx) ใน repository ของ Ubuntu Jaunty ณ เวลาที่ทดสอบ จึงไม่สามารถใช้ Compiz ได้ตามไปด้วย
รายละเอียดฮาร์ดแวร์มีดังนี้
ภาพที่ได้จากกล้องของ Dell Studio 1535 ครับ สภาพแสงน้อยแต่ก็ยังชัดเจน
ผมนึกวิธีการทดสอบการเล่นวิดีโอแบบ HD ไม่ออก สุดท้ายเลยใช้หนังเรื่อง Elephants Dream ซึ่งสร้างด้วยซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สทั้งเรื่องและแจกหนังความละเอียด 1920x1080 เวอร์ชันเต็มให้ดาวน์โหลดบนเว็บไซต์ (สัญญาอนุญาตเป็น Creative Commons)
ซอฟต์แวร์ที่ใช้คือ VLC เจ้าเก่า ก็ทำงานได้ราบรื่นดีไม่มีปัญหา กินโหลดซีพียูน้อย
แต่ถ้าดูแบบ fullscreen ก็จะยังมีขอบดำอยู่บ้างด้วยข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ ซึ่งปัญหานี้จะหมดไปในรุ่น 1555
เนื่องจากว่าผมไม่เคยรันเบนช์มาร์คทดสอบเครื่องมาก่อนเลย และชุดโปรแกรมสำหรับเบนช์มาร์คตัวเดียวที่รู้จักคือ Phoronix Test Suite สำหรับลินุกซ์ (รันบนแมคและระบบปฏิบัติการสายยูนิกซ์อื่นๆ ได้ด้วย) ก็เลยนำมารันทดสอบกันสักหน่อยให้ได้ชื่อว่าเป็นรีวิวฮาร์ดแวร์
ณ เวลาที่ทดสอบนั้น รุ่นล่าสุดของ Phoronix Test Suite คือ 1.6.0 (ตอนนี้เป็น 1.8.0 แล้ว เพิ่งออกเมื่อวันที่ 6 เมษายน) โชคดีที่ Phoronix Test Suite มีอยู่ใน repository ของ Ubuntu Jaunty เรียบร้อยแล้ว การติดตั้งจึงสะดวกสบายมาก แค่ลงแพกเกจ phoronix-test-suite ก็เรียบร้อย
ชุดทดสอบต่างๆ ของ Phoronix นั้นมีให้เลือกเยอะมาก (ดูรายการทั้งหมด) ผมไม่แน่ใจว่าควรใช้อันไหนดี เลยเลือกอันที่ชื่อกลางๆ อย่าง Multicore ซึ่งประกอบด้วยการทดสอบย่อยอีกหลายอัน ถือซะว่าทดสอบซีพียู Core 2 Duo ทั้งสองรุ่นไปด้วยในตัว
และเพื่อให้การเปรียบเทียบเห็นภาพชัดมากขึ้น ผมเลยหาฮาร์ดแวร์เครื่องที่สามมาทดสอบประกบด้วย เป็นเดสก์ท็อปของผมเองที่เก่าไปสักหน่อย สเปกเป็นดังนี้
จะเห็นว่าองค์ประกอบด้านซอฟต์แวร์ต่างกันพอสมควร (Ubuntu คนละเวอร์ชันและระบบไฟล์คนละแบบ) ก็คงไม่ใช่การเปรียบเทียบที่เป็นวิทยาศาสตร์ มีการควบคุมตัวแปรมากนักนะครับ ยกมาให้เปรียบเทียบดูเฉยๆ ว่าฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่เกือบล่าสุดพัฒนาไปจากฮาร์ดแวร์เมื่อหลายปีก่อนขนาดไหนแล้ว
ผลการทดสอบเป็นดังนี้
คอมไพล์ Apache
การทดสอบแรกสุดเป็นการวัดประสิทธิภาพของซีพียูโดยตรง มันคือการดาวน์โหลดซอร์สโค้ดของ Apache มาคอมไพล์
Core 2 Duo T5850 คอมไพล์งานได้เร็วกว่า Sempron 3000+ สองเท่ากว่า ส่วน Core 2 Duo T9400 ก็เร็วขึ้นไปอีก ซึ่งเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ (แกนข้างในใหม่กว่า 1 รุ่น) ที่ผมว่าน่าสนใจคือ T9400 นั้นเร็วกว่า T5850 อยู่มากพอสมควร อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้จะพูดถึงในรีวิวของ Dell Studio 1555 ตอนนี้ถือว่าสปอยล์ไปก่อนละกัน
คอมไพล์ ImageMagick
ถัดจากคอมไพล์ Apache ก็เป็นซอฟต์แวร์ยอดนิยมอีกตัวคือ ImageMagick จะเห็นว่าประสิทธิภาพโดยรวมของ Dell Studio 1535 นั้นทิ้ง Sempron เกือบสี่เท่าตัว และ Dell Studio 1555 ที่ใช้ T9400 ก็เป็นไปในทางเดียวกับหัวข้อที่แล้ว
Sunflow Rendering System
การทดสอบนี้น่าสนใจมาก เพราะ Sempron 3000+ กลับทำเวลาได้ดีกว่า Dell Studio มาก ผมไม่มีเวลาค้นหาสาเหตุ แต่ถ้าให้เดาก็เป็นเพราะว่าเครื่องที่ใช้ Sempron 3000+ นั้นใช้การ์ดจอ NVIDIA (เป็น GeForce 6150 ออนบอร์ด) แต่ที่สำคัญคือมันใช้ไดรเวอร์ของ NVIDIA เองซึ่งมีประสิทธิภาพในงานสามมิติดีกว่ามาก
ส่วน Studio ทั้งสองตัวใช้ ATI Mobility Radeon HD ซึ่ง ณ ขณะที่ทดสอบยังไม่มีไดรเวอร์ fglrx สำหรับ X.Org Server รุ่นของ Ubuntu Jaunty ดังนั้นไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้ไดรเวอร์โอเพนซอร์ส radeon ที่งานด้านสามมิติแย่มากแทน
7-Zip Compression
ทดสอบบีบอัดด้วยฟอร์แมต 7-Zip ซึ่งก็เป็นการวัดผลประสิทธิภาพของซีพียูโดยตรงเช่นกัน กราฟผลการทดสอบจะกลับกันกับกราฟอันก่อนๆ คือวัดเป็นจำนวนคำสั่งต่อเวลา (MIPS) แทนวัดเวลาที่ใช้ ดังนั้นกราฟยิ่งสูงแปลว่ายิ่งคะแนนดี
OpenSSL
จะคล้ายกับการทดสอบข้างบน แต่เปลี่ยนมาเป็นเข้ารหัสกุญแจของ OpenSSL ด้วยอัลกอริทึม RSA ขนาด 4096 บิทแทน ผลที่ได้ก็เป็นไปในทางเดียวกัน
GraphicsMagick
การทดสอบสุดท้ายที่ยกมา เป็นการคำนวณสีด้วย GraphicsMagick ซึ่งผลก็สอดคล้องกับการทดสอบข้างต้น
สรุปผลเบนช์มาร์ค
สงสัยว่าได้เวลาเปลี่ยนเครื่องเดสก์ท็อปใหม่เสียแล้ว -_-' ผมคิดว่าโน้ตบุ๊กรุ่นมาตรฐานที่ใช้ซีพียูในสายตระกูลหลักของอินเทล (นั่นคือ Core 2 Duo) มีพลังประมวลผลเหลือเฟือสำหรับงานที่เป็น desktop replacement ไปนานแล้ว ดังนั้นถ้าใครคิดจะซื้อมาทำงาน desktop replacement ที่จำต้องย้ายสถานที่บ้างก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรในด้านประสิทธิภาพของซีพียู
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ เมื่อโน้ตบุ๊กที่ใช้แกน Nehalem ออกมา ประสิทธิภาพจะเพิ่มขึ้นอีกสักเท่าไร (ถ้า Dell อ่านอยู่ก็อย่าลืมส่งมาให้ทดสอบกันอีกรอบนะครับ :D)
ยังมีผลการทดสอบอื่นๆ อีกเล็กน้อยที่ผมไม่ได้เลือกนำมาลง และถ้าใครสนใจดูสเปกฮาร์ดแวร์อย่างละเอียด ก็สามารถเข้าไปดูได้ที่หน้าผลการทดสอบบนเว็บไซต์ Phoronix ของการทดสอบนี้ (ถ้าใครจะรันชุดทดสอบอันเดียวกันแล้วส่งเข้ามาเปรียบเทียบก็ยินดีครับ สั่ง phoronix-test-suite benchmark mark-30551-24676-14328 ที่คอนโซลของท่าน)
ข้อดีของ Dell Studio 1535
ข้อเสีย
ฟันธง!
เนื่องจากผมไม่มีราคาของโน้ตบุ๊กระดับเดียวกันของยี่ห้ออื่นๆ มาเปรียบเทียบ ก็คงตัดสินได้เฉพาะข้อมูลเท่าที่มี
ผมคิดว่า Dell Studio ออกมาจับตลาดคนที่ต้องการโน้ตบุ๊กที่เป็น desktop replacement ลูกค้ากลุ่มนี้จะพิจารณาซื้อเครื่องเป็นของตัวเอง (ไม่ใช่บริษัทออกให้ ซึ่งจะเป็นตลาดของ Vostro หรือ Lattitude ไป) ก็จะมีอารมณ์คอนซูเมอร์ปนมาหน่อยๆ แต่ระดับก็จะเหนือกว่า Inspiron และในขณะเดียวกันก็ไม่ต้องการสเปกเทพขนาด XPS หรือ Alienware
แต่ในกลุ่มของ Studio เองก็จะยังมีหลายรุ่นย่อยอีกเหมือนกัน มันจะมีกลุ่มที่ต้องการจอ 17" ซึ่งจะเขยิบขึ้นไปเป็นกลุ่ม home entertainment ไป ส่วนสายที่เป็นจอ 15" คือต้องการเครื่องแรงๆ หน่อยเอาไว้ทำงานที่ต้องแรงอยู่บ้าง ก็จะแยกกลุ่มกันชัดเจนด้วยคำถามที่ว่า "ต้องการ Blu-ray หรือเปล่า"
ถ้าต้องการ Blu-ray ก็ไม่ต้องคิดมาก เลือก Dell Studio 1555 ครับ ซึ่งถ้าเป็นฝรั่งที่ Blu-ray เริ่มมาแล้วก็อาจจะน่าสนใจอยู่บ้าง แต่เมืองไทยที่ Blu-ray ยังหายากอยู่พอควร Dell Studio 1535 ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจกว่า
ผมดูจากระยะเวลาในการวางจำหน่ายแล้ว Dell Studio 15 ออกวางขายในช่วงกลางปี 2008 ก็ผ่านมาได้ประมาณปีเดียว สเปกของรุ่นย่อยบางตัว (อย่างเช่น Dell Studio 1535 ตัวนี้) อาจตกรุ่นไปบ้างแล้ว แต่แน่นอนมันก็หมายถึงราคาที่ตกตามมาด้วย ถ้าใครเป็นห่วงว่าจะล้าสมัย Dell Studio คงไม่เปลี่ยนบอดี้ในเร็วๆ นี้ แต่ใช้วิธีเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ภายในแทน ดังนั้นวิธีการเลือกที่ดีกว่าคือดูบอดี้ ความแข็งแรง วัสดุที่ใช้ พอร์ตต่างๆ ประกอบกับราคาเป็นหลัก แล้วค่อยมองถึงประสิทธิภาพและรุ่นของฮาร์ดแวร์ตามมา
Comments
สงสัยมานานแล้วว่าทำไมเอา 16:9 ไปเล่นบน 16:10 แล้วมันไปขอบดำบนล่างแทน? ทำไมไม่ใช่ซ้ายขวา
เอ่อ..ขอบดำบนล่าง ก็ถูกแล้วนี่? วาดรูปดูสิแล้วจะเห็น
เออ เนอะ จำผิดว่า 9 เป็นด้านยาวมาตลอดเลย -_____-
ดูภาพยนตร์ HD ได้ราบรื่นดีไม่มีปัญหา กินโหลดซีพียูน้อย ?? ทั้งที่ไม่มีไดรเวอร์ของ ATI ?
แสดงว่า VLC สามารถใช้การเร่งความเร็วของการ์ดจอได้ แม้ไม่มีไดรเวอร์การ์ดจอ?? งงแฮะ - -?
ไดรเวอร์ ATI มีแล้วนะครับ
ผมเพิ่งลงวันนี้เองอยู่ใน hardware driver
ตอนที่ทดสอบเมื่อต้นๆ เดือน ยังไม่มีครับ
เห็นแล้วอิจฉาครับ ดู 1080p ได้อย่างราบรื่น บนแมคยังดูแบบลื่นๆไม่ได้เลย (ทั้งๆที่เป็นไฟล์เทรเลอร์หนังแบบ hd ที่โหลดมาจากเว็บของแอปเปิ้ลเองแท้ๆ) vlc นี่ก็กระตุกเหลือเกิน seek ไปส่วนอื่นๆของหนังไม่ได้เลย xbmc นี่ก็มีปัญหาเรื่องซับ
มีใครจะทำ k-lite + media player classic บนแมคไหมครับ ผมจะขอสนับสนุนเต็มที่ 55
แมคห่วยกระมัง
คงงั้นครับ
แต่ก็ยังมีคนใช้อยู่นะครับ ไม่รู้ทำไม
ก็ใช้อยู่ประมาณนึง อย่าทำเป็นว่าทุกคนใช้
ครับ น้อมรับครับ คนใช้ได้สิบเปอร์เซนต์ก็ดีใจแล้ว อย่างน้อยก็แม่ผมคนนึงแหละครับ ที่ไม่ได้ใช้
เอ แต่ว่า ผมบอกตรงไหนครับ ว่าทุกคนใช้
ออกตัวก่อนว่าไม่ใช่สาวกแมค ไม่เคยใช้แมค และก็ยังไม่คิดจะใช้แมค (เพราะไม่มีเงิน ใช้ไม่เป็น และยังไม่เห็นความจำเป็น - -") ตอนนี้ใช้วินโดวส์แท้+freeware+open source อยู่ อยากจะบอกว่าคอมเมนต์นี้ดูหาเรื่องมากๆเลยครับ ถึงผมจะหมั่นไส้สาวกแมคบางคน (ย้ำว่าบางคนจริงๆ) ที่พยายามปกป้องแมคไม่ลืมหูลืมตา แต่คอมเมนต์แบบนี้เกินไปหรือเปล่าครับ? เขายังไม่ได้ทำอะไรเลย แถมว่ายังว่าแมคเองด้วย ใจเย็นๆกันกว่านี้ดีไหมครับ ไม่งั้นกระทู้มันจะยืดโดยใช่เหตุเอานะครับ - -"
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
+1 ตรงหมั่นไส้สาวก ผมสมัครสมาชิกเพื่อเข้ามาตอบคอมเมนต์นี้เลยนะ คือหลังๆ เริ่มเบื่อ blognone ตรงสาวกแมคเต็มไปหมดนี่ล่ะ
ผมว่าสาวก Windows เต็มไปหมดมากกว่ามั้งครับ 90:5
ต่างกันตรงที่ "ผู้ใช้Windows"
ไม่ออกมาปกป้องโดยใช้ข้อดี/จุดเด่น มาเหยียบฝ่ายตรงข้ามไงล่ะครับ
ปล. อาจจะไม่มีอะไรดี เลยไม่มีจะอวดก็ได้ :D
แต่ทีเ่ห็นบ่อยๆคือผู้ใช้อื่นๆชอบดูถูก Apple แบบไร้เหตุผลนะครับ
ถ้าพูดถึงข้อเสียจะไม่ว่าเลย
แต่มีไม่น้อยที่คันปากอยากด่าก็ด่าซะเฉยๆ
+1 ^^'
บนแมคก็ยังมี Perian นี่?
มีครับ แต่ก็ยังแก้ในจุดนี้ไม่ได้
อ้าว...จริงดิ - -"
ต้องไปทดลองบ้างซะละ
อยากเห็นผลทดสอบอีกครั้งหลังจากลง driver จัง
เห็นด้วยครับ ว่าแต่คืนของเขาไปแล้วมั้ง - -"
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
แอบบ่น VLC นิด ๆ
เมื่อไรมันจะแก้บัคที่เด้งหน้าต่างออกมาจาก UI หลักเสียที รู้สึกเทอะทะอย่างบอกไม่ถูกจริง ๆ
My Experiences : Pexeriences
หน้าต่างดำ ๆ น่ะหรอครับ
ทำให้เสียอรรถรสในการรับชมเลยทีเดียว
:-)
+1 ครับ เจอเหมือนกันเวลาดูไฟล .dat/.mpg ไฟล์อื่นไม่ยักกะเป็น
แต่ที่เจออีกปัญหานึงคือ เปิดไฟล์มาตอนแรก หน้าต่างมันดันใสๆซะนี่ - -' ต้องดับเบิ้ลให้มันฟูลสกรีนแล้วดับเบิ้ลคลิกกลับมาเป็นหน้าต่างขนาดเดิมอีกครั้ง
ใจเย็นๆครับ ของอย่างนี้มันแล้วแต่ใช้งานแต่ละอย่างดีบ้างไม่ดีบ้าง ลอง Movist หรือ Mplayer OSX Extend หรือยังครับ ดีกว่า vlc เยอะเลยในความคิดเห็นของผมนะ
แหล่มเลยครับโปรโมทเว็บ ฟรี
, do follow social bookmark