By: mk 
on 7 September 2020 - 16:53
Tags:
Richard Yu ซีอีโอของ Huawei Consumer ให้สัมภาษณ์กับสื่อจีนถึงสถานะของ Harmony OS หรือ Hongmeng OS ว่าตอนนี้พัฒนามาได้ประมาณ 70-80% ของ Android แล้ว บริษัททุ่มงบประมาณหลักร้อยล้านดอลลาร์เพื่อพัฒนา OS ตัวนี้ และมันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน
Yu ยอมรับว่าการแบน Google Mobile Services (GMS) มีผลสะเทือนต่อธุรกิจสมาร์ทโฟนของ Huawei นอกประเทศจีนอย่างมาก ในขณะที่ธุรกิจอุปกรณ์เครือข่ายไม่ได้รับผลกระทบมากนัก อย่างไรก็ตาม เขาระบุว่าการแบนระลอกสอง ที่ห้ามโรงงานผลิตชิปให้ Huawei และห้ามบริษัทอื่นขายชิปให้ด้วย ก็ส่งผลอย่างมากเช่นกัน
เขายังพูดถึงตลาดอุปกรณ์ 5G ว่านำหน้าคู่แข่งไปไกลมาก โดยประเมินว่า Huawei นำหน้า Ericsson อยู่ปีครึ่ง ส่วน Ericsson ก็นำหน้า Nokia อยู่ 5 ปี
Huawei จะเปิดเผยรายละเอียดของ Harmony OS ในงานสัมมนาประจำปี Huawei Developer Conference 2020 ในสัปดาห์นี้ (10-12 กันยายน)
ที่มา - ITHome (ภาษาจีน), Huawei Central
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- สงคราม GenAI บนคลาวด์ในปี 2024 ไปถึงไหนกันแล้ว | Cloudnone x AWS
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
Comments
เอาข้อดีของทั้ง 2 ระบบปฏิบัติการมา mix&match
ไม่แน่อาจดีจริงๆก็ได้
อยากเห็น
Android fork ดัดแปลงแล้วทำได้เทียบเท่า Android 70-80% ?
หรือจะหมายถึง HMS ทำได้ 70-80% ของ GMS แล้ว?
มีบอกอย่างชัดเจนในย่อหน้าแรกครับ
คือผมไม่เข้าใจไงครับ ตามข่าวลือข่าวหลุดแต่แรกว่า Hongmeng นี่ก็คือ Android fork
แล้วจะพัฒนา Android fork ให้ได้ 70-80% ของ Android "ปกติ" ไปทำไม?
หรือจะบอกว่า มันคือ OS ใหม่ ที่ไม่ได้มีพื้นฐานจาก Android เลย แล้วบอกว่าำทำงานได้ 70-80% แล้ว แบบนั้นก็อีกเรื่อง และคิดว่ามันไม่น่าดึงดูด พอๆกับ Tizen หรือ OS อื่นๆที่ทำมาแข่ง Android เลย เพราะสิ่งสำคัญคือ app และ ecosystem ซึ่งของจีนก็คงบังคับให้ใช้ในจีนได้ แต่นอกประเทศล่ะใครจะอยากใช้?
Tizen ก็พิสูจน์มาแล้ว ว่ามือถือ spec พอๆกับ Android แต่ถูกกว่าหลายพัน มันก็ยังขายไม่ออก(ถ้าจำสมัย Galaxy S2 vs Wave2 ได้)
Samsung Wave 2 ใช้ Bada ครับ ไม่ใช่ Tizen สมัยก่อนที่จะยุบโครงการเข้า Tizen ที่ทำร่วมกับ Intel (ในช่วงนั้น) อีกที
ในภาพรวมของ Hongmeng/Harmony OS คือระบบปฏิบัติการใหม่ครับ ไม่ได้อิงจาก Android
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ขอบคุณที่ช่วยแก้ครับ จำผิดไปจริงๆ
ก็ต้องรอดูว่า Hongmeng จะสร้าง ecosystem ให้ผู้ผลิตapp ค่ายดังๆย้ายมา OS ใหม่ได้ไหมละแบบนั้น
กำลังมีเรื่องส่วนแบ่ง ของ app storage ของแต่ล่ะเจ้าพอดีเลย ทำมาแล้วดัง apple google มีเจ็บ ประมาณ เอาส่วนแบ่งครึ่งเดียวของทั้งสองเจ้า
อันนี้คุณจำผิดเองมากกว่าครับ เป็น OS ของตัวเองตั้งแต่ kernel เลยครับ
Harmony OS ถูกออกแบบอยู่บนพื้นฐานการออกแบบเคอร์เนลแบบ microkernel ดังนั้นมันจะใช้ Kernel ของ Android ไม่ได้อยู่แล้ว เพราะคอนเซ็ปต์การออกแบบมันต่างกันสุดขั้ว
Harmony OS มันมองข้ามเกมส์ไป IoT เลยครับ เหมือนอุปกรณ์ทุกชิ้นลง OS เดียวกันแต่ถ้ามองมุมกลับ ถ้าโดน Hack ขึ้นมา สภาพมันจะประมาณนี้ เช่น สั่งเปิดแอร์พร้อมกันทั้งประเทศ ปั๊งง Load ของไฟฟ้ากำลัง มันจะทำให้ หม้อแปลงระเบิด หรือโรงไฟฟ้าดับทั้งประเทศเช่นกัน หรือ สั่งให้ รถยนต์เร่งเครื่องสุด พร้อมกันทั้งถนน และอื่นๆ เพราะงั้น ถ้าไป IoT แบบครบๆ แล้วมีสงคราม ก็จะประมาณนี้นะครับ น่ากลัวเหมือนกันนะ
ประเมินว่า Nokia ช้าจาก Ericsson ไป 5 ปี นี่ประมาณพี่แกพึ่งขาย 4G ได้หรือเปล่าเนี่ย หรือกำลังขาย 3G เนี่ย ฮ่าๆ
ถึงได้ 120% แต่นอกจีนก็ไม่มีใครใช้อยู่ดี บัยย
On April 22, 2020, Ren Zhengfei, the CEO of Huawei said: Huawei's operating system may take a long time to surpass Android and iOS, but it will not exceed 300 years.
Huawei พูดอะไรต้องหารร้อยเสมอ
แต่การทำ os เองจาก aosp ไม่น่าจะยาก
รอมโมผุดเป็นดอกเห็ด
ใหนใครบอกว่าหัวเหว่ยจะออกจากธุรกิจมือถือไง หา cpu มาผลิตมือถือไม่ได้ แล้วจะทำ os ไปทำไม
อนาคตไม่แน่นอนนี่ครับ? เกิดปลายปีนี้ทรัมป์ไม่ได้ไปต่อ เกิดปธน.คนหน้าไม่ไล่บี้จีนเท่าทรัมป์(ซึ่งหลายฝ่ายก็บอกกันว่าต่อให้เป็นเดมก็จะบี้จีนต่อ)มันก็ไม่แน่ว่าหัวเว่ยจะต้องออกจากตลาด แล้วไอ้กรณีออกจากตลาดมันคือกรณีที่เลวร้ายที่สุดนะครับ ซึ่งมันอาจจะไม่เลวร้ายขนาดนั้นก็ได้ใครจะไปรู้
เหมือนเห็นข่าวแว่บๆว่าจะผลิตเองแต่ไปตั้งหลักอยู่ไกลๆแถว 45nm
ต่อให้พัฒนาเสร็จแล้วก็ไม่มีประโยชน์ เพราะผลิตชิปไม่ได้
ถ้าจำไม่ผิด ตัวนี้เริ่มจากทีวีก่อน และ อื่นๆ ที่ไม่เป็นสมาร์ทโฟน..ส่วนสมาร์ทโฟนต้องรอchipจีนก่อน
HMS ของ Huawei นี่เข้าใจยากมาก Document ห่วยสุดๆ
จะได้เห็น OS ที่สาม
กว่าจะถึงวันนั้น ตอนนี้ก็โมรอมลง Google Service ไปก่อนนะ
70-80% นี่ ..... น่าจะแค่การใช้งานพื้นฐานของแอนดรอยด์มั้งครับ ถ้าระดับนั้นก็ยังไม่ค่อยสมาร์ทเท่าไหร่นา
แต่ถ้าจะบอกว่าได้ 70-80% ของแอนดรอยด์ทั้งหมดในตอนนี้ น่าจะเกินจริงไปประมาณ 70-80% เลยเชียว
ผมว่าเป็นไปได้นะ ถ้ามีงบมากพอ มีรัฐบาลสนับสนุน มีความรู้และพื้นฐานเพียงพอ และมีคนหัวกะทิอยู่ในองค์กร มันก็ยังไปได้อยู่
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ถ้าอีกซักสองสามปีผมคิดว่าพอเป็นไปได้ครับ แต่นี่กระทันหันเกิน ต่อให้มีเงิน มีคน ก็ยังขาดเวลา
ตกลงชื่อจีนมันออกเสียงว่ายังไงนิ หงเหมิง ฮองเม้ง หรือ หัวเหม่ง
鴻蒙
ความสำเร็จหนึ่งของ Google Android คือทำให้แอปจำนวนมากต้องพึ่งกับ GMS เข้าใจละที่บางคนถึงเรียก Android ว่าระบบเปิดจอมปลอม
+1
ผมมองว่าเป็นทางเลือกละกัน ดูยาวๆ
iOS vs Android vs Harmony OS
(ไว้ตัวเต็มออกมา จะซื้อมือถือ Huawei มือ 2 มาเล่น)
ถ้าทุกอย่าง ผมว่าไม่มีทางเทียบเท่า Pure android แน่ๆ
อย่างน้อยก็เรื่อง Privacy ที่อีก 100 ปีก็ไม่น่าเท่า(เพราะจงใจไม่ให้เท่า)
แต่ถ้าบอกว่าฟีเจอเยอะเท่า หรือเทียบเท่า หรือจะมากกว่านี่อาจจะพอเชื่อได้ เพราะจะใส่อะไรก็ใส่ได้ ก็เป็นฟีเจอร์ทั้งนั้น
สนับสนุนเต็มที่เรื่องการแข่งขัน คนใช้เลือกใช้เอง (แค่ผมคนนึงละ ที่ไม่มีความไว้ใจแบรนนี้ หลอกผู้บริโภคมาหลายรอบละ โดนจับได้ก็แค่บอกว่าใช้ได้เหมือนๆ กัน ไม่มีขอโทษและเงียบไป)
เรื่องนี้ ก็อยุ่ที่นักพัฒนานั้นแหละ จะเอาด้วยรึป่าว ยอดขายก็เยอะพอที่จะนักพัฒนาหันมามองอยุ่นะ
แต่ในจีนยังไงก็ขายได้อยุ่แล้วสำหรับหัวเว้ย อะไรๆก็พัฒนาเองและขายเองอยุ่แล้ว
ขนาดว่า CPU Kirin ยังมีคนชมเลยว่าทำออกมาได้ดีเลย ดีกว่า Exynos ที่ทำมาก่อนตั้งแต่สมัย S1 S2 จนล่าสุดก็ยังแย่ ..ผมคิดว่าศักยภาพของ Huawei ดูถูกกันไม่ได้เลยนะครับ คือตอนนี้โดนบีบแบบหมาจนตรอก จึงต้องพัฒนาอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู อนาคตอาจจะเป็น OS ขั้วที่ 3 เลยนะครับ และไม่แน่ว่า พวก Xiaomi, OPPO, Vivo, 1+ และยี่ห้ออื่นๆ ก็อาจจะเอา Harmony OS ไปใส่ในมือถือตัวเองกันเป็นทิวแถว ทำให้ส่วนแบ่งตลาดของ Google ตกจนต้องหาอะไรมาสู้แทนก็ได้ เพราะเมื่อถึงตอนนั้น การโดนลดส่วนแบ่งในตลาดให้กับ OS เจ้าอื่น มันคือรายได้ที่น้อยลงด้วย
งานนี้น่าติดตามนะครับ ว่าการสงครามการค้า USA vs China จะเป็นอย่างไรต่อไป
ผมรอดูจะเอาอะไรมาสู้ Google Map กับ Search Engine อย่างอื่นผมว่าที่คนไม่ย้ายกันน่าจะติด service ต่างๆ อื่นๆ ที่ผูกเลยไปยาก
จีนมี search engines ที่ใช้ในจีนเอง ที่ดังๆก็ baidu, haosou, sogou
ใช้ Search หาของภาษาอื่นๆ เช่น Eng, ไทย ทำงานดีไหมครับ อย่าง Bing เองค้นหาผมว่ายังไม่ถูกใจสักเท่าไร
น่าจะยากรึเปล่า เดาว่าคงติด gov filter บานเบอะ