ของใหม่ในงานแถลงข่าวแอปเปิลสัปดาห์ที่ผ่านมาคือ iPad Pro ตัวใหม่ใช้ชิป M1 ที่โฆษณาด้วยการให้ซีอีโอ Tim Cook มาเล่นบทขโมยชิป M1 จากเครื่อง MacBook Air
ประเด็น iPad Pro ใช้ M1 รวมถึงเพิ่มสตอเรจสูงสุดถึง 2TB เยอะกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไปซะอีก ทำให้เกิดคำถามตามมาว่าสินค้ากลุ่ม iPad และ Mac ทับซ้อนกันหรือไม่ สุดท้ายแล้วแอปเปิลจะนำ iPad Pro มาใช้แทน MacBook หรือเปล่า
เรื่องนี้ Greg ‘Joz’ Joswiak หัวหน้าฝ่ายการตลาด และ John Ternus หัวหน้าฝ่ายฮาร์ดแวร์ของแอปเปิล ให้สัมภาษณ์กับสื่ออังกฤษ The Independent ยืนยันเหมือนที่ผ่านๆ มาว่าตลาดของ iPad Pro กับ Mac เป็นคนละตลาดกัน ไม่ทับซ้อนกัน และแอปเปิลไม่มีแผนรวมสองอย่างนี้เข้าด้วยกัน
Ternus บอกว่าคนอาจเข้าใจผิดเพราะสินค้าทั้งสองตัวทำงานบางอย่างได้เหมือนๆ กัน แต่สาเหตุมาจากแอปเปิลไม่ต้องการจำกัดความสามารถของสินค้า จึงไม่มีนโยบายห้ามเหยียบเท้ากันเอง สิ่งที่แอปเปิลทำคือดัน iPad ให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ และดัน Mac ให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้เช่นกัน ลูกค้าเป็นคนตัดสินใจเองว่าจะซื้อตัวไหน
ส่วนประเด็นการเลือกใช้ M1 นั้น Ternus อธิบายสั้นๆ ว่า iPad Pro จะใช้ชิปที่ดีที่สุดของแอปเปิลในเวลานั้นเสมอ ซึ่งตอนนี้คือ M1 ซึ่งเขาบอกว่าอยู่ในวงการฮาร์ดแวร์มานาน การที่สามารถใช้ชิปจากคอมพิวเตอร์มาไว้ในแท็บเล็ตได้ทันที ถือเป็นความก้าวหน้าอย่างมาก
ที่มา - Independent
Comments
ไม่ใช่ชิพจากคอมพิวเตอร์ทั่วไปด้วยนะจ๊ะ แต่เป็นชิพจากคอมพิวเตอร์ที่เร็วเอี้ยๆเลย
เห็นเทสแล้ว งานหลายๆอย่าง performance drop จาก MBA ไม่ถึง 10% บน profile ที่บางขนาดนี้
ผมว่า apple เล็งเห็นแล้วว่าคนรุ่นใหม่ๆที่ไม่ได้ชินกับการการจัดการไฟล์แบบเก่าของ windows เช่นเด็กๆ-วัยรุ่น ที่เริ่มใช้คอมจาก mobile/tablet ไม่ได้เริ่มใช้คอมจาก windows ไม่มีปัญหากับการจัดการไฟล์สไตล์แบบ iOS เลย รอบๆตัวเห็นใช้กันชิวมาก
กลุ่มนี้แหละที่จะเป็นอนาคตของ iPad ส่วนพวกยุคเก่าก็ใช้ Mac ไป
ไม่เกี่ยวกับคนยุคเก่ายุคใหม่ มันอยู่ที่ประเภทงาน คุณพัฒนาโปรแกรมบน iPadOS ได้หรือครับ ดูให้ดีๆ
iPad ดูแล้วเขากะให้พวกทำงานกราฟฟิก ออกแบบ วิศวกรรมก่อสร้าง ไว้ใช้นอกสถานที่ AR ช่วยได้มากถ้าคิดวิธีใช้ประโยชน์ออกและใช้ถูกวิธี
ส่วนพวก Mac มันไว้ใช้งาน ชัดๆมาก ก็พวกเขียนโปรแกรมมันทำบน iPadOS ยังไม่ได้ ถ้าแบ่งแยกเป็นคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่กับสินค้าแบบนี้พอคนรุ่นเก่าล้มหายไปคนรุ่นใหม่ก็ไม่มีใครเขียนโปรแกรมได้แล้วงั้นหรือครับ
ย้ำว่าประเภทงาน เป็นผลในการเลือกใช้อุปกรณ์ ไม่ใช่ยุคเก่ายุคใหม่อะไรเลย และบางที่ก็ปัญหาเรื่อง battery ด้วย ค่าเปลี่ยนโหดมาก ตอนหมดประกันถ้าเปลี่ยนเองไม่ได้ค่าใช้จ่ายโหด ให้ร้านข้างนอกก็เสี่ยงเรื่องข้อมูลรั่วไหล
ครับ...
เห็นด้วยครับ ระบบจัดการไฟล์ของ iPad มันเหมาะกับพวกงาน Mutimedia ถ้าพวกงานเอกสารนี้หากันหัวทิ่มเลย
เห็นด้วยครับ พวกเขียนโค้ดบน iPadOS กับที่เป็นอยู่ตอนนี้นี่ผมนึกไม่ออกเลยครับว่ามันจะสะดวกยังไง ทำไปก็ลำบากชีวิตเปล่าๆ อย่าหาทำครับ ยกเว้นมันจะทำระบบที่มันเอื้อกว่านี้
งานออกแบบก็ไม่ใช่ว่าดีมากนะ สำหรับคนที่ทำงานต้องสลับหลายๆโปรแกรมแล้วก็อปปี้เลเยอร์หรือบางอย่างข้ามกันไปมา ที่ดูแล้วว่าใช้ค่อนข้างดีก็วาดรูปประกอบ หรือวาดร่างแบบงาน
จริงๆคิดอยู่พักนึงว่า จะอธิบายให้คนที่มีความคิดว่า การเปลี่ยนแบต(ไม่ว่าจะศูนย์หรือร้าน) แล้วจะเสี่ยงที่ข้อมูลจะรั่วไหล ดีหรือไม่...
นาย... ถ้านายไม่ได้เข้ารหัส drive แล้วเก็บ key pass หรือ biometric data ใน secure enclave ไว้ นายถือคอมเดินไปมา มันไม่เสี่ยงข้อมูลรั่วไหลเลยเนอะ
แล้วถ้านายเข้ารหัส drive เป็น นายคงไม่กลัวอะไรพวกนี้หรอก ไม่ต้องถึงกับ apple นะ windows หรือ android รุ่นกากๆยังไม่ต้องกลัว
เข้าเรื่อง
นาย... นายพูดอย่างกับว่า iPad ไม่มีวันเอามา dev ได้แน่นอน ตัดต่อก็ยาก โน่นนี่นั่น
คนรุ่นใหม่ที่พูดเนี่ย หมายถึงเด็กๆโน่น อย่าคิดว่าหมายถึงพวกแก่ๆ หรือพวกเรียนมหาลัย หรือพวกทำงานแล้ว
พวกเราๆมันอายุเกินวัยเรียนรู้อะไรให้เป็น native ไปแล้ว
ลองไปหาข้อมูลว่าใน รร.ของประเทศที่พัฒนาแล้ว ประเทศที่ระบบการศึกษาเขาดีๆ ว่าเค้าทำอะไรกับเด็กๆเขากันอยู่บ้าง เด็กรุ่นใหม่ๆเค้าใช้ device ต่างๆในลักษณะไหน เค้าเห็นของพวกนี้เป็นอะไร จัดการกันยังไง ใช้อะไรอยู่บ้าง
มีปัญหาล้านแปดแบบที่พวกนายเจอไหม แล้วนายอาจจะเห็นด้วยว่า อนาคตว่าประเทศไทย จะโดนทิ้งออกไปอีกไกลแสนไกล...
อ้อ... แล้วก็ไม่ได้บอกว่า Mac สำหรับคนรุ่นเก่า iPad สำหรับคนรุ่นใหม่อะไรเลย แค่บอกว่า เท่าที่ดูมา เค้าไช้ได้ทั้งสองแบบโดยไม่มีปัญหา
ผมว่าก็ไม่อีกนะครับ ผมก็เพิ่งซื้อ iPad Air มา หลังจากที่ผมเคยใช้ iPad 1st gen มาก่อนแล้วไม่ประทับใจ เดี๋ยวนี้ยอมรับว่าดีขึ้นมาก แต่ผมก็ยังคิดว่ามันเป็นแค่การ compliment กับสิ่งที่ PC/Mac ทำได้ ยังไม่มาแทนกันซะทีเดียว
พูดถึงเด็กยุคนี้ หลานผม (อายุ 13) ใช้ iPad Pro + Mac Book Pro ตอนเรียนนะครับ ไม่ได้ใช้แค่เครื่องเดียวแบบที่คุณบอกว่าไว้ ซึ่งเค้าก็ซื้อตามเพื่อน ๆ เค้าที่โรงเรียน เห็นว่าเด็กเกรด 7 ส่วนใหญ่ก็ใช้คู่นี้กันนะ ไม่ได้ใช้แค่ iPad อย่างเดียว ส่วนเด็กมหาวิทยาลัยสมัยนี้ เท่าที่ผมสังเกตจากร้านกาแฟที่นั่งประจำ ๆ หลาย ๆ ที่นะครับ ส่วนใหญ่พกทีเดียวสองเครื่อง (Mac + iPad) เหมือนกัน
ดังนั้นในอนาคคตก็เป็นไปได้ที่ iOS จะมาแทน MacOS แต่ยังไม่ใช้ในอนาคตอันใกล้ สิ่งที่ยังขาดอยู่คือจำนวน I/O ที่ค่อนข้างลิมิต (1-port thunderbolt นี่น้อยนะครับ) และความยืดหยุ่นของการใช้งาน peripheral ซึ่ง Apple ยังคุมประเภทของอุปกรณ์ที่ต่อกับ iOS เอาไว้และยังไม่ยอมให้ผู้ผลิต HW สร้างไดร์เวอร์ของตัวเอง อันนี้จะต่างกับ MacOS ที่ผู้ผลิตอุปกรณ์ยังสร้างไดร์เวอร์ของตัวเองได้
และที่น่ากลัวคือพอทำไปทำมาสุดท้ายแล้วเราจะได้ iOS ที่ทุกอย่างเหมือน MacOS หรือเปล่า อะไรแบบนี้ครับ
ปล. พ่อแม่หลานผมเค้ารวยครับ ปล่อยเขาไปครับ ส่วนผมไม่รวยเท่าพ่อแม่เขาครับ ...
ปล.2 แต่การที่เห็น นศ. ใช้คอมโบนี้เยอะ ๆ กัน ก็ทำให้ผมคิดนะว่า ตอนที่เค้าเรียนจบมาจะคาดหวังว่าจะมีงานที่จ่ายค่าตัวสองตัวนี้รวมกันได้จริง ๆ เหรอ เพราะลำพังแค่เครื่องเดียวก็แพงกว่าเงินเดือนเค้าละ แต่ก็นั่นแหละมันเป็นเงินเขาเราไม่เกี่ยว
กว่าจะจบเบสเงินเดือนก็คงขึ้นกว่าตอนนี้ยอะแหละครับ
ตอนนี้ก็มีจบใหม่เงินเดือนครึ่งแสนเยอะแยะ
ก็ยังแบบเดิมครับ IpadOS ยังไม่เท่า MacOS อย่างน้อยก็ เรื่องอิสระในการติดตั้งโปรแกรม อันนี้เห็นๆเลย และ command line ไว้ออกคำสั่งในกรณี ต้องใช้มันเป็นตัวเลือกสุดท้าย ในรูปแบบ เขียนโค๊ตนี่เจอบ่อยครับ บางอย่างไม่มีกดปุ่มสั่งหรอกนะ ผมโหลดมาติดตั้งตอนแรกๆก็มึนตึบ โดยเฉพาะถ้ามีการใช้ 3rd party plugin โดยเฉพาะพวก opensource โปรแกรมบางตัว ไม่มีตัว uninstall มาให้ ก็ต้องใช้ command line ใส่ลบเอง
ถ้า iPad ติดตั้ง MacOS ได้ก็อีกเรื่องนึงแต่การใช่งานคล่องหรือเปล่าก็อีกเรื่องหนึ่ง การใช้งานจริงกับการพรีเซนการใช้งานให้ดู และ การทำงานเพื่อส่งอาจารย์มันต่างกันครับ
iiiiiiiiiii
เพิ่มเติม ลายตามากครับ
"นาย... นายพูดอย่างกับว่า iPad ไม่มีวันเอามา dev ได้แน่นอน ตัดต่อก็ยากโน่นนี่นั่น"
"ตัดต่อยาก โน่นนั่นนี่" คุณไปเอามาจากไหน ผมไม่ได้พิมพ์ คุณยัดข้อความที่ผมไม่ได้พิมพ์มาบอกว่าผมพิมพ์แบบนั้นเฉยเลยครับ ผมพิมพ์ไว้แค่ การเขียนโปรแกรม เท่านั่นที่ยังทำไม่ได้อย่างน้อยก็ตอนนี้ เพราะติดที่ OS นั่นล่ะ
เว็บนี้ถ้ามีคนตอบคอมเม้นไหนคอมเม้นนั้นจะแก้ไม่ได้ ซึ่งของผมไม่มีนะ ที่พิมพ์ข้อความแนวว่า "ตัดต่อก็ยาก โน่นนี่นั่น" และยังบอกด้วยกว่ามันออกแบบมาสำหรับทำงานกราฟฟิก ออกแบบ วิศวกรรมก่อสร้าง ไว้ใช้นอกสถานที่ ซึ่งตัดต่อก้อยู่ในนี้นี่แหล่ะ ไม่ได้ว่าอะไรเลย
แต่ของคุณน่ะมี "กลุ่มนี้แหละที่จะเป็นอนาคตของ iPad ส่วนพวกยุคเก่าก็ใช้ Mac ไป"
แล้วมาพิมพ์ตอบผมอีกทีว่า "อ้อ... แล้วก็ไม่ได้บอกว่า Mac สำหรับคนรุ่นเก่า iPad สำหรับคนรุ่นใหม่อะไรเลย แค่บอกว่า เท่าที่ดูมา เค้าไช้ได้ทั้งสองแบบโดยไม่มีปัญหา"
ผมดูยังไงก็ขัดแย้งกันในตัว นี่ผมเถียงตามตัวอักษรที่เห็นเลยครับ ใจจริงคุณจะสื่อยังไงนี่ผมไม่แน่ใจครับแต่ผมเข้าใจว่าเป็นแบบนั้น ถ้าเข้าใจผิดก็ขอโทษด้วยครับ
แต่ผมเห็นคอมเม้นแต่ละคนก็ดูๆแล้วเหมือนจะเข้าข้อความของคุณในความหมายเดียวกับที่ผมเข้าใจทั้งนั้นเลยนะครับแทบจะทุกคนเลย
เท่าที่ดูมา เด็กประถมจะเล่นเน็ตด้วยมือถือเครื่องเดียว ไม่มี tablet ไม่มี notebook
ยกตัวอย่างเมื่อวานผมเพิ่งได้ External SSD มา (Shopeeเพิ่งมาส่ง) แล้วตอนนั้นผมพกแต่ iPad Pro อย่างเดียวมัน Erase Partition ไม่ได้อะครับ ต้องกลับมา Erase กับ Mac ที่บ้านอยู่ดี
เด็กรุ่นใหม่ยังไม่ถึงวัยเขียนโปรแกรมไง ตามโรงเรียนอาชีวะ มหาวิทยาลัยก็ยังมีสอนใช้แอพวินโดวส์กันอยู่ ส่วนงานเขียนโปรแกรมมันแค่งานพิมพ์ตัวหนังสือไม่ใช่เหรอ เขียนใน notepad ยังได้เลย
ผมเข้าใจว่างาน dev บางทีต้องใช้ command line หรือสร้าง virtual environment ด้วยนะครับ ซึ่งตรงนี้ ผมมองว่า มันไม่ใช่แค่งานพิมพ์ตัวหนังสือครับ
ใช่ command line นี่เป็นสิ่งสะดวกและรวดเร็วสำหรับโปรแกรมเมอร์ แต่สำหรับผม ถ้าไม่มี graphics userinterface แบบใช่เมาส์คลิก ผมก็ใช้คอมไม่เป็น ขออภัยที่แซวคุณเรื่องบอกว่า ipad เหมาะกับงานกราฟฟิค
โปรแกรมเมอร์สถานการณ์ปัจจุบันน่าจะขาด command line นั่นไม่ได้เลยครับ แม้จะมีคนทำ GUI ครอบให้ก็ต้องมีที่ให้รัน command line อยู่ดี
แต่อนาคตก็อีกเรื่องนึง
ผมว่าขาด CLI ได้อยู่ ถ้า tool ตัวนั้นออก GUI พร้อมกันกับ CLI แล้วทำได้เหมือนกันทุกอย่าง เพราะส่วนใหญ๋ที่ต้องใช้ CLI ก็เนื่องจากไม่มีตัว GUI อย่างเป็นทางการ หรือมีแต่ออกมาช้ากว่า แถมทำได้ไม่เท่า CLI แต่ถ้าออก GUI พร้อม CLI แล้่วทำได้เหมือนกันทุกอย่าง การใช้ GUI จะสูงพอสมควรครับ
ปล. เคยเจอโปรแกรม GUI ที่จะสร้าง CLI ให้ด้วยถ้าขอให้มันสร้างให้ครับ
ยังไง CLI ก็จำเป็นครับ สำหรับงานที่ต้องการ Automate ยิ่งโปรแกรมที่ขายกันปัจจุบันตามท้องตลาด รุ่น Basic จะเป็น GUI เพรียวๆ ถ้าต้องการ CLI เพิ่มด้วยต้องซื้อ Feature แยกต่างหาก ซึ่งบางครั้งแพงกว่าเป็นเท่าตัว
เศร้าใจแท้กับคำว่าคนยุคเก่า T_T
คนยุคใหม่นี้ ใช้ไอแพด ไว้เขียนโปรแกรม ตัดต่อวีดีโอหนักๆ แต่งภาพเยอะๆ ไหม
เห็นด้วยครับ เรื่องพฤติกรรมการใช้งาน บริบทสังคม มันตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไว เช่น ยุคก่อนไม่มี มือถือ touchscreen เลย คนก็ทำแบบนึง ผมว่าที่ว่ามาถูกต้องและ เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เรื่องเทคนิคให้ Tablet ทำงานอื่นๆได้ด้วย เดี๋ยวเทคโนโลยีก็ทำได้ครับ ถ้าคนพร้อมใช้. บางคนไม่กล้ายอมรับความเปลี่ยนแปลง
เด็กรุ่นใหม่ไม่เคยใช้ mac os, windows เริ่มจับคอมครั้งแรกก็มือถือ tablet เลย เลยไม่รู้สึกว่าที่ใช้อยู่มันลำบาก ส่วมผมก็ใช้วินโดวส์ต่อไป
ถ้ายังไม่มีแผน
งั้นพี่ก็วางแผนเถอะนะ มันจะดีมากๆถ้าไอแพดใช้แมคโอเอสได้ด้วย เป็นทางเลือกก็ยังดี
ผมนึกภาพวิธีใช้งานให้มันเป็นมิตรต่อผู้ใช้ไม่ถูกเลยแฮะ ?
คือ อยากใช้ MacOS ที่ทัชสกรีนได้ประมาณนี้หรอครับ???
ไม่มีแผน = วางแผนแล้วว่ายังไม่ทำ
ก็นี่ไง เขาวางแผนไว้แล้ว ว่าไม่ทำให้มันมารวมกัน กินส่วนแบ่งได้ทั้ง 2 ตลาด กำไรเห็น ๆ
เห็นด้วยครับ มันรวมกันได้นะในเครื่องเดียวกัน แต่ไม่ใช่ใช้พร้อมกัน ผมคิดถึง iPad ที่มีโหมด macOS พอกดเปลี่ยนโหมดก็จะกลายเป็น macbook air
อนาคตไม่แน่ ตอนนี้ก็ใช้ชิพตัวเดียวกันแล้ว ต่อไปถ้าแอพหรือะไรหลายอย่างมันเข้าที ก็อาจะรวม ต้องดูยอดขายแมคกับไอแพดมาเทียบกันแล้ว
ราคาเท่ากัน ไอแพดโปร ยังไมได้คีย์บอร์ดเลย ขายไอแพดดีกว่า ขายได้หลายอย่าง
อยาก dev ...ซื้อ MacBook
อยากใช้ pencil ...ซื้อ iPad Pro
อยาก dev ด้วย ใช้ pencil ด้วย ...ขายไต
iPad ตัวปรกติก็ใช้ pencil ได้ครับ
มันไม่ M1 อะครับ
ท่านอาจจะไม่ได้คิดอะไร แต่อ่านแล้วทำไมรู้สึกเจ็บจิ๊ดที่ซื้อ Macbook Air Intel มาก็ไม่รู้ T_T
Macbook Pro Intel กองอยู่ข้างๆครับ ตั้งแต่ปีใหม่มาเปิดใช้ไม่ถึง 10 ครั้งครับ มันร้อนนนน
เป็ดแบบ surface มันไม่เวิร์คหรอก
ตลลาดองค์กรไปได้อยู่นะครับ MS ไม่ได้กะทำ Surface ขายเยอะๆ แค่เอาชูหน้าชูตาบอก OEM ว่าเลิกทำ Laptop ห่วยๆได้แล้ว
สำหรับผม มันโคตรเวิร์คเลยครับ
น่าจะต้องลองใช้แบบ tablet ดูก่อน เพราะ ที่เวิร์คมันคือ notebook ที่มีปากกาและ touchscreen ได้ จากที่ลองใช้ดู ลำบากชีวิตมาก บางอย่างใช้ ผ่านเว็บก็ไม่ดีเท่า native app แบบของ tablet จริงๆ
มันก็เวิร์คอยู่ครับ แต่คือเราก็ควรคาดหวังที่ระดับ tablet ด้วย จะแบบทำอะไรโหดมาก ๆ มันก็ไม่ไหว เพราะหน้าจอมันแค่สิบกว่านิ้วเอง)
ปัญหาคือคนที่ทำ native app สำหรับ tablet (UWP) มีน้อยเพราะดันทำลำบาก และ MS ก็เข็นไม่ขึ้น คนเลยไม่ค่อยอยากทำกัน
table ผมก็ใช้ครับ ไม่ได้แย่ แค่ iPad มันดีเกินไป ?
คนที่ใช้แล้วเวิร์คเขาไม่ได้ใช้ฟังก์ชั่นแทบเล็ตเป็นหลักไงครับ เขาต้องการแค่วาดเขียนจดงานเป็นครั้งคราว ไม่ได้จะเอาไปวาดภาพจดโน้ตจริงจังฟังก์ชั่นระดับนี้จึงเพียงพอครับแถมได้ประโยชน์จากการลดความรุงรังในการพกพาด้วย ถ้าหวังจะเอา surface มาเป็นแทบเล็ตหลักมันก็ไม่ดีแน่นอนอยู่แล้ว
สำหรับผมนะ เวริคนะครับ คือไม่คาดหวังมันทำอะไรหนักๆ ได้อยู่แล้ว มันคือแทปเล็ตขั้นกว่าแค่นั้นแหละ คือผมเป็นสายวาดรูปอะไรที่ขีดเขียนๆ ได้ รัน PS พอไหวได้ก็เพียงพอแล้ว โดย Surface มันก็มีระบบจัดการไฟล์มันดีกว่า ios แน่นอน เวริคไม่เวริคก็แค่ขึ้นอยู่แต่ละคนจะใช้งานมันเพียงใด
//เลื่อนไปดูหัวข้อ... ไม่เห็นมีอะไรเกี่ยวกับ surface
อ้อ น่าจะแซะขำๆ?
ว่าแต่หมายถึง Surface อะไรน่ะครับ?
เดี๋ยวนี้ product line ของ Surface มันมีตั้งแต่ duo, go, X, pro ไล่ๆมาจนถึง studio อันไหนเป็นเป็ดหว่า หรือทั้งหมดเลยน่ะครับ?
ไม่เลย สำหรับผมวันเวิร์คมากสำหรับการเรียนและการทำงานเอกสาร ด้าน Tablet อาจจะเรียกเต็มปากเต็มคำได้เลยว่า"แทบไม่มีแอพให้ใช้" แต่สำหรับนักเรียนนักศึกษา การทัชสกรีนสืบค้นข้อมูลจากแอพ Microsoft Edge กับการจดโน๊ตได้ดีกับแอพ OneNote ก็นับว่าเพียงพอต่อการเรียนแล้ว เมื่อต่อเข้ากับ Cover ทำให้เปลี่ยนไปเป็น Laptop ใช้งาน Office ตัวเต็มได้อีก ดูยังไงก็มีประโยชน์ต่อการศึกษากว่าเห็นๆ
ถ้า dev บน iPad ได้เมื่อไรนะ ทับไลน์กันแน่นอน
ที่ยังไม่ทำตอนนี้ทำติดแค่ยังหาจุดลงตัวระหว่างใช้งานง่ายไม่ซับซ้อนแบบ ipad OS กับการทำงานแบบ desktop ของ Mac OSX ไม่ได้แค่นั้นแหละ
ใครจะเดาใจ Apple ถูก มีข่าวหลุด ข่าวรั่ว แต่ข่าว iPad M1 ไม่มีหลุด
มันสมองทีมพนักงานระดับเงินเดือนขนาดนั้น คงเดากันไม่ได้ง่ายๆ
ไม่ต้องใส่ MacOS เข้ามาใน iPad ขอแค่มี Dex mode ต่อจอกล่ยเป็น Desktop ก็พอ
+1 อันนี้ แต่แอปเปิลไม่น่าจะตัดท่อน้ำเลี้ยงตัวเองคือ mac 555
ตอนแรกว้าวเลย หวังไว้สูงว่าจะทำงานได้เยอะกว่านี้สักหน่อย สรุปก็เหมือนเดิม
รอดู iOS15 ครับ เอา M1 มาใส่ มันต้องมีฮั่นอย่าง
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
ก็ชัดเจนดี ไปให้สุดในทาง หากเคยใช้ sf มาจะรู้ว่ามันไม่สุดซักทาง
พอเห็น Apple มาได้ไกลขนาดนี้
บางทีก็อยากให้ Microsoft ออก Windows เวอร์ชั่นระบบปิด แล้ว Optimize OS กับ CPU จะ x86 จะ ARM เอาให้สุดเหวี่ยงกันไปเลย สัก Version ก็เข้าท่าดีนะครับ
ต้องทำชิปเองด้วยมั้งครับ Windows on ARM ยังรันบน M1 แรงกว่า SQ2 อยู่เลย
Windows RT
อยากให้ซื้อทั้งสองตัวแหละ ดูออก
แต่ไม่ได้ปฎิเสธว่าจะรวม Mac เข้ากับ iPad Pro ผ่าม!!!
ว่าแต่ชิปตัวถัดไปจะออกภายในปีนี้ใช่ไหม
ตอนจ็อบก็ No one is gong to buy a big phone > IP6
อะไรก็เกินขี้นได้เหมือนตอนเซอร์เฟสนี่ โอ้โหหหหหหหหหหหห
เวลาจะให้สัมภาษณ์หรือให้ข่าว มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะให้ข่าวที่ทำให้ลูกค้าเกิดความลังเล ก็ต้องอิงกับตัวผลิตภัณฑ์ปัจจุบัน ส่วนเรื่องอนาคตก็อยู่ที่ตัวองค์กรเองจะปรับไปในทิศทางไหน คำตอบของปัจจุบันไม่ใช่ประกาศิตที่จะเปลี่ยนแปลงไม่ได้
+10
พอๆกับ คำว่า
World best
World fastest
พอผ่านไป บางทีไม่ถึงปีก็ร่วงแล้ว
อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด......ทำไมเดจาวูอะ!!!
ขายได้ตั้งสองอย่าง จะรวมให้รายได้ตัวเองลดทำไม ถามไม่คิด
ไม่มีเหตุผลที่จะรวมเลยครับ ขายสองตัว ได้กำไรสองตัว ทำไมต้องทำให้เหลือตัวเดียว
เหตุผลง่ายๆ เลยในการใช้ Chip ตัวเดียวกัน คือ การพยายามใช้ part ร่วมกันให้ได้มากที่สุด แล้วนำไปต่อรองกับ supplier ลดต้นทุน เพื่อผลกำไรที่มากขึ้น รวมถึงการบริหารอะไหล่ก็ง่ายขึ้น ประหยัดได้อีกเพียบ แถมทดแทนส่วนต่างของราคาชิ้นส่วนอื่นๆ ที่ขึ้นราคาได้ในระยะยาวได้ ทำให้สามารถขายราคาเดิมได้ โดยมีสเปคสูงขึ้นได้ แบบนี้ win-win ทั้ง apple ทั้งผู้ซื้อ
ส่วนเรื่องจะรวมสายการผลิต คงอีกนานตราบใดที่ Mac ยังขายได้ เพราะถ้ามาแนวทางที่กล่าวด้านบนภายนอกอาจต่างกัน แต่ภายในชิ้นส่วนของ 2 สายการผลิตน่าจะใช้ร่วมกันได้เยอะมาก แนวทางนี้บริษัทรถยนต์ทำกันมานานแล้ว เรียกว่าพื้นฐานเดียว แต่แตกรุ่นจนแทบดูไม่ออกว่าใช้พื้นฐานเดียวกัน เพื่อทำต้นทุนแล้วอัดเทคโนโลยีเข้ามาแทนส่วนต่าง แล้วคงราคาขายได้
+1
บางที่ M1 ใน iPad Pro อาจจะเป็น M1 ที่ตกสเปกมาจาก mac ด้วยซ้ำแบบไม่สามารถดัน Clock ได้เท่าใน Mac เลยเอามาทำ ipad ซะไม่เสียของ
ทำไมต้องรวม ทำแอปเป็น 2 user interface แบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนให้ ui ของ mac เป็นเหมือน iPad ซะทุกอย่าง ให้ข้อมูลในแอปมันซิงค์กันดีๆก็เป็นพอแล้ว
ผม ที่อ่านด้วยกระทู้นี้ด้วย samsung tab s เค้าคุยกันเรื่อง ipad surface หวังว่าจะมีอ้างถึงบ้าง
ขำ 55
เห็นด้วยกับหลายท่านที่บอกว่าไม่จำเป็นต้องรวมกัน
ipad ก็ใช้ ipados ต่อไปได้ แต่ผมว่ามันจะไม่มีเหตุผล justify ให้ใส่สเปคโหด ๆ มาอ่ะครับ
ipad pro ใช้ m1 แล้วไงในเมื่อยูสเซอร์ก็สัมผัสถึงความแตกต่างไม่ได้อยู่แล้ว
ถ้ามีโหมดแบบ dex หรือใส่ pro app อย่าง final cut มาให้ใช้ได้ก็ว่าไปอย่าง
ไม่ต้องทำได้ทุกอย่างเหมือน macbook ก็ได้
ถ้าจะทำผมว่าทำได้นะคือเป็นเครื่อง 2 ระบบเลยใช้ปกติก็ใช้งาน ipados พอต่อ dock หรือเชื่อมต่อจอนอกก็ปรับไปใช้งาน OSX ส่วนตัว ipad เวลาต่อจอนอกก็ใช้เป็น trackpad+keyboard หรือใช้กับปากกาก็ mirror จอทำเป็นเหมือน wacom แต่ apple ไม่ทำหรอกเพราะแบบนี่ก็ขายได้แค่ตัวเดียวแทนที่จะขายได้ 2 ตัว
กลยุทธแข่งขันภายในบริษัทที่เคยทำกับ Mac ยุคแรกๆ ที่แข่งกับ Apple computer
คนที่มี iPad ไม่บ่นหรอก ส่วนใหญ่ก็มีแมคกันทั้งนั้น
ทุกครั้งที่แอปเปิ้ลเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ กระดานคอมเม้นท์ที่นี่จะบันเทิงตลอด?
แค่แอปเปิ้ลลดต้นทุนโดยผลิต M1 เยอะ ๆ เอามาใส่ได้หลาย ๆ ตัว เลยเอามาใส่ iPad ด้วย ได้ไม่ต้องไปออกแบบชิพแยก ก็ไปมโนกันซะมากมาย
+1
แนวเป็นวิเคราะห์มากกว่าว่าเป็นไปได้ไหมหรือเปล่าครับไรงี้
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
เป็นแนวอยากได้แต่ไม่ลงมือทำเอง ชี้นิ้วสั่งเอามากกว่า
.
อันนี้ Win-Win มาก
Apple ไม่ต้องไปออกแบบกตระกูล AX ใหม่
ลูกค้าได้ของดีกว่าเดิม
คิดว่าแบบนั้น เพราะผู้ผลิตรายอื่น ๆ ก็ทำ อย่าง Intel/AMD คือ เวลาผลิตชิป แผ่นเวเฟอร์เดียวกันอาจจะผลิตได้ประสิทธิภาพไม่เท่ากัน ก็คัดๆ ไปขาย แปะรุ่นเอา แผ่นเวเฟอร์เดียวกันอาจจะได้ทั้ง CPU รุ่นแรงสุดและรุ่นแรงน้อยสุดอยู่ในตัวแผ่นเดียวกันก็ได้
ที่นี้ ชิปนี้มันผลิตเพื่อสินค้า Apple ก็แบบหนึ่งแผ่นอาจจะ 100 ตัว คัดมา เพื่อใช้กับ iPad เปิดใช้แบบ cpu 8 core + gpu 8 core ได้สัก 40 ตัว ที่เหลือก็เป็นของ Macbook สำหรับตัว cpu 8 core + gpu 7 core หรือบางตัวทำไม่ได้ตามเป้า ก็อาจจะเอาไปวางแผนใส่สินค้าตัวอื่น
ชอบแนวคิดแบบ Samsung DeX