By: mk 
on 10 November 2021 - 16:37
Tags:
Canonical ประกาศรองรับ Ubuntu บนชิป Apple M1 ผ่าน Multipass ซึ่งเป็นระบบจัดการ virtualization ของ Canonical เอง
ก่อนหน้านี้ เครื่องแมคที่เป็น Apple M1 ยังไม่รองรับลินุกซ์อย่างเต็มที่นัก และการรันผ่าน virtualization อย่าง VirtualBox/VMware ยังไม่สมบูรณ์มากพอ แนวทางของ Canonical คือสร้าง Multipass ซอฟต์แวร์จัดการ virtualization ที่ใช้ระบบของ OS เอง (KVM บนลินุกซ์, Hyper-V บนวินโดวส์, HyperKit บนแมค) แล้วจัดการเรื่องอิมเมจและการติดตั้งให้อัตโนมัติ ผู้ใช้ไม่ต้องยุ่งกับการคอนฟิก VM เอง
Multipass เป็นซอฟต์แวร์ที่ Canonical พัฒนามาได้สักระยะแล้ว และเวอร์ชันล่าสุด 1.8.0 รองรับสถาปัตยกรรม M1 และมีฟีเจอร์ใหม่อีกตัวชื่อ aliases ให้สามารถเปิดแอพจากลินุกซ์ในเทอร์มินัลของ host OS ได้
ที่มา - Canonical, Multipass GitHub
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- สงคราม GenAI บนคลาวด์ในปี 2024 ไปถึงไหนกันแล้ว | Cloudnone x AWS
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
Comments
นะ นี่มัน mSL - macOS Subsystem for Linux
ใคร ๆ ก็หันมาสนใจ ARM ยกเว้น Microsoft ทั้ง ๆ ที่ริเริ่ม Windows RT มาก่อนชาวบ้าน แต่ก็ทำเจ๊งเอง
ทุกวันนี้ผมยังสงสัยอยู่เลยว่าทำไม MS ไม่ทำ translator ให้ดี ๆ เหมือน Rosetta 2 ตั้งแต่แรกไม่งั้นอนาคต ARM บน Windows คงไปไกลกว่านี้แล้ว
นั่นหละครับที่ผมเคยคิดไว้ และเคยด่า Microsoft ไป รวมๆ กับ W10M/WP ที่ทิ้ง Astoria และทั้งระบบไป ทั้งที่มันมีอนาคต ถ้าทำมาดีๆ ตั้งแต่แรก
เหมือนทำของออกมาหลอกให้คนซื้อไปเป็นหนูทดลองและไม่สนับสนุนต่อแบบดื้อๆ ใช้งานอะไรไม่ได้หลังจากนั้น เบื่อครับบริษัทแบบนี้ ที่นอกจาก XBOX, Surface, Office, Windows และ Azure ก็ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แม้แต่ของใหม่ที่ทำออกมาขายเองแถมดีด้วยก็ยังทิ้งได้ลงคอ
ผมรู้สึกถึงอาการควันออกหูมาก ตอนยกเลิกและทิ้ง W10M เนี่ย
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ว่าที่ไหน (ถ้าในนี้ คิดว่าMSได้ยินหรอ) แล้วถึงMS(ไทย)เห็น คิดว่าไปถึงทีมพัฒนาจริงๆหรอ
แค่W10ที่ตัวเองขายเอง คนMSไทย ยังอธิบายมั่วเลย
https://www.youtube.com/watch?v=9j9_A8hfzhM
Rosetta 2 หลักการมันไปคนละทางกับตัวที่ไมโครซอฟต์ทำอยู่เลยน่ะครับ นอกจากความเป็นไปได้ว่าคิดไม่ถึงวิธีนั้นกับติดเรื่องสิทธิบัตร ก็อาจจะเป็นว่าตัว binary ของ Windows มันอาจไม่เอื้อให้ทำได้ก็ได้
ที่น่าแปลกใจคือ Compactible Layer แบบ Wine (crossover) ที่ทำ reverse engineering ดันทำได้ดีกว่า MS ทำเองซะอีก