เว็บไซต์ Windows Central รายงานข่าววงในของ Windows รุ่นปีหน้า 2024 ที่ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่าจะเรียก Windows 12 หรือไม่ เพราะฝ่ายการตลาดของไมโครซอฟท์ยังไม่ตัดสินใจเรื่องนี้
การเปลี่ยนแปลงสำคัญของ Windows ปี 2024 เกิดจากปัจจัยผู้บริหาร Panos Panay ที่ดูแลทีม Windows ลาออก โดยแนวทางที่ Panos วางเตรียมเอาไว้คือ กลับมาออกตัวแกนหลักของระบบปฏิบัติการ (platform) ทุกสามปี แล้วออกอัพเดตฟีเจอร์ย่อยให้บ่อยๆ ปีละ 2-3 ครั้ง (ภาษาภายในไมโครซอฟท์เรียก Moment updates) ดังที่เราเห็นใน Windows 11 ช่วงหลัง
แต่หลัง Panos ลงจากตำแหน่ง นโยบายนี้กำลังเปลี่ยนมาเป็นการออกอัพเดตใหญ่ระบบปฏิบัติการปีละครั้ง (เหมือนยุค Windows 10 ช่วงหนึ่ง) โดยอาจมีอัพเดตย่อย Moment update บ้างแต่ไม่สำคัญนัก
ภาพ Copilot ของ Windows 11
แผนการของไมโครซอฟท์มีตัวแกนระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ชื่อ Germanium และชุดฟีเจอร์ที่พัฒนาแยกจากตัวแกนระบบ ใช้ชื่อว่า Hudson Valley ซึ่งแนวทางนี้ใช้มาสักพักแล้ว (รอบก่อนหน้านี้ชื่อ Cobalt กับ Sun Valley ในปี 2021 ที่กลายร่างมาเป็น Windows 11)
ตามข่าวบอกว่ารอบนี้ Germanium กับ Hudson Valley จะอัพเดตแยกจากกัน เพราะทำเสร็จไม่พร้อมกัน
รอบนี้คาดกันว่าไมโครซอฟท์จะออกอัพเดต Germanium ให้พีซีใหม่บางส่วนก่อน โดยเฉพาะพีซีที่ใช้ชิป Snapdragon X Elite ตัวใหม่ของ Qualcomm ซึ่งไม่สามารถใช้งานกับแกนตัวเดิมของ Windows 11 ได้ จากนั้นไมโครซอฟท์จะปล่อยอัพเดต Hudson Valley ให้กับพีซีที่ใช้ Germanium ในภายหลัง พร้อมกับผู้ใช้พีซีเดิมที่ได้อัพเดต Hudson Valley รอบใหญ่ทีเดียวเลย
ส่วนฟีเจอร์ใหม่ของ Hudson Valley จะเน้นเรื่อง AI โดยเรียกกันว่า "advanced Copilot" คือเป็นส่วนติดต่อผู้ใช้ (shell) ของระบบปฏิบัติการที่นำพลัง AI มาใช้หลายส่วน
ฟีเจอร์ใหม่อื่นๆ ที่มีในข่าว
Windows Central ชี้ว่าในเรื่องชื่อแบรนด์ยังไม่ชัดเจนว่าไมโครซอฟท์จะเอาอย่างไร เพราะตอนนี้ไมโครซอฟท์มีฐานผู้ใช้ Windows ทั้งหมด 1.4 พันล้านเครื่อง แบ่งเป็น Windows 10 ราว 1 พันล้านเครื่อง และ Windows 11 อีก 400 ล้านเครื่อง ยังมีปัญหาเรื่องพีซีเก่าอัพเกรดเป็น Windows 11 ไม่ได้อยู่อีกมาก หากจะออก Windows 12 มาอีกจะยิ่งทำให้กลุ่มฐานผู้ใช้แตกกระจาย จึงเป็นอีกปัจจัยที่ไมโครซอฟท์อาจยังไม่กล้าปรับตัวเลขเวอร์ชันในระยะอันใกล้นี้ แต่สุดท้ายผู้มีอำนาจตัดสินใจคือฝ่ายการตลาด ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้เคาะกัน
ที่มา - Windows Central
Comments
ai เต็ม ไปหมด
intel gen 8 จะยังได้ไปต่อไหม
มาขนาดนี้แล้ว น่าจะเกินครึ่งที่ ไม่ได้ขยับไป Windows 11 ถ้าเป็นองค์กรก็คงซื้อ Extended service จนกว่าจะปลดระวางแล้วซื้อเครื่องใหม่
..: เรื่อยไป
อารมณ์เหมือนสมัย Windows XP ใช้ลากยาวเป็นสิบปีเพราะรัน Windows รุ่นใหม่ๆไม่ไหว
ผมสงสัย ios Android สร้างแกนใหม่ตอนออก
หรือ อัพแกนเก่าแต่ใช้ชื่อใหม่ครับ เช่น ios 15-->16
Android 12--> 13
เหนื่อยครับ ออกมาใหม่ที เปลี่ยน UI ที ไม่เหมือน MAC OS ที่ฟีเจอร์ใหม่ๆมาแต่ UI ยังคุ้นตาเหมือนเดิม windows เดี๋ยวนี้ไม่เหมือนสำหรับผู้ใช่ทั่วไปแล้ว ทำคู่เมือใหม่ไปเลยมะ ขนาดตั้งค่า network หาดู UI แบบใหม่ยัง งง เลย
แอบเห็นด้วย ตอนแรกคิดว่าถ้ามา Windows 11 จะนิ่งกว่านี้แต่กลายเป็นว่าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมามั่วกว่าเดิม
ดีกว่า Mac อย่างเดียวคือ Legacy Support แต่นั่นก็ทำให้ระบบบวมมาก
ไม่ใช่แค่หาจนงงนะการใช้งานมันก็ไม่เหมือนกัน สุดท้ายเข้าหน้าเดิมเซ็ทค่าง่ายกว่าไม่มีปัญหา
ผมก็ทำแบบนั้นครับ แต่ปัญหาคือเขาทยอย เอาหน้าการตั้งค่าเดิมๆพวกนี้ออกไปด้วย ไม่รู้ว่าหน้าการตั้งค่า Network พวกนี้จะหายไปเมื่อไหร่เลยพยายามลองใช้งานแบบของใหม่ควบคู่กันไปด้วยน่ะครับ
โควต้าผมหมดแล้ว เดี๋ยวต้องไปตอบอันอื่นต่อวันอื่น เรื่องนี้ผมขอเล่าประสบการณ์ส่วนตัวจบที่ตรงนี้แหล่ะครับ ขอบคุณครับ
ต้องลองฝึกหาบ่อยๆ ครับ สุดท้ายแล้วมันจะหายไปทีละส่วน
เช่น Windows Updates
ถ้าจะถอนอัปเดตตอนนี้คือเชื่อมไป Settings แล้ว (กดใน Control Panel ก็จะเด้งไป Settings)
ทำทุกอย่างยกเว้นรวม Control Panel กับ Settings 😂
ยังย้ายมาไม่ครบครับ + น่าจะอยู่ไปอีกสักพักเลย
บางอย่างย้ายมาแล้วแต่ยังไม่เอาออก เช่น Network, Devices มา(เกือบหมด)แล้ว
บางอย่างย้ายมาแล้วหายไปแล้ว เช่น Windows Update ถ้าจะถอดถอน Installed Update จะเด้งมาที่ Settings ใหม่เลย
Control Panal คือศูนย์รวมโปรแกรมครับ (CPL) แต่ละส่วนจะเป็นไฟล์โปรแกรมแยกกัน
Satya Nadella: เราเรียกมันว่า The New Windows เพราะไม่อยากให้ใครเดาชื่อผลิตภัณฑ์ของเราถูก
Windows 10 อายุที่วางไว้มันก็เกือบ ๆ 10 ปี (Jul 29, 2015 - Oct 14, 2025) ซึ่งจากวัน EOL ก็เหลืออีกประมาณ 2 ปี
ฝั่ง Windows 11 ก็เปิดตัวมาประมาณ 2 ปีนิดๆ (เปิดตัว Oct 4, 2021)
ปัญหาคือพวกที่อายุเครื่องไม่ครบ 5 ปี แล้วใช้ Windows 10 อยู่ซึ่งบางตัวมันไม่รองรับให้อัพเกรดไป Windows 11 (พวกไม่มี TPM อะไรพวกนี้) ซึงจะติดปัญหาเรื่อง software support ได้ เพราะปรกติเครื่องในองค์กรเปลี่ยนทุกๆ 5 ปี ถ้าจะให้เนียนๆ หน่อย Microsoft ต้องขยาย EOL ของ Windows 10 ออกไปสัก 1 ปี เป็น Oct 14, 2026 คิดว่ากำลังสวยๆ
ถ้าจะขายตัว Windows 12 น่าจสักช่วง 2026 น่าจะเหมาะกว่า
คิดว่า EOL น่าไม่มีการยืดออกครับ เพราะเพ่ิ่งมีประกาศ ESU ออกมา (เหมือน Win7/2008/2008R2 หรือล่าสุดกับ 2012/2012R2)
"Extended Security Updates (ESU) program for Windows 10"
จะรอดูอันนี้
ทำไมไม่ออกทุกปีเหมือน macOS และทำ UI ให้ friendly หน่อย อย่างเช่น setting menu ที่ทำแยกกันตั้งแต่ 8 ลากยาวมาจน 11 ก็ยังไม่เสร็จ แถมตัวใหม่ก็ใช่งานยุ่งยากลำบากอีก หาอะไรก็ไม่เจอ
บางฟีเจอร์อย่างกับมาจากการ์ตูน แปลภาษาเป็นคำพูดแบบเรียลไทม์รึ ฮ่าๆๆฟ ตลกสิ้นดีทุกวันนี้แค่เปิดซัพในyoutubeยังโคตรจะมั่วเลย เพ้อฝัน
The Last Wizard Of Century.
หรือนี่คือสัญญา?
บล็อก: wannaphong.com และ Python 3