จากข่าวล่าสุดร้อนๆ ที่แอปเปิลฟ้องโนเกียกลับฐานละเมิดสิทธิบัตร 13 รายการ (ดูข่าวเก่า) ตอนนี้มีรายชื่อสรุปออกมาแล้วครับ (ดูได้จากที่มา) นอกจากนี้แล้วในสำนวนส่งฟ้อง แอปเปิลยังได้มีข้อความเหน็บแนมโนเกีย โดยมีใจความสำคัญที่กล่าวถึงประวัติความสำเร็จของ iPod จนนำมาสู่ iPhone ของแอปเปิล และเปรียบเทียบกับการที่โนเกียยังเลือกที่จะอยู่ในโลกของโทรศัพท์ยุคเก่า และไม่เร็วพอที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงตามโลกได้ทัน จึงเลือกที่จะลอกเลียนดีไซน์และอินเตอร์เฟซ iPhone ของแอปเปิลแทน
ในสำนวนส่งฟ้อง ยังมีการอ้างถึงคำพูดของ Anssi Vanjoki ซึ่งเป็น Vice President และ General Manager of Multimedia ของโนเกียในงาน Nokia's GoPlay เมื่อปี 2007 เมื่อถูกสัมภาษณ์ถึงเรื่อง iPhone ว่า "ถ้ามีอะไรที่ดีอยู่ในโลกนี้ เราก็จะลอกเลียนมันด้วยความภูมิใจ" (If there is something good in the world, we copy with pride.) โดยแอปเปิลได้นำข้อความนี้มาเพื่ออ้างถึงความตั้งใจของโนเกียในการลอกเลียนแบบ
ที่มา - All Things Digital
Comments
ข้อหาลอกเลียนดีไซน์นี้ฟ้องได้หลายเจ้านอกจาก Nokia นะครับ เผลอๆรวยไม่รู้ลืม
ส่วนข้อหาลอกอินเตอร์เฟซนี่แนะนำให้มาดูประเทศแถวๆนี้ได้ครับ มีให้ฟ้องอีกเพียบ ฮา.. ^ ^
ผมว่าถ้าจะเล่นเรื่องลอกเลียนดีไซน์ไม่น่าจะชนะคดีนะครับ เพราะมันไม่ได้เหมือนเปี้ยบนี่นา
แล้วลอกเลียน UI นี่ยังไงคับผมว่า UI Nokia มันเน่าสุดๆแล้วนะเนี่ย ไม่เห็นจะเหมือน
เป็นข่าวใหม่ไปเลยดีกว่ามั้งครับ เอาบรรทัดสุดท้ายออกเดี๋ยวคงมีคนเลื่อนไปเป็นข่าวให้ครับ
@TonsTweetings
คงเป็นวิธีการหาตังทางลัดละมั้ง
ไม่น่านะ ทั้ง 2 บริษัทก็รวยๆ กันอยู่แล้ว แต่น่าจะไว้เพื่อต่อรองกันเพื่อไปจบที่นอกศาล เพราะเวลาต่อรองกันถ้าไม่มีเงื่อนไข ก็ต้องสร้างเงื่อนไขขึ้น เพื่อให้ต่อรองกันมีน้ำหนักมากขึ้น
ส่วนหาตังค์มักเป็นบริษัทเล็กๆ ฟ้องบริษัทใหญ่มากกว่า
บางครั้งมันเป็นเรื่อง Pride ด้วยครับ เขามันลอกเรานะเธอว์
@TonsTweetings
Konfabulator ครับ ท่องไว้ๆ
ไม่ใช่หรอกครับ
ประเด็นน่าะอยู่ที่ Nokia มาฟ้อง Apple ก่อน
โดยที่ตอนแรก Apple ก็ไม่คิดจะทำอะไรกับสิทธิบัตรที่มาละเมิด
ธรรมดาแล้ว จะใช้เวลานานเท่าไหร่ที่ศาลจะตัดสิน หรือตกลงกันนอกศาล อย่างเช่น 3-6 เดือน ? จะได้ติดตามข่าวครับ
สุดท้ายผมว่าจบลงที่ win-win มากกว่า ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย (แต่ลึกๆ แอ็ปเปิ้ลคงต้องจ่ายแน่นอนค่า Standard)
สุดท้าย
แอ็ปเปิ้ล ทำไอโฟนต่อ (เน้นด้านมัลติมิเดีย และ ซอร์ฟแวร์ ที่เป็นจุดแข็งของตัวเอง)
โนเกีย ทำโทรศัพท์+มัลติมิเดียโฟน เน้นMeamo (อาจจะออก มัลติทัลโฟนทุกรุ่น ปีละ 10-20 รุ่น เน้นทางด้านคุณภาพของความเป็นโทรศัพท์ที่ตนเป็นจุดแข็ง+ มัลติทัชที่เป็นที่นิยม และ Ovi support)
แล้วดูตอนจบ
เรื่องตกลงนอกศาลคงมีอยู่แล้ว
แต่งานนี้ Nokia ไม่น่าเปิดเกมส์ในการฟ้องก่อน เพราะเห็นได้ชัดว่าตัวเองเริ่มพ่ายแพ้ในตลาด
ไม่ใช่เฉพาะ กับ iPhone แต่กับ Andriod ของ google ด้วยในฐานะ Platform ของ(โทรศัพท์มือถือ) การฟ้องร้องเรื่องละเมิดสิทธิบัตร ทำให้ Apple ออกมาจัดการ ฟ้องกลับ เพราะเห็นอยู่แล้วว่า
ถ้าไม่ copy ก็ไม่สามารถ ทำโทรศัพท์ เพื่อมาเทียบเท่า หรือ ออกมาขายได้
งานนี้ ใครถือสิทธิบัตรไว้เยอะๆ ย่อมได้เปรียบ ( Apple ไม่ขาดทุน แต่ โนเกีย ขาดทุน อย่าลืม)
iPhone มีสิทธิบัตรคุ้มครอง กว่า 200 สิทธิบัตร ถ้าจะ copy ให้เหมือน ก็ต้องละเมิดให้หมด
ส่วนโนเกีย ทำโทรศัพท์+มัลติมิเดียโฟน เน้นMeamo คงลำบาก เพราะปีหน้า Andriod จะลงมาแข่งขันรุนแรงขึ้น และตลาดระดับกลาง Andriod จะได้ตลาดไปเกือบหมด ถ้าโนเกียไม่ทำอะไร ยอดขายก็จะตกลงเรื่อยๆ อย่างน่ากลัว ยังไม่นับ Window Mobile 7 ที่ไม่รู้จะออกมาเมื่อไหร่ อนาคตก็คงเหมือนกัน
ประเด็นมันน่าจะอยู่ที่ Nokia ฟ้อง Apple ก่อนมากกว่านะ
Apple คงหมั่นไส้ เห็นว่าทีเอ็งลอกข้า ข้ายังไม่ฟ้อง อะไรราวๆนี้ ;P
+1
เห็นด้วยครับ
เห็น Apple เงียบๆไม่ฟ้องใครเลย
เจอ Nokia กระตุกต่อมเลยเอาจริงซะเลย !
"มาฟ้องว่าชั้นลอกหรือ ชั้นก็ไม่ปล่อยให้แกมาลอกเฉยๆหรอก"
ประมานนี้ละมั้ง - -
Apple เนี่ยนะครับ เงียบไม่ฟ้องใครก่อน - -*
ปล่อยให้เขาอยู่ในโลกของเขาไปเถอะครับ
หมายความว่า Apple ไม่ได้ฟ้อง Nokia ตอนละที่เมิดสิทธิบัตรของ Apple อะครับ
แต่พอ Nokia ฟ้องมา Apple เลยฟ้องกลับ
ปล.พูดถึงด้านโทรศัพท์หน่ะ
จะบอกว่า Apple คือตัวพ่อเลยนะครับเรื่องการฟ้อง ที่'ไม่กล้า'ฟ้องใครก่อนในบางครั้ง เพราะกลัวว่าจะโดนฟ้องกลับแล้วจ่ายหนักกว่าไปฟ้องเค้ามากกว่า ไม่ใช่ Nokia กระตุกต่อมเลยเอาจริงซะเลยตามที่คุณพูด แต่เป็นการฟ้องเพื่อรักษาภาพลักษณ์ และแสดงความต้องการที่อยากตกลงกันนอกศาลมากกว่า
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
อืมครับ - -
บริษัทอื่นที่ใช้โลโก้เป็นแอปเปิลกับชื่อคล้ายแอปเปิลโดนระนาว แม้กระทั่ง Supermarket ที่ออสเตรเลีย Woolworths
@TonsTweetings
ผมว่าสิ่งที่ Nokia ฟ้องมันชัดเจนกว่าสิ่งที่ Apple ฟ้องนะครับ
เหมือนกับว่า Apple แค่กู้หน้า แล้วเกทับให้คนอื่นดูเฉยๆ
แรงกันจัง
"ถ้ามีอะไรที่ดีอยู่ในโลกนี้ เราก็จะลอกเลียนมันด้วยความภูมิใจ" (If there is something good in the world, we copy with pride.)
ประโยคนี้เหมือนทำร้ายผู้คิดค้นนวัตกรรมทั้งหลายเลยเนอะ - -
มันก็พอกันแหละครับ สิ่งที่ Nokia อ้างคือ apple เข้ามาไช้มือถือ และ wifi "ที่เป็นของ Nokia" ความจริงคือ apple ไม่ใด้คิดอะไรเองทั้งหมดหรอกครับ
Nokia เตือนไปแล้วพักหนึ่ง แต่ Apple ไม่ตอบเลยโดนฟ้อง
การฟ้องกลับแบบนี้ก็คือการยอมรับว่า Apple ละเมิด Nokia ใน 10 ข้อนั้นจริง
รู้ไว้ไช่ว่า :
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
+1 informative
ถ้าดูจากสำนวนการพูดในงาน น่าจะแปลว่า ถ้ามันมีอะไรในโลกนี้ที่เป้นสิ่งที่ดี เรายินดีที่จะทำทุกอย่างเพื่อได้มันมาให้คุณๆใช้กันอย่างแน่นอน
งานนี้ผมว่ามันเริ่มที่ต่างคนต่างละเมิด
สุดท้ายคือ ตกลงกันนอกศาล แล้วอนุญาตให้แต่ละฝ่ายมาใช้สิทธิบัตรของอีกฝ่ายได้ เป็นการทำให้มันถูกกฏหมายขึ้นมาเฉยๆ หรือเปล่า
iPAtS
คราวก่อน Apple ขู่ Palm คราวนี้โดนขู่เสียเองบ้างก็ดีแล้วครับ
ปล. PreCentral และ The iPhone Blog วิเคราะห์ว่าทั้ง Nokia และ Palm ทำมือถือนานแล้วมีสิทธิบัตรเป็นกอง สงสัยว่าคราวนี้ Nokia คงจะมีชัยในการประชันแล้วแหละครับ
เดี๋ยวนี้มือถือมันไม่ได้เป็นแค่มือถือหน่ะสิครับ เริ่มรุกเข้าเขตคอมพิวเตอร์ไปเรื่อยๆ ซึ่งยังไง apple ก็ได้เปรียบ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ผมคิดเล่นๆว่า MAC is not PC Why iPhone is not Mobile Phone แค่ขำๆครับ
สาเหตุที่ Nokia เสียต่ำแหน่ง value share ในตลาดอันดับหนึ่งให้ Apple เป็นเพราะว่า Nokia ต้องการคงรักษา market share ในตลาดเอาไว้ อย่าลืมน่ะครับ Nokia เป็นอันดับหนึ่ง มีส่วนแบ่งในตลาดโทรศัพท์มากที่สุด ถึงแม้ กำไรต่อเครื่องจะได้น้อยก็ตาม
อีกอย่าง iPhone เป็นโทรศัพท์ที่ห่วยที่สุดในโลก อ้างอิงจาก "http://www.blognone.com/node/13785"
สาเหตุเป็นเพราะว่า Apple ต้องการ ลดต้นทุนต่อเครื่องเพื่อให้ได้กำไรมากๆ ลองดู iPhone ข้างใน
"http://www.topblogposts.com/2007/07/iphone-inside-secrets/"
-ถ้าจำไม่ผิดบางแผงวงจรใน iPhone จะใช้ PCB แค่ 2-4 เลเยอร์เอง และบางอุปกรณ์ด้าน RF จะไม่มีส่วนป้องกันสัญญาณรบกวนด้วย ส่วนใหญ่จะสั่งเแผงวงจรหลักๆ เช่น BT,WLAN,GPS มาจาก supplier เป็นโมดูลมาเลย ไม่ได้ออกแบบเอง
และอีกอย่าง Nokia ไม่มี Muti-Touch phone ในตลาดน่ะ จะบอกว่า ลอกเลียน หรือว่าก็อปปี้ iPhone ได้ไง *จะมีก็แต่รุ่นล่าสุด X6 รุ่นแรกที่ใช้ Capacitive touchscreen.
ไม่ใช่ว่า Nokia ทำ Muti-Touch phone ไม่ได้น่ะ แต่แค่ว่า Apple ตีตลาดก่อนเท่านั้นเอง ลองดูสิทธิ์บัตรของ Nokia ในลิงค์น่ะ แล้วจะรู้ว่าใครก็อปใคร
"http://www.engadget.com/2009/10/24/nokia-patent-app-reveals-dreams-of-pressure-sensitive-multitouch/"
"http://mobile.engadget.com/2007/10/06/nokia-patent-app-envisions-touchscreen-input-lids/"
"http://www.unwiredview.com/2008/07/08/nokia-haptikos-tactile-touchscreen-details-emerge/"
ผมว่า moral to the story จริง ๆ แล้วมันก็อยู่ที่ hype นั่นล่ะครับ เจ๋งไม่เจ๋ง Apple กับ Palm กับ DROID ได้ไปหมดแล้ว โนเกียล่ะ ก็โนเกียต่อไป = =
บังเอิญโนเกียสร้าง hype อาจจะยังไม่เก่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตีตลาดอเมริกาไม่ได้ hype ก็ไม่มา
@TonsTweetings
ผมคิดว่าโลกเราได้ก้าวผ่านการเอาชนะกันทางเทคโนโลยีเพียวๆ แล้วน่ะครับ ในแง่สิทธิบัตรฮาร์ดแวร์ โนเกียอาจจะเหนือกว่า (หรือถ้าด้อยกว่าก็ไปไล่ซื้อบริษัทเล็กๆ มาได้ ไม่ยาก) แต่ทิศทางที่โลกมันกำลังหมุนไปคือ การผสานกันอย่างแนบแน่นของฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ เซอร์วิส การตลาด ประชาสัมพันธ์ ecosystem ฯลฯ
ผมคิดว่าสิ่งหนึ่งที่ทำให้ iPhone ประสบความสำเร็จอย่างสูงคือ ความสามารถในการท่องเว็บแบบเต็มบนมือถือ ซึ่งอันนี้เป็นเรื่องของซอฟต์แวร์ และต้องยอมรับว่าวิสัยทัศน์ของแอปเปิลในการเลือก WebKit นั้นถูกต้องมาก ในขณะที่โนเกียไม่ได้มีเบราว์เซอร์ที่ดีขนาดนั้น
ในแง่เซอร์วิสก็ต้องยอมรับอีกเหมือนกันว่า แอปเปิลแทบไม่ต้องทำอะไรกับ iTunes Store เลย (แก้แค่ CSS ให้มันเหมาะกับจอมือถือเองมั้ง) ส่วนโนเกียต้องเริ่มสร้าง Ovi หรือ Come with Music ขึ้นมาใหม่ตั้งแต่ศูนย์
เห็นด้วยอย่างมากครับ เหมือนไอพอดไง Apple พยายามทำให้มันไม่ใช่แค่ MP3 Player มันมีส่วนอื่นๆเกี่ยวข้องมากมายมากกว่า Platform ตัว OS แผนการตลาดด้าน Software คือมีอยู่ครบมือแล้วทั้งที่เจ้าอื่นยังไม่ได้เตรียมพร้อมก็เข็นมาเป็นชุด