CMS ที่ Blognone เลือกใช้คือ Drupal (ปัจจุบันอัพเป็น Drupal 6 แล้วนะครับ) เมื่อ Drupal ใกล้จะออกรุ่นใหม่ก็ต้องพูดถึงกันเสียหน่อย
เมื่อประมาณสองสัปดาห์ก่อน Drupal ได้ออกรุ่นทดสอบตัวแรกของสาย 7.x นั่นคือ Drupal 7.0 alpha 1 มาให้ผู้ใช้ได้ทดลองกัน ผมดาวน์โหลดมาทดลองได้ผลดังนี้
ขั้นตอนไม่ต่างอะไรกับ Drupal 6.x หน้าตาของตัวติดตั้งคล้ายกับของเดิม แต่ปรับปรุงให้สวยขึ้นในบางจุด มีตัวเลือกเพิ่มเข้ามาในบางหน้า เช่น ถามว่าจะเลือกเปิดโมดูลแบบที่แนะนำ หรือเปิดเท่าที่จำเป็น และเปลี่ยนคำอธิบายตัวเลือกให้เข้าใจง่ายขึ้น
จุดสังเกตอีกอันคือ ตำแหน่งของที่เก็บไฟล์จะเปลี่ยนจาก sites/default/files มาเป็น sites/default/private/files
Drupal ขึ้นชื่อเรื่องกินแรมของเซิร์ฟเวอร์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอมาถึงเวอร์ชัน 7 จะแนะนำเราว่าต้องการ 40MB ครับ (เพิ่มขึ้นอีก! แต่ใช้งานบน 32MB ก็ทำงานได้)
เมื่อติดตั้งเสร็จเรียบร้อย ก็จะพบกับหน้าเริ่มต้นของ Drupal 7
ธีมมาตรฐานยังคงเป็น Garland (แต่ก็มีความพยายามที่จะเปลี่ยนธีมมาตรฐานใหม่ใน Drupal 7 ซึ่งไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นอย่างไร) แต่ที่เพิ่มเข้ามาคือแถบเครื่องมือด้านบนของหน้าจอ
แถบเครื่องมือที่เพิ่มเข้ามามี 2 อันครับ อันบนสีดำ เป็นแถบเครื่องมือที่ใช้เข้าถึงหมวดหมู่ในหน้า admin ส่วนแถบสีเทาอันล่าง เป็นช็อตคัตที่เราสามารถปรับแต่งเองได้ (แถบเครื่องมือสีเทาสามารถซ่อนได้ถ้าไม่ใช้ จะได้ไม่เกะกะ)
เมื่อลองกดที่เมนูสักอันในแถบเครื่องมือ จะพบการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดของ Drupal 7 มันคือ overlay หรือ modal dialog (คนที่เคยใช้พวก Lightbox น่าจะพอนึกออก)
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้ workflow การทำงานของ Drupal เปลี่ยนจากเดิมไปสิ้นเชิง เพราะเราไม่ต้องเข้าไปยังหน้า admin อีกต่อไป แต่จะเข้าถึงการทำงานในหน้า admin ได้ผ่านแถบเครื่องมือ ซึ่งจะแสดงขึ้นมาบน overlay ทับหน้าเว็บปกติอีกชั้นหนึ่งนั่นเอง
การออกแบบลักษณะนี้ จะช่วยแก้ปัญหาอมตะตลอดกาลในวงการ CMS นั่นคือ ปัญหาความสับสนระหว่าง frontend/backend (ผมเห็นวงการ CMS ไทยเรียก "หน้าบ้าน-หลังบ้าน" ซึ่งเข้าใจง่ายดี) ซึ่งเดิมที Drupal ใช้แนวทางไม่มี frontend/backend ที่ชัดเจน และสร้างความสับสนให้ผู้ใช้ไม่น้อย
การเปลี่ยนมาใช้ frontend/backend ที่เห็นได้ชัด (ผ่าน overlay) จะช่วยให้ผู้ใช้หน้าใหม่เข้าใจกระบวนการของ Drupal ได้ง่ายขึ้น และถ้าเทียบกับ CMS ตัวอื่นๆ อาจจะเหนือกว่าตรงไม่ต้องเปิด 2 หน้าต่าง (หรือ 2 แท็บ) เพื่อทำงานใน backend แล้วมาดูผลลัพธ์ใน frontend ด้วย
ส่วนอินเทอร์เฟซสำหรับการปรับแต่งที่ย้ายขึ้นมาอยู่ใน overlay ไม่ต่างจากหน้า admin ปกติมากนัก ซึ่งจุดนี้ผมว่ายังพัฒนาต่อได้อีกมาก
สุดท้าย หน้า admin เดิมยังคงอยู่ ไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่ความสำคัญคงลดลง เพราะเราจะเข้าถึงความสามารถของมันได้ผ่าน overlay มากกว่า
นอกจากแถบเครื่องมือและกระบวนการทำงานแบบ overlay แล้ว การเปลี่ยนแปลงที่มองเห็นได้ชัดๆ คือหน้าสร้างเนื้อหา
อย่างแรกที่เห็นได้ชัดเจน Drupal เปลี่ยนชื่อเรียก "story" เป็น "article" และเปลี่ยน "page" เป็น "basic page" เพื่อลดความสับสน
หน้าสร้างเนื้อหาแบบ article จะเป็นดังภาพ (กรอบมันล้นจอ ดูสองภาพต่อกันนะครับ)
การเปลี่ยนแปลงมีดังนี้
เป็นของใหม่ที่เพิ่มเข้ามาใน Drupal 7 ลักษณะจะคล้ายๆ กับ Dashboard ของ WordPress คือเป็นหน้าเริ่มต้นสำหรับผู้ดูแลระบบ ในการตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ของเว็บไซต์ภายในหน้าเดียว
Dashboard ของ Drupal 7 สามารถปรับแต่งได้ว่าจะให้แสดงผลอะไรบ้าง อันนี้ผมยังลองเล่นไม่เยอะเท่าไร
หน้า admin ถูกจัดหมวดใหม่เพื่อลดความสับสน เริ่มจากการเปลี่ยนชื่อ
ย้ายของ
หน้าที่ไม่เปลี่ยนเลยคือ Reports
หน้าตาของหมวด Appearance หรือการเปลี่ยนธีม เป็นดังภาพ (คล้ายๆ กับของเดิม) แต่ภาพตัวอย่างธีมใหญ่ขึ้น
ธีมที่เคยแถมมากับ Drupal 6 ถูกเอาออกไปหลายตัว เหลือแต่ธีมหลัก Garland กับธีม Seven ที่ใช้ในหน้า admin
ของใหม่อีกอย่างหนึ่งใน Drupal 7 คือรวมเอาโมดูล CCK เข้ามาอย่างสมบูรณ์ (ใน Drupal 6 เข้ามาครึ่งตัว) สามารถสร้างและแก้ไข field ใน content type ได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องลง CCK เพิ่ม
สำหรับคนที่ใช้ CCK มาก่อน ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก
ผมยังลอง Drupal 7 ไม่ละเอียดนัก อาจเห็นไม่ครบ แต่ตัวเลือกที่เพิ่มเข้ามาอีกอันคือ Locale ซึ่งมีประเทศไทยให้เลือก เลือกแล้วที่เห็นได้ชัดๆ คือมันจะปรับเขตเวลาเป็น Bangkok ให้อัตโนมัติ
โดยสรุปแล้ว ทิศทางของ Drupal 7 มุ่งไปในทางที่ดี เน้นแก้ปัญหาด้าน usability ในหลายจุด รวมโมดูลยอดนิยมหลายตัวเข้ามา
แต่แน่นอนว่าเปลี่ยนเยอะขนาดนี้ เวลาจะอัพจาก 6.x เป็น 7.x นี่เหนื่อยแน่นอน อันนี้เป็นปัญหาที่ Drupal จะต้องแก้ไขต่อไป
รายละเอียดที่เหลืออ่านได้ใน Drupal 7.0 Alpha 1 Release Notes และ Changelog
Comments
เปลี่ยนไปเยอะเหมือนกันนะครับ จาก 6 ไปเป็น 7 นี่
สงสัยตอนจะอัพเกรดทีต้องให้ geek มาทำให้...
กำลังศึกษา6อยู่ 7ออกมาแล้ว ขอบคุณบทความดีๆครับผม
นับว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดี ที่ drupal จะมีหลังบ้านเป็นของตัวเอง แล้วไม่ต้องไล่ลงและตามอัพเกรด module ยอดนิยมอีกแล้ว
สุดยอด งามมาก เห็นแล้วอยากลองใฃ้อีกทีซะแระ
รอ Wordpress 3 ออกมาชนสู้กันเลย ฮาๆ ตอนนี้ 2.9.x แล้วนี่
อ้าวชาวพิมพ์คำมาชาบู ชาวหยดน้ำได้อย่างไร :P
drupal 7 ทำให้ใช้ง่ายลง Wordpress 3 เหมือนพัฒนาให้ยากขึ้นซับซ้อนขึ้น T_T
แต่ไง Wordpress ก็ยังใช้ง่ายอยู่ดี ฮิฮิ
ดูดีขึ้นเยอะ รอให้เป็นเบต้าแล้วค่อยเอามาลองดีกว่า
แต่ผมเบื่อเรื่องบริโภคเมมของมันจริงๆ
เสถียรแล้วยังครับ
จะขึ้นsiteใหม่ใช้6หรือข้ามไป7เลยดีครับ
ตัว 6 เสถียรมากแล้ว แต่ 7 ยังคงไม่แน่นอน
คาดว่าใช้เป็น 6 ให้คล่อง ข้ามไป 7 ก็อาจจะต้องเรียนรู้ใหม่สำหรับผู้ใช้ทั่วไป แต่ถ้าสำหรับ dev อาจจะง่ายขึ้นมาก
onedd.net
ผมก็กำลังจะทำเว็บใหม่อีกเว็บเหมือนกัน คงต้องใช้เวอร์ชั่น 6 ไปก่อนแล้วมานั่งลุ้น นั่งปวดหัวเปลี่ยนเป็น 7 ทีหลัง เฮ้อ T_T
สงสัยชะตากรรมเดียวกัน เหอะๆ
ที่ต้องลุ้นอีกอย่างก็เรื่อง module
ต้องมาลุ้นอีกว่า module ที่ใช้อยู่ จะสามารถใช้กับเวอร์ชั่น 7 ได้รึเปล่า
พยายามใช้โมดูลที่สาบานตนว่าจะรองรับ D7 ในวัน release สิครับ
onedd.net
ครับ ตอนนี้ก็พยายามใช้ที่บอกว่าจะรองรับเวอร์ชั่น 7
ก็หวังว่าจะไม่กลับคำพูดนะ --"
migrate กันสนุกสนานตามสไตล์ Drupal :D
อ่านชื่อไปๆ มาๆ เป็น "ดู porn" ซะงั้น 55
รู้สึกไม่ค่อยชอบ ส่วนตัวชอบแบบรวม frontend-backend น่าจะให้เปลี่ยนกลับได้ (หรือได้ แต่ผมหาไม่เจอ?)
ของเดิมก็ยังอยู่ครับ แต่เพิ่มอินเทอร์เฟซใหม่ครอบเข้ามา
แต่ปิดได้หรือเปล่านี่ไม่รู้เหมือนกันครับ
เจอละครับ แค่เปลี่ยน Admin theme กลับ แล้วก็ปิดโมดูล Overlay, Shortcuts และ Toolbar
แจ่มครับ สวยงามมากสงสัยต้องหาวิธีการ upgrade บล็อกส่วนตัวละสิ
ว้าว ใกล้งานเข้าซะแล้ว ย้ายกันเหนื่อยแน่นอน
งั้นรอ 7 เลยดีกว่าครับ ค่อยยกจาก 5 ไปครับ
ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
อย่างหนึ่งที่ผมเห็นว่าเติมเข้ามาคือ SQLite แต่บักเรื่อง Lock Table เยอะมาก แถมช้ามากๆ ด้วย
ผมก็ชักจะเปรี้ยวๆแฮะ เอา Drupal ไปทำ LMS ก็ไม่รู้ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไง (ถ้าดึง moodle ได้ก็จะดี)
รองรับ IE6 ปะครับ อิอิ
ขอ wysiwig แจ่มๆ แบบ wordpress ก็พอ
โอ้ อันนี้ไม่มีง่ายๆ ครับ ของ Wordpress เขาดีจริง
คุณ mk พูดได้ดี พูดได้ถูกต้อง เคี้ยก เคี้ยกกก :P
ของเค้าดีจริง
ถ้าถามถึงสาเหตุคงต้องบอกว่าเพราะ Input format ของ drupal ที่มันยืดหยุ่นเกินจนทำให้นักพัฒนาไม่มุ่งพัฒนาด้าน wysiwyg มากเท่ากับ wordpress ที่ใช้ wysiwyg อย่างเดียว
onedd.net
ผมว่ามันเป็นเรื่องของ developer mindset ด้วยนะครับ พูดง่ายๆ ว่านักพัฒนา Drupal นั้น "geek กว่า" เลยไม่สนใจ wysiwyg
โอ้วผมชอบแบบใหม่มากมาย ไปเอามาใส่ blog ผมเล่นดีกว่า
Ton-Or
ออกตัวจริงเมื่อไหร่ backup ของเก่า แล้วลองของใหม่เลยดีกว่า
อยากเล่นหน่ะ
Jusci - Google Plus - Twitter
กำลังฝึกใช้ drupal อยู่เหมือนกัน
ผมชอบ Joomla ตรงส่วนของ backend มาก อยากรอดู drupal 7 ว่าถ้าเปลี่ยนแปลงตรง backend ได้ดีจริง ก็น่าสนใจดี
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ชอร์ตคัต ?
(แก้ไข: เข้าใจแล้วว่าเทียบเคียงกับ "ไฟช็อต")
โอ้สวยขึ้นเยอะดูใช้งานง่ายขึ้นเยอะเลย แจ่มๆ
ดูน่าใช้ขึ้นมากหลังจากครั้งล่าสุดที่ลอง Drupal 7-dev (ตอนนั้นยังต้องติด admin menu เข้าไปเอง)
เรื่องกินแรมผมว่า Drupal 6 เองลง Module ที่ใช้งานบ่อยๆ เข้าไปก็ใกล้เคียงแล้วนะครับ
(เคยเจอ memory exceed บน localhost เพราะ default ดันอยู่ที่ 16MB เล่นเอากู้เว็บกันใหม่เพราะไปตายตอน install modules ซะงั้น - -")
เท่ากับ Drupal 7 มี modules จำเป็นเข้ามาเป็น build in แถมหน้า install หรูหราน่าใช้ขึ้นเยอะ
ป.ล. เคยลองจับ Drupal 5 ผมว่ามันก็เปลี่ยนไปเยอะเหมือนกันสำหรับรุ่น 6 นะ ย้อนกลับทีใช้ยากไปเลย
คราวนี้น่าจะไม่ต่างกัน :P
โมดูล Views จะอลังการณ์ขึ้นขนาดไหนหนอ
คิดแล้วเหนื่อยจริงๆตอนที่จะอัพเกรดขึ้นไปเป็น 7 นี่
เวอร์ชั่นนี้น่าสน คงต้องลองหามาเล่นดูซะละ
พยายามลอง up เมื่อวาน แบบไม่ลบ file เก่าทิ้ง tar ทับของเดิม ไม่ผ่านครับ ติดตรง update scripts ขึ้นเป็นหน้าขาวๆ(แก้ Setting.php ตาม คู่มือแล้ว ปิดการทำงานของ module ที่ลงไว้แล้ว) เหมือน มัน convert data base ไม่ได้
เพราะเวลา ลบ file ทั้งหมดที่ลงไป เอา file เดิมของที่ backup ไว้ (Drupal 6.15) มาทับก็ใช้งานได้ทันที
ส่วนออกเป็น version จริง แล้วถ้าต้องลบ file เก่าทั้งหมดทิ้งคงเรื่องใหญ่ เพราะ blog ผม up file ให้ load ผ่าน Drupal ด้วย ต้องกลับมา up ใหม่นี่ สนุกสนานเลย
เดาว่าเพราะยังเป็น alpha อยู่ เลยการ update ยังไม่สมบูรณ์ มั๊ง
Ton-Or
อ่าน คห. นี้แล้วชักเสียวแฮะๆ -^^
มันเขียนอยู่ใน Release Note นิครับว่ายังอัพเดตไม่ได้ เป็น Critical Bug อยู่