ตามกำหนดการของกูเกิลที่จะเปิดเผยความสามารถใหม่ๆ ของ Google Maps ในวันนี้ ซึ่งภายในงานได้มีการโปรยหัวไว้ว่า "New Dimension of Google Maps"
ในงานมีฟีเจอร์ใหม่ครอบคลุมสามผลิตภัณฑ์ในหมวดแผนที่ของกูเกิลคือ Google Maps, Street Views และ Google Earth
ฟีเจอร์แรกสุดที่เปิดตัวคือ Google Maps แบบออฟไลน์ที่สามารถเซฟแผนที่ไว้ในอุปกรณ์ที่รันแอนดรอยด์ได้ (จากก่อนหน้านี้เป็นแค่แคช) โดยสามารถค้นหาสถานที่ต้องการ และใช้นิ้วย่อ-ขยายเพื่อเลือกขอบเขตที่ต้องการดาวน์โหลดมาเก็บไว้ในเครื่องได้ (สูงสุด 10 ตารางไมล์ หรือ 25.89 ตารางกิโลเมตร) กูเกิลบอกว่าฟีเจอร์นี้จะอยู่ใน "Lab" และจะเปิดให้ใช้เร็วๆ นี้
ฟีเจอร์ต่อมาเป็นของ Street View นั่นก็คือวิธีการเก็บภาพมาใช้ทำเป็น Street View แบบใหม่ที่ไม่ได้ใช้พาหนะ แต่ใช้กล้องที่ถ่ายได้ 360 องศาติดเข้ากับคนแทน เพื่อใช้ในการเก็บภาพในสถานที่ยานพาหนะเข้าถึงได้ยาก เช่นการปีนเขา เป็นต้น
ปิดท้ายด้วย Google Earth ที่ปรับปรุงโมเดลสามมิติใหม่ด้วยเทคโนโลยีประมวลผลโมเดลสามมิติอัตโนมัติด้วยภาพจากอากาศยาน ในช่วงแรกจะเน้นไปที่เมืองสำคัญก่อน และครอบคลุมเพิ่มมากขึ้นในช่วงปลายปีนี้ โดยจะรองรับบนแท็บเล็ตแอนดรอยด์ และ iOS
สำหรับคนที่สงสัยว่ากูเกิลเก็บภาพยังไง กูเกิลอธิบายว่าใช้เครื่องบินในการถ่ายภาพมุม 45 องศาจากหลายทิศทาง และเอามาประมวลผลทับซ้อนกันด้วยเทคโนโลยีดังกล่าว โดยไม่ต้องใช้คนช่วยเลย
ดูย้อนหลังได้จาก YouTube ครับ
ที่มา - The Verge Google Maps Offline, Google Street View, Google Earth
Comments
เยี่ยม
Project Google Glasses จะมาช่วยให้ Google Street View สามารถเก็บภาพบนถนนได้ใกล้เคียงเวลาจริงมากขึ้น?
แอบถ่ายรูปส่งไปให้ Google ใช้?
Technology is so fast!
แค่สามารถแคชแมพไว้ใช้แบบออฟไลน์ได้บน iOS ยังไม่ได้ใช้เลย นี่เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่นี่กะแบ่งขนขั้นความสำคัญกันเลย เอ๊ะ หรือ google 2 มาตรฐาน :P
iOS ทำได้นะครับ
ทำยังไงหรอครับ
เขาลือว่า iOS จะเลิกใช้ google maps ด้วยไงครับ (ที่มีข่าวซื้อบริษัทแผนที่ไป) และ google ก็ประกาศฟีเจอร์ใหม่ของ Google Maps ก่อนหน้า WWDC ไม่กี่วัน ก็น่าคิดนะครับ ว่าสิ่งที่ Google เพิ่งประกาศ ก็อาจจะเป็น feature ที่ฝั่ง iOS เตรียมจะเปิดตัวก็ได้ (แผนที่ 3 มิติ, offline map)
หากเลิกใช้จริง ผมก็เลิกใช้ iOS
สำหรับผมแล้ว Streetview ใน google map เป็นอะไรที่เทพมากมาย
ยิ่งสามารถ search ข้อมูลได้จาก streetview อีกนี่
ผมว่า Map ทั้งโลกคงไม่มีอะไรเทียบได้แล้ว
ปล.เรื่องการนำทาง ผมไม่ค่อยสน แค่รู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน ที่ไหน เท่านั้นพอ
ปล2.หาก google steetview ทำการ sync รูปถาพได้อย่าง microsoft syncth (อันที่ไม่ใช่ พาโน) จะเทพกว่านี้หลายเท่า
ปล3.สิ่งที่ google steet พลาดไปมีอย่างเดียว มันไม่เป็น 3D
ถึงเลิกใช้เป็นหลักแต่ก็ยังคงมี App อยู่ดีแหละครับไม่มีเหตุผลอะไรที่ Apple จะกัน GG Maps และ GG จะไม่ยอมทำลง iOS
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
3dmap ไม่ใช่ full 3d หมุนดูได้แค่ 4 ทิศ .. . .. เพราะเก็บข้อมูล texture ได้แค่ 4 ด้าน - -" ?? (texture เบี้ยวด้วย)
ไม่ใช่ true gemoetry แต่เป็นแค่ generate from displacement mapping โดยใช้ภาพจาก google map เก่า ??
ในขณะที่ของ C3 ละเอียดถึงขั้นใช้ในการ flight simulation กับวัดระยะทาง - พื้นที่ได้จริง (generate ป่าคอนกรีตทั้งเมืองเลย)
http://www.youtube.com/watch?v=CNemPTHOKWg&feature=player_embedded
... แปลว่าไม่ใด้ดูของ google เลย
http://www.youtube.com/watch?v=N6Douyfa7l8
มันเป็นเทคโนโลยี่ตัวเดียวกันครับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
apple buy C3 ไปแล้วนิครับ
google ดูเหมือนไม่ใช่ realtime ด้วย
เทคโนโลยี่ตัวเดียวกัน มันใส่ใด้หลายชื่อครับ อย่าง flash storage card ก็มีหลายชื่อ เช่น cf mmc ms sd เป็นต้น เทคโนโลยี่่แปลงภาพ 2d หลายๆภาพเป็น 3d ก็เช่นกัน ... c3 เป็นแค่ชื่อเดียว
และโปรแกรม ฝั้งผู้ไช้ก็เป็น 3D Realtime มานานแล้วบน Google Earth โดยไช้ภาพถ่ายทางอากาศ ร่วมกับอาคาร 3d ที่ให้คนทั้วไปทำส่งด้วยโปรแกรม sketchup (ชึ่ง Google ขายไปเมื่อไม่นานนี้ คงเพราะไม่ไช้แล้ว)
ที่สำคัญคือ Google มี Maps Earth และ Street View เป็นข้อมูลเก่า ชึ่งไช้ใด้ในช่วงรอยต่อการ upgrade
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
เทคโนโลยีคนละตัวแน่นอนครับ คนละ quality เลย
google เหมือนเผาเนียน ครับ บางส่วนที่ไม่ใช่สถานที่สำคัญ ก็ ใช้ depth เอาจากภาพดาวเทียม
สังเกตภาพต้นไม้ทางขวานะครับ สีขาวๆคือไม่มี texture เพราะเค้าแปะสีเอาจากภาพเก่าของ google map
และต้นไม้งอกขึ้นมาเป็นแท่งหินเลยครับ เพราะเกิดจาก displacement mapping
http://i1208.photobucket.com/albums/cc375/Bobokung111/ScreenShot2555-06-07at35308AM.png
ในวีดีโอใหม่ ที่เค้าพรีิวิว 3D ของกุกเกิลใช้ได้แค่หมุนดูโคลอสเซียม โดย lock 4 view จะเข้าไปใกล้ก็เปลี่ยนเป็น streetview โดยอัตโนมัติ
C3 flight simulation ลงในพื้นที่ได้จริง ไม่พอ ยังใช้วัดระดับความสูงน้ำทะเล
กับภูมิประเทศได้ ใช้คำนวนการร่อน missile ลงบนภูมิประเทศได้จริง ลองดูต้นไม้ทางขวานะครับ
http://i1208.photobucket.com/albums/cc375/Bobokung111/ScreenShot2555-06-07at40651AM.png
ส่วนของ google เหมือนเป็น pseudo 3D คือไม่มีประโยชน์จากแกน Y เกิดขึ้นเลย เพราะไม่มีความ accuracy
เวลาวัดระยะทางการขึ้นเขา - ลงเขา หรือคำนวนพื้นที่ที่ไม่เป็นระนาบ google map อาจจะคลาดเคลื่อน ก็ได้ครับ
คือเทคโนโลยีพัฒนาเป็น pseudo C3 แต่ใช้วิธีเปิดตัวก่อน และปัญหาสำคัญคือ จะใช้งานได้จริงแค่ใหน ?
ในเมื่อขนาดของเก่า ยังไม่สามารถใช้งานแบบ realtime ได้ (ต้องรอโหลด model - texture นานมาก)
โดยเฉพาะบน mobile device จะเอาแรมที่ใหนแสดงผล texture ใหม่ทีละเอียดกว่าเดิม ....
+1
ใน video ของ google ภาพแรกเลยเป็น wire frame ว่าง่ายๆคือเจ้าเทคโนโลยี่ที่ google เอามาไช้สามารถดึงเอาความสูงหรือแกน y ของวัตถุมาไช้ใด้เหมือนกันครับ
อาจจะมีบางส่วนที่เอาข้อมูลเก่ามาไช้ แต่ก็หมายความว่าจะมีถาพทั้งโลกทันทีในวันแรก (ชึ่งไม่รู้ว่าอีกนานแค่ใหนที่ apple จะเอาเครื่องบินมาบินที่ประเทศไทย)
อย่างหนึ่งที่เหมือนกันคือ ไม่ว่าจะ c3 หรือ google polygon ที่ใด้จะมีความละเอียดจำกัดระดับหนึ่ง c3 อ้างว่าความละเอียดสูงสุดอยู่ที่ 0.3 m ส่วนของ google ไม่มีการแจ้ง
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
AMD กับ INtel เล่นเกมได้เหมือนกันไม่ได้หมายความว่าเทคโนโลยีเดียวกันนี่ครับ -_-"
การ์ด cf mmc sd มันก็การ์ดคนละตัว write speed ก็ต่างกัน ใช้แทนกันไม่ได้ครับ ไม่งั้นผมคงไปซื้อ SSD ไปเสียบลงกล้องถ่ายรูปแล้วล่ะ
คุณเอาภาพดาวเทียมมาทำ displacement มันก็งอกขึ้นมาในแกน Y เหมือนกัน และ 3D มันก็ต้องมี polygon แหงอยู่แล้ว
และมันไม่ใช่เทคโนโลยีตัวเดียวกันครับ กล้องโลโม่ถ่ายรูปได้เหมือนกันแต่ก็ไม่ใช่ DSRL ครับ
ประเด็นอยู่ที่อะไรคือประโยชน์ของ 3D map ที่ไม่สมบูรณ์ ไม่มีความเที่ยงตรงหรือความละเอียด (ดูได้แค่จากระยะนกบิน) จะดูใกล้ๆต้องเปลี่ยนไป streetview และต้องใช้เวลา load ยาวนาน ในเมื่อสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการคือการเข้าถึงข้อมูลให้เร็วที่สุด และต้องการข้อมูลที่ใช้งานได้จริง
ในขณะที่ C3 ของแอปเปิลเหมือนจะมากับเครื่องเลย
ถ้าอ่านให้ดี google จะ update ภาพดาวเทียมที่เป็นของเก่า ด้วยภาพจากเครื่องบินที่ถ่ายด้วยมุม 45 องศา ... และมันไม่ไช่ displacement mapping นะครับ (กลางๆ video จะมีภาพตึก 2 ตึกเชื่อมกันด้วยทางเดินระหว่างตึก ชึ่ง displacement mapping ทำไม่ใด้)
ปล. พื้นที่โดยมีความละเอียดสูงจากทั้วโลก ไม่น่าจะอยู่ใน ssd ลูกเดียวใด้นะครับ และ google จะให้เรา pre load เพื่อไช้ off line ใด้ 10 ตารางไมล์
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ต้นไม้ที่คุณเห็นในรูปนั้นเกิดจาก displacement mapping ครับ
(และผมรู้จัก displacement mapping มานานแล้วครับ ไม่ได้ไปอ่านมาจากอะไรทั้งนั้น )
คุณเข้าใจที่ผมเขียนผิดหรือเจตนาทำเป็นเข้าใจผิดกันแน่ครับ - - เลิกเข้าใจว่ามีแกน Y มีโพลีกอน = C3 ดีกว่าครับ
C3 ไม่ใช่เทคโนโลยีเดียวกับกุกเกิลครับ และของกุกเกิลน่าจะลักไก่กว่า ลองดูเงาในภาพสิครับ
กุกเกิลเลือกที่จะเก็บภาพในเวลาที่เงา =ความสูงของอาคาร พอดี แต่ของ C3 มันเกิดจากการ optical point
ตอบบ้าง ผมเคยศึกษา C3 ตั้งแต่ทำเพื่อกลาโหมแล้ว
C3 ใช้วิธีวัดคลื่นสะท้อนจากเครื่องบิน มาวัดความสูงของ พื้นผิวครับ 90'ตั้งฉากกะโลก แตตัวรูปนี่ผมจำไม่ได้ว่าถ่ายท่าไหน
Google 3D ใช้ภาพถ่าย 45' หลายๆมุมมาประมวลผลครับ ไม่มีการประมวลความสูง
ตามทฤษฎี google จะได้รายละเอียดด้านข้างมากกว่าครับ แต่ความสูงยัง error อยู่มากครับ
C3 จะไม่ได้รายละเอียดด้านข้าง หรือวัตถุที่อยู่ใต้เครื่องวัดระยะเลย เช่นๆต้นไม้ก็จะเห็นแต่ยอดด้านบน แต่เราจะไม่เห็นลำต้น หรือไม่เห็นรถที่จอดใต้ต้นไม้ แต่ข้อมูลระยะจะดีกว่ามากครับดังนั้น จะขายได้ในกลุ่ม กลาโหม , กรมทรัพยากร , วิศวกรรม , ภัยพิบัติ ประมาณนั้น
ปล ปัจจุบันมันเปลี่ยนไปป่าวไม่รู้นะ
ถ้าเป็นงั้นจริง google ก็แค่ใช้ ปีทาโกรัส กับตรีโกณเบื้องต้น ก็ได้คำตอบแล้ว อิอิ
มีคนถามว่าแล้ว Google เอาเครื่ืองบินมาจากไหน
google ตอบว่า เรามี Contact
สรุป google มีเครื่องบินของตัวเอง!
ไม่แปลกนะ ไอทีวียังมีฮอเลย
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ชาบู
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ในมุมมองผม street view มีประโยชน์กว่า map 3D นะ คือแบบ 3D มันสวยอลังการ แต่ถามว่าคนทั่วไปจะใช้ทำอะไร? คำนวณระยะทาง นำทาง แบบ2Dก็เหลือแหล่ จะไปนำทางหรือการวัดระดับ 3มิติ ผมก็เชื่อว่าถ้างานที่จำเป็นต้องใช้ขนาดนั้น เช่นการสร้างทาง หรือสร้างตึก ก็ต้องวัดsurveyใหม่อยู่ดี ยกเว้นเรื่องแผนที่ระดับความสูงแบบแผนที่ทหาร อันนี้แหละถึงจะนำไปใช้ได้ดีกว่าเดิม แต่ก็ไม่ใช่ผู้ใช้ทั่วไป
แต่street viewนี่ทำให้เราสามารถวางแผนการเดินทางอย่างละเอียดได้เลย เห็นสถานที่จริง เห็นจุดสังเกตบอกทางสำคัญได้ชัดเจน คาดเดาหาที่จอดรถล่วงหน้าได้เลยด้วยซ้ำ(ดูว่าจุดไหนจอดได้)
+1
ไม่นานมานี้ ผมใช้ street view หาตึก TST ด้วยครับ เลยรู้ว่าเดินเลยไปหน่อยมันจะมีสะพานลอยคนข้าม
ขืนเชื่อ path ของ google maps ผมคงเดินอ้อมโลก
streetview ไม่ใช่ realtime ไงครับ ต้องกดยืดๆ ไปทีละตำแหน่ง เข้าถึงข้อมูลได้ช้า และยังมีสถานที่บอดหลายจุด ที่ไม่ให้เข้าด้วย
ผู้ใช้งานที่ต้องการแผนที่อย่างร้ายแรง ->
นักเดินทางที่ไปสถานที่ๆตนไม่เคยไปมาก่อน โดยเฉพาะนอกเขตเมืองที่ไม่มีสัญลักษณ์ที่คนสร้างขึ้น
ยกตัวอย่างเช่นคุณไป Yosemite แผนที่แบบ 2D ไม่ทำให้คุณแยกตำแหน่งของแม่น้ำ หรือทางลงเขาที่สั้นที่สุด
ภาพจากดาวเทียมเองก็ไม่ทำให้คุณทราบลักษณะของอาคาร หรือแยกสถานีจากบ้านพักได้ โดยเฉพาะกรณีที่ข้อมูลไม่อยู่ในรูปของภาษาอังกฤษ/ไม่มีสัญลักษณ์ของมนุษย์
ผู้ใช้่งานที่มีชื่อและข้อมูลบางส่วนของสถานที่ -> ส่วนมากคือผู้ใช้งานในเมือง ซึ่งโดยทั่วไปสามารถติดต่อหารายละเอียดของสถานที่เพิ่มเติมได้ตลอดเวลา ภาพจากดาวเทียมไม่มีประโยชน์กับกลุ่มนี้ เพราะเป้าหมายคือการไป ณ สถานที่เอง ต้องการแค่ map กราฟฟิก
ผู้ใช้งานที่เล่น map เฉยๆ -> เปิดเล่นๆไม่ได้ใช้ประโยชน์จริงจัง
ผู้ใช้งานประเภทที่จะเกิดขึ้นใหม่ -> นักท่องเที่ยว - วางแผนเที่ยวต่างประเทศ สามารถจดจำสัญลักษณ์ต่างๆได้ครั้งเดียว เห็นทุกอย่างบนเส้นทางที่จะเดินทาง จดจำได้โดยไม่หลง ปิดแผนที่ และเดินลุยได้โดยไม่ต้องเปิดขึ้นมา re check อีกครั้ง
ยกตัวอย่างเช่นคุณจะหาร้่านค้าใน ikebukuro ถ้าคุณใช้ streetview อาจต้องกดเดินผ่าน 20 ครั้ง ถ้าไม่เจอก็คงต้องออกมา select streetpoint อีกจุดโดยกะระยะทางเอาเอง และเสี่ยงดวงไล่กด check เอาใหม่อีกครั้ง สลับระหว่าง Map - Earth - Streetview
แต่ถ้าเป็น 3D ที่มีรายละเอียดมากพอ อาจไม่ต้องสลับจอเลย
ถ้า Street View เข้าไปถ่ายไม่ได้ (นับเฉพาะกรณีที่เป็นที่ส่วนบุคคล ส่วนกรณีรถเข้าไม่ได้เพราะใหญ่เกินช่างมัน) ก็น่าจะแปลว่าเป็นพื้นที่มีเจ้าของ แผนที่ของ Apple ก็น่าจะไม่มีไม่ใช่เหรอ? คงไม่ใช่ว่าเส้นใหญ่พิเศษเข้าไปถ่ายในที่ส่วนบุคคลได้หรอก
การวางแผนล่วงหน้า คงไม่ได้มาวางแผนกันสดๆในมือถือบล่ะครับ ผมจะขับรถไปไหน คงไม่ได้กดดูรูปstreet viewระหว่างขับรถ แต่ดูจากที่บ้านหรือที่พัก แล้วจำจุดสำคัญ โดยเฉพาะสถานที่จอดรถหรือตำแหน่งของทางเข้าลานจอดนี่แหละ ที่GPS navigatorทั่วไปมันพาไปไม่ถูก(มันมีแต่POI และjunction view ก็มีเฉพาะแยกใหญ่ๆ) ต้องดูรายละเอียจากรูป street viewเอา ซึ่งถ้าจะดูในมือถือจริงๆ คงเปิดดูแค่จุดสำคัญ เช่นทางร่วมแยกที่ไม่แน่ใจ คือปกติ GPS navigator ทั่วไปเช่นgarmin มันนำทางระหว่างขับรถบนถนนได้ดี แต่มันไม่สามารถบอกลักษณะเฉพาะของบริเวณที่เราจะไปได้ชัดเจน ถึงstreet viewจะupdateช้า แต่มันก็แสดงถึงลักษณะโดยทั่วไปของพื้นที่บริเวณนั้นได้ดีกว่าน่ะครับ
แต่พูดถึงไปใช้ในป่าหรือสถานที่off-road ต้องถามกลับว่าจะมีใครเอาแผนที่มือถือไปนำทางในป่า ที่แทบไม่มีสัญญาณเนท(หรือจะpre-load 3D dataทั้งป่า อันนี้ไม่แน่ใจว่ากินพื้นที่เก็บมากแค่ไหน) และตัวมือถือเองก็ไม่ได้อยู่ยืดสำหรับการเดินป่าได้(เดินป่านี่ว่ากันครึ่งค่อนวันขึ้นไปนะครับ)พกไปขำๆได้ครับ แต่นำทางจริงจัง คงไม่work
อ้อเวลาเราเดินบนถนน เราไม่ได้มองเห็นภาพbird eyes viewแบบแผนที3Dนะครับ คุณจะจำรูปร่างหลังคาตึกแบบ3Dแล้วแยกแยะตำแหน่งได้มากกว่า จำภาพป้าย หรือร้านค้าจากมุมมองของคนเดินบนถนนหรือ? street viewมันสูงหน่อย แต่ก็ใกล้เคียงสายตามนุษย์มากกว่าสายตานกล่ะนะ อีกอย่างถ้าอยากจะแค่จำลักษณะตึกเพื่อจดจำจุดสำคัญระหว่างเดินถนน เราก็คงไม่ได้ต้องการขนาดdetail รายละเอียด3Dความแม่นยำสูงกระมัง ส่วนนี้ค่ายคู่แข่งน่าจะมีประโยชน์ขั้นพื้นฐานได้พอๆกัน(คงต้องดูของจริงอีกที)
แน่นอนว่าประโยชน์ของเทคโนโลยีแผนที่แบบใหม่ๆนั้นมีอยู่แล้ว เทคโนโลยีมันก็พัฒนาไปเรื่อยๆ แต่ในมุมของผู้ใช้ทั่วไป 3D mapคงไม่มีโอกาสได้ใช้มันอย่างจริงจังชนิดขาดไม่ได้ หรือรู้สึกแตกต่างแบบพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินเท่าไรล่ะครับ(ที่ผมรู้สึกว่าก้าวกระโดดคือตอนใช้ GPS navigator ครั้งแรกตอนสมัยที่มันยังราคาหลักหมื่น และใช้street viewครั้งแรกเมื่อไม่กี่ปีมานี้)
อีกขั้นที่ผมยังรอ คือการนำทางภายในห้าง หรืออาคารปิดทึบขนาดใหญ่ โดยเฉพาะอาคารสาธารณะครับ ผมว่าเดี๋ยวนี้เราหลงทางในห้างบ่อยกว่า หลงบนถนนอีกนะ^^
ป.ล. เรื่องเทคโนโลยีเบื้องหลัง แต่ละค่ายคงไม่เหมือนกันอยู่แล้ว แต่ผลลัพธ์ปลายทางออกมาแล้ว แบบไหนมีประสิทธิภาพหรือแม่นยำกว่ากัน ก็ต้องรอดูของจริงล่ะครับ ตัวในโฆษณามันโม้ไปทุกเจ้าอยู่แล้วล่ะนะ ที่สำคัญอีกก็คือ เมื่อไรมันจะทั่วถึงไปเมืองใหญ่ๆของโลก? ของจริงเทพ แต่ไม่ทำเมืองที่เราอยู่หรือกำลังจะไปสักที ก็คงไม่มีประโยชน์สักเท่าไร
ก็นั่นไงครับ Google Map ในวีดีโอสาธิตมันดูได้แค่ bird view แต่ C3 ร่อนลงเป็น Flight simulation ได้เลย
นั่นคือสิ่งที่ผมบอกว่าทำไม 3Dmap ของ Google คนละอย่างกับ C3
ก็ถูกอย่างที่พูดละครับคงไม่มีใครใช้ Googlemap (แผนที่มือถือ) ไปใช้ในป่า
Map ของ IOS มากับเครื่องไงและเซฟ offline ได้ไงครับ
ผมคิดว่าการขับรถหรือใช้ชีวิตประจำวันในเมืองเล็กๆหนึ่งเมือง ที่เราไปมาทุกวันและคุ้นเคยกับภาษา สถานที่ (ซึ่งแทบไม่ต้องพึ่งพาแผนที่เลย) สามารถไปดูได้ด้วยตาตัวเอง ตรวจสอบเดินบนถนนด้วยตัวเองได้จริง
ต่างจากการเดินทางที่ต้องการแผนที่จริงๆจังๆ เช่นการไปเที่ยวต่างประเทศ ที่มีการจำกัดเวลา การ checkin
เอ่อ จะพก iphone เข้าป่าเพื่อเปิดดูแผนที่จริงๆหรือครับ -_-" จะ online หรือ offline แต่ตัว device เองไม่เหมาะในการพกพาเข้าป่าทั้งความทนทาน และระยะเวลาการใช้งานอยู่แล้วล่ะครับ ยกเว้นไปแค่พวกอช.เดินไม่กี่ร้อยเมตร แล้วup status ขึ้น FB อันนั้นก็ไม่จำเป็นตรงไหนล่ะครับ
ส่วนเรื่องที่ขับรถไปได้ มองคนละมุมนะครับ ถ้าเป็นสถานที่เราขับรถไปบ่อยๆ หรือโล่งๆพอที่จะขับช้าๆถามทางไปได้ เราจะเปิดmap ทำไม? แต่ถ้าเราจะไปธุระสำคัญ เอาแค่ในกทม.เอง ไปถนนที่ไม่เคยไปแต่จำเป็นต้องขับรถไป ถ้าไม่วางแผนก่อน ก็วุ่นวายพอดูล่ะครับ ยิ่งในกทม.โซนรถติดๆ บางครั้งต้องเข้าเลนให้ถูกก่อนถึงจุด ไม่งั้นจะมีปัญหาเรื่องการเปลี่ยนเลนในเส้นทึบ หรือยากที่จะเบียดรถเพื่อเข้าช่องลานจอดของตึกได้ (ขอยกตัวอย่าง จากอังรีดูนังเข้าจอดลานจอดสยามพาร์ค ใครไม่เคยมาก่อน งงแน่ๆ)แต่ถ้ามี street view มันช่วยได้เยอะเลยล่ะครับ
ส่วนประเด็นทำ flight simได้ ผมไม่เข้าใจครับ ว่ามันจะมีประโยชน์อะไรในการเดินถนน? ในเมื่อเราก็ต้องมองหาป้ายสัญลักษณ์ด้วยตา(หรือด้วยตำแหน่งGPSบนแผนที่) ไม่ใช่จากรูปร่างตึก 3D ที่จำแนกยากๆ
ป.ล. อยากรู้ว่า Apple-C3 เขาประกาศว่าจะทำแผนที่เมืองใหญ่ๆ ในประเทศอื่นบ้างไหมอะครับ ไม่งั้นgoogleก็คงนำโด่งล่ะนะจากผลงานเก่าๆที่น่าจะทำออกมาเร็วกว่า
คุณเข้าใจไปแล้วละครับ แค่แกล้งทำเป็นไม่เก็ตมากกว่า
+1 streetview มีประโยชน์กับผมมากเลยครับ ใครบอกว่ามันไม่เวิร์ค ผมคนนึงนี่แหละขอเถียงว่านี่แหละคือของจริง เพราะการเอารถไล่เก็บรายละเอียด มีนทำในระดับสายตามนุษย์ที่ยืนอยู่บนพื้นโลกเลย ดูได้ละเอียดถึงขนาดว่าร้านนั้นขายอะไรอยู่ ..เวลาเราจะสำรวจทางเราก็ต้องเอารถออกวิ่งแบบนี้เลยแหละ แต่กูเกิลช่วยให้เราไม่ต้องขับรถออกไป นั่งคลิกที่บ้านก็พอ
ยอมรับว่ามันช้าและใช้ลำบากไปบ้าง แต่ผลลัพธ์ออกมาน่าพอใจ ได้ข้อมูลที่อยากได้มันก็สุดยอดแล้วครับ เรื่องการใช้ค่อยๆ ปรับไปก็ได้
รอดูว่า C3 จะ wow สมคำคุยรึเปล่า แอบรู้สึกว่าอะไรก็ตาม พอแปะป้ายแอปเปิลแล้วจะได้รับการสรรเสริญเป็นพิเศษจนน่าปละหลาดใจ
(ย่อหน้าสุดท้าย) น่าจะชินได้แล้วนะครับ
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
+1 ย่อหน้าสุดท้าย
+1
ขอค้านบรรทัดที่ 2 ครับ มันสูงในระดับสายตาเปรตแคระที่ยืนบนพื้นโลก ส่วนใหญ่มันสูงประมาณ 3-4 เมตร มันมองข้ามรั้วบ้านผมซูมเข้าไปเห็นกางเกงในที่ตากไว้ได้เลยนะครับ
+10000
ดูเหมือน google ทำappอะไรออกมา ดูเหมือนยังแคร์ apple ฐานลูกค้า,ไม่ใช่ผูกขาดแต่android
ความรู้สึกดีๆใน ios ก็มาจากความคิดgoogleเยอะแยะเช่น search,youtube,map,gmail
แต่ apple เคยทำอะไรคืนให้กับ google บ้างมั้ย นอกจากกัดเขารายวัน
ที่ Google ยังอยู่ใน iOS เพราะเขาจ่ายเงินเพื่อได้อยู่รึเปล่าครับ ว่าจ่ายเงินเพื่อให้ Search เป็น Default เหมือนผมอ่านมาจากไหนซักที่ ผิดถูกขออภัยด้วยครับ
ที่ Apple เอามาไว้อาจเพราะเรื่องเงินด้วย+ความจำเป็น ในเมื่อถ้าเขาทำของเขาได้แล้ว ก็คงพยายามลด Google ออกไปเรื่อยๆ เป็นเรื่องธรรมชาติของการแข่งขันนะผมว่า
Google ทำเงินจากการที่ได้ไปอยู่บน iOS ไม่ได้ทำไปฟรีๆ ซักหน่อยนะ มัน win win Apple ยิ่งขาย iOS ได้มาก Google ยิ่งรายได้มากตาม ส่วน Google ยิ่งขาย Android ได้มาก Apple ยิ่งรายได้ลด Google ทำอะไรให้ Apple?
http://gizmodo.com/5897457/google-makes-four-times-more-money-from-ios-than-android
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
เริ่มมีมาม่าระหว่าง 3D by C3 กับ Gooogle 3D แล้ว
ลามมาถึง Street view อีกแน่
แถมยังมีการเบียดสีข้างว่า Steet view เข้าไปถึงบางที่ไม่ได้ ! (เขาไม่ให้เข้า) , กะไม่เป็น Realtime อีกแน่ะ (Map ไหนบ้างเนี่ยที่เป็น realtime ผมจะไปกราบ)
การแข่งขันทำให้เกิดการพัฒนา ...
สุดท้ายแล้ว ประโยชน์ ก็ตกอยู่ที่ผู้ใช้
ไม่ว่าจะ 3d,2d,1d,c3,c2,c1,c0 หรือ longdo
มันก็"แผนที่"เหมือนกัน ...
ส่วนตัว ... รอวัน...ให้มีประเทศไทยเยอะๆ ทุกมุมเมือง ไวๆก็พอครับ ...
Street View มีประโยช์นจริงๆครับ
เวลาวางแผนเส้นทางก่อนไปจริง
หรือจะอธิบายเส้นทางให้ใครไปไหนก็ตาม
ยังไงเห็นเส้นทางจริงมาก่อนครั้งนึง จากที่บ้านหรือที่ทำงาน ได้เปรียบกว่ามากๆๆๆๆๆ ครับ
ไม่ค่อยมีอะไรใหม่นักแฮะ ที่ดูๆมีอยู่ใน App GPS อื่นๆมากกว่าแล้ว แต่ดีมากตรงที่ยกคุณสมบัติของ App เสียเงินมาให้ใช้กันฟรีๆนี่แหละ ถึงจะมาแบบครึ่งๆกลางๆก็ยังดี
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
This image exceed bandwidth
ไม่เห็นรูปเลยครับ
ตามมาเงิบ จาก http://www.blognone.com/node/36250
+1