เว็บไซต์ Wired ได้สัมภาษณ์กับทีมงาน Google Glass ในหลายประเด็น สรุปได้ดังนี้
ฮาร์ดแวร์และฟีเจอร์
- มีปุ่มถ่ายภาพแยกต่างหาก การรับข้อมูลเข้านั้นจะผ่านทัชแพดและเสียงเป็นอย่างน้อย ส่วนการใช้ไจโรสโคป ตัววัดต่างๆ (accelerometer) และเข็มทิศยังอยู่ในการทดลอง
- ทีมได้ทดลองฟีเจอร์ถ่ายรูปทุก 10 วินาที และฟีเจอร์ค้นหาข้อมูลด้วยเสียง แต่กูเกิลไม่สามารถบอกได้ว่าสุดท้ายแว่นตาที่วางขายนั้นจะมีฟีเจอร์นี้หรือไม่
สเปคฮาร์ดแวร์
- มีหน่วยความจำภายในตัวเครื่องที่มากพอจะเก็บภาพหรือวีดีโอได้
- มีทัชแพด ไจโรสโคป ตัววัดต่างๆ (accelerometer) เข็มทิศ และภาครับ GPS
- รองรับการเชื่อมต่อแบบไวไฟและบลูทูธ หากใครต้องการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ก็ต้องต่อผ่านมือถือไปก่อน (กูเกิลบอก "immediate future")
- น้ำหนักประมาณสมาร์ทโฟน หรือประมาณแว่นตากันแดดสามอัน
- แว่นตาที่จะส่งมอบให้นักพัฒนานั้นจะมีสเปคตามนี้ แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าแว่นตาที่วางขายให้ผู้บริโภคทั่วไปจะมีสเปคตามนี้หรือไม่
ราคา
- ถูกกว่า 1,500 ดอลลาร์ (ราว 48,000 บาท) แน่นอน แต่ยังไงก็เป็นราคาสำหรับสินค้าระดับพรีเมียม
ผู้ให้สัมภาษณ์กล่าวว่า อุปกรณ์ที่ประมวลผลและสวมใส่ได้จะกลายเป็นมาตรฐาน โดยในอีกสามถึงห้าปีข้างหน้าการที่คนถืออุปกรณ์บนมือและมองลงไปที่อุปกรณ์นั้นจะดูแปลกตาและดูไม่คล่องแคล่ว
ที่มา: Wired
Comments
เข็มทิศครับ
ทำเปนนาฬิกาแบบ Spy Kids น่าจะดีกว่ามั้ง แค่แว่นธรรมดากดจมูกนี่ก็เจบดั้งละ ไม่ไหวไม่ไหวหนักไป
ไม่เป็นปัญหาครับ เดี๋ยวนี้คนไทยเรา้งัดดั้งกันเยอะ ทั้งผู้หญิง ทั้งผู้ชาย
หนักขนาดนั้น ใครไม่มีดั้งนี่หมดสิทธิ์ทันที
@mamuang
ไม่หรอกครับ แต่จะแฟบกว่าเดิม
Coder | Designer | Thinker | Blogger
น่าจะทำเป็นไซครอปไปเลย
เวอร์ชั่น Gadget ครับ..อิอิ
ออปติกบลาสต์ !
หล่อแบบนี้ ใช่มั๊ยครับ
ย้อนไปเมื่อปี 1999 ตอนผมใช้ internet ครั้งแรก ใครจะไปจินตนาการได้ว่าในอนาคตผมจะตอบ comment นี้ในส้วมได้ผ่านโทรศัพท์
ไม่น่าล่ะ ผมก็ว่ากลิ่นอะไร :D
ผมก็แปลกใจอยู่เสมอๆ ครับ เกือบทุกเช้านั่งอ่าน ebook ในห้องน้ำ
ขอบคุณเทคโนโลยี และผู้คิดค้นจริงๆ ชีวิตมันง่ายกว่าเดิมมาก
ฮาาาา ตอบตอนกำลังจะสุดด้วย XD
อนาคตคงตอบผ่าน Google Glass ในส้วม อิๆ
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
:NO:
แบบเผลอก้มมองตอนกำลังเล่น Hangout ... วงแตก
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
55555 ขอให้อย่ามีใครกินข้าว ณ เวลานั้น
ผมทำได้ตั้งนานแล้วครับ ลากโน๊ตบุ็คไปเล่นในห้องน้ำ
นึกสภาพตอนประชุมทางไกลแล้วลืมปิดกล้องที่แว่นตอนเข้าห้องน้ำ >_<
พอครั้งถัดไปปิดกล้องเรียบร้อยแล้ว แต่ดัน.ลืมปิดไมโครโฟน ตอนถ่ายหนัก?
นึกถึงสภาพ วีดีโอคอลกับแฟน แล้วลืมตัวเหล่หญิง
คุยกับแฟนคงไม่ต้องวีดีโอคอลม้าง มันถ่ายได้แต่ภาพข้างหน้า ไม่ได้ถ่ายตัวเรานา
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ถ้ากล้องมันถ่ายเราเองได้ คงเห็นแต่ตา...
Dream high, work hard.
ส่องกระจก ...
มีแต่รูปหน้าตรงแน่ๆ...
Dream high, work hard.
พกขันครับ .. หาน้ำเติมให้เต็ม แล้ว ชะโงกดูครับ ^^
ติดตรงน้ำหนักอย่างเดียว
ขนาดเหมาะสำหรับสตีมิ่งหนังจากโรงหนังมากๆ
ผมว่าน้ำหนักนี่ไม่ใช่ปัญหาเลยนะ ยังเคยมีโฆษณาร้านแว่นซื้อหนึ่งแถมสองที่ใส่แว่นซ้อนกันสามอัน ไม่เห็นจะแปลกอะไร :P
มันต่างกันน่ะครับ แว่นซ้อนมันกระจายน้ำหนักลงหลายจุด ทำให้ไม่รู้สึกหนักมาก แต่นี่น้ำหนักทั้งหมดมันกดลงจุดเดียว โอกาสดั้งแฟบมีสูงมาก ^_^
ตรงกันข้ามกับพิ้นฐาณความ modularity ถ้าใส่หมวกจักรยาน หมวกกันนอก หรือแว่นตายี่ห้ออื่น. อุปกรณ์นี้จะไร้ค่า และใช้งานไม่ได้
ไม่สามารถใช้งานร่วมก้บบุคคลอื่นได้ มือถือเครื่องหนึ่ง สามารถมีคนดูและรับข่าวสารร่วมได้หลายคน
ไม่สามารถใช้ร่วมกับทุกอย่างที่เป็นมอนิเตอร์ และต้องใช้ตาดู เพราะภาพจะซ้อนกัน
แค่ถอดก็กลายเป็นของไม่มีประโยชน์
เป็นการตีกรอบถอยหลัง แต่พยายามหลอกว่าไปข้างหน้า
แต่ที่จำเป็นต้องออกมาแบบนี้เพราะจุดประสงค์แท้จริงคือการ collect ข้อมูลให้มากที่สุด หลอกให้เป็นทาสเก็บข้อมูล เหมือนติดเซนเซอร์กับแมวน้ำ
อุปกรณ์ของอนาคตควรจะเป็นอุปกรณ์ร่วม เช่นมีอินพุทมากกว่าเมาส์หนึ่งลูกศร คนหลายคนรวมกันทำงานชิ้นเดียวได้ โดยไม่มีพรมแดนแยกคอมแต่ละเครื่อง อุปกรณ์ชิ้นเดียวสามารถปรับใช้ได้หลากสถานการณ์ มีความ modular ซีพียูอาจอยุ่ในกระเป๋า แต่ทำงานบนแผ่นจอเบาๆ ในยุคที่เป็น social ทำลายกำแพงระหว่างบุคคล. และอุปกรณ์ ไม่ใช่แยกบุคคลออกจากกัน เพื่อจำนวนข้อมูลที่ธนาคารกุกเกิลจะได้รับ
คุณคงรังเกียจที่จะดูงานเปิดตัวของอุปกรณ์เสือกตัวนี้ เลยไม่เห็นว่ามันสามารถใช้งานร่วมกับผู้อื่นแบบเป็นทีมได้ด้วย
อย่างที่สมาชิกท่านหนึ่งบอกไว้ครับ ว่าเขานึกไปไกลถึงหน่วยกู้ภัย แพทย์ และคนที่เกี่ยวข้องทุกคนใช้อุปกรณ์ตัวนี้ร่วมกันแฮงค์เอ้าท์เพื่อช่วยผู้ได้รับบาดเจ็บตามเหตุที่เกิดขึ้น แค่นี้ผมก็นึกภาพการใช้งานจริงของมันออกแล้วครับ
จริงๆ แล้วผมก็กะจะตอบนะ
แต่พอคิดไปคิดมาแล้ว ... พอแล้วดีกว่า ... เค้าแค่ตั้งใจจุดไฟครับ :D
เหมือนกันครับ พิมพ์จะตอบ แล้วก็ลบดีกว่า
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
hangout ทำให้คุณเขียนโค้ดร่วมกันสิบคน ภายใน eclipes ตัวเดียวกันรึปล่าวครับ
คุณก็รู้ว่าผมพูดถึงอะไร แต่ก็แกล้งตัดประโยคครึ่งเดียวพร้อม แปลความหมายไปข้างทางให้เสร็จสรรพ เล่นเกมตัดคำสนุกมั้ยครับนี่ ?
ความรู้ใหม่ ... ขอถามเพิ่มเป็นความรู้หน่อยครับ
สมาร์ทโฟน / แท็บเล็ตมีตัวไหนที่ทำได้ด้วยเหรอ ... อันนี้ไม่ได้กวนนะครับ ไม่รู้จริงๆ
facetime ทำให้คุณเขียนโค้ดร่วมกันสิบคน ภายใน eclipes ตัวเดียวกันรึปล่าวครับ
ภาษาไทยผมไม่แตกครับ และสนุกกับการเล่นคำกับคุณ
้hangout คงทำให้คนหลายคนเขียนโค๊ดใน Eclipse ตัวเดียวกันไม่ได้ ... แต่ Google Docs สามารถทำให้คนทำงานเอกสารพร้อม ๆ กันได้หลายคน
และเอาจริง ๆ ผมว่างานคงออกมาแย่มาก ถ้าให้คนเป็นสิบเีขียนโค๊ดเดียวกัน ... ไม่รู้นะ ผมว่าโปรแกรมย่อย ๆ ตัวนึงไม่ควรมีคนเขียนเกิน 5 คน
สถานการณ์สมมติ ณ. บ.หนึ่งที่ใช้งาน IDE แบบใช้งานหลาย ๆ คนในไฟล์เดียวกัน
ไอ้ C มันใส่หูฟังฟังเพลงอยู่ ... เลยไม่ได้ยิน (โปรแกรมเมอร์เกินครึ่งที่ผมรู้จักใส่หูฟังเวลาทำงาน และส่วนตัวผมใส่ IEM ด้วย)
นึกเห็นภาพแล้วขำน้ำตาจะไหลครับ 555+
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
จริง ๆ ให้ไอ้ A เซฟ snapshot ไปเทสต์แยกก็ได้ แต่ถ้าเซฟผิดจังหวะโค๊ดรันไม่ผ่านอีกจะสนุกกว่าเดิมมาก เอิ๊ก ๆ
that's why everyone should have his/her own branches.
คนหลายคนไม่จำเป็นและไม่ควรต้องเขียนโปรแกรมภายในโปรแกรมตัวเดียวกันเลยครับ
เค้ามี subversion ที่เหมาะสมกว่า ดีกว่า ทำงานเป็นทีมได้มากกว่า อยู่ครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ใจเย็นๆครับ มือใหม่คงยังไม่รู้จัก VCS
คนละอันกะ CVS ไหมครับ - -a
^
^
that's just my two cents.
CVS - Concurrent Versions System ... CVS is a version control system
สรุป (VCS) version control system เป็นคำ Generic ชื่อระบบใน Area นี้ครับ
ส่วน CVS - Concurrent Versions System เป็นชื่อ Software
ไม่สามารถใช้ร่วม < รู้จัก Google Hangout ไหมครับ?
ถอดออกก็ไม่มีประโยชน์ < สมาร์ทโฟนที่วางเอาไว้ โน้ตบุคที่อยู่ในกระเป๋า ก็ไม่มีประโยชน์เหมือนกันครับ
ตีกรอบถอยหลัง < แปลให้หน่อยครับ ไม่ฉลาดพอ
Collect ข้อมูลให้มากที่สุด หลอกให้เป็นทาสเก็บข้อมูล < iOS 4 ที่แอบเก็บข้อมูล Location เงียบๆ นับไหมครับ
คุณอคติบางอย่างมากเกินไป การเก็บข้อมูลก็ไม่ได้ผิดอะไร ถ้าแอปเปิลก็ทำ การถอดออก หรือวางเอาไว้ ก็ไม่มีประโยชน์ แน่นอนครับ โทรศัพท์ผมก็ด้วยเช่นกัน และที่สำคัญ ลองดู Keynote โปรดักส์ให้จบก่อนจะเริ่มพิมพ์ด่านะครับ
เรียนภาษาไทยใหม่ได้้แล้วครับ อ่านหนังสือยังไม่แตก
เขียนให้คนอื่นอ่านรู้เรื่องไม่ได้ก็แสดงว่าไร้ความสามารถเหมือนกันครับ
คุณอาจจะเขียนแล้วแตกเกินไปก็ได้
ว่าแต่ คดีเก่ายังไม่เคลียร์เลยนะครับ เห็นว่าหนีตลอด
ผมยังรอคุณอยู่นะครับ คุณ 3000anv :/
Dream high, work hard.
คิดว่าเขาคงใช้โควต้าตอบครบตามจำนวนครับ คงต้องรอสักพักให้เขา
ค้นวิกิได้โควต้ามาตอบใหม่ครับเอ๊ะ หรือไม่มาแล้ว เพราะทำหน้าที่เป่านกหวีดเรียกลูกเสือเสร็จแล้ว
+1000 อคติทำให้คนตาบอด :)
ใส่หมวกจักรยาน/หมวกกันน๊อคคือจะเดินทาง แล้วจะใส่ Google Glasses ทำสวรรค์วิมานอะไร จะเปิด facebook ตอนปั่นจักรยานรึไง? ส่วนแว่นก็ทำให้มันเป็นแว่นเองซะสิ
เรื่องแชร์ได้หลายคนมีตอบไปแล้ว ส่วนดูร่วมกับมอนิเตอร์อื่นตัวมันเป็นมอนิเตอร์อยู่แล้วก็แชร์ภาพขึ้นมาที่ตัวมันซะ หรือถ้าอยากเปิดขึ้นมอนิเตอร์ก็คิดว่าทำได้ด้วยการส่งข้อมูลออกไปจากตัวมันนั่นแหละ(แต่ตอนนี้คงยังทำไม่ได้มั้ง)
อะไรที่"ต้องใส่"แล้วถอดออกยังมีประโยชน์อยู่บ้าง?
ที่กำลังถอยหลังแต่หลอกตัวเองว่าไปข้างหน้า นี่ใช่ศิลปินตรรกะป่วยที่วาดรูปไม่ได้เรื่องแล้วผันตัวเองมาเป็นโปรแกรมเมอร์รึเปล่า?อย่างน้อยๆวาดรูปก็ยังไม่ได้ใช้ตรรกะ แต่โปรแกรมมันเขียนด้วยตรรกะนะ
คุณเป็นโปรแกรมเมอร์รึปล่าวครับ ? หรือคิดว่าการเถียงกับผมจะ ทำให้คุณมีไอโฟนใช้ ? หรือเป็นราชา gadget ? หรือได้สวมรอย เป็นโปรแกรมเมอร์ ? ถ้าใช่ก็เชิญสนุกกับการเล่นเกม e-simulation ต่อไปเลยครับ. :) คนป่วยแบบคุณผมก็เคยเห็นมาบ้างครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ
เหยด เถียงกับ 3000anv แล้วจะได้เป็นราชา gadget มีไอโฟนใช้ และได้ลองสวมรอยเป้นโปรเกย์เมอร์ เหยด เหยด เหยดดดดดดดดดดดด น้ำตาจะไหลขอเถียงต่อนะครัฟ
กรณีคุณ YF 01 ออกจะเกินตัวไปซักนิดน่ะครับ เพราะดูเหมือนตัวเค้าจะไม่ได้เป็น - ข้อความข้างบนเป็น local นะครับ เฉพาะกับบุคคล
เปล่าครับ ผมเป็น system admin ควบ project assistant บ้าง มีความรู้เชิงโปรแกรมมิงแค่พอแก้ไขเบื้องต้นและรู้ว่าจะแจ้งโปรแกรมเมอร์ยังไงเท่านั้น ถ้าถามว่าผมเป็นศิลปินรึเปล่านี่แหละจะตอบเต็มปากเต็มคำเลยว่าศิลปะผมกากมาก
แต่ผมรู้ดีกว่าศิลปินขี้อวดฝีมือบ้านๆที่ผันตัวมาหัดเป็นโปรแกรมเมอร์แน่นอน ว่าโปรแกรมเมอร์ที่ตรรกะไม่ได้เรื่องนี่ไม่ว่าจะเก่งแค่ไหนก็ทำให้งานมันเสีย(และส่วนใหญ่โปรแกรมเมอร์ที่ตรรกะเสื่อมๆก็มักจะไม่เก่งด้วยสิ)
ไอโฟนตอนนี้ไม่มีและยังไม่คิดจะกลับไปใช้ แต่ผมคิดว่าตรรกะน่าจะสำคัญกับชีวิตมากกว่าไอโฟนน่ะนะ
ว่าแต่ไม่คิดจะแย้งที่ผมแย้งกลับบ้างเลยเหรอครับ? แต่วิธีหนีหางจุกตูดด้วยการทำตัวว่ารู้เหนือกว่าแต่ไม่เคยมีปัญญาอธิบายนี่ก็สมเป็นส้มดีนะ
ผมคิดว่าไม่ใช่หรอกครับ แต่ถ้าคุณยืนยันจะเล่นอาชีพข้างบนก็เล่นต่อไปได้เลยครับ. คราวหน่าลองเปลี่ยนเป็นวิศวกร ไม่ก็ไฟแนนซ์ ดูนะครับ :)
คุณ 3000anv ลองเปลี่ยนอาชีพดูบ้างไหมครับ ผมว่าผมจะลองอาชีพนักดาบต่อ น่าสนุกนะครัฟ
มีเหตุผลอะไรที่ทำให้คิดว่าคุณ YF-01 ไม่ได้ทำอาชีพที่เค้ากล่าวมาหรอครับ
คิดว่าเค้าอวดอ้าง หรือคุณอิจฉาเค้าที่มีงานเป็นหลักเป็นแหล่งแล้ว
เห็นอย่างนี้มารอบที่สองแล้ว ตอนคุณ McKay ก็รอบนึง
Achievement Unlocked: Being a Blognone's Writer
เหตุผลคือ ผมเคยไปบอกเค้าว่ามวลคูณความเร็วคือโมเมนตัมครับ เถียงมาหัวชนฝาเลยว่ามวลคูณความเร็วที่ไหนเป็นโมเมนตัม
เค้าคงคิดว่า"กะแค่สูตรฟิสิกส์พื้นฐานยังไม่รู้ จะมาเป็น System admin ได้ยังไง" ละมั้ง ;P
แต่จริงๆก็ถูกอยู่อย่าง เพราะตำแหน่งงานผมเป็นวิศวกรน่ะ แต่ทำงานแบบ system admin
จริงๆวันนี้ก็คลายเครียดได้พอประมาณละ แต่พึ่งจะสงสัย
ที่เรียกตัวเองว่าเป็นโปรแกรมเมอร์นี่ หารายได้จากมันได้แล้วรึยังครับ รึมีผลงานอะไรมั่งรึยัง? พึ่งหันมาอ่านหนังสือพื้นฐานอัลกอริธึมได้ไม่ถึงครึ่งปีเลยนี่
ถ้ายังเกาะพ่อแม่กินอยู่ไม่มีผลงาน อันนี้เค้าเรียกตู่เป็นโปรแกรมเมอร์นะครับ
^
^
สมัยนี้แค่เขียน hello world ได้ก็เรียกตัวเองเป็นโปรแกรมเมอร์กันแล้วครับ
เหมือนพวกที่ซื้อของมาถ่ายหนังชิ้นนึงแล้วก็ตู่ว่าตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโพลีคาร์บอเนตนั่นล่ะ
เลิกไปยุ่งกับเค้าเหอะครับ
ตอบดีๆ เค้าก็ไม่คุยด้วย ตอบมีเหตุผล เค้าก็เปลี่ยนเรื่อง ตอบอีกเรื่องเค้าก็ไปงุงิกับ คห.อื่น
ไปๆ มาๆ เค้าก็หายจากข่าวไปเลย
แบบที่บอกครับ ... ผมเองก็คันปากยิบๆ แต่เลือกที่จะไม่สุงสิงดีกว่า เพราะรู้ว่าเค้าไม่ได้อยากจะทำอะไรนอกจากเสนอความคิดลักลั่นย้อนแย้งครับ
//เกาปากให้
Dream high, work hard.
ผมคิดว่าเค้าตั้งใจยุแยงอะไรแปลกๆไม่รู้ คือ ผมแสดงความคิดเห็นอะไรไป ผมยังมองตัวเองว่ามันอาจจะไม่ถูกต้องทั้งหมด อาจจะมีคนรู้มากกว่าในบางประเด็นที่ผมคิด แต่ดูเค้าคนนี้แล้ว เหมือนว่าเค้าพูดอะไรต้องเป็นไปตามนั้นแน่ๆ ใครเห็นต่างมาแย้งกลายเป็นคนโง่ไปซะงั้น ผมมองว่าถ้าคิดโง่ๆแบบกูเกิ้ลแล้วรวยมาได้ระดับนี้ ผมยอมโง่ดีกว่าฉลาดแบบเค้าซะอีก
คุณ PaPaSEK อย่าซีเรียสเลยครับ หมอนี่เป็นแบบนี้แหละ อัตตาเยอะ มองโลกแบบเดียว
ถ้าอ่านแล้วไม่ขัดตามากนักผมก็ปล่อยผ่านเหมือนกัน แต่อันนี้มัน.....ข้างๆคูๆได้น่าเอาไปคุยกับเด็กประถมข้างบ้านมาก
ผมไม่ซีเรียสหรอกครับ
หลังจากกระทู้ก่อนผมก็เอาฮาแล้วล่ะ ก็เพราะข้างๆ คูๆ นี่ล่ะครับ ผมถึงออกแนวฮาไปแล้ว
จริงๆ แล้วผมยังงงๆ นิดนึงนะ ... ว่าเราจะร่วมกับอีก 9 คนเขียนโค้ดใน Eclipse ตัวเดียวกันไปทำไม?
พอจะมีใครตอบผมได้มั้ยครับ ... คือถ้ามันทำได้จริงๆ ผมว่ามันต้องมีเหตุผลอะไรสักอย่างที่เค้าทำออกมา
เอาไว้ไปข่ม Netbeans ว่า function เยอะกว่า!!!
อันนี้ผมฮามาก ฮาๆๆ กาแฟพุ่งเลย
......เค้าอาจจะไม่รู้จัก cvs, svn, git ก็ได้มั้งครับ เลยต้องมาเขียนในเครื่องเดียวกัน
(สองตัวแรกนี่มันดักแก่สินะ.......)
^
^
เฮ้ย ตัวสองมันไม่เก่าขนาดน้านนนน!!!
microsoft source safe สิครัพ
ยอมรับความจริงเถอะครับ 555
เดี๋ยวนี้เปิดเวบแล้วเห็นแต่ git, github
คนรุ่นใหม่จะรู้จัก 2 ตัวแรกมั้ยนะ T^T
อาจจะสงสัย cvs ถ้าใช้ eclipse
อาจจะงงๆ svn ถ้าใช้ code.google
เฮ้ย ผมเพิ่งรู้จักแล้วคบกับ SVN เมื่อ 3 ปีที่แล้วเองนะ ยังไม่แก่ๆ -*-
ผมเป็นโปรแกรมเมอร์อาชีพประสพการณ์ 7 ปี (และคนแถว ๆ ประสพการณ์รวม ๆ กันคงเป็นหลายพันปี) ก็ยังไม่เห็นอะไรที่มันเกี่ยวกับโปรแกรมเมอร์นะ
คุณมองว่าการที่คุณใส่สเกาเตอร์ตรงตามันจะทำให้เขียนโปรแกรมไม่ได้ ... อืม ผมว่ามันประหลาดนะเพราะผมพบว่าผมใช้สมองในการเขียนโปรแกรม :-) ตรงนี้ผมล้อเล่นน่ะ ผมว่าถ้าผมใช้ Glass ผมก็คงจะให้มันแสดงผล reference ของชุดคำสั่งที่ผมกำลังเขียนด้วยอยู่ สั่งการมันด้วยคำพูด หรือแม้กระทั่งจะใช้มันประชุมระยะไกลโดยที่ไม่ต้องลุกจากโต๊ะเลยก็ได้ (มันมีไมค์และลำโพงในตัว ถึงจะไม่ได้เสียบหูแต่ก็พอได้ยิน)
อุปกรณ์แบบนี้มีศักยภาพสูงมาก มันขึ้นกับจินตนาการณ์น่ะครับว่าจะเอาไปมันไปใช้ทำอะไร ถ้าเกิดเราไร้สิ้นซึ่งจินตนาการณ์มันก็ไม่ต่างอะไรกับลิงได้แก้วหรอกมั้ง ? ไม่รู้นะ บางทีคนเราก็ต้องใช้ความคิดบ้างน่ะครับ
ปล. ผมไม่เคยมีไอโฟนใช้ เพราะผมใช้ iPod Touch รุ่นแรกแล้วรู้สึกว่าเบื่อ (ตอนนั้นตั้งเกือบสองหมื่นแน่ะ แพงเป็นบ้า) ตอนที่ iPhone ออกก็เลยไม่ได้สนใจมันมาก เล่นจนเบื่อแล้ว มันไม่ใช่อุปกรณ์ที่เล่นแล้วจะรู้สึกว่า Wow นะ แบบว่า เมื่อ 5 ปีที่แล้วมันเป็นยังไง ตอนนี้มันก็เป็นแบบนั้น (ไม่ใช่ว่ามันไม่ดีนะ แต่ผมขี้เบื่อเอง) ตอนนี้ผมถอยกลับมาใช้ iPod Classics แทนเพราะว่ามันมีความจุมากพอจะเก็บเพลงที่ผมฟังได้ (ตอนนี้ใช้พื้นที่ไปประมาณครึ่งนึงละ)
ถ้าตอนแรกสตีฟ จอบส์ทำไอโฟนแล้ว 3000nav บอกว่ากากส์จุงเร วางเอาไว้ Notification ก็ไม่มี ใครทำอะไรก้ไม่รู้ แย่จัง เราอาจจะไม่เห็นวงการสมาร์ทโฟนที่ดีเพราะจินตนาการเฮียแกก็ได้นะ :3
นั่นก็เป็นเรื่องที่ทำให้ผมใช้บลอคนอนเลยครับ. เพราะได้ความรู้จากฟอรัมเยอะ
. อันที่จริงคนที่อ่านเข้าใจบรรทัดที่ผมพูดเรื่อง multiple input คลาดเคลื่อน และตอบออกมาข้างทางก็เพียงพอจะทำให้ผมทราบว่าไม่ใช่โปรแกรมเมอร์. แต่เป็นแค่คนเล่นมือถือมาใช้บลอคนอน ไม่ก็พนักงานประกอบคอม. เท่าที่ผมทราบก็เหมือนจะมีราวๆสองคนนะครับ :).
กลับมาคุยกันเรื่องหัวข้อกระทู้ต่อ ผมว่าเรื่องนึงที่จะมีปัญหาคือ การโฟกัสวัตถุของสายตา กับตัวกระจกเลนส์ ที่ต้องสลับไปมาตลอด ซึ่งป็นภาระกับกล้ามเนื้อเลนส์ตามากขึ้นกว่าเดิม. ระหว่างการมองวัตถุจริง กับตัวจอของ glass ที่มีระยะใกล้กว่า จะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติโดยที่เราไปควบคุมไม่ได้ จะเป็นภาระกับสายตา
ผมว่าประเด็นของคุณ mr_tawan ต้องการบอกคือทำไมคุณถึงไปมองว่าการทำงานกับ Google Glass ต้องไปจำกัดอยู่กับการเขียนโปรแกรมล่ะครับ
ท่านอื่นเค้าพยายามยกตัวอย่างความมีประโยชน์ของ Google Glass กับงานทำงานเป็นทีมมาได้อย่างน่าสนใจ
แต่คุณพยายามจะบอกมันไม่มีประโยชน์เลยถ้าไม่สามารถทำให้ช่วยเขียนโค้ดด้วยกันได้หลายคน ทั้งที่มันอาจจะทำอย่างอื่นได้เยอะแยะ
ผมเองก็ไม่เข้าใจเรื่อง multiple input ที่คุณต้องการจะสื่อหรอกนะ แต่ผมว่าคุณนะแหละที่เริ่มตอบออกข้างทางก่อน
Achievement Unlocked: Being a Blognone's Writer
ผมมีพูดเรื่องประเด็นเขียนโปรแกรมอยู่ข้างบนด้วยนะ ;-)
ผมกลัวเค้าจะบอกว่ายังไงก็ช่วยให้เขียนโค้ดร่วมกันไม่ได้อยู่ดีนะซิ :| ซึ่งผมซึ่งไม่ค่อยแน่ใจว่าเค้าจะต้องการเขียนโค้ดร่วมกันแบบ realtime รึเปล่าถึงจะต้องไปเขียนอยู่บน Eclipse ตัวเดียวกัน แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรจากการทำแบบนั้น
แต่ยังไงเรื่องโจมตีว่าคนอื่นแอบอ้างว่าไม่ใช่โปรแกรมเมอร์เนี่ย มันยังไงๆ อยู่นะ เพราะคนนึงเค้าก็ไม่ได้บอกว่าเป็นโปรแกรมเมอร์ซักหน่อย ส่วนอีกคนผมไม่แน่ใจว่าใคร
Edit: กลับไปนั่งไล่อ่านใหม่ พอรู้แหละว่าอีกคนหมายถึงใคร แต่ผมว่าเค้าก็สมมติสถานการณ์ที่เทียบเคียงมาจากของจริงให้ฟังนะ ;-)
Achievement Unlocked: Being a Blognone's Writer
แสดงว่าไม่เคยใช้กล้อง SLR
รู้สึกว่าจะมีอีกเทคโนโลยีนึงที่ไม่จำเป็นว่าจะต้องโฟกัสที่เลนส์ก็เห็นภาพได้ครับ ลักษณะคือใช้เลนส์ลักษณะพิเศษที่เลียนแบบมุมของแสงที่มาจากระยะไกล เพื่อให้เกิดการซ้อนภาพขึ้นครับ ทำให้คนใส่เห็นเหมือนมีภาพลอยอยู่ในอากาศโดยโฟกัสตาไปที่ตำแหน่งนั้นๆ
อย่างเช่นสมมติว่าเราต้องการให้ภาพปรากฏขึ้นในระยะต้นไม้ที่ไกลออกไป 5 เมตร ก็จะใช้วิธีเลียนแบบแสงที่เกิดจากวัตถุที่ระยะนั้น ทำให้เกิดภาพซ้อนที่ระยะต้นไม้ต้นนั้นครับ
//ยังไม่ได้หาแหล่งข้อมูลยืนยัน แต่มีเทคโนโลยีชนิดนี้อยู่ครับ
Dream high, work hard.
เรื่อง focus ระยะเท่าไหร่ไม่สน
แต่การใช้ในชีวิตประจำวัน
คิดว่าประมาณนี้เปล่าครับ
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=CGwvZWyLiBU
google ทำ video ไว้เหมือนกัน
http://www.youtube.com/watch?v=9c6W4CCU9M4&feature=plcp
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ปล่าวครับตรงนี้คุยกันเรื่องเดียวกันแต่คนละประเด็น เรื่องการมองเห็นตัวภาพหรือไม่เห็นนั่นเป็นเรื่องประสิทธิภาพของเทคโนโลยี แต่ผมพูดถึงพฤติกรรมของร่างกาย ที่คนเราควบคุมไม่ได้ ก็คือการที่กล้ามเนื้อตาจะพยายามจับวัตถุไงครับ. ยกตัวอย่างจอที่คุณมองอยู่ตอนนี้สายตาคนเราก็พยายามโฟกัสตัววัตถุอยู่ แต่การที่วัตถุไม่มีระยะ ทำให้มีการปรับตลอด. ก็เลยทำให้สายตาสั้น.ลง.
กรณีที่เป็นมอนิิเตอร์แบบกุกเกิล glass ปัญหาสายตาจะไม่ได้มีแค่กล้ามเนื้อตาทำงานหนัก. ตลอดเวลา. แต่ยังทำให้ตาเอียงหรือสายตาสั้นไม่เท่ากันสองข้าง โรคตาขี้เกียจ ซึ่งเป็นปัญหาหนักกว่าปัญหาสายตาทั่วๆไป
ส่วนเรปของคุณเกมเมอร์ผมไม่ขอตอบนะครับ เพราะอาการท่าจะหนักกว่าสองคนแรก เสียเวลาผมปล่าวๆฮะ
ไม่เป็นไรครับ ผมแค่หวังว่าคุณจะอธิบายความคิดของตัวเองได้เท่านั้นเอง
Achievement Unlocked: Being a Blognone's Writer
เขียนชัดแล้วฮะ อ่านตกคำอ่านข้ามจนคุยคนละเรื่อง. -เป็นเรื่องของคนอ่าน
ส่วนคุณที่ชื่ิอคล้ายๆรถแข่ง. ถึงผมจะหลอกลวง และไม่ได้สนใจ. ปัญหาส่วนตัวของคุณ เอาเป็นว่าผมขอแกล้งเป็นกำลังใจให้นะครับ. :).
อันนี้แปะไว้ให้คนอื่นๆ ที่จะมาสนทนาปัญหาโปรแกรมมิ่งกับคุณ 3000anv นะครับ
รบกวนถามการส่ง argument ใน java หน่อยครับ (Newbie question)
Software Eng, Programmer, Developer System Analysis ต่างกันยังไงหรอครับ
ถ้าต้องการเรียน programming ถึงระดับทำงานได้
ปรกติเขียนโปรแกรมโดยเริ่มจาก Psuedo code กันรึปล่าวครับ
เฮ้อ ... ดีว่ามีคนมาพูดให้ได้ยินแว่วๆ ... ไอ้เราก็หลงคุยด้วยตั้งนาน
เค้าเพิ่งหัดเขียนโปรแกรมครับ ... ไม่แปลกใจเลยที่จะเขียนโปรแกรมหน้าจอเดียว 10 คน
เขาเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองสูงมากในเครื่องที่เขาคิดว่ารู้ครับ ไม่ค่อยแสดงการยอมรับความเห็นคนอื่น(เพราะพอเห็นโดนทุ่มข้อมูลใส่ก็หายทุกที)
reply กันเยอะแบบนี้ อยากเห็น Blognone's Pyramid เหมือนเมื่อก่อนจัง
Dream high, work hard.
ตรงนั้นก็เป็นแค่การยกตัวอย่างน่ะครับ ความจริงก็อยากยกตัวอย่างอื่น เพราะอุปกรณ์ยุคใหม่จะเกิดจากการแก้ไขรากฐาณ ที่สุด. และการที่ input mouse ได้แค่ลูกศรเดียว หรือทำงานบนแอปได้แค่คนเดียวก็เป็นข้อจำกัดแบบนึง
เป็นเรื่องของรุปแบบการทำกิจกรรมบนตัวอุปกรณ์ อย่างเขียนโปรแกรมก็คงมี ide ที่ทำให้ทำงานหลายคนได้อย่างดีกว่าเดิม คงไม่ raw ขนาดทำบนตัวปัจจุบัน
ที่จะบอกทั้งหมดก็แค่ว่า
นิยามของอุปกรณ์ยุคใหม่ คือการแก้ไขพื้นฐาณที่สุดของ device ครับ แต่การที่อุปกรณ์ต้องติดกับตัวคนใช้ มันเป็นยุคใหม่ในนิยามของคนรุ่นก่อน ที่จะมีนิยายวิทยาศาสตร์หรือภาพยนตร์เป็นแรงบันดาลใจ (pop&sell) แต่ไม่ได้ใหม่ในความหมายที่แท้จริงครับ
แต่ถ้ามองจากกุกเกิล มันเป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูล ที่ 'ใหม่' และมีค่าสำหรับคลังกุกเกิล ดังนั้นคำว่าอุปกรณ์ยุคใหม่ เป็นแค่ propaganda ครับ
อย่างที่บางคนก็เขียนว่า facetime ก็ไม่ช่วยให้ทำงานได้หลายคน นั่นละครับ ผมก็เห็นด้วยนะ เพราะ glass มันก็คือเฟชไทม์แบบเอากล้องติดหน้าแค่นั้นเอง
Signature ผมก็แนะนำตัวไว้แล้วนี่ครับ. มีมาตั้งนานแล้ว
ข้อความบางข้อความผมเขียนเฉพาะกับบุคคล ตามสภาพผู้สนทนา นะครับ หวังว่าจะไม่มีหลายคนอ่านแล้วนำไปเป็นเรื่องของตนเอง
มีเรื่องนึงที่ผมเห็นด้วยกับคุณก็คือ "มันคือตัวช่วยเก็บอุปกรณ์" ซึ่งหลายๆ คนก็รู้อยู่แล้วล่ะครับ
กูเกิลก็มามุกนี้ตลอด ... กูเกิลพลัสก็เหมือนกันแหละ
อุปกรณ์ที่ดี ต้องทำให้ผู้ใช้ไม่รู้สึกว่ากำลังใช้อยู่ ... คือเป็นส่วนนึงกับมันไปเลย ...
เรื่องโปรแกรมมิ่ง ... ไม่ได้จะเอามาเป็นจุดบลัฟอะไรนะครับ ถ้าทำให้รู้สึกแบบนั้นขอโทษด้วย แค่อยากจะบอกคนอื่นน่ะครับ ว่าอย่าไปคุยเรื่องโปรแกรมมิ่งอะไรกับคนที่เพิ่งหัดเขียนโปรแกรม คนอื่นจะได้ไม่เข้าใจผิด จากการสร้างเรื่องราว วาดภาพในจินตนาการเพ้อฝันอะไรของคุณน่ะครับ ... ปัญหาทางสุขภาพจิตเนี่ย
ส่วนอื่นๆ เบื่อครับ ... ผมไม่ชอบคนเพ้อเจ้อเท่าไร ... เพราะลำพังตัวผมเองก็เพ้อเจ้อพอแล้วครับ
เพราะผมหัดเขียนโปรแกรมและต้อง คอยถามโปรแกรมเมอร์รุ่นพี่บ่อยๆไงครับ ผมเลยพอจะดูออกว่า attitude มาแบบนี้เฟคหรือไม่เฟค
จะ PR ว่า Apple กำลังจะเปลี่ยนโลกด้วยเมาส์สองหัวในคอมเครื่องเดียวสินะครัฟ
อืม พีทั่นเป็น PR ของ Apple จริงๆ สินะ
นึกถึง กูรู(เทียม) ที่ได้เป็นพรีเซนเตอร์ gadget บ่อยๆเลย
แถวนี้นี้มีใครจำ วิสัยทัศน์ IT 10 ข้อของเค้าได้มั่งมั้ย
ผมจำได้แต่ข้อที่บอกว่า "เวบจะตาย คนจะหันมาใช้แอพ"
แล้วทุกวันนี้ก็อ่านข่าว chrome os, firefox os, html5 ไปยิ้มกรุ้มกริ่มไป
มือใหม่ไฟแรง - -!
นี่ชัดเจนแล้วหรอครับ ผมว่าผมไม่ได้อ่านข้ามนะที่ผมตั้งคำถามก็เอามาจากประเด็นที่คุณเริ่มทั้งนั้น
ท่านอื่นแย้งพร้อมยกตัวอย่าง Hangout ที่จะช่วยให้ทำงานเป็นทีมได้ (ผมขอถามว่าไม่เห็นประโยชน์จากตรงนี้เลยรึ)
คุณบอกว่าแล้วยังไงมันช่วยให้เขียนโค้ดบน Eclipse ตัวเดียวกันพร้อมกันได้ไหม
ท่านอื่นตอบว่าต่อให้มันทำอย่างนั้นได้มันก็ไม่เวิร์คหรอกวัดจากจากประสบการณ์ที่เจอมา (ผมถามอีกครั้งว่าคิดยังไงถึงจะทำเขียนโค้ดลง Eclipse ตัวเดียวกันแบบนั้น)
ท่านอื่นตั้งข้อสงสัยเรื่อง Multiple Input ของคุณ บางคนไม่เห็นด้วยเลย
แต่คุณคงขี้เกียจตอบคำถามผมจริงๆ ละมั้ง
Achievement Unlocked: Being a Blognone's Writer
ไปเล่นเกมของคุณต่อดีกว่าครับ ไม่ต้องเล่นเป็นทนายครับ หน้าตาก็ไม่ฉลาดอยู่แล้ว
ขอเชิญคุณ mk กับคุณ lew จิตสัมผัสครับ ไม่ไหวแล้วครับ = =
Dream high, work hard.
ใบ้ให้ว่าสามคนที่ผมเห็นนี่. คุณเกมเมอร์ อ่านหนังสือไม่แตกมากที่สุดแล้วครับ. คุยคนละเรื่องได้สมบูรณ์แบบ
ตรงไหนที่เค้าอ่านไม่แตก ก็อธิบายมาด้วยสิครับ ไม่ใช่พูดลอยๆ ไม่มีเนื้อในนั้น
Dream high, work hard.
จะเอาอะไรกับคนที่ดูไม่ออกว่ามือถือที่ตัวเองใช้ มีฝาหลังทำมาจากโพลีคาร์บอเนตละครับ
เอามาใช้ตั้งนานยังบอกว่ามันไม่ใช่เลย
อ่านข้อความข้าม รวมถึงการตีความหมายด้วยการอ่าน deceive comment ของคนอื่น แทนที่จะอ่านข้อความของคู่สนทนาและแปลความหมายด้วยตัวเองไงครับ. : / และก็กลายเป็นคุยคนละเรื่องเดียวกัน จากการขี้เกียจแปลด้วยตัวเอง.
ไม่ได้ถามตรงนั้นครับ ถามว่าเค้าอ่านข้ามอะไรไป ไม่ใช่อ่านข้ามแบบไหน
Dream high, work hard.
ปล่อยไว้เถอะครับ เผื่อจะรู้สึกดีแบบผม xD
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
กลายเป็นกิจกรรมในครอบครัวไปแล้ว :D
ผมเป็นพวกไม่ชอบค้างคาซะด้วยสิ :/
Dream high, work hard.
มี assignment ที่ผมต้องทำอีกเยอะน่ะครับ. คงใส่ใจไม่ได้มาก. แต่ อันที่จริงข้อความแรกสุดคือคำตอบที่ดีที่สุดครับ
คำถาม
คำตอบ
ตอบตรงคำถามมากๆ ครับ ขอบคุณจากใจเลยครับ
Dream high, work hard.
555 โดนเข้าให้ซะแล้ว ท่านอื่นไม่ต้องคิดมากหรอกครับ มาอีหรอบเดี๋ยวกับที่ท่านอื่นโดนแหละครับ เถียงไม่ออก ไม่รู้จะตอบยังไง personal attack ไว้ก่อน
Achievement Unlocked: Being a Blognone's Writer
พี่ซื้อหุ้น AAPL ไปเท่าไหร่แล้วครับ
เคยซื้อ Apple Care ไปกล่องนึงครับ ข้างบนผมไม่รู้จัก
ต๊ายย รัก Apple แต่ไม่รู้จัก AAPL #เอามือทาบอก
ฮา หงายเงิบเลย :)
ต๊าย สาวกของเก๊ที่ไม่เคยอ่านข่าวของลุงอาจิณนี่หน่า
ในดราม่าแอดดวกส์ เราคงเห็นกันบ่อยๆ ว่า การถกเถียงที่สู้ไม่ได้แล้วไปเรื่องหน้าตา (เช่นดราม่าหน้าตาแบบนี้มันหื่นมากๆ) เป็นอะไรที่งี่เง่าจริงๆ ครับ สู้กันด้วยตรรกะไม่ได้ แล้วไปลามถึงหน้าตาและบุคลิกภายนอก ถ้าเช่นนั้น สตีเฟน ฮอว์กิง คงไม่ได้รับการยอมรับในโลกฟิสิกส์สมัยใหม่แน่นอนครับ เล่นยิ้มทีปากเบี้ยวซะขนาดนั้น
เปิดสมองและใจนะครับ หน้าตาภายนอก ไม่เกี่ยวข้องกับความคิดที่แสดงผลอยู่
ทำได้จริงๆ เหรอ โดยมองผ่านกระจกด้วยตาข้างเดียว ?
ผมว่าทำได้นะ ด้วยตาสองข้างนี่แหละ
คือทำแสงหลอกในระยะเหลื่อมที่ต่างกันบนเลนส์ทั้งสองฝั่งให้เท่ากับเวลาเราโฟกัสภาพจริง ดังนั้นภาพที่ได้ก็จะปรากฏเหมือนเวลาเรามองด้วยตาสองข้างจริง
เนื่องจากสายตาคนเราโฟกัสที่"แสงซึ่งสะท้อนมาจากวัตถุ"ไม่ใช่"ระยะของตัววัตถุจริง" ถ้าเราหลอกระยะแสงได้ก็หลอกระยะโฟกัสได้
ถ้าดูผ่านสองตา .. ผมดูหน้ง 3D ในโรงออกจะบ่อยครับ ชอบแว่นแบบ Polarization ที่ไม่ใช่ Active Shutter .. ศึกษาเทคโนโลยีด้านนี้มาระดับหนึ่งเมื่อปีกว่าๆ
.. แต่ใช้แว่นข้างเดียว .. ยังไม่เคยเจอครับ .. ขนาดจะทำหนัง 3d ยังต้องใช้กล้อง 2 ตาเลยครับ
3D แบบนั้นยังไงก็ต้อง 2 ตาครับ เค้าถึงเรียก stereoscopic แต่ว่าทำเป็นภาพซ้อนไม่จำเป็นขนาด 3D ครับ เหมือนที่ตัวอย่างข้างบนยกเรื่องกล้อง SLR ไงครับ เพิ่ม grid เพิ่มพวกตัวเลขเข้าไปให้มองแล้วแสดงค่าได้ พร้อมดูภาพที่จะถ่ายไปด้วย
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
เคยสวมแล้วหรอจ๊ะ
พี่ YF-01 ครับ ผมว่าศิลปินที่แท้จริง ที่เชื่อในพลังศิลปะต่อสังคม ต้องมีตรรกะครับ เพราะศิลปะของเขาคือเครื่องมือในการสื่อสาร ต้องใช้ตรรกะไม่น้อยในส่วนของการกำเนิดสารเฉพาะตัว แล้วก็ต้องใช้ความคิดและทักษะเพื่อวิธีการในการสื่อสาร
ไม่มีอะไรครับ จี๊ดๆ ผ่านมาเห็น ตรรกะป่วยคงเป็นศิลปินไม่ได้ครับ อันนั้นเรียกคนฟุ้งฝัน :)
ขออภัยถ้าทำให้รู้สึกไม่ดีครับ
เป็นในความหมายว่าการลงฝีแปรงอาจจะไม่ต้องใช้ตรรกะ แต่ถ้าาจะเป็นศิลปินที่แท้จริงผมเห็นด้วยว่าต้องเข้าถึงตรรกะ(อาจจะโดยธรรมชาติหรือการครุ่นคิด)
ผมใช้คำว่าศิลปินในความหมายของการเย้าถึงศิลปินจอมปลอม ไม่ได้หมายความว่าศิลปินที่แท้จริงไม่ต้องใช้ตรรกะหรอกครับ
ท่านรู้ข้อมูลมันหมดแล้วหรือว่ามันต้องเป็นตาที่ต้องเกี่ยวหูใส่ร่วมกับพวกหมวกตามที่ท่านว่าได้อย่างเดียว = =!! เก่งจัง!!
แล้วท่านรู้ได้ไงว่ามันต้องเป็นภาพซ้อนเมื่อใช่ร่วมกับมอนิเตอร์มันอาจจะสั่งบอกว่าถ้าเจอมอนิเตอร์สั่งเป็นไวเรสภาพออกจอใหญ่แบบเหมือนต่อจอแยกออกจากคอมก็ได้ แล้วขอถามหน่อยครับ ท่านพูดเหมือนเกลียดการเก็บข้อมูลหวงความเป็นส่วนตัวมาก แต่อยากให้อุปกรณ์เครื่องนึงมีคนดูได้หลายคน ไหงมือถือผมเองผมยังไม่รู้สึกอยากให้ใครใช้เลย แล้วท่อนสุดท้าย social ไม่ใช่การทำลายกำแพงระหว่างบุคคลเลย แต่มันการเข้าสังคมกันโดยการจงใจแสดงข้อมูลตัวเองออกสู่สังคม ไม่ใช่ให้สังคมเข้ามาอยู่ในชีวิตเรา ทุกคนยังต้องการส่วนพื้นที่ส่วนบุคคลอยู่มากด้วย
+1 หวงความเป็นส่วนตัว แต่อยากให้อุปกรณ์เครื่องหนึ่งดูได้หลายคน
นี่สิ visionary ตัวจริง
เขียนโค้ดจอเดียวพร้อมกันหลายคน
แบบนี้ต้องโยนตำรา SCM ทิ้งไปให้หมด
ให้ Linus มากราบ 3000anv งามๆซักครั้ง
ไม่ซื้อไม่ว่า อย่ามาทำลายด้วยวิธีคิดแปลกๆ ครับ...
Dream high, work hard.
มาลงชื่อว่าได้อ่านความเห็นปลายเท้าของนาย 3000anv แล้ว
สงสารคนรอบตัวหมอนี่จริงจริ๊ง
สงสัยติดลิมิตจำนวนการ comment เลยดูเงียบๆ -
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
อยากตอบโต้บ้าง แต่อย่าง rep บนๆ บอก
พิมพ์แล้วลบดีกว่า...
^
^
that's just my two cents.
แอบคิดอย่างนี้หละ
ใส่หมวกจักรยาน หมวกกันนอก หรือแว่นตายี่ห้ออื่น. อุปกรณ์นี้จะไร้ค่า และใช้งานไม่ได้
ไม่สามารถใช้งานร่วมก้บบุคคลอื่นได้ มือถือเครื่องหนึ่ง สามารถมีคนดูและรับข่าวสารร่วมได้หลายคน
ไม่สามารถใช้ร่วมกับทุกอย่างที่เป็นมอนิเตอร์ และต้องใช้ตาดู เพราะภาพจะซ้อนกัน
แค่ถอดก็กลายเป็นของไม่มีประโยชน์
เป็นการตีกรอบถอยหลัง แต่พยายามหลอกว่าไปข้างหน้า
แต่ที่จำเป็นต้องออกมาแบบนี้เพราะจุดประสงค์แท้จริงคือการ collect ข้อมูลให้มากที่สุด หลอกให้เป็นทาสเก็บข้อมูล เหมือนติดเซนเซอร์กับแมวน้ำ
อุปกรณ์ของอนาคตควรจะเป็นอุปกรณ์ร่วม เช่นมีอินพุทมากกว่าเมาส์หนึ่งลูกศร คนหลายคนรวมกันทำงานชิ้นเดียวได้ โดยไม่มีพรมแดนแยกคอมแต่ละเครื่อง อุปกรณ์ชิ้นเดียวสามารถปรับใช้ได้หลากสถานการณ์ มีความ modular ซีพียูอาจอยุ่ในกระเป๋า แต่ทำงานบนแผ่นจอเบาๆ ในยุคที่เป็น social ทำลายกำแพงระหว่างบุคคล. และอุปกรณ์ ไม่ใช่แยกบุคคลออกจากกัน เพื่อจำนวนข้อมูลที่ธนาคารกุกเกิลจะได้รับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
พี่เป็น PR Apple ใช่รึเปล่าครับ
พี่ซื้อหุ้น AAPL ไปเท่าไหร่แล้วครับ
ปล่าวครับ เป็น user
ถ้าเป็น PR คงโดนปลดไปแล้วล่ะครับ ไม่ได้ช่วยให้ดูดีขึ้นเลย
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
+1
อ่าน comment ทั้งหมดมาเรื่อย ๆ เจอ comment นี้เข้าไปพรวดเลยครับ 555+
That is the way things are.
คันปาก ... เอาซะหน่อย
แหม ... คุณละก็ ... โปรแกรมเมอร์มากี่ปีแล้วครับเนี่ย ตรรกะวิบัติจริงๆ เลย
ปล. จริงๆ แล้วเข้าใจว่าอยากใช้นะครับ แต่ไม่เข้าใจวิธีใช้ ... ผมแนะนำให้หมดแล้วน้าาา อย่าลืมกลับบ้านไปซื้อพลาสติคห่ออาหารล่ะ
เปลี่ยนจาก Google เป็น Apple...
นี่คือนวัตกรรม!!!
me/ เขย่งออกนอกคอมเมนต์
ฮาาๆๆๆๆๆ กู้ดเลยครับ
+1
คุณ 3000anv เคยใช้หูฟัง หรือหมวกกันน็อค มั้ยครับ อิอิ
ของทุกอย่างมันก็มีประโยชน์ในทางของมัน ไม่ใช่ว่าทำมันมาแล้วมันต้องใช้ได้หลายคนทุกอย่างซะหน่อย
แบบนี้ใส่ไปอัดหนังในโรงหนังแบบเนียนๆได้เลยสินะ อุ๊พพพพ
คงเป็นการดูหนังที่ทรมานมาก ต้องหน้าตรงตลอดเวลา ห้ามขยับหันซ้าย ขวา เอียงคอ ถ้าอัดหนังผีอาจจะได้อารมณ์ขึ้น มีเพิ่ม effect จอสั่นตามจังหวะอารมณ์หนัง
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ถ้าเป็นหนังตลกจะทรมาณกว่านี้อีกครับ ต้องกลั้นหัวเราะให้ได้ไม่งั้นภาพจะส่ายเละเทะ
คิดเหมือนๆผมกันไหมครับ เรากำลังจะเป็น "นักสืบจิ๋วโคนัน"
อย่าลืมสเก็ตบอร์ดของ InnovationMan ด้วยครับ ขี่ปุ๊บจะรู้สึกเก็กฮวยทันที
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
จริงๆ มีอีกข่าวที่ผมอยากเขียน ซึ่งเป็น HUD เหมือนกันครับ
Recon Instruments defrosts its Android SDK at Google I/O (video), Engadget
Good Point .. ทำให้เห็นเลยว่า ถ้าส่วนที่เป็นการแสดงผลอยู่ใกล้ๆ จะเป็นยังงัย
ทำให้คิดต่อไปอีกว่า ข้อดีบางอย่างที่ Google Glass มีเพียงข้างเดียวคืออะไร !
(ถ้ามีสองข้างอาจได้เห็นเป็น 3D .. ตัวอักษร, Chart อาจจะยื่นไปอยู่นอกแว่นเลย .. อิอิ)
คงเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมหนังผู้ใหญ่แน่ ๆ
POV?
5555 เห็นภาพเลยครับ มุมมองบุคคลที่1 2 3 ....
อยากให้มีกล้อง 2 ตัวบนแว่นครับ ... ถ่าย 3D
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
ก็ใส่ Glass สองอัน เป็น Glasses ไงครับ
แว่นเป็น glasses อยู่แล้วนิครับ ถ้าเป็น glass 2 อันจริงๆ ก็ต้องเอาแก้ว 2 ใบมาผูกตัดไว้ข้างหู
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
ที่เราเรียกแว่นเป็น Glasses เพราะมีเลนส์สองอันครับ แต่อันนี้ Google Glass มีเลนส์อันเดียวครับเป็นตาขวา คุณ mr_tawan เลยบอกว่าให้ใส่สองอันซ้ายขวาเป็น Google Glasses ไปเลยครับ :P
+1 ขอบคุณที่ช่วยรับมุขครับ เกือบแป๊กแน่ะ 55
ในอนาคตจากแว่นคงเปลี่ยนไปใช้ contact lens แทน
Mission Impossible 4 ..
(ขยับลูกตา เพื่อชาร์จพลังงานให้เลนส์ หรือ ว่าจะดูดน้ำในลูกตาเอามาเป็นพลังงานดีครับ อิอิ)
กำลังจะเปลี่ยนจากใส่แว่นมาเป็น Contact lens เหมือนกัน ... เลนส์ซื้อมาดองไว้ ตอนนี้ไม่กล้าจิ้มลูกตา เหอๆ
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
เวลาใส่คงต้องระวังโจรมากขึ้น.. ให้ดีควรมีระบบ detect คนที่อาจเป็นอันตรายรอบตัวเราได้ 360 องศา ;p
เดี๋ยวนี้เห็นคอมเม้นท์ในข่าวเยอะๆ นี่ รู้เลย... -_-'
my blog
Google Glass นี่ทำให้ผมนึกถึงหนังของ โจ ชิง ฉือ จำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร แต่มันมีแว่นแบบนี้ในเรื่อง แล้วตัวร้ายมันเอาไปเล่นไพ่โดยให้ลูกน้องตัวเองยืนอยู่ด้านหลังแอบเอากล้องส่องไพ่พระเอก แล้ว Stream ภาพมายังแว่นของตัวร้ายยย นี่แหละเหตุผมที่ผมอยากได้
มีแค่ GG Glass กับ Mini Keyboard Mouse (ราคาเบาๆ) .. โปรแกรมเมอร์ก็ทำงานได้แระ ^^
ไม่แน่อีกปี สองปีอาจจะใช้ Voice Typing เขียนโปรแกรมกันแล้ว :)
ดูคลิปนี้ แล้วคิดใหม่ได้นะครับ :p
pittaya.com
ที่แท้ ทำได้ตั้งแต่ปี 2007 แล้วเหรอเนี่ย!!
พิมพ์เหมือนเดิมคงสบายกว่าเยอะเนอะ :)
ดูแล้วฮา.. (หลัง ๆ คนในคลิบเริ่มหงุดหงิด)
พิมพ์โค้ดขนาดนั้นใช้เวลา 10 นาที -*-
Dream high, work hard.
/me นั่งจิ้นว่า กำลังนั่งอ่านโค๊ด 500MB ...
พิมพ์เหมือนเดิมนั่นล่ะดีแล้ว
น่าสนแฮะตัวนี้ ขอลายแทงหน่อยครับ
จอเล็กไปครับ ผมขอ full view angel true-HD super siya
*saiyan
angel = นางฟ้า, angle = มุม
full view angel true-HD super siya = ดูนางฟ้าเต็มๆชัดแบบ HD แท้ๆ สุดยอดสิยะ!
แปลตรงตัวมาก!
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
ทำไมอ่านแล้วเหมือนว่าเป็นหนังทุนต่ำจากค่ายญี่ปุ่นล่ะ O_o
แต่ยอมรับ อันนี้ฮาจริง
ถ้าคีย์บอร์ดตัวแค่นี้ เกรงว่าโปรแกรมเมอร์จะเกร็งตายก่อนนะครับ
ผมกินข้าวอิ่มผมก็วางช้อน
ช้อนนั้นยังมีประโยชน์กับผมรึเปล่า
มันมีประโยชน์เฉพาะตอนผมหิวต้องใช้มันตัก
ฉันใดฉันนั้น ถ้าเราไม่ใช้อะไร ก็วางมันซะ มันก็ไม่มีประโยชน์กับเรา ณ ตอนนั้น
หนัก
ดั้งแหมบ คงใส่แล้วร่วง ใส่แล้วร่วง ถ้าหนักขนาดนี้ -
โห้... ข่าวนี้คนมาฟ้อยกันเยอะจัง
ผมว่าแต่ก่อนผมเถียงกับคุณ Thaina ว่ายากแล้วแต่คุณ Thaina ก็ยังมีตรรกะและการยอมรับคำพูดของตัวเองอยู่บ้าง แต่นี่ 3000anv เห็นแล้วเพลียจริง ๆ มีแต่ความเพ้อฝันที่ขาดเหตุผลและตัวอย่างรองรับ ใช้จินตนาการอันจำกัดของตนกำหนดความเป็นไปของทุกสิ่ง ไม่เปิดรับความคิดเห็นของคนอื่นยังพอทำเนาแต่ที่ใครไม่เห็นด้วยก็พาลแขวะกัดไปทั่ว
จริงอยู่ Google Glass อาจจะช่วยให้ Google เก็บข้อมูลได้เพิ่มขึ้นจริง แต่มันก็มีประโยชน์ของมันอยู่เหมือนกันสำหรับคนที่คิดออกว่าจะเอาไปใช้อย่างไร
โดยส่วนตัวแม้ผมเองจะไม่เห็นว่ามันจะทำอะไรได้มากกว่า smartphone เท่าไรนักแต่ก็ยินดีรับฟังและอ่านความคิดเห็นของคนอื่นที่มีต่อแนวทางการใช้งานอุปกรณ์ชิ้นนี้ เพราะบางทีจินตนาการผมอาจจะยังไปไม่ถึงก็เป็นได้ ไม่เห็นจำเป็นจะต้องไปปิดกั้นตัวเองอะไรแบบนั้น
จุดเดียวที่ผมกังวลมากคือตำแหน่งของมันที่อยู่ใกล้กับสมองมากเกินไป การรับส่งคลื่นไฟฟ้า คลื่นแม่เหล็ก คลื่นวิทยุ รวมไปถึงความร้อนที่แผ่ออกมาอยู่ตลอดระยะเวลาการใช้งานน่าจะกระทบต่อการทำงานของสมองไม่มากก็น้อย
That is the way things are.
ถ้าการแสดงความคิดเห็นผมก็ฟังครับ แต่กรณีที่ไม่ตั้งใจอ่านให้ชัดแล้วมาลดทอนสำนวน แล้วมาเถียงเรื่องที่ผมไม่ได้พูดถึง. ตรงนี้เป็นความวิบัติทางสติปัญญา เพียงอย่างเดียว ผมพูดถึง multiple input คนเถียงกลับมาว่าใช้ conference ผมพูดถึง multiple user to single device คนเถียงก็พูดเรื่องอุปกรณ์ใช้ร่วมกับคนอื่นที่มีอุปกรณ์ได้. (device to device) ผมยกตัวอย่างเรื่อง ide เพื่อให้เข้าใจได้เร็ว. คนเถียงนำไปขยายต่อว่าผมบังคับเรื่องการโปรแกรมมิ่ง. ที่วิบัติไปอีกระดับ คือคนที่เข้าใจประเด็นที่พูดจากการอ่าน deceive comment ที่เกิดจาก user อื่น.
เจตนาเริ่มต้นของการแสดงความเห็น. ดูได้จากว่าคนที่เถียงมา อ่านข้อความของผมครบหรือไม่. ถ้าไม่ครบ ก็คือรีบอ่านจะได้หาเรื่องลงสนามเท่านั้น. ไร้สมองมาผมก็ขอตอบให้รู้ตัวบ้างเท่านั้น. ผมใช้อินเตอร์เนตหาความรู้ ไม่ได้ใช้เพื่อช่วยทดสอบทักษะการอ่านของคนอื่น.
ผมเองก๋ไม่ค่อยเข้าใจว่า แทนที่จะมาจับสำนวนของความคิดเห็นของคนอื่น. (เท่ากับไม่ได้คิดอะไรมากหรือเท่าทันเขา จึงเถียงด้วยการนำสิ่งที่คนอื่นกล่าวมาเป็นโจทย์ ย่อมง่ายกว่าคิดโจทย์เอง ) สุดท้ายก็เท่ากับคุณอยู่ในกรอบของสิ่งที่คนอื่นคิดเห็น. ทำไมถึงไม่แสดงความคิดเห็นของตนเองออกมาตามที่ตนคิด.
ข่าวเรื่องนี้มีโจทย์จริงๆคือ คุณคิดเห็นยังไงกับ google glass ? แต่บางคนขาดความสามารถในการบรรยายทรรศนะ จึงเลือกตอบโจทย์ "นี่คือข้อคิดเห็นต่อกุกเกิล glass โดยมีบทความดังนี้ คุณเห็นด้วยกับบทความนี้หรือไม่อย่่างไร". คำถามยิ่งสั้นยิ่งใช้สมองตอบมากกว่า. และคนที่เลือกข้อหลังก็คือคนที่ไม่ค่อยมีสิ่งที่ว่า
+1
คุณควรพิมพ์ตอบคนอื่นยาว ๆ แบบนี้ตั้งแต่แรกครับจะได้คุยกันให้ตรงจุดมากขึ้นว่าอยู่ตรงประเด็นไหน คนอื่นอ่านไม่เข้าใจตีความผิดมันก็มองได้ 2 แง่ครับ คือเราเขียนดีแล้วแต่เขาไม่เข้าใจหรือเราเขียนไม่ดีเขาเลยไม่เข้าใจ บางครั้งการเขียนสั้นเกินไปก็อาจทำให้คนรับสารเข้าใจคลาดเคลื่อนได้ ไม่เข้าใจก็อธิบายเพิ่มแล้วก็คุยกันต่อน่าจะดีกว่า ควรลองอธิบายเพิ่มไปเรื่อย ๆ ก่อนจนสุดความสามารถที่เราจะทำได้แล้วค่อยตัดบทก็ยังไม่สาย
พูดตรง ๆ ผมเองก็ยังมองไม่ออก (เนื่องด้วยจินตนาการอันจำกัดของผมเอง) ว่าทำไมอุปกรณ์ในอนาคตจึงควรเป็นและต้องเป็นอย่างที่คุณว่าเท่านั้น (multiple input) ความเป็นไปได้ของการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์มันมีหลายรูปแบบ (ขออนุญาตมอง IT เป็นวิทยาศาสตร์แขนงหนึ่ง) แบบที่คุณว่ามันอาจจะเป็นอุปกรณ์แห่งอนาคตจริงแต่ Google Glass ก็อาจจะเป็นอีกอุปกรณ์แห่งอนาคตอีกอันหนึ่งก็ได้ ถึงแม้คุณจะยังนึกภาพไม่ออกคุณก็ไม่ควรไปว่าคนที่เขานึกภาพออกว่ามันห่วย (จากการตีความคำพูดของคุณที่บอกว่า "ตีกรอบถอยหลัง") เพราะมันยังไม่ถึงเวลานั้น อนาคตยังไม่มีใครรู้และพิสูจน์ได้ตอนนี้
ที่สำคัญคุณกลับไปว่า Google Glass ไม่ดี แต่ไม่บอกว่าเพราะอะไร เพียงแต่บอกว่าสิ่งที่คุณคิดว่ามันเจ๋งคืออะไรบ้างและ Google Glass ไม่มีสิ่งเหล่านั้นมันเลยไม่ดี ผมว่ามันเป็นการอธิบายไม่ตรงจุดอย่างแรง ไม่แปลกที่คนอ่านจะรู้สึกว่าการวิเคราะห์ของคุณนั้นไม่สมเหตุสมผล
ปล. คนขี่รถมอเตอร์ไซค์หรือจักรยานสามารถใส่แว่นได้แม้จะสวมหมวกกันน็อคอยู่นะครับ เป็นหมวกกันน็อคแบบเต็มหัวเท่ ๆ ด้วยไม่ใช่แบบกะโหลกกะลาโฟมห่อผ้าใต้พลาสติกครอบครึ่งหัวแบบบ้านเรา
That is the way things are.
ผมว่า อุปกรณ์ที่เปลี่ยนพื้นฐาณที่สุดของ device คือสิ่งที่จะอยู่ได้ยาวนานและพัฒนาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาณของยุคต่อไป ตราบใดที่สามารถแก้ปัญหาพื้นฐาณที่สุดได้ โทรศัพท์ปัจจุบันก็เป็นทัชสกรีนหรือมัลติทัช เพราะเปลี่ยนพื้นฐาณการใช้งานต่อตัวดีไวซ์
กุกเกิลกลาส. คำถามคือ ลองนึกถึงอนาคตที่มี glass ยี่ห้อ belkin , htc , bb ,apple , nokia ออกมาแข่งขันกัน. จะเกิดอะไรขึ้น?
การสวมใส่คือการจำกัดจำนวนของ device ด้วยอวัยวะของคน. คุณมีตาเพียงสองข้าง มีร่องหูเพียงสองที่ เท่ากับคุณสวมใส่ได้เพียงชิ้นเดียว
คุณจะมี glass ที่บ้านกี่ยี่ห้อครับ
ตรงนี้จะเห็นว่า ความ modularity จะหายไปจากการใช้งาน ในขณะที่คุณสามารถเปลี่ยนไปใช้มือถือ หลายยี่ห้อ อุปกรณ์หลากชนิดได้
ถ้าหากคุณต้องถ่ายรูปด้วย dslr คุณต้องใช้ตาขวา. ต้องถอด glass มีหลายกิจกรรมที่ไม่สนับสนุนการใช้งานของตัว glass
มันคืออุปกรณ์ที่พยายามจะยึดครองอวัยวะบางส่วนไว้มากที่สุด โดย fix ตนเองไว้จุดนั้น.
เท่ากับเป็นการทำให้อุปกรณ์อื่นอีกหลายสิบชิ้น . ที่ต้องใช้อวัยวะเดียวกันทำงาน ไม่สามารถเข้าถึงอวัยวะนั้นได้
ดังนั้นแนวคิดเรื่องอุปกรณ์สวมใส่ จึงเป็นการถอยหลังมากกว่าไปข้างหน้าครับ
เป็นมุมมองที่น่าสนใจ
ถ้าพูดแบบนี้ตั้งแต่แรก ก็ไม่โดนแบบข้างบนแล้วล่ะ
ตรงนี้
แล้วก็ ตรงนี้
อ้าว!
ขอโทษครับ ถ้าผมอ่านภาษาไทยไม่แตก >_<
ป.ล. ผมก็ใช้ผลิตภันฑ์ Apple ด้วยน่ะเออ
ข่าวดีคือ bn สนับสนุนการแสดงความคิดเห็น ไม่ว่าจากข่าวเอง หรือจากความคิดเห็นของคนอื่นในข่าว
ความคิดเห็นของคุณ "กับข่าว" ดูเหมือนจะดี เพราะผมว่าทุกคนที่ดูงานเปิดตัวเห็นว่ามันเป็นอุปกรณ์ที่เอาไว้ใช้งาน "ประสานกัน"
ไม่ใช่ "เอาอุปกรณ์มาใช้ร่วมกัน" ซึ่งเมื่อคุณแสดงความเห็นออกมา ผมก็รู้สึกได้ทันทีว่าคุณมองอุปกรณ์นี้ผิดไป
ประโยคของคุณหลังมันย้อนแย้งในตัวมันเอง หลายท่านยกตัวอย่างไปแล้ว
ยิ่งคุณมาพิมพ์อธิบายยาวๆ ยิ่งแสดงให้เห็นว่า คุณไม่ได้เข้าใจมันจริงๆ คุณก็แค่ "อยากลงสนามด้วย" เท่านั้น
พี่ท่านมีมือถือกี่ยี่ห้อครับ แล้วรำคาญเวลาพกทีสามสี่เครื่องไหมครับ? แล้วพี่ท่านรวยขนาดซื้อทุกยี่ห้อแล้วมาปวดหัวทีหลังหรือเปล่าครับว่ามันเยอะเกินไป
ถ้าคุณซื้อมือถือทีละสามเครื่อง พกทีละสี่ (รวมเครื่องเก่าก่อนหน้าซื้อใหม่ด้วย) ผมก็คงจะตีความผิด
ผมมีตาสองข้างครับ พกมือถือทีละสามเครื่อง (เบอร์โทรในประเทศหนึ่ง โทรต่างประเทศหนึ่ง แล้วก็ไอโฟน 4 VZW ที่มีหน้าที่เป็น iPod Touch กล้องเทพอีกหนึ่ง) ผมยังอยากให้มันรวมเป็นหนึ่งอันเดียวกันเลยครับ คุณอยากมี Glass ยี่ห้อ belkin, htc, bb ,apple, nokia แล้วใส่กระเป๋าเป้ตลอดเวลาเหมือนโทรศัพท์ผมเหรอครับ? (ผมว่าไม่) แล้วเวลาถ่ายรูป เราสามารถใช้โทรศัพท์ไปด้วยได้ไหมครับ? (มันก็ไม่ได้ ยกเว้นในอนาคต DSLR กับ Cellphone จะลิงค์กัน และมี Notification ไปเป็น HUD ในช่อง View Finder ได้)
การยึดครองอวัยวะนะครับ โทรศัพท์ยึดมือครับ ไม่เชื่อไปดูบนรถไฟฟ้าได้เลย เกือบทุกคนเอามือข้างหนึ่งถือไอโฟนเอาไว้ แล้วไม่เกาะเสาด้วยซ้ำไป (บางคนก็เอาอีกมือเกาะ บางคนก็ใช้ตูดเกาะ)
ในแนวคิดเรื่องอุปกรณ์สวมใส่ผมขอไม่แสดงความเห็นครับ อีกทั้งตัว Google Glass ยังไม่ถึงขั้น Mass Production ซึ่งการติของพวกเรา (หรือบรรดา Dev วงใน) จะมีผลต่อการปรับปรุงต่อไปในอนาคต (ถ้าเราได้ส่งข้อความไปถึงกูเกิลล่ะนะ)
พิมพ์บนมือถือนะครับ เลยแยกเป็นหลายๆ คห.
คนที่คุณแซะว่าเป็นแค่คนประกอบคอม คงเป็นผม แต่ส่วนนี้ผมคงไม่ว่าอะไรคุณ เพราะมันเป็นอาชีพผมจริงๆ
แต่ผมแตกต่างกับคุณบ้าง ที่ผมไม่ชอบเอาพื้นหลังคนอื่นมาประเมินระดับสติปัญญาในข่าว
เหมือนคุณเป็น programmer มือใหม่ แต่มันไม่ได้เกี่ยวข้องกันข่าวนี้
ผมจึงไม่กล่าวถึงหรือเอาไปลดระดับคุณในข่าว
สิ่งที่ผมพาดพิงคุณคือ คุณนิยามอุปกรณ์ตัวนี้ผิด ผมจึงเข้ามายกตัวอย่าง
คุณกลับบอกว่าผมไม่เข้าใจอะไรเลย
ผมว่าปัญหาในข่าวนี้ของคุณคือ คุณนิยามอุปกรณ์ตัวนี้ผิดแต่แรก เรื่องเลยยาว ก็แค่นั้น
คนนี้ สงสัยจะ ใส่นาฬิกา ข้อมือไว้ที่ส้นเท้า
รู้สึกได้ว่าภาษาของคุณแปลกๆอยู่นะคับ(แค่รู้สึกส่วนตัวน่ะครับ) คำการเรียบเรียงคำ หรือการใช้คำเฉพาะของเค้าดูสับสนๆ
(เหมือนเขียนเป็นภาษาอังกฤษแล้วไปให้ google translate ยังไงไม่รุ)
ผมเริ่มสงสัยว่าเค้าเป็นลูกครึ่งรึเปล่า เพราะดูแล้วเหมือนกับเด็กที่เกิดเมืองนอกแล้วกลับมาอยู่เมืองไทย ยังไงก็ไม่รู้
( คล้ายกับเพื่อนผมคนนึงที่โตเมืองนอกแล้วกลับมาเมืองไทย จะใช้คำที่เจาะจงแล้วจะเรียงประโยคดูขัดๆ
แบบคุณเนี่ยแหละคับ )
เฉพาะคอมเม้นนี้ผมก็สับสนอยู่หลายประโยคแล้วล่ะคับ ไม่นับรวมที่อ่านมาตั้งแต่บนสุด ( ซึ่งมากมาย )
"อุปกรณ์ที่เปลี่ยนพื้นฐาณที่สุดของ device"<< อันนี้บอกตรงๆผมไม่ค่อยเข้าใจ
"พื้นฐาณ" << พื้นฐาน นะคับ
"ถ้าหากคุณต้องถ่ายรูปด้วย dslr คุณต้องใช้ตาขวา." << คนถ่ายด้วยตาซ้ายมีเยอะครับ
"ไม่สามารถเข้าถึงอวัยวะนั้น" << เข้าถึงอวัยวะ แลดูเหมือนการผ่าตัดแล้วสอดกล้องเข้าไปหาอวัยวะยังไงก็ไม่รู้
ปล.ผมไม่ได้ว่าคุณนะแค่รู้สึกแปลกๆ
ZeroCool นี้ Cool สมชื่อครับ
.. คุยเย็นๆ ดีๆ ด้วยแบบนี้ .. น้องเค้าก็คุย เย็นๆ ดีๆ กลับมาเอง
.. น้องเค้าด่วนสรุปอะไรมากเกินไปในบางประเด็น นั้นจะเป็นจุดอ่อนและทำให้เค้าเองปวดใจได้ หากผิดพลาด
เมื่อคืนนี้ 3000anv คุยดีกับทุกคนครับ คงขี้เกียจเล่นแล้วมั้ง
เอาอีกแล้ว......คนอื่นผิด คนอื่นอ่านไม่เข้าใจ คนอื่นโง่
multiple input ผมพูดไปแล้วโดยยกตัวอย่างเรื่องการส่งข้อมูลไป on screen เดียวกันจากแว่นของแต่ละคน(ซึ่งพื้นฐานสุดๆ ที่เหลืออยากประยุกต์ไปส่งอะไรก็ตามใจ) คุณไม่ตอบ ผมถามเรื่องการใช้ร่วมกับหมวกต่างๆเพื่ออะไร คุณเงียบ ผมถามว่าอะไรที่"ต้องใส่"แล้วใช้ตอนถอดได้ คุณก็เงียบ
multiple user to single device แล้วยกตัวอย่าง IDE มา พอคนถามว่าแล้วมีประโยชน์ยังไง คุณบอกว่าอธิบายไปแล้วบ้าง หาว่าคนอื่นเห็นคุณบังคับใช้เรื่องโปรแกรมมิงบ้าง ก็คุณยกตัวอย่างโปรแกรมมิงเอง คนก็ต้องถามจาก"ตัวอย่าง"ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีฐานะเป็น"ตัวแทน"แนวคิด
ซึ่งสรุปแล้วคุณเข้าใจตัวอย่างที่ตัวเองยกมารึเปล่า? ถ้าหาตัวอย่างที่"ใช้งานจริง"ไม่ได้ แค่อธิบายแนวคิด(แบบอันนี้)ก็คงไม่มีใครถามคุณเรื่องโปรแกรมมิงหรอก
สุดท้ายที่ขัดใจกับกระทู้นี้ที่สุด คือคุณบอกว่า Google Glasses สอบตกในฐานะ Center Device ทั้งๆที่ตัวมันมีหน้าที่เป็น Interface ไม่ต่างจากมือถือ (และเป็นพื้นฐานของสิ่งที่ควรจะเป็นแนวคิดของคุณด้วยซ้ำ) แต่มีข้อดีที่ความคล่องตัวมากกว่า และเป็นส่วนตัวมากกว่าก็เท่านั้น
แล้วคุณก็ยังคิดว่าตัวเองฉลาดเหมือนเคย คิดว่าตัวเองมองล้ำ มองไกล คนอื่นมองตามหลังคุณ ไม่เข้าใจคุณ ถึงได้มาโจมตี
คุณคิดว่าที่ผ่านมา ที่คุณมีปัญหากับทุกๆบอร์ดที่คุณอยู่ เพราะคนอื่นอิจฉาคุณ อยากเปรียบเทียบกับคุณ เพื่อจะได้โด่งดังเป็นที่ยอมรับ เพราะคนอื่นโง่เกินกว่าจะเข้าใจแนวคิดของคุณจริงๆเหรอ?
ปล่าวครับ เพราะคนอื่นมีปัญหาชีวิต + อ่านหนังสือไม่แตก + เป็นแค่ช่างซ่อมคอม + ฯลฯ
เค้าจึงระเห็จออกมาจากสังคมที่มีแต่ผู้ชายหลอกลวงครับ
เค้าเป็นผู้ชายจริงใจนะ!!!
+เรื่องคนอื่นหน้าตาไม่ดีด้วยนะครับ ;D
Achievement Unlocked: Being a Blognone's Writer
ประเด็นนี้เลย ผมว่ามันเป็นส่วนตัวมากกว่า(เพราะมันใส่แล้วเห็นคนเดียว) แต่เค้าเล่นมาบอกว่าจะให้มันเป็น multiple user to single device แต่ก็ยังขัดกับที่บอกว่ามันไม่มีความเป็นส่วนตัวเพราะ Google หลอกเอาข้อมูลผู้ใช้ ทั้งๆ ที่มือถือทั่วไปก็ทำงานลักษณะคล้ายๆ กัน เอ๊ะ มันยังไง?
ผมไม่ชอบที่เวลามีคนแย้งหรือขัดอะไรขึ้นมาแล้วชอบบอกว่า อ่านไม่รู้เรื่องบ้างล่ะ อ่านข้ามบ้างล่ะ อ่านไม่คิดบ้างล่ะ พอมีคนถามก็มักจะบอกหรืออ้างว่าตอบไปแล้ว ให้กลับไปอ่านเอง ไม่มีอธิบายเพิ่มแล้วจะได้อะไร?
และที่ผมเกลียดที่สุด
ดูถูกผู้อื่น จะมากหรือจะน้อย จะเกี่ยวหรือไม่ได้เกี่ยวกันเลย
แต่ก็ยัง "ขอให้ได้ดูถูก/ด่าละวะ" ผมเกลียดมาก
Dream high, work hard.
ฮ่า ฮ่า ไม่ใช่ผมคนเดียวที่คิดถึง Thaina
เถีงกับ Thaina มันส์โคดๆ
แต่กับ 3000anv ก็สนุกนะ สนุกตรงได้พยายามคุมสติ และสติแตกบ่อยมาก ทำให้รู้ว่าเรายังคุมอารมณ์ ไม่ดีพอ
Thaina หายไปไหน จำได้ว่าเขาเป็นสาวก .Net ตัวยงเลยนะ อ้อ Mono ด้วยสิ
เห็น 3000anv กำัลังหัด Java ถ้าเอา 3000anv มาปะทะกับ Thaina คงจะมันส์พิลึก
โดนบล็อกไปแล้วครับ เพราะธาตุไฟเข้าแทรกบ่อย (เวลาโมโหเค้าจะปลดปล่อยสวัสดิกะ)
ผมยังมีเค้าอยู่ใน Circle อยู่นะ แต่เห็นนาน ๆ อัพสเตตัสที แต่จะเน้นไปทางการเมืองซะเยอะ (แดงตัวพ่อ 555+)
เท่าที่เคยๆ คุย
จริงๆ แล้วเค้าไม่แดงนะ แต่ว่าแนวคิดบางส่วนเหมือนพวกเสื้อแดง ... ไอ้ที่ไม่เห็นด้วยกับเสื้อแดงก็เยอะ
แรกๆ ผมฟัดกับ Thaina หนักเลย หลังๆ เริ่มรู้สึกว่า เออ ... คนแบบนี้เป็นเพื่อนกันได้
อ้ะ โดนไปแล้วเหรอครับ
คิดไว้เหมือนกัน ว่าน่าจะ cool ขึ้นสักหน่อย เห็นชอบออกตัวแรง
ว่าแต่ ใน circle, twitter ใช่ thaina yu รึเปล่านะ? ยังเห็นๆอยู่บ้าง
ใช่หล่ะ เค้าหล่ะ
ควินซี่ตัวใหม่ ขโมยปลดปล่อยสวัสดิกะ ได้แล้วนะครับ
จะปล่อยออกมาก็ระวังให้ดี :)
kurtumm
ไม่กลัวครับ ผมเป็นฮอลโลวกากๆ
ข่าวนี้ปล่อยพลังกันรุนแรงจริงๆ อ่านข่าวได้รู้จักนวัตกรรมใหม่ๆ แต่อ่านคอมเมนท์ได้รู้จักคนที่อ่านข่าวใน BN
โปรเจ็คของกูเกิ้ลชิ้นนี้น่าเชียร์อยู่นะ เพราะมันสร้างแนวคิดต่อยอดได้อีกเยอะ
ผู้ผลิตสนใจ อยากได้แว่นตากูเกิล Project Glass ไปใช้ถ่ายทำหนังโป๊!
+1 ติดเรทไปนิด แต่แนวคิดบรรเจิด
ข่าวนี้เป็นข่าวแรกหรือเปล่าที่คอมเม้นต์มากเกิน 200+ และไม่ใช่ข่าวเกียวกับแอปเปิล - -'
^
^
that's just my two cents.
ข่าวที่คอมเมนท์เยอะสุดบนเว็บนี้ก็ไม่ใช่ข่าวแอปเปิลนะฮะ
นี่เลยครับ
Dream high, work hard.
ข่าวที่เห็นแล้วเดาได้เลยว่าเม้นท่วมแน่ๆ
แต่ข่าวนี้อาจเป็นข่าวที่เกี่ยวกับ Google ที่เม้นเกิน 200 ไม่กี่ข่าวนะผมว่า :D
BN นี่ก็มีคนแปลกๆ มาโดนรุมอยู่เรื่อยๆ นะ อ่านเม้นแล้วสนุกดี 555
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.
คิดว่าคุณ Virusfowl น่าจะเข้าใจผิดอยู่ครับ
คนใน BN นี่แหละแปลก คนอื่นเค้าปกติ ฮ่า ฮ่า
มอง Sergey Brin ทีไร นึกถึง โทนี่ สตาร์ก
หลายคนหลายมุมมอง อาจจะมีใช้ในหน่วยรบพิเศษไทยก็ได้ :)
http://www.youtube.com/watch?v=uh-liQDE3cM